ย้อนเวลาขึ้นเป็นอ๋อง - เยี่ยกวน

เรื่อง ย้อนเวลาขึ้นเป็นอ๋อง
ประพันธ์โดย เยี่ยกวน เรียบเรียงโดย น. นพรัตน์


นายหน้าขายประกันชีวิต เจิ้งเส้าเผิง ประสบอุบัติเหตุตายก่อนเวลาอันควรสามปี ภูตหน้าม้าหัววัวที่ทำผิดพลาดจึงคบคิดกับขุนนางในปรโลกส่งวิญญาณไปยืมร่างคืนชีวิตรอเวลาตายในอีกสามปีโดยจัดให้มีร่างที่ร่ำรวยมีอำนาจ แต่กลับว่าเจิ้งเส้าผิงตายซ้ำซ้อนอย่างรวดเร็ว แถมตายเพราะสร้างบุญกุศล เข้าข่ายคนใจบุญเก้าชาติภพ ใกล้สำเร็จเป็นพุทธะตามที่พุทธองค์เปล่งวาจาเมื่อสามร้อยปีก่อน ครั้งนี้เหลือเวลามีชีวิตอีกสองปี ภูตหน้าม้าหัววัวจึงเจราจาจัดการส่งไปเกิดเป็นอ๋องในสมัยหมิง (คือก่อนมีวาจาเงื่อนไขการสำเร็จเป็นพุทธะ ถึงเป็นคนใจบุญสิบชาติก็ไม่สำเร็จ) แต่ระหว่างการเดินทางผ่านวงล้อแห่งวัฏสงสารเกิดคลาดเคลื่อนเล็กน้อย ทำให้ชาติภพใหม่ลำบากกว่าที่เคย


หยางหลิง เป็นทายาทตระกูลหยางที่โดดเด่นที่สุด สอบได้เป็นบัณฑิตซิ่วไฉในสมัย หงจื้อฮ่องเต้ (หมิงเสี้ยวจง ฮ่องเต้ใน 'จอมโจรลักแผ่นดิน') แต่สุขภาพย่ำแย่ จึงมีการแต่งงานแก้เคราะห์กับ หานโหย่วเหนียง บุตรีอายุสิบห้าของนายพรานที่เคยเปิดสำนักคุ้มภัย รู้หนังสือและมีวิทยายุทธดี แต่ทันทีที่แต่งภรรยาก็อาการทรุดหนัก ร่อแร่ได้ครึ่งปีก็เสียชีวิต ญาติคิดแย่งชิงที่ดินมรกดตกทอดของหยางหลิงที่มีอยู่นิดหน่อย หานโหย่วเหนียงถกบีบเกือบฆ่าตัวตาย ยังดีที่เจิ้งเส้าผิงเข้าร่างหยางหลิงจนฟื้นขึ้นมาทันเวลา

หยางหลิงไม่ยอมมีความสัมพันธ์กับภรรยาเพราะรู้ว่าจะตายในเวลาไม่นานและต้องการให้หานโหย่วเหนียงมีโอกาสแต่งงานใหม่ เพื่อเตรียมเรื่องหลังให้หานโหย่วเหนียง หยางหลิงจึงขายที่ดินจัดการโยกย้ายเข้าเมืองที่จุดพักม้าจีหมิงใกล้ด่านจวีหยงซึ่งเป็นด่านรักษาเมืองหลวงสำคัญ หลังจากช่วยบุตรชายของขุนนางเจ๋อเฉิงที่แซ่หม่า ก็ได้ไปเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของนายอำเภอ ไม่นานพวกตาดก็เข้าปล้นสดมภ์ หยางหลิงที่เป็นนักศึกษาไม่มีแรงฆ่าไก่ก็มีผลงานพอตัว เมื่อหม่าเจ๋อเฉิงตาย ลูกสาว หม่าเหลี่ยนเอ๋อ ที่รักหยางหลิงก็เดินทางไปอาศัยกับญาติที่เจียงหนานหลังขอคำสัญญาในอีกสองปี และหยางหลิงก็ได้รับตำแหน่งหม่าเจ๋อและยศไป่ฮู๋ (นายร้อย ขุนนางบู๊ชั้นหก) ของกรมความมั่นคงแผ่นดิน

ความเห็นหยางหลิงเรื่องการฝึกทหารเป็นที่สนใจจนถูกเรียกเข้าเมืองหลวงซื่อตู๋ร่วมเรียนกับรัชทายาท จูโฮ่วเจ้า ทำให้กรมความมั่นคงแผ่นดินให้ตำแหน่งถงจือแถมมาด้วย หยางหลิงมีการกรทำที่เป็นที่ต้องสนใจของฮ่องเต้ ถึงมีผิดพลาดอย่างช่วยรัชทายาทพาหนีเที่ยวจนเกิดเรื่องกระทบกระทั้งกับพระญาติฝ่าย จางฮองเฮา และขัดราชโองการเพื่อรักษาภรรยา แต่ก็น่าจะเป็นกำลังสำคัญในรัชกาลต่อไป จึงคิดชุบเลี้ยงและให้ย้ายไปเป็นแม่ทัพชานเจี้ยงค่ายเสินจี มีผลงานฝึกทหารใช้อาวุธเพลิงและพบเรื่องฉ้อโกง ระหว่างนี้หยางหลิงได้ช่วยสาวงามจากเรือนคณิกาไว้สามคนคือ อี้ถังชุน เซวี่ยหลี่เหมย และ ถังอี้เซียน เพราะไทจือพึงใจถังอี้เซียน แต่เธอถูกทำร้าย ตกเหวและเสียความทรงจำ ได้พระชายาไต้อ๋องมณฑลซานซีช่วยไว้
[08/02/17, 20/02/17]


หงจื้อฮ่องเต้สวรรคต ไทจือชันษาสิบห้าขึ้นครองราชย์เป็น เจิ้งเต๋อฮ่องเต้ หยางหลิงที่เป็นคนโปรดได้อวยยศเป็นพระเว่ยอู่ รับพระราชทานบ้านซึ่งเดิมเป็นของหมอหลวง เกาถิงเหอ ที่ต้องโทษประหาร ธิดา เกาเหวินซิน ที่ศึกษาวิชาแพทย์และมีชื่อเป็นหนึ่งในสามหมอวิเศษ ก็ถูกส่งไปเป็นคณิกา หยางหลิงจึงออกหน้าขอพระราชทานอภัยให้เป็นหญิงรับใช้ แต่ที่เกิดเรื่องคือค่ายเสินจีถูกส่งไปสร้างพระสุสานที่เกิดปัญหาขึ้น งานนี้หนักถึงเกือบโดนประหาร อนาคตของหลายคนเริ่มเปลี่ยนแปลง โดยในวันฮ่องเต้อภิเษกฮองเฮาและพระชายา หยางหลิงก็ได้รับพระราชทานงานแต่งอนุคือเซวี่ยหลี่เหมยและถังอี้เซียน (ส่วน จขบ. สงสัยว่าสุราใบไผ่เขียว เติมซั่งยิ้ง จี่ทั้ง ตังกุย เปลือกส้ม น้ำตาลกรวด ไข่ขาว และน้ำแข็ง จะมีรสชาติอย่างไร)

หลังจากการบรรยายหน้าพระพักตร์ หยางหลิงรับบัญชาฮ่องเต้ตั้งเน่ยฉ่าง (ค่ายภายใน) ควบคุมตงฉ่าง ซีฉ่าง กรมความมั่นคงแผ่นดิน ซึ่งก็จะขัดผลประโยชน์หลายฝ่ายอย่างรุนแรง แถมไม่มีทรัพยากร หยางหลิงจึงดึงทหารเก่าและใช้อำนาจขอเน่ยฉ่างเปิดระบบขนส่ง ไม่นานเน่ยฉ่างก็ถูกท้าทายอำนาจการขัดเก็บภาษีทั่วแผ่นดิน หยางหลิงในฐานะผู้แทนพระองค์ออกตรวจงานที่เจียงหนัน ต้องรับมือทั้งขันทีที่ควบคุมและขุนนางบุ๋นบู๊ที่กินกันเต็มคราบแต่ต้องไม่หักหาญจนถูกต่อต้าน ระหว่างนี้หยางหลิงได้ปักธงแบบถาวรกับหม่าเหลี่ยนเอ๋อกับแบบรอเวลากับเกาเหวินซิน ได้ผู้ช่วยมือดีคือ ไต้เสี่ยวโหลว หรือ เฉิงฉีอวิ่น อดีตคณิกาชื่อดังและฮูหยินขันทีที่ลึกซึ้งและอำมหิต โดยในอนาคตจะดูเรื่องการขนส่งทางน้ำ

ระหว่างที่หยางหลิงอยู่เจียงหนาน ผู้บัญชากรกรมความมั่นคงและตงฉ่างเตรียมแผนเชือดหยางหลิงถึงตาย เมื่อถูกบีบหนักขนาดนี้ หยางหลิงเลยโต้หนักตามแผนของเฉิงฉีอวิ่นคือ มันไร้เมตตา เราก็ไร้คุณธรรม ชิงลงมือก่อน ร่วมมือกับฮ่องเต้ปิดประตูวัง ยึดอำนาจทหาร กวาดตลอดหน้ากระดาน

หยางหลิงได้โอกาสผลักดันเรื่องการเปิดการค้าทางทะเล โดยเริ่มจากการแนะนำพืชเพาะปลูกผลผลิตสูงจากต่างประเทศเช่น ข้าวโพด (มาจากอเมริกา ไม่ใช่อาฟริกาแบบในเล่ม) มันเทศ มะเชือเทศ และพริก ด้านอาวุธก็ได้นักบวชจากโปรตุเกสมาช่วยพัฒนาปืนคาบชุด โดยหยางหลิงเสนอให้พัฒนาเป็นปืนคาบศิลาและเพิ่มเกลียวในลำกล้องให้เป็นปืนไรเฟิล (ตรงนี้ จขบ. รู้สึกสนใจเรื่องการเรียกปืนแบบเก่าว่าปืนรังเพลิง เพราะไม่เคยเห็นชื่อเฉพาะของปืนยุคก่อนปืนคาบชุด เห็นใช้พวก hand cannon อะไรแบบนี้ ในด้านคำอธิบายค่อนข้างงงเรื่องแรงหมุนของกระสุนตอนพูดถึงเรื่องปืนคาบชุดที่ยังไม่มีการทำเกลียว ที่บอกว่าขณะถลุงเหล็กมีปัญหาเรื่องมาตรฐานของแท่นกลึงซึ่งไม่เกี่ยวอะไรด้วย และตอนพูดเรื่องเกลียวที่ว่ามีเส้นเว้าเส้นนูนรูปเกลียว โดยขอเสริมว่าการพัฒนาเทคโนโลยีการกัดเกลียวทำไม่ง่ายเลยนะคะ) และความเห็นในพัฒนาอาวุธซึ่งฮ่องเต้ได้จากขุนนางถูกใจมากค่ะ คือไม่จำเป็นต้องเป็นของคุณภาพเลอเลิศ แต่เหมาะกับการใช้งาน ราคาถูก ไม่ต้องฝึกมาก อ้อ มีอ้างถึงตำราในหอหยกอย่างเก้ากลเม็ดของซู่หนี่จิ่งสมัยจักรพรรดิเหลืองและสามสิบท่วงท่าของถงเสียนจื่อสมัยถัง 555
[24/02/17, 20/03/17, 06/04/17, 12/04/17, 11/05/17]


นิกายนีเล่อ (อริยเมตไตรย) ที่นำโดย หลี่ฟุต๋า ได้เชิดขุนโจร หยางหู่ และภรรยาสตรีแดง ชุยอิง ให้ปลงพระชนม์ฮ่องเต้เพื่อให้หนิงอ๋อง จูเฉินเฮ่า ขึ้นครองราชย์ แล้วอาศัยชื่อเสียยึดบัลลังก์อีกที แต่ก่อนลงมือคนของหยางหลิงไล่ล่าขุนโจรที่เมืองหลวงจนแตกพ่าย (เห็นด้วยอย่างยิ่งที่คนของเน่ยฉ่างใช้หน้าไม้ ไม่คิดเข้าสู้ตัวต่อตัวให้เจ็บตายโดยเปล่าประโยชน์) แต่ตัวหยางหลิงก็ถูกชุยอิงจับเป็นตัวประกันอยู่พักหนึ่ง ถึงตอนนี้เผ่าตาร์ตาร์ที่นำโดย ป๋อเอี๋ยน คุกคามทางเหนือ หยางหลิงเสนอให้หนุน ฮัวตัง แห่งฐานที่มั่นตวอเอี๋ยน แต่ฮัวตังต้องการความมั่นใจโดยขอให้ฮ่องเต้ไปพบที่เมืองต้าถง ฮ่องเต้ที่อยากผจญภัยย่อมไม่พลาด เผชิญเหตุการณ์ที่นิกายนีเล่อจัดขึ้นได้สมใจ แถมยังพบถังอี้เซียนที่เสียความทรงจำ เลยจัดให้มีฐานะเป็นญาติผู้น้องของหยางหลิง ส่วนชุยอิงที่ถูกหยางหู่บีบให้ลอบฆ่าหยางหลิงเพราะเกรงเรื่องนอกใจก็ได้เกิดเรื่องจริงๆ

หลังเจิ้งเต๋อฮ่องเต้กลับเมืองหลวงก็ปูนบำเหน็จ หยางหลิงได้บรรดาศักดิ์เวยอู่โหว (พระยาฤทธา) ดำรงตำแหน่งโย่วจู้กว๋อหลงหู่ต้าเจียงจวิน (แม่ทัพใหญ่โย่วจู้กว๋อมังกรพยัคฆ์) ส่วนถังอี้เซียนที่ความทรงจำกลับคืนมาเข้าวังเป็นกุ้ยเฟยในฐานะที่แท้จริง หยางหลิงหาทางรับมือการต่อต้านของขุนนางในการเปิดทะเลติดต่อค้าขาย ขันที หลิวจิ่น ที่มีความขัดแย้งกันหาทางส่งหยางหลิงออกนอกเมืองหลวงโดยกุปัญหาขึ้น เจิ้งเต๋อฮ่องเต้จึงแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนพระองค์ออกตรวจราชการทางใต้และตะวันตก แต่ปัญหาเรื่องโจรสลัดที่บุกขึ้นฝั่งทำให้ต้องรับหน้าที่เป็นผู้บัญชากรทหารหกมณฑล ปราบปรามจนราบคาม (คราวนี้ไม่มือไม้อ่อนอีกแล้ว ประหารขุนนางมิชอบเป็นพัน ขายโจรสลัดและครอบครัวเป็นทาส ฯลฯ)

นอกจากนี้หยางหลิงยังพากองทัพเรือต้าหมิงจัดการโจนสลัดซีปันหยา (สเปน) และบุกไปจัดการกองทัพเรือผูเถาหยา (โปรตุเกส) ที่ยึดครองม่านล่าเจีย (มะละกา) ในด้านหญิงงาม หม่าเหลี่ยนเอ๋อได้ลูกสาวชื่อ หยางพ่านเอ๋อ ส่วนหยางหลิงมีความสัมพันธ์กับเฉิงฉีอวิ่น (ร้อนแรงมาก!) และได้สาวมารอคิวอีกคนคือ อาลี่ อาเตอนี ที่เคยเป็นหนันเจี๋ย (บารอน) และร้อยเอกครูฝึกของกองทัพเรือโปรตุเกสก่อนพัวพันกับเรื่องกบฏจนกลายเป็นทาส (ที่ จขบ. สงสัยตอนนี้คือเรื่องปืนใหญ่ที่มีพิสัยถึงหกลี้ รายละเอียดของทุ่นระเบิดที่ดูเหมือนจะออกมาเป็นแบบกระทบแตก และถ้ามีแผนที่การรบก็น่าจะเข้าใจได้ดีขึ้น) [จบภาคแรก]
[07/06/17, 07/07/17, 28/07/17]


ระหว่างที่หยางหลิงไปปาสูเพื่อแอบสืบสวนข้อสงสัยว่าสู่อ๋อง จูปินฮั่น จะคิดกบฎ ก็ได้ข่าวหานโย่วเหนียงกำเนิดลูกชายที่ฮ่องเต้รับเป็นบุตรบุญธรรมและประทานชื่อว่า หยางต้าเหริน (ผู้ใหญ่หยาง 555) สุดท้ายไม่พบเบาะแสและต้องเข้าไปควบคุมเสฉวนเมื่อสู่อ๋องป่วยหนักหลังโอรสองค์โต จูร่างสวี่ ที่เป็นซื่อจื่อ (ทายาท) ถูกชนเผ่าตูจ่างม่านจับตัวไป ตามด้วยเรื่องของโอรสองค์รอง จูร่างจิ่น ถูกกล่าวหาว่าฆ่าท่านหญิงที่เป็นน้องร่วมตระกูล ซึ่งเรื่องทั้งหมดก็พัวพันกันอย่างยุ่งเหยิง นอกจากนี้ยังมีธิดาสู่อ๋อง จูเซียงเอ๋อ ที่กำลังจะเข้าเมืองหลวงเพื่อรับการแต่งตั้งเป็นองค์หญิง

ที่เมืองหลวงขุนนางแบ่งพวกเป็นหลิวจิ่น หยางหลิง ขุนนางเก่า และพวกเป็นกลาง ระหว่างหยางหลิงเดินทางกลับเมืองหลวงถูกลอบทำร้าย ต้องหลบซ่อนเพราะไม่ทราบว่าใครเป็นตัวการ ทางเมืองหลวงเลยคิดว่าตายไปแล้ว อวยยศเพิ่มเป็นเว่ยกว๋อกง ตั้งนามเป็นเกียรติว่าเหวินเฉิงบู๊อู่เต๋อ (บุ๋นสำเร็จบู๊จริยะ) เมื่อหลางหลิงปรากฏตัวที่เมืองหลวง หลิวจิ่นจึงดันให้คงบรรดาศักดิ์กว๋อกงซึ่งต้องปล่อยอำนาจบริหาร หยางหลิงที่ได้รับคำแนะนำของที่ปรึกษาดาวรุ่ง หยางเซิน (ลูกชายขุนนางกลุ่มเก่า) ก็รับบรรดาศักดิ์ โดยโอนย้ายอำนาจที่แท้จริงออกไปก่อนส่งต่อให้หลิวจิ่น โดยจะเชิดให้หลิวจิ่นร่วงเร็วขึ้นกว่าประวัติศาสตร์ ระหว่างนี้หยางหลิงก็แต่งเกาเหวินซินเป็นฮูหยิน และอยู่ในกรรมการเลือกราชบุตรเขยให้องค์หญิงหย่งฟุ จูซิ่วหนิง ซึ่งก็แอบชอบหยางหลิงอยู่
[01/09/17, 25/09/17


หยางหลิงได้รับราชโอการไปดำเนินการการยึดทรัพย์ขุนนางทุจริตที่เขตป้าโจวที่มีสี่มหาโจรคือโจรขุนนาง โจรเทวะ โจรปล้นชิงม้า และโจรภูเขาที่ถูกทางการกวาดล้างไปแล้ว (รวมถึงพ่อของชุยอิง) เมื่อได้โอกาสหยางหลิงเลยกวาดล้างที่เหลือโดยอภัยโทษให้โจรปล้นชิงม้าแบบโจรสลัด และต้องกลับไปเมืองหลวงเผชิญกับหลิวจิ่นกระทันหันเมื่อไท่หวงไทเฮาสิ้นพระชนม์ สุดท้ายก็สามารถกำจัดหลิวจิ่นซึ่งถูกประหารแบบหลิงฉือ (คือแล่เนื้อจนตายอย่างทรมาน)

ทว่าโจรปล้นชิงม้าที่มาสวามิภักดิ์ถูกขันทีขูดรีดและก่อกบฎ ความวุ่นวายลามจากเหอเป่ยไปเหอหนานและซานซี เว่ยกว๋อกงต้องออกโรงเองทั้งด้านการรบและปฏิรูปเพื่อลดปัญหาของราษฎร พาหม่าเหลี่ยนเอ๋อกับลูกเข้าเมืองหลวงจนเป็นเรื่องซุบซิบฐานล่อหลวงสตรีที่อยู่ในช่วงไว้ทุกข์ และจัดการให้สตรีแดงเข้าสวามิภักดิ์และส่งไปนอกด่านเพื่อทำคุณไถ่โทษ (ของแถมคือลูกชายหนึ่งคน หยางชี่โฉว) ในบ้านมีศรีภรรยา สามีแคล้วคลาดจากเภทภัย ... หากว่ารู้จักใช้สอยศรีภรรยา ไม่เพียงแต่ทางบ้านแคล้วคลาดปลอดภัย ทั้งยังก่อร่างสร้างตัว
[09/11/17, 09/12/17, 27/12/17, 18/01/18, 10/02/18]


เมื่อหนิงอ๋องก่อกบฎ บรรดาแม่ทัพที่เว่ยกว๋อกงวางไว้ก็สามารถควบคุมวิกฤตได้ไม่ลำบากนัก ฮ่องเต้สามารถออกฟิลด์ทริปได้สมใจ จบแล้วยังมีเวลาเที่ยวระหว่างรอโยกย้ายกำลังเพื่อล้างบางขุนนางที่ทรยศ โดยหยางหลิงสามารถรวบองค์หญิงหย่งฟุและจูเซียงเอ๋อ แต่เจอศึกหนักจากนักพรดหญิง จางฝูเป่า (ระหว่างเจรจาเรื่องการค้าต่างประเทศมีพูดถึงข้าวสยามด้วย นับเวลาในเรื่องตรงกับสมัยสมเด็จพระเชษฐาธิราช) ก่อนจะไปเสริมกำลังนอกด่านให้ชุนอิงที่มีอำนาจเข้มแข็งจนเป็นเป่ยอิงอ๋อง และยังเกลี้ยกล่อมซุ่นหมิงหนี่อ๋อง อิ๋นฉี ที่ควบคุมฐานที่มั่นตวอเอี๋ยน โดยมีเป้ารวบไซบีเรียให้จีนในฐานะ ซีป๋อลี่ยาอ๋อง ...
[18/03/18]

ในคำนำบอกว่า 'หุยเต้าหมิงเฉาตังหวังแหย' หรือ 'หุยหมิง' (กลับคืนหมิง) เป็นผลงานเรื่องแรกของเยี่ยกวน เวลาอ่านก็พอรู้สึกได้ถึงความใหม่ของผู้แต่งบ้าง เรื่องเกิดในรัชสมัยเจิ้งเต๋อฮ่องเต้ซึ่งหลังจากสมัยหงอู่และหย่งเล่อใน 'พยัคฆราชซ่อนเล็บ' ราวร้อยปี แนวการดำเนินเรื่องดูจะรวดเร็วและถึงจะมีเรื่องหนักก็ไม่ได้เครียดมากเกิน แต่เรื่องการหักเหลี่ยมเฉือนคมในวงราชการไม่คมเท่านะคะ ธีมหลักคิดว่าเป็นการผสมผสานระหว่างความต้องการด้านความก้าวหน้า กับความอยากลึกๆ ที่แฝงแนวคิดชาตินิยมและความต้องการเปลี่ยนแปลงแก้ไขในขณะที่ประเทศจีนก้าวขึ้นสู่การเป็นชาติมหาอำนาจอีกครั้ง การดำเนินการของพระเอกมีแนวทางไม่ขาวสะอาดแต่ก็ไม่ไร้สำนึกตามแบบฉบับตัวเอกสมัยใหม่ที่ต้องร้ายหน่อย

ตอนจบ จขบ. ถือว่าใช้ได้ค่ะ ออกแนว alternative history และก็ฮาดีมากกับมุกภาพหยางหลิงออกนอกด่านทั้งแบบเกาหลีและญี่ปุ่น อยากตั้งข้อสังเกตว่าผู้แต่งเขียนเรื่องปัจจุบันที่ถูกเปลี่ยนให้กำกวมมากโดยเฉพาะเรื่องระบบการปกครอง สรุปว่าเดินเรื่องรวดเร็ว มีจิกกัดกันบ้าง เรื่องสถานภาพของสตรีในสังคมโบราณชัดเจน มีฮาเร็มตามสมควร สรุปว่าอ่านสนุกเลยค่ะ
[08/02/17, 10/10/21]

ที่มา
[1] เยี่ยกวน (น. นพรัตน์ แปล). ย้อนเวลาขึ้นเป็นอ๋อง. สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 12 เล่มจบ, 280 + 264 + 272 + 256 + 264 + 272 + 304 + 272 + 288 + 272 + 296 + 280 หน้า, 2560.
[2] เยี่ยกวน (น. นพรัตน์ แปล). ย้อนเวลาขึ้นเป็นอ๋อง ภาค 2. สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 12 เล่มจบ, 278 + 256 + 280 + 280 + 264 + 272 + 264 + 272 + 280 + 280 + 280 + 288 หน้า, 2560-2561.


รายการนิยายจีนแปลไทย, ไทม์ไลน์หนังสืออิงประวัติศาสตร์/ย้อนยุค จีน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spy×Family - Endo Tatsuya

ลำนำรักเทพสวรรค์ - ถงหัว

สืบลับฉบับคาโมโนะฮาชิ รอน - Amano Akira