สองเทพบุตรโลกันตร์ - น.นพรัตน์

เรื่อง สองเทพบุตรโลกันตร์
เรียบเรียงโดย น.นพรัตน์

ในรัชกาลเสียนเฟิงแห่งราชวงศ์แมนจู หุงสิ้วเฉวียน อ้างเป็นโอรสสวรรค์ ยึดเมืองหย่งอาน ตั้งประเทศไท้ผิงเทียนกัวะ มีชาวฮั่นรวมกำลังก่อการ รวมถึง หลี่เหวินเม่า ที่เป็นพระเอกคณะงิ้วเรือแดงเมืองฝอซาน ซึ่งชมรมคณะงิ้วเมืองกวางตุ้งมีตึกฉวนฮัวเป็นที่พัก ทำให้หลี่เหวินเม่าได้เรียนวิชากับท่านอา หวางหัวเป่า ที่พัฒนาเพลงกระบองหกแต้มครึ่ง (ลักเตี้ยมปั่งกุ้งฮวบ) ซึ่งได้รับการถ่ายทอดจากมหาสมณะ จี่เสียงเซียงซือ ผู้ก่อตั้งวัดเส้าหลินฝ่ายใต้ตอนหนีภัยมาฝอซาน

หลี่เหวินเม่าพยายามลอบฆ่าข้าหลวงใหญ่มณฑลกวางตุ้ง แอ้หมิงเซิน ที่เมืองกวางโจว เมื่อไม่สำเร็จและบาดเจ็บยังหนีไปได้ และได้รับการช่วยเหลือจากบัณฑิตเตรียมสอบ เฉินหัวสุน ซึ่งที่บ้านเป็นร้านแลกเงินทำให้มีฉายาว่านักหาเงินหัว เฉินหัวสุนก็ถูกจับตัวโดย ลามะปาเอี๋ยน ที่ทำงานให้ราชสำนัก มีสายสืบตระกูลหม่าในสังกัดหลายคน แต่ปาเอี๋ยนกระทบกระทั่งชิงดีกับแอ้หมิงเซินอย่างแรง เมื่อไม่มีประโยชน์เฉินหัวสุนก็ถูกปล่อยออกโดยกะให้เป็นเหยื่อล่อแต่เนื่องจากไม่ได้รู้จักหลี่เหวินเม่ามาก่อนเลยไม่ได้ผล โดยเฉินหัวสุนที่บาดเจ็บด้วยฝ่ามือทรายดำรอดตายด้วยการรักษาของ เหลียงจั้น

เหลียงจั้นแห่งร้านจั้นเซินถัง นอกจากขายยาแล้วยังเป็นครูมวยชื่อดัง ศึกษาวิชาจาก เหลียงเอ้อตี้ ซึ่งพักที่วัดถาปอ แต่ภายหลังเหลียงจั้นยังไปเรียนนเพลงกระบองกับหวางหัวเป่า ทำให้เหลียงเอ้อตี้ไม่มาร้านอีก และอาจารย์ทั้งสองก็มีท่าทางแข่งขันกันในที ส่วนตัวเหลียงจั้นเองก็รับศิษย์หลายคน โดยศิษย์คนโตคือ มู่เหยินฮัว คนรอง สุกรกุ้ย ขายเนื้อที่ตลาด และคนที่สามเป็นสตรี ม่ออาหนัน นอกจากนี้ตอนที่หัวหน้าขอทาน เฉินไค มาหาเรื่องโดยนำโดยลูกพี่ คลุ้มคลั่งคัง เหลียงจั้นก็เอาชนะโดยไม่ยากและภายหลังยังสอนวิชากระบองให้เพราะคลุ้มคลั่งคังฝึกวิชาเส้าหลิน เมื่อเฉินหัวสุนเข้าสอบไม่ได้เพราะเคยโดนจับจึงเปลี่ยนจากบุ๋นเป็นบู๊ กราบเหลียงจั้นเป็นอาจารย์ (อย่างยากลำบาก) อีกคน ซึ่งโดยพื้นฐานก็เป็นศิษย์ที่มีแววดีที่สุดแล้ว

ในเมืองฝอซานมีครอบครัวแมนจูที่ตกต่ำอยู่ด้วย แท่เจิ้ง มีบุตรเสเพล แท่ว่านจู่ และลูกสาว แท่เอี้ยนชิว ทำให้อยากยกลูกสาวให้นายทัพแมนจู ตวนมู่แถ่หมิน แต่แท่เอี้ยนชิวกลับไปชอบกับหลี่เหวินเม่าที่มีปัญหาระหว่างอุดมการณ์และความรัก และสาวงามคนนี้ยังเป็นที่สนใจของเฉินหัวสุนด้วย อีกคู่หนึ่งคือม่ออาหนันที่ชอบมู่เหยินฮัว แต่ระหว่างนี้ในเมืองฝอซานมีคลื่นใต้น้ำอย่างมาก มีพ่อค้าอังกฤษขายอาวุธปืนให้จนมีการตั้งหน่วยอาวุธปืนที่เมืองฝอซานที่นำโดยนักแม่นปืน คาร์ตัน (เรียกเป็น คาร์ตันเซ่อ 555) ที่ก็มีความหลังฆ่าครอบครัวของมู่เหยินฮัว

สรุปแล้วคือมีเรื่องยุ่งมาหาเรื่อยๆ แต่เหลียงจั้นก็ใช้ขันติรับมาตลอด จนเรื่องระเบิดใหญ่เมื่อผู้คุ้มกันภัยสำนักคุ้มกันภัยสี่ทะเลคุ้มกันสินค้าลับมาส่งให้ สุนัขคำรณ ทำให้นักแสดงเร่ร่อนสองพ่อลูก เหอเอี๋ยน และ อาหวิน ที่คลุ้มคลั่งคังชอบตายอย่างอนาถ สินค้าลับกลายเป็นป้ายประกาศิตของไท้ผิงเทียนกัวะ ตั้งหลี่เหวินเม่าเป็นขุนพลพยัคฆ์เหิน ให้ก่อการที่แดนทักษิณ ทำให้เกิดการยึดเมืองฝอซาน ปล้นคนแมนจู สุดท้ายก่อนการไม่สำเร็จและโดนประหาร เหลี่ยงจั้นยังถูกลามะปาเอี๋ยนฆ่า เฉินหัวสุนล้างแค้น. ... การที่หลี่เวิ้นเม่าก่อการ ทำให้งิ้วกวางตุ้งถูกห้ามแสดงไปถึงสิบเจ็ดปี และผ่อนคลายเมื่อปีที่ 7 ในรัชกาลถงตี้ ...

เล่มนี้ไม่ใช่นิยายแปล แต่เป็นนิยายที่ถูกเรียบเรียงจากซีรีย์ในทีวี ตามคำนำเล่มหนึ่งเป็นละครทีวีบีที่ดัดแปลงจากชีวประวัติของเหลียงจั้น ชื่อ 'ฝอซานจั้นเซียน' (ที่คิดว่าพิมพ์ตกจากฝอซานจั้นเซียนเซิน) ลองค้นเน็ตดู คือ Kung Fu Master of Fat Shan ออกฉายปี 1981 นำโดย หลี่เหลียงเว่ย (เฉินหัวสุน) หวงเย่อหัว (หลี่เหวินเม่า) กวนไห่ซัน (เหลียงจั้น) โอวหยางเพ่ยซัน (แท่เอี้ยนชิว) และ หยางพ่านพ่าน (ม่ออาหนัน) คือประชันดารากันเต็มที่

เมื่อเรื่องมาจากซีรีส์ เลยทำให้การดำเนินฉับไว เน้นแอ็คชั่นเสียเยอะ ขัดแข้งขัดขากันมัน การก่อการของไท้ผิงเทียนกัวะนี่ถึงดูจะเสียสละ แต่อ่านรู้สึกว่าคนจำนวนมากจะหวังลาภยศในอนาคตมากนะ มีการอวยยศกันอย่างออกหน้าออกตาแต่ไม่ส่งทรัพยากรช่วยเลย อ้อ ในเล่มและท้ายเล่มสองมีข้อมูลน่าสนใจ เลยขอยกมาเป็นกระบิเลยนะคะ

เพลงหมัดหย่งชุนบัญญัติโดยแม่ชีอู่เหมยซือไถ่ในสมัยราชวงศ์แมนจู หลังจากนั้นถ่ายทอดแก่ศิษย์สตรีนามเอี้ยนหย่งชุน ... ภายหลังเอี้ยนหย่งชุนแต่งงานกับเหลียงป๋อเถา เหลียงป๋อเถาค่อยถ่ายทอดเพลงหมัดหย่งชุนแก่นักแสดงคณะงิ้วเรือแดง ผ่านการถ่ายทอดสืบต่อกันมาเมื่อถึงรุ่นของเหลียงจั้น จากนั้นอาจารย์จั้นถ่ายทอดแก่ศิษย์รักเฉินหัวสุน ... เฉินหัวสุนร่ำเรียนเพลงหมัดหย่งชุนจนแตกฉาก ทั้งทำหน้าที่เผยแพร่ออกไป รับศิษย์ทั้งสิ้นสิบหกคน ศิษย์คนสุดท้ายคือแอ้เหวิน [Yip Man] แอ้เหวินเป็นผู้นำเพลงหมัดหย่งชุนมาสู่ฮ่องกง ... ตั้งสำนักมวยขึ้น รับศิษย์อย่างกว้างขวาง นับแต่นั้นเพลงหมัดหย่งชุนจึงแพร่สะพัดไปทั่งทั้งเกาะฮ่องกง เคยมีระยะเวลาหนึ่งที่กรมตำรวจฮ่องกงบรรจุเพลงหมัดหย่งชุนอยู่ในภาควิชาบังคับ ... กระทั่งยอดดาราซุปเปอร์สตาร์บรู๊ซลีก็ถือกำเนิดจากสำนักหย่งชุน

สำนักหย่งชุนเป็นค่ายมวยมาตรฐานทางดินแดนภาคใต้ เพลงหมัดหย่งชุนต่อยในช่วงสั้น พุ่งหมัดรวดเร็วว่องไว แต่อำนาจการทำลายรุนแรง เหมาะกับการใช้ในมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งมีท้องถนนคับแคบ ... เพลงหมัดหย่งชุนเหมาะกับการใช้ในดินแดนภาคใต้ ซึ่งมีผู้คนแออัด เคลื่อนไหวในรัศมีไม่เกินพื้นอิฐสี่ก้อน มาตรว่าต่อกรในตรอกคับแคบห้องน้อยนิด ยังใช้ออกได้โดยแคล่วคล่อง สามารถสยบศัตรูเอาชัย เคล็ดวิชาของสำนักหย่งชุนคือถือหลักมั่นคงลงมือประกบแนบชิด ทั้งคลี่คลายทั้งตอบโต้ในเวลาเดียวกัน

จากการแยกแยะของผู้สันทัดกรณีย์ นั่นเพียงใช้ปมเด่นของเพลงหมัดหย่งชุนที่จู่โจมในช่วงสั้นให้เป็นประโยชน์ เพลงหมัดหย่งชุนเป็นวิชาหมัดที่สุภาพ ดังนั้นเหมาะกับการให้สตรีฝึกปรือ มิหนำซ้ำเพลงหมัดหย่งชุนพลิกแพลงซับซ้อน ดูจากเปลือกนอกเป็นเพลงหมัดสตรี แต่ใช้ได้ผลอย่างยิ่ง ถือหนักใช้ความอ่อนพิชิตความแข็ง ยืมพลังฟาดพลังสยบศัตรู สู้อย่างพลิกแพลงแยบยลยิ่ง มีคนมากหลายเข้าใจว่าเพลงหมัดหย่งชุนเน้นหนักที่หมัด ไม่เน้นหนักที่เท้า ซึ่งความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพลงเท้าหย่งชุนมีทั้งสิ้นแปดท่า เท้าหนึ่งตวัดเตะเท้าหนึ่งต้องแตะพื้น เมื่อเผชิญศัตรู จะเกาะเกี่ยวพัวพันจวบจนศัตรูล้มลง

[03/12/14, 31/10/21]

ที่มา [1] น.นพรัตน์ (เรียบเรียง). สองเทพบุตรโลกันตร์. สำนักพิมพ์บรรณกิจ, 2 เล่มจบ, 951 หน้า, 2524.

---

รายการนิยายจีนแปลไทย, ไทม์ไลน์หนังสืออิงประวัติศาสตร์/ย้อนยุค จีน