รัตติกาลซ่อนกล - หนิงหล่ง

เรื่อง รัตติกาลซ่อนกล
แต่งโดย หนิงหล่ง (Ning Long) แปลโดย Singin' in the Rain


รัตติกาลซ่อนกล ปก

ฟู่ปิง เป็นขุนนางที่มีผลงานโดดเด่น หลังสอบได้เป็นจ้วงหยวนก็ถูกส่งไปจัดการอุทกภัยที่แม่น้ำเว่ย เป็นเจ้าเมืองชวีจิ้ง มีส่วนช่วย มู่อ๋อง ที่ปกครองอวิ๋นหนานในการปราบเผ่าอี้ เมื่อเข้าเมืองหลวงจิงเฉิงก็ได้ดำแหน่งราชเลขาธิการ เมื่อยี่สิบปีก่อนฟู่ปิงแต่งกับธิดาขุนนางกำพร้าโดยมีมู่อ๋องเป็นพ่อสื่อ มีบุตรธิดาสองคนคือ ฟู่เหยียนชิ่ง ผู้เป็นอัจฉริยะเลื่องชื่อโดยเฉพาะศาสตร์ฉีเหมินตุ้นจย่า และ ฟู่หลันหยา ที่มีชื่อเลื่องลือด้านความงามก็ได้ศึกษาศาสตร์กับพี่ชายและหมั้นหมายไว้กับ ลู่จื่อเซียน บุตรชายของมหาบัณฑิต ลู่เฉิง เมื่อภรรยาของฟู่ปิงก็เสียชีวิตไปก็ก่อนทำให้ฟู่หลันหยาต้องไว้ทุกข์

เมื่อฮ่องเต้องค์ใหม่ครองราชย์ก็สุขภาพมีปัญหานิสัยเปลี่ยนแปลง ขันทีใหญ่ผู้รักษาพระราชลัญจกร หวังหลิง กุมอำนาจ ฟู่ปิงถูกลดขั้นและถูกส่งไปอวิ๋นหนาน การหมั้นของฟู่หลันหยาถูกยกเลิกโดยมารดาและย่าของลู่จื่อเซียนหลอกให้มีสัมพันธ์กับลูกพี่ลูกน้องจนต้องแต่งงาน ฟู่ปิงจึงตัดขาดความสัมพันธ์และพาฟู่หลันหยาไปอวิ๋นหนานด้วย เมื่อฟู่ปิงและฟู่เหยียนชิ่งเข้าเมืองหลวงและถูกจับเป็นขุนนางต้องโทษ ผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์เสื้อแพร ผิงอวี้ และรองผู้บัญชาการ หวังซื่อเจา ที่เป็นหลานชายของหวังหลิงก็ได้รับคำสั่งไปพาตัวธิดาขุนนางต้องโทษเข้าเมืองหลวง

ผิงอวี้เกิดในตระกูลแม่ทัพ ปู่เป็นแม่ทัพใหญ่เชี่ยวชาญกลยุทธค่ายกลและมีผลงานช่วงตั้งแต่แผ่นดินจนได้บรรดาศักดิ์ซีผิงโหวที่ตกทอดมาให้ลูกชาย ซีผิงโหวคนปัจจุบันก็เป็นแม่ทัพ เมื่อห้าปีก่อนเคยถูกผู้สนับสนุนฟู่ปิงจัดการจนถูกเนรเทศไปชายแดนเซวียนฝู่ ทำให้สุขภาพเสื่อมและเข่าเสีย ฮูหยินก็ลำบากยากแค้น แต่ผิงอวี้ที่ตามไปเซวียนฝู่ด้วยก็เข้าเป็นทหารเลวและทำความดีความชอบอย่างสูงโดยเฉพาะช่วยอดีตฮ่องเต้ ทำให้ซีผิงโหวได้รับอภัยโทษและกลับเป็นขุนนางในเมืองหลวงอีกครั้ง โดยบุตรชายคนโต ผิงเฮ่อ เป็นผู้บัญชาการทัพฝ่ายซ้ายเขตเจียงหนิงที่เมืองจินหลิง

ผิงอวี้ที่เป็นบุตรคนที่สาม หลังเข้าเมืองหลวงก็สอบขุนนางบู๊ได้ที่หนึ่ง อดีตฮ่องเต้ให้เป็นองครักษ์เสื้อแพร ได้เลื่อนตำแหน่งเร็วมากจนได้ตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์เสื้อแพรและขุนนางขั้นสามที่หนุ่มที่สุด ส่วนด้านครอบครัว ผิงอวี้เคยหมั้นหมายกับ เติ้งเหวินอิ๋ง ธิดาคนเล็กของหย่งอันโหว เติ้งฟู่เหนียน ที่กำลังรุ่งเรื่องเพราะธิดาคนโตได้เป็นฮองเฮา แต่เมื่อซีผิงโหวถูกเนรเทศ ทางหย่งอันโหวก็ยกเลิกการหมั้นหมายที่ทำให้เติ้งเหวินอิ๋งเสียใจมากแต่ทำอะไรไม่ได้ เมื่อผิงอวี้กลับเมืองหลวง เติ้งเหวินอิ๋งก็พยายามขอให้พี่รอง เติ้งอันอี๋ ช่วยปรับความเข้าใจแต่ไม่สำเร็จ

แต่ผิงอวี้ที่ไปจับกุมตัวฟู่หลันหยาก็ไม่ได้แก้แค้นกลับ แต่รักษาหน้าที่อย่างเคร่งครัด สังเกตเห็นความสามารถและนิสัยความโดดเด่นของฟู่หลันหยา ตั้งแต่การฆ่าพ่อบ้านตระกูลฟู่ที่ทรยศโดยใช้ยาพิษที่แม่ทิ้งไว้ และคิดใช้ฟู่หลันหยาเป็นเหยื่อล่อคนของหวังหลิงให้ออกมา แต่ระหว่างทางกลับเจอการช่วงชิงตัวของสำนักบูรพา เผ่าอี๋ นิกายเจิ้นหมัวที่แพร่มาจากต้าหลี่ที่ส่งผู้คุมกฎซ้ายขวาออกมา สำนักหนานซิงที่เจ้าสำนัก หลินจือเฉิง เชี่ยวชาญศาสตร์ฉีเหมินตุ้นจย่าห้าธาตุและวิชาพิณที่ทำอันตรายผู้มีกำลังภายใน และ จินหรูกุย เจ้านิกายเจาเยวี่ย

ทำให้มีชาวยุทธฝ่ายธรรมะก็มีที่ถูกดึงเข้ามาร่วม โดยเฉพาะที่ผิงอวี้เชิญมากเองคือ สำนักฉินที่นำโดยคุณหนูใหญ่ ฉินหย่ง และน้องชาย ฉินเยี่ยนซู สำนักสิงอี้ที่ หลี่โหยวเจี่ยน เป็นเจ้าสำนัก และประมุขยุทธภพคนปัจจุบันและประมุขสำนักปากว้า หงเจิ้นถิง ที่เป็นอาจารย์ของบุตรชายอวิ๋นหยางป๋อ หลี่โยว เพื่อนสนิทของผิงอวี้ สุดท้ายเติ้งอันอี๋และลู่จื่อเซียนก็หาข้ออ้างปรากฏตัวเข้าร่วมด้วย

หลังจากการสืบเสาะรอบใหญ่ก็พบว่าต้นเรื่องมาจาการนองเลือดครั้งใหญ่เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ตอนไท่จู่ขับไล่ ถั่วฮวนเถี่ยมู่เอ่อร์ แห่งราชวงศ์หยวนตาย พระชายาพารชทายาทและองค์หญิงพร้อมของล้ำค่าของชาวเหมิงกู่หนี แต่ถูกนิกายเจิ้นหมัวปล้นชิงไปหมด โดยเฉพาะไข่มุกถ่านเอ๋อร์ที่เป็นผลึกแก้วห้าเหลี่ยม มีทั้งหมดห้าชิ้น ที่เมื่อรวมกันแล้วก็จะสามารถเอาเลือดจากหัวในตัวเร่งยาไปกระตุ้นวิชาคืนชีพที่ศาลเจ้าโบราณริมแม่น้ำเสวียนฮั่น โดยตัวเร่งยาสมัยนั้นคือ หนู่หมิ่น แม่ของฟู่หลันหยาได้หนีออกมาและหายสาบสูญไป เหล่าคนที่แย่งชิงไข่มุกถ่านเอ๋อร์ถ้าไม่มีคนที่ต้องการอำนาจเช่นหวังหลิงที่เคยเป็นราชองครักษ์ชาวเหมิงกู่และมีชื่อเดิมว่า ปู้รื่อกู่เต๋อ ก็ต้องการให้คืนชีพให้คนเช่นหลินจือเฉิงที่ลูกถูกปู้รื่อกู่เต๋อฆ่า ฯลฯ และซีผิงโหวที่เป็นปู่ของผิงอวี้ก็เป็นผู้จัดการช่วงสุดท้ายของการนองเลือดและสงสัยว่าอาจมีไข่มุกถ่านเอ๋อร์ด้วย นั่นคือในครั้งนี้นอกจากมีการแย่งชิงไข่มุกถ่านเอ๋อร์แล้ว ฟู่หลันหยาก็เป็นที่ต้องการในฐานะตัวเร่งยาด้วย

ตัวฟู่หลันหยาก็ไม่รู้เรื่องอะไร ของตกทอดจากแม่มีตำราฉีเหมินตุ้นจย่าของสำนักหนานซิงที่ฟู่เหยียนชิ่งเรียนจนคล่องและฟู่หลันหยาเรียนด้วย แถมลู่จื่อเซียนที่สนิทกันก็รู้ด้วย แต่ที่ไม่บอกออกไปคือมีตำราภาษาเผ่าต๋าต๋าในดินแดนเหมิงกู่ที่ไม่ทราบว่าเกี่ยวกับอะไร และยาจำนวนหนึ่งที่พกติดตัวไว้ที่มียาถอนพิษช่วยฉินเยี่ยนซูและผิงอวี้ไว้ได้ โดยฟู่หลันหยาเริ่มสงสัยเรื่องการตายของมารดา ระหว่างทางผิงอวี้ก็เริ่มรู้สึกชอบฟู่หลันหยามากขึ้น รักและหวงก้างมาก แต่ก็รู้สึกผิดกับครอบครัว ร่างการเริ่มมีปฏิกิริยาทั้งที่โดนกัดไปหลายรอบ (ต้องบอกว่าความตึงเครียดทางเพศของผิงอวี้ที่ยังบริสุทธิ์อยู่ก็ฮามาก แต่ไม่เหมาะสำหรับเด็กนะ) จนกระทั่งผิงอวี้ชัดเจนว่าต้องการแต่งงานกับฟู่หลันหยา และยืนยันชัดเจนกับพี่ชายเมื่อไปถึงเมืองจินหลิงที่มีการปะทะครั้งใหญ่

หวงตี้ตัดสินใจนำทัพรบกับเผ่าหว่าล่าที่รุ่งเรืองขึ้นมากระทันหัน โดยให้หวังหลิงเป็นผู้บัญชาการทั้งที่เป็นคนทรยศและผู้ช่วยเหลือให้เผ่าหว่าล่าทรงอิทธิพลขึ้นอย่างเร็ว แน่นอนว่ากองทัพต้าหมิงไปรักษาเซวียนฝู่ก็ถูกตีแตกและถอยร่นมาติดกับที่ถู่มู่พู่ พวกผิงอวี้ที่ถูกเรียกรวมพลด้วยจึงรวมทหารขององครักษ์เสื้อแพร หวังเฮ่อและแม่ทัพ หรงเจิ้นถิง ที่เคยรบแถวเซวียนฝู่ รวมกำลังเพียงสองหมื่นล่อหวังหลิงให้ไปที่ศาลเจ้าโบราณริมแม่น้ำเสวียนฮั่นที่ถูกปกป้องด้วยศาสตร์ฉีเหมินตุ้นจย่าและปรากฏขึ้นให้เห็นเป็นบางครั้ง

พวกผิงอวี้สามารถเปิดค่ายกลของศาลเจ้าก่อนหวังหลิงที่จับตัวหวงตี้เร่งรีบมาถึง ช่วยหวงตี้และล่อหวังหลิงเข้าศาลเจ้าจนจับตัวได้ สามารถเค้นทั้งการวางแผนการรบและเรื่องเมื่อยี่สิบปีก่อนออกมาได้ก่อนศาลเจ้าถล่มทับความลับทั้งหมด กองทัพหมิงจึงสามารถรบชนะ ถอนพิษให้หวงตี้ ... ฟู่ปิงพ้นผิด ผิงอวี้ได้บรรดาศักดิ์เจิ้นไห่โหวและเลื่อนเป็นขุนนางขั้นสองผู้บัญชาการค่าพลอูจวิน และขอพระราชทางสมรสได้ราบรื่น มีชีวิตครอบครัวสุขสมหวัง ...

รัตติกาลซ่อนกล chart

ถึงเรื่องนี้จะไม่อิงประวัติศาสตร์ชัดเจน แต่ตั้งแต่ปลายเล่มสามมีเรื่องที่ฮ่องเต้นำทัพไปรบกับชนเผ่าทางเหนือ ที่เห็นว่าคล้ายคลึงกับวิกฤตการณ์ถู่มู่เมื่อปี 1449 ในสมัยจักรพรรดิเจิ้งถ่งหรือหมิงอิงจง จูฉีเจิน (ครองราชย์ 1435–1449) ที่ถูกควบคุมโดยขันที หวังเจิน โดยในการกรีฑาทัพนี้มีหวังเจินเป็นผู้บัญชาการจริง ผลก็คือแพ้ราบ หวังเจินตาย หมิงอิงจงถูกมองโกลจับตัวที่ป้อมถู่มู่ พระอนุชา จูฉีอี้ ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิจิ่งไท่เป็นเวลาแปดปี หมิงอิงจงที่ถูกปล่อยตัวออกมาและได้รับฐานะอดีตฮ่องเต้ได้ยึดอำนาจเป็นจักรพรรดิเทียนซุ่น (ครองราชย์ครั้งที่สอง 1457-1464) โดยในนิยายได้เปลี่ยนผลการรบคราวนี้ด้วยฝีมือของพระเอก ซึ่งก็ดีเพราะไม่งั้นจะมากลัวว่าอีกแปดปีจะโดนฆ่าไหม ^_^

โครงเรื่องเน้นเรื่องการแย่งชิงไข่มุกถ่านเอ๋อร์มากกว่าจะเป็นเรื่องการรบขนาดใหญ่ แต่ก็รู้สึกว่าพระเอกเปล่งออร่าความเป็นผู้นำได้ดีกว่านิยายหลายเรื่องที่มีการรบแล้วบอกว่าแม่ทัพเก่งอย่างโน้นนี้แต่อ่านแล้วรู้สึกเหลวมาก ทำให้อ่านแล้วค่อนข้างลื่นไหลไม่ขัดใจ 555 ส่วนใหญ่มีตรรกะรองรับและที่ปล่อยไปไม่ฟันธงก็ไม่ทำให้อรรถรสเสีย คือปล่อยให้คลุมเครือไปก็ดึแล้ว แต่ก็มีบางตอนที่รู้สึกว่าหลุดหรือเหมือนวาดงูเติมขาไปบ้าง อย่างไปจับธิดาขุนนางที่ไปทั้งผู้บัญชาการและรอง หรือการฆ่าพ่อบ้านแบบกระทันหัน เมื่อหักลบกับความฮาและความหื่นของพระเอกผู้วางมาดอย่างมั่นและถือคติคุ้นแล้วย่อมช่ำชอง ก็สรุปว่าอ่านได้สนุกดีค่ะ
[06/06/21]

ที่มา
[1] หนิงหล่ง (Singin' in the Rain แปล). รัตติกาลซ่อนกล (Le Men Ge). ชุดมากกว่ารัก, แจ่มใสพับลิชชิ่ง, 4 เล่มจบ, หน้า, 2564.


รายการนิยายจีนแปลไทย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spy×Family - Endo Tatsuya

ลำนำรักเทพสวรรค์ - ถงหัว

สืบลับฉบับคาโมโนะฮาชิ รอน - Amano Akira