หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร - มาวนี่

เรื่อง หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร (Qing Yu Nian)
แต่งโดย มาวนี่ (Mao Ni) แปลโดย น.นพรัตน์



ดินแดนอีกมิติแบ่งเป็นรัฐชิ่ง แคว้นเป่ยฉี และนครตงอี๋ และยังมีวิหารศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่ตั้งทวยเทพของบรรพชนแต่ไม่มีใครรู้ที่ตั้ง โดยในตอนนี้รัฐชิ่งหรือหนานชิ่งรุ่งเรื่องที่สุด มีสุดยอดฝีมือในสี่ปรมาจารย์สองท่านคือ เยี่ยหลิวหวิน และยอดฝีมือในวังหลวงคือขันที หงซื่อหยาง ที่ไม่มีใครรู้จัก ส่วนแคว้นเป่ยฉีมีราชครู กวงโถวขู่เหอ (เศียรโล้นบัวขม) และนครตงอี๋มี กระบี่สี่ทัศนา แต่ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้คือทุกระยะเวลาหลายร้อยปีจะเกิดผู้สืบทอดสายโลหิตแห่งฟ้าตนหนึ่ง มีความสามารถไร้เทียมทานทั้งการต่อสู้และศิลปะ

ฟ่านเซิน เป็นหนุ่มกำพร้าที่เสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยวในโรงพยาบาลด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง วิญญาณไปศักราชที่ 57 แห่งรัฐชิ่ง เข้าร่างของเด็กทารก ฟ่านเสียน ลูกชู้ของคนสนิทฮ่องเต้คือซือหนันป๋อเจี๋ย (พระกำกับดูแลทักษิณ) ฟ่านเจี้ยน แต่ที่จริงฟ่านเสียนเป็นโอรสนอกสมรสของฮ่องเต้ชิ่ง (ตอนนั้นเป็นรัชทายาท) และคุณหนู เยี่ยชิงเหมย ที่มีทรัพย์สินมหาศาลที่เกิดกระทบผลประโยชน์ของผู้สูงศักดิ์

เมื่อเยี่ยชิงเหมยถูกผู้สูงศักดิ์รวมพลฆ่า คนรับใช้ตาบอด อู่จู๋ (ไผ่ที่ห้า) ที่มาช่วยคุณหนูไม่ทันก็พาฟ่านเสียนหนีการไล่ล่าและแสดงความประสงค์ให้ออกจากวังวนในเมืองมหานคร ส่งตัวคุณชายน้อยไปให้แม่ของที่เคยเป็นแม่นมฮ่องเต้เลี้ยงดูที่อ่าวต้านโจวทางตะวันออกของรัฐชิ่ง จากการแนะนำของหัวหน้าสำนักตรวจสอบ เฉินผิงผิง ซึ่งช่วยกวาดล้างผู้ก่อเหตุจนเรียบ

ฟ่านเสียนที่มีจิตใจเป็นผู้ใหญ่ ต้องแหงนหน้าสู้ฟ้า มีชีวิตอยู่ให้ดี ได้ศึกษาการโคจรลมปราณตามคัมภีร์ตกทอดจากแม่แต่เด็ก สี่ขวบเริ่มเรียนหนังสือ ห้าขวบวิชาพิษจาก เฟยเจี๋ย หัวหน้าตึกวิจัยแห่งเจี่ยนฉาเอี้ยนที่พ่อส่งมา หกขวบฝึกวิทยายุทธกับอู่จู๋ (ที่ความจริงเก่งระดับปรมาจารย์และมีส่วนช่วยให้เยี่ยหลิวหวินขึ้นเป็นกรมาจารย์) จนถูกฟ่านเจี้ยนเรียกเข้าเมืองมหานครเมื่ออายุสิบหก


นอกจากฟ่านเสียน ฟ่านเจี้ยนยังมีลูกสาว ฟ่านเย่อเย่อ ที่อายุน้อยกว่าสองปีผู้เกิดจากฮูหยินใหญ่ที่เสียไปแล้วซึ่งสนิทกับพี่เพราะเคยมาพักรักษาตัวกับย่า (นอกจากฟ่านเสียนเขียนจดหมายสั่งสอนแล้ว ยัง 'แต่ง' เรื่องความฝันในหอแดงให้อ่านเล่นอีก ทำเอาน้องสาวเทิดทูนพี่ชายมาก) และลูกชาย ฟ่านซือเจ๋อ ที่เด็กกว่าสี่ปีซึ่งเกิดจาก หลิวหยูอี้ อนุคนที่สอง ถึงสถานะของฟ่านเสียนไม่สามารถสิบทอดได้เพราะเป็นลูกชู้ แต่ก็เป็นภัยกับอนุซึ่งเคยถูกคนในราชสำนักใช้เป็นหมาก แต่ความพยายามฆ่าไม่ไปไหนจากทั้งตัวฟ่านเสียนเองและผู้ที่คอยคุ้มครอง แต่เมื่อฟ่านเสียนก็จัดการกับเรื่องในบ้านได้ดี ส่งเสริมให้ฟ่านซือเจ๋อที่สนใจทำธุรกิจมากกว่าเรียนเป็นขุนนางได้เปิดกิจการขายหนังสือความฝันในหอแดงที่รั่วไหลออกไปจากแวดวงคุณหนูจนมีฉบับไพเรทเต็มตลาด

ฟ่านเจี้ยนเรียกฟ่านเสียนเข้าเมืองหลวงเพราะจะให้แต่งงานกับเฉินจวินจู่ หลินว่านเอ๋อ ธิดาชู้ของมหาเสนาบดี หลินยว่อฝู่ และ หย่งเถาจ่างกงจู่ หลี่หวินรุ่น องค์หญิงใหญ่ของอดีตฮ่องเต้ ที่ตอนนี้ฮ่องเต้รับเป็นธิดาบุญธรรม โดยหลังจากการแต่งงาน ฟ่านเสียนจะได้เข้าควบคุมกิจการของราชสำนักที่ยึดเข้าหลวงหลังจากเยี่ยชิงเหมยตายโดยให้องค์หญิงใหญ่ดูแลก่อนจะโอนไปให้สำนักตรวจสอบ ตอนแรกฟ่านเสียนต่อต้านก่อนเกิดรักแรกพบกับหลินว่านเอ๋อที่สุขภาพไม่ดี


ในด้านราชสำนักก็มีเรื่องใต้น้ำอยู่ ในวังหลังฮองไทเฮากุมอำนาจ ฮองเฮาเป็นพระมารดาขององค์ชาย หลี่เฉิงเฉียน ที่เป็นรัชทายาท แต่องค์ชายรอง หลี่เฉิงเจ๋อ โอรส สูกุ้ยเฟย ก็จ้องชิงตำแหน่งในอีกสิบปีข้างหน้า และยังมีองค์ชายใหญ่ที่เป็นแม่ทัพชายแดนที่มารดา หนิงไฉเหยิน เป็นคนตงอี๋ กับ องค์ชายสาม หลี่เฉิงผิง ที่เพิ่งเจ็ดแปดขวบมีมารดา อี้กุ้ยผิง สกุลหลิวเป็นญาติสนิทกับหลิวหยูอี้ ทำให้ หลี่หงเฉิง ซื่อจือของจิ้งอ๋องที่สนิทสนมสนใจดึงฟ่านเสียนที่เปล่งประกายและเป็นผู้สืบทอดกิจการราชสำนักมาเป็นพวก

ฟ่านเสียนที่ถูกปองร้ายก็เริ่มสร้างฐานกำลังทั้งจากสำนักตรวจสอบและคนดั้งเดิมของตระกูลเยี่ย เปิดกิจการเช่นร้านหนังสือมิแสวงหา ร้านเต้าหู้ ฯลฯ และจัดการอย่างไม่ไว้หน้า ข้าพเจ้าไม่ถือสาการลงทัณฑ์ต่อสตรี เพราะว่าท่านคิดฆ่าข้าพเจ้าก่อน ขณะเดียวกันข้าพเจ้าเป็นคนถือลัทธิสิทธิสตรี เห็นว่าระหว่างการต่อสู้ช่วงชิง อย่างเอาเป็นเอาตาย บุรุษสตรีความจริงเสมอภาค โดยเฉพาะเมื่อจ่างกงจู่ลงมือเอง ทำให้อู่จู๋ฆ่าทั้งคนออกหน้าและบุตรชายคนที่สองของหลินยว่อฝู่ที่ให้ที่ซ่อน โดยคดีนี้ถูกปัดไปให้ตงอี๋

เนื่องจากเบื้องหลังของฟ่านเสียนเป็นโอรสของฮ่องเต้กับเยี่ยชิงเหมย ฮ่องเต้จึงเตรียมมอบกิจการเดิมของเยี่ยชิงเหมยให้ดูแลเพื่อราชสำนักและเฉินผิงผิงมองเป็นทายาทสืบตำแหน่ง หลินยว่อฝู่ที่ไม่รู้เรื่องของอู่จู๋ก็ฝากฝังครอบครัวไว้กับฟ่านเสียนเพราะลูกชายคนเดียวที่เหลือปัญญาอ่อน ฟ่านเสียนที่ต้องการเปิดหีบหนังที่แม่ทิ้งไว้ต้องหาทางไปเอากุญแจในวังไทเฮา ก่อเรื่องบังหน้าโดยข่ม จวงม่อหาน ปราชญ์เมธีของเป่ยฉีโดยแสร้งเมาร่ายกวีลือชื่อในโลกนี้จนถูกรวมเป็นบทกวีปั้นเสียนไจ (ห้องสมุดอยู่ว่าง) เมื่อเปิดหีบก็พบหลักฐานว่าเยี่ยชิงเหมยเป็นคนจากโลกนี้ มีปืนสไนเปอร์ Barrett M82 แถมมาด้วย
[29/04/18, 30/05/18, 01/06/18]


ฟ่านเสียนได้สมรสกับหลินว่านเอ๋อ ได้ตำแหน่งอาจารย์ที่สำนักศึกษาไท่เสวี่ยและมีส่วนในการดูแลการสอบแข่งขันของบัณฑิตที่มีคนสำคัญฝากฝังให้ช่วงโกงให้ ฟ่านเสียนอาศัยสำนักตรวจสอบจัดการจนตำแหน่งผู้บัญชาการถีซือแห่งสำนักตรวจสอบถูกเปิดเผย และพิสูจน์ความสามารถด้วยการเป็นทูตควบคุมหัวหน้าสายสืบ เซียวเอิน ที่ถูกรัฐชิ่งขังมายี่สิบปีไปแลกเปลี่ยนกับ เอี๋ยนปิงหวิน หัวหน้าจารชนของสำนักตรวจสอบที่เป่ยฉี ทำให้ฟ่านเสียนต้องประทะกับ ไห่ถังตว่อตวอ (ช่อไม้ดอก) ศิษย์ของขู่เหอที่ลือกันว่าเป็นผู้สืบสายโลหิตแห่งฟ้า (ต้องยอมรับว่าวิธีการของฟ่านเสียนมักโฉดจริง แต่ก็ว่าไม่ได้นะ) นอกจากจัดการเรื่องได้สำเร็จ ฟ่านเสียนยังได้ฮ่องเต้เป่ยฉี จ้านโต้วโต้ว เป็นแฟนนิยาย (ตัวจริงเป็นหญิงที่ปลอมเป็นชายโดยได้รับการสนับสนุนจากราชครูขู่เหอ) และกลับชิ่งพร้อมกับองค์หญิงใหญ่เป่ยฉีมาสมรสกับองค์ชายใหญ่ พร้อมนำหนังสือของจวงม่อหานที่มอบให้ก่อนตาย นับเป็นหน้าเป็นตาอย่างยิ่ง

แต่เมื่อถึงเมืองหลวงชิ่ง ฟ่านเสียนก็ถูกดึงเข้าวังวนการอบรมเด็กน้อยของฮ่องเต้ ทะเลาะเรื่องแย่งเข้าเมืององค์ชายใหญ่ผู้เป็นแม่ทัพอยู่ชายแดนและเข้าเมืองหลวงเมื่อรับบรรดาศักดิ์เป็นอ๋อง ได้เป็นหนันเจี๋ยชั้นที่หนึ่ง (รั้งท้ายห้าบรรดาศักดิ์) เป็นหัวหน้าตึกที่หนึ่งสำนักตรวจสอบ ในขณะที่เอี๋ยนปิงหวินเป็นหัวหน้าตึกที่สี่แทนพ่อ เริ่มสร้างฐานอำนาจ เตรียมรับมอบท้องพระคลังปีหน้า


แต่ที่ลำบากคือการปะทะกับองค์ชายรองที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นหินลับฝีมือให้รัชทายาท และหาทางถอนหมั้นให้ฟ่านเย่อเย่อเพราะไม่ชอบหลี่หงเฉิง โดยถือว่าฟ่านเสียนเป็นฝ่ายลงมือกระทำ เริ่มจากขุนนางระดับต่ำและกิจการต่างๆ ซึ่งก็พาดพิงไปถึงองค์ชายสามและฟ่านซือเจ๋อจนฟ่านเสียนต้องจัดการส่งฟ่านซือเจ๋อไปเป่ยฉี ส่วนฟ่านเย่อเย่อก็เป็นศิษย์ขู่เหอเรียนด้านการแพทย์ หลังจากจบเรื่ององค์ชายรองก็มีการลอบสังหารฮ่องเต้ที่ฟ่านเสียนเจ็บหนักแต่มีผลงานดีเลิศ ได้เป็นไท่เสวียซือเยี่ยช่วยสั่งสอนองค์ชายสาม

ฟ่านเสียนพาองค์ชายสามไปรับมอบท้องพระคลังหรือนิคมอุตสาหกรรมที่มีการกักบริเวณคนงานเพื่อปกป้องความลับของเทคโนโลยี ฟ่านเสียนมีเป้าหมายยึดอำนาจจากแม่ยายโดยไม่ทำให้โครงสร้างของท้องพระคลังเสียหาย อุปสรรคมีตั้งแต่หัวหน้าคนงาน (ที่จัดผู้จัดการดั้งเดิมของตระกูลเยี่ยเข้าแทน) ถึงตระกูลใหญ่ที่ผูกขาดสินค้าทั้งที่ค้าขายกับเป่ยฉี (ที่ฟ่านเสียนมีข้อตกลงพิเศษกับกับฮ่องเต้เป่ยฉีและไห่ถังที่ถ้าทางชิ่งรู้คงกระอักเลือด) และตงอี๋ (ที่ใช้ความแค้นของคนในตระกูลใหญ่) แต่การแย่งชิงมรดกนี้กลับสะท้อนถึงการแย่งราชบัลลังก์ของเหล่าองค์ชาย
[05/06/18, 28/06/18, 17/07/18, 20/08/18]


ที่เมืองหลวงฮ่องเต้ต้องการปลดฟ่านเจี้ยนเพื่อถ่วงดุลอำนาจ แต่ฟ่านเจี้ยนที่วางหมากไว้นานก็ประคองตัวรอดได้ ทำให้รัชทายาทและองค์ชายรองต้องร่วมมือกัน หลังจากฟ่านเสียนจัดแจงเรื่องของท้องพระคลังเรียบร้อย บีบตระกูลหมิงจนแย่ ไห่ถังก็ถูกตามตัวกลับไปเป่ยฉีเพราะเรื่องอื้อฉาวของความสัมพันธ์กับฟ่านเสียน ตัวฟ่านเสียนก็เข้าปรึกษาหลินยว่อฝู่ ก่อนสะสางกองทัพเรือที่เมืองเจียวโจว และไปเยี่ยมย่าที่อ่าวต้านโจวก่อนกลับเมืองหลวง

ขบวนของฟ่านเสียนถูกโจมตีเพื่อสังหารนอกเมืองหลวงโดย ฉินเยี่ย ที่มีอำนาจทางทหารเป็นอันดับหนึ่ง ลูกชายเป็นขุนนางผู้มึอำนาจเต็มของมุขมนตรีแห่งรัฐ (กลาโหม) ที่มีส่วนร่วมอย่างลับๆ ในการกวาดล้างเยี่ยชิงเหมยเพราะมองว่าเป็นภัยต่อเสถียรภาพของแคว้น ฟ่านเสียนจึงแก้แค้น ฆ่ามือธนูที่เคยทำร้ายตนกาลก่อนแทนพร้อมกับขุนพลขององค์ชายรอง ถึงการกวาดล้างนี้ทำให้ฮ่องเต้สามารถปรับเปลี่ยนขุนนางได้สะดวก แต่สำนักตรวจสอบก็เจอการควบคุมหนัก ท่ามกลางความซับซ้อนของการเมืองและการวางคนเป็นสาย ฟ่านเสียนก็ถูกโดดเดี่ยว และได้แสดงความจริงใจในการไม่แก่งแย่งบัลลังก์ด้วยการเข้าเป็นคนในตระกูลฟ่านอย่างถูกต้อง

ในที่สุดจ่างกงจู่และไทจือก่อเรื่องเสียชื่อเสียง ฮ่องเต้กำจัดฐานอำนาจจ่างกงจู่ เตรียมปลดไทจือหลังฮ่องเต้ไปเซ่นสรวงฟ้าที่ศาลเจ้าชิ่งบนภูเขาต้าตงซานนอกอ่าวต้านโจวจ่างกงจู่ระดมกำลังล้อมเพื่อสังหาร ฟ่านเสียนรับราชโองการสั่งเสียหนีเข้าเมืองหลวงที่ไทเฮาเคลื่อนไหวเพื่อเสถียรภาพหลังมีข่าวสวรรคตจนเกิดสงครามในเมืองหลวง ... ความจริงคือฮ่องเต้เอาตัวเป็นเหยื่อล่อการช่วงชิงภายในและปรมาจารย์ภายนอก จัดการลงมือรวดเดียว ราชสำนักถูกกวาดล้าง ขุนนางเก่าถูกริดรอนอำนาจที่สะสมไว้และต้องลงจากเวที ฮ่องเต้รวบอำนาจทั้งมวล ตระเตรียมรวมแผ่นดินในอีกสามปีข้างหน้า ก่อนขู่เหอตาย ไห่ถังที่เป็นราชนิกุลชนเผ่าคาเอ่อนาไปชายแดนทางเหนือของเป่ยฉีเพื่อในชื่อ สงจือเชียนหลิง เพื่อจัดการชนเผ่าร่อนเร่และรบกวนความมั่นคงทางตะวันตกของหนันชิ่ง ทั้งยังให้ศิษย์เอกด้านการแพทย์มาดูแลเฉินผิงผิงให้มีชีวิตยืนยาว


สองปีผ่านไป ต้านป๋อกง (เจ้าพระยามิแสวงหา) ฟ่านเสียนมีลูกสาวลูกชายคือ ฟ่านสูหนิง (เสี่ยวฮัว) และ ฟ่านเหลียง (ดีงาม) ในภายนอกเป็นขุนนางผู้ทรงอำนาจแห่งต้าชิ่ง ภายในมีอุดมการณ์ต่อต้านสงครามของฮ่องเต้ แต่กระบี่สี่ทัศนาใกล้ตายทำให้สมดุลในตงอี๋จะเปลี่ยน ฟ่านเสียนจึงไปชายแดนตะวันตกซีหูเพื่อจัดการ พบไห่ถัง ฆ่าชาวเป่ยฉีที่มาช่วยชนเผ่า และทำให้สถานการณ์การเมืองในทะเลทรายที่เริ่มเสถียรเกิดปัญหา สร้างความเจ็บแค้นให้ผู้นำในทะเลทรายคือฉานอวี้ซีหู ซู่ปี้ต๋า อย่างยิ่ง

เมื่อกลับเมืองหลวง ก็เจอเรื่องเตรียมการบุกขึ้นเหนือของฮ่องเต้ ที่ผสมกับการแต่งชายาข้างขององค์ชายใหญ่และฟ่านเย่อเย่อที่กลับมาเปิดร้านหมอ ก่อนไปนครตงอี๋เพื่อร่วมการเปิดกระท่อมกระบี่ของกระบี่สี่ทัศนาก่อนตาย หนานชิ่งและเป่ยฉีส่งตัวแทนมาเพื่อแย่งชิงกัน โดยฮ่องเต้เป่ยฉีแอบมาเอง เลยได้เคลียร์เรื่องกับฟ่านเสียนและได้ลูกสาว หงโต้วฟ่าน

หลังจากนี้ก็เป็นการปะทะกับลาสบอสคือฮ่องเต้ชิ่ง คนธรรมดาไม่ละอายแก่ใจ ผู้มีจิตปณิธานต้องมีศรัทธาต่อคุณธรรม ไม่นึกถึงความสำเร็จล้มเหลวหรืออุปสรรคราบรื่น โดยฟ่านเสียนได้รับการสนับสนุนจากเหล่าปรมาจารย์อื่น แต่ทางเดินนี้ช่างยาวไกล อ้อมผ่านวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เหนือสุด ...
[08/09/18, 26/11/18, 26/01/19, 07/02/19, 25/02/19, 06/05/19]

ในเล่มแรกมีการเล่าเรื่องผู้แต่งว่าชื่อจริงคือเส้าเฟิง เกิดเมื่อปี 1977 ในหูเป่ย เมื่อปลายปี 2003 เขียนเรื่อง 'เอี่ยนซิวสือเหนียนซื่อ' ในนามปากกาเป่ยหยางซู่ (หนูภาคเหนือ) แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ต่อมาเปลี่ยนนามปากกาเป็นมาวนี่ (แมว) เขียนเรื่อง 'จูเชวี่ยจี้' (บันทึกหงส์แดง) จนโด่งดัง แล้วจึงเขียนเรื่องนี้ในปี 2007 ชื่อจีนคือ 'ชิ่งหวีเหนียน' (ยินดีที่ใช้ชีวิตอยู่ในรัฐชิ่ง) จนได้เป็นนักเขียนแพลทตินั่มของเว็บไซต์ฉีเตี่ยนจงเหวิน และบริษัทเท็นเซ็นสร้างเป็นซีรีส์ทีวี

ที่ จขบ. ฮามากที่สุดคือคำปรารภก่อนเปิดเรื่องของผู้แต่งที่ว่า ข้าพเจ้ายอมรับว่าลอกเลียนมา ต้องขอขอบคุณเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ที่เป็นต้นแบบให้ ... ขอเอ่ยถึงชื่อหนังสือ ข้าพเจ้าระดมมันสมองของบุคคลจำนวนมาก ยังนึกชื่อเรื่องที่ได้ทั้งเงินและกล่องไม่ได้ แน่นอน ได้เงินสำคัญกว่าได้กล่อง ... เรื่องราวคำนึงถึงความสนุกสนานเบิกบาน และที่เล่มสุดท้ายยังมีเรื่องการแย่งชิงเยี่ยเพี่ยว (ยอดกดไลค์รายเดือนของฉีเตี่ยนที่มีรางวัล) แถมยังบอกว่าอยากจะเขียนให้เป็นนิยายโรมานซ์แบบของสีเจวียนและอวี่ฉิงด้วย 555

เรื่องนี้มาสายสุขนิยมชัดเจน แนวถือว่าเบาสบายตามแบบฉบับพระเอกที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างดี อุปสรรคไม่ได้โหดร้ายเกินไป แต่ก็ไม่ได้สบายนะคะอ่านไปอ่านมาแล้วรู้สึกว่าเรื่องหนานชิ่ง เป่ยฉี และตงอี๋ มีความคล้ายคลึงกับจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน และ ฮ่องกง/มาเก๊า อย่างไรไม่ทราบ เลยทำให้เรื่องการเมืองรวมประเทศมีความซับซ้อนขึ้นไม่น้อย

ความน่าเชื่อถือของเรื่องใช้ได้ถึงยังรู้สึกถึงความเวอร์ของเหล่าปรมาจารย์ที่ดูแล้วถึงจะทรงอำนาจ แต่ก็ไม่น่าสู้หมื่นม้าได้หรอก นั่นคือถึงปรมาจารย์ไม่น่ายันกองทัพได้ (แต่ก็เข้าใจว่าเป็นตรรกะพิเศษของเรื่อง) แปลกอยู่นิดกับความโหดของฟ่านเสียนที่ถึงจะไม่ถูกผูกด้วยกรอบโบราณ แต่ก็เกิดของเขตของกรอบปัจจุบันไปมากหลายเมื่อคิดถึงสถานะในชาติก่อน และการเฉลยเรื่องวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่รู้สึกว่าลักลั่นมากในเรื่องพลังงานและการบำรุงรักษาของสถานที่และในตัวเทวทูต บทบู๊หลายครั้งเหมือนได้กลิ่นของหวงอี้ การจบและเฉลยปมถือว่าโอเคนะคะ ถึงจะมีกฏสามข้อและข้อศูนย์มาเล่นมุกก็ตาม สรุปว่าอ่านแล้วอยากติดตามแบบไม่ค่อยเครียดนัก แต่หลายตอนก็มึนๆ ค่ะ


เพิ่มเติมคือมีซีรีส์ 'Joy of Life' ภาค 1 เริ่มฉายในปี 2019 มี 46 ตอนจบ นำโดย จางรั่วยวิ๋น หลี่ชิ่น เฉินเต้าหมิง โครงเรื่องก็ถือว่าคล้ายหนังสือในระดับหนึ่ง ในภาพรวมโดดเด่นอย่างมาก ถึงหน้าพระเอกจะไม่สวยเกินหญิงเหมือนในหนังสือ แต่เอาฝีมือชดเชย ทั้งนี้ ในความเห็นของ จขบ. ตัวละครที่โดดเด่นที่สุดคือบอสใหญ่ 555
[27/04/21]

ที่มา
[1] มาวนี่ (น.นพรัตน์ แปล). หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร. สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 15 เล่มจบ, 248 + 272 + 256 + 264 + 256 + 264 + 256 + 256 + 264 + 264 + 256 + 256 + 264 + 264 + 264 หน้า, 2561 (ต้นฉบับ 2008).
[2] มาวนี่ (น.นพรัตน์ แปล). หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร. สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 17 เล่มจบ, 264 + 261 + 256 + 272 + 272 + 256 + 248 + 248 + 256 + 256 + 256 + 256 + 272 + 256 + 256 + 264 + 272 หน้า, 2561-2562 (ต้นฉบับ 2008).


รายการนิยายจีนแปลไทย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spy×Family - Endo Tatsuya

ลำนำรักเทพสวรรค์ - ถงหัว

สืบลับฉบับคาโมโนะฮาชิ รอน - Amano Akira