พลิกฟ้าท้ามาตุภูมิฮั่น - เจี๋ยอวี่เอ้อร์

เรื่อง พลิกฟ้าท้ามาตุภูมิฮั่น
โดย เจี๋ยอวี่เอ้อร์ (Jia Yu 2) แปลโดย ธารยุทธ์



อวิ๋นหลาง - ไท่ไจ่ - จั๋วจี - ฮั่วชวี่ปิ้ง

อวิ๋นหลาง โตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของ อวิ๋นผอผอ และช่วยดูแลจนนางตาย ทำงานเป็นวิศวกรซ่อมเครื่องบิน เวลาว่างชอบเดินทางและอ่านหนังสือ ทำให้ทะเลากับแฟนจนขอลาพักผ่อนออกเดินทางไปเขาหลีซาน ถูกฟ้าผ่าจนเกรียมและส่งตัวไปสมัยฮั่น ที่รอดชีวิตเพราะได้รับการช่วยเหลือจาก กู้อวิ่น ที่เป็นไท่ไจ่หรือขุนนางส่วนพระองค์หรือประจำวังจางไถของจิ๋นซีฮ่องเต้ผู้รับสืบทอดหน้าที่ดูแลสุสานร่วมกับทหารองครักษ์ค่ายเสินเว่ยมาตลอดหลังจากราชวงศ์ฉินถูกล้มล้าง

เมื่อแปดปีก่อนตอนฮั่นอู่ตี้ หลิวเช่อ ที่มีพระชนมายุสิบแปดพรรษาได้สั่งให้ปรับปรุงและขยายอุทยานซั่งหลิน ชาวบ้านที่ไม่ยอมย้ายออกก็กลายเป็นคนป่าที่ถูกฆ่าเมื่อไหร่ก็ได้ โดยเฉพาะทหารอวี่หลินที่ชอบมาฝึกซ้อมทหารใหม่ให้ฆ่าคน ทำให้ทายาทคนเฝ้าสุสานก็ลดน้อยลงทุกทีจนเหลือไท่ไจ่ที่อยู่ประจำคนเดียว เนื่องไท่ไจ่ทั้งหลายเป็นขันทีจึงต้องรับเด็กมาเลี้ยงเป็นลูก ไท่ไจ่คนนี้อายุสามสิบเจ็ดแล้วก็ต้องการให้อวิ๋นหลางรับช่วงต่อ

ไท่ไจ่มีเสือที่เลี้ยงมาแต่เล็กและยังหาแม่กวางเหมยฮัวเพื่อเอานมมาให้อวิ๋นหลาง เมื่ออวิ๋นหลางอาการดีขึ้น ร่างกายลอกคราบออกเป็นเด็กหนุ่ม จึงฝึกเสือเพิ่มและตั้งชื่อว่า ไต้อ๋อง ไท่ไจ่สอนตัวหนังสือ พยายามอบรมให้อวิ๋นหลางเป็นไท่ไจ่ต่อและพาเข้าไปในสุสานฉินส่วนนอก แต่อวิ๋นหลางที่ทราบชัดเจนว่าไม่ควรไปก่อเหตุในยุคที่ราชวงศ์ฮั่นรุ่งเรืองเช่นนี้ ก็พยายามเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้ดีขึ้นและกลายเป็นคนที่ตัดสินใจเรื่องต่างๆ แทนไท่ไจ่

ในช่วงเทศกาลเช็มเม้งที่ชาวบ้านสามารถเข้ามาในอุทยานซั่งหลินเพื่อเซ่นไหว้บรรพบุรุษ อวิ๋นหลางก็หาโอกาสปะปนกับชาวบ้านออกไปจากอุทยานซั่งหลิน หลอกและต่อยดีกับ ฮั่วชวี่ปิ้ง จนนัดจะปะทะกันอีกครั้งในปีหน้า และก็เป็นครั้งแรกที่อวิ๋นหลางฆ่าโจรที่จะจับตนเองไปขายทีเดียวถึงสามคน อวิ๋นหลางกลับไปอุทยานซั่งหลินและออกมาอีกทีหลังการล่าสัตว์ของราชสำนัก โดยต้องการหาทางซื้อที่ดินใกล้สุสานสร้างเป็นบ้านไร่เพื่อปิดบังร่องรอยของสุสาน ถือเป็นการตอบแทนไท่ไจ่

ราชสำนักจะออกกฏหมายควบคุมเกลือและเหล็ก ทำให้ จั๋วจี ธิดาหม้ายของคหบดีแห่งสู่จงที่มีกิจการโรงหลอมเหล็กมาที่เมืองหลวงเพื่อหาทางออกโดยการเจรจากับองค์หญิง ฉางผิง ผู้เป็นพี่สาวคนโตของฮั่นอู่ตี้ องค์หญิงฉางผิงสมรสครั้งแรกกับผิงหยางโหว เฉาโซ่ว และมีลูกชาย เฉาเซียง หลังเฉาโซ่วตายก็สมรสครั้งที่สองกับหรู่อินโหว เซี่ยโหวพัว และครั้งที่สามกับแม่ทัพใหญ่ เว่ยชิง ที่เป็นน้องชายของฮองเฮาและน้าของฮั่วชวี่ปิ้ง

อวิ๋นหลางขอที่ปรึกษาของจั๋วจีให้ร่วมเดินทางไปเมืองหยางหลิงจนได้ทำงานให้จั๋วจีเพราะมีความรู้เรื่องเหล็ก การทำบัญชี และฝีมือทำอาหาร อวิ๋นหลางสามารถพัฒนาให้โรงหลอมเหล็กของตระกูลจั๋วในหยางหลิงหลอมเหล็กกล้าออกมาได้จนมีกำไรมหาศาล แต่ก็ยักยอกค่าใช้จ่ายออกมาไม่น้อยเพื่อเป็นเงินทุนสำหรับบ้านไร่ นอกจากนี้อวิ๋นหลางก็ได้สนิทกับฮั่วชวี่ปิ้งผู้เข้าร่วมสนับสนุนบ้านไร่ด้วย

อวิ๋นหลางเสนอคันไถและคันหว่านให้องค์หญิงฉางผิงเพื่อเอาไปถวายฮั่นอู่ตี้ จนได้เป็นทหารอวี่หลินยศอวี่หลินหลางและได้โอกาสขอพระราชทานที่ดินข้างแม่น้ำเว่ยสุ่ยเชิงเขาหลีซางในอุทยานซั่งหลิน ตามด้วยการเปิดโรงงานเต้าหู้กับองค์หญิงฉางผิง เสนอเกือกม้า (ภายหลังยังเสนอกการใช้โกลนม้าคู่เพื่อให้บังคับม้าได้ง่ายขึ้น) โดยคนที่มารับคือขุนนางบู๊จงเว่ยต้าฟู จางทัง ที่เป็นเขี้ยวเล็บของฮ่องเต้ จนได้เป็นเชียนต้านซือหม่าเบี้นหวัดพันต้านในกองทัพอวี่หลิน ทำให้เหอฉีโหว กงซุนอ๋าว (หรือบางที่เขียนกงซุนเอ๋า) ที่เป็นแม่ทัพยากที่จะบีบให้ออกรบจริงได้ การถวายกังหันน้ำและโม่น้ำผ่านผังกวงโหว หลิวอิ่ง ที่เป็นทั้งเชื้อพระวงศ์และคุรุสำนักม่อที่เชี่ยวชาญกลไก ที่ตอบแทนด้วยการสร้างบ้านไร่และอุปกรณ์ต่างๆ โดยแต่ละงานล้วนเสี่ยงกับการถูกประหารถ้าทำไม่สำเร็จ

ถึงตอนนี้ บ้านไร่ก็ขยายตัวอย่างมากในหนึ่งปี มีปลูกพืชอย่างหลากหลาย เลี้ยงไหมเป็ดไก่ห่านกวาง มีโรงตีเหล็กใช้เอง บ้านและตึกออกแบบอย่างดี มีการนำนำ้ฟุร้อนมาใช้อาบน้ำ ฟักไข่ และสร้างความอบอุ่นในฤดูหนาว ฯลฯ อวิ๋นหลางก็มีผู้อยู่ในสังกัดจำนวนมาก ที่ใกล้ชิดก็มีสาวใช้ โฉวยง ช่างเหล็ก เหลียนอง กับภรรยาและลูกสาว เสี่ยวฉง และมีสาวใช้ หงซิ่ว จากตระกูลที่ถูกยึดทรัพย์ อวิ๋นหลางรับสตรีและเด็กมาเป็นแรงงานในไร่สี่ร้อยกว่าคน ดูแลอย่างดี ไม่ว่านายบ่าวกินอาหารเหมือนกัน มีไท่ไจ่เป็นครูสอนหนังสือให้คนงาน แบ่งรายได้ให้อย่างงาม สรุปคือค่าจ้างและสวัวดิการดีมากทำให้แรงงานสตรีและเด็กภักดีเต็มร้อย โดยในจำนวนนี้ หลิวผอ ที่เป็นผู้จัดการด้านเลี้ยงไหมอันมีกำไรอันดับหนึ่ง

ที่บ้านไร่มีทหารอวี่หลินที่มาซ่อมแซมหรือทำอาวุธใหม่โดยมีอวิ๋นหลางช่วยดูแล รวมถึงกงซุนอ๋าว ฮั่วชวี่ปิ้ง และ หลีกั่น (ลูกชายของ หลีกว่าง บรรพบุรุษราชวงศ์ถัง ที่ตามประวัติศาสตร์ถูกฮั่วชวี่ปิ้งฆ่า) บวกกับเฉาเซียงที่อวิ๋นหลางรักษาโรคหนอนพยาธิใบไม้ในเลือดให้ กลายเป็นแก๊งสี่หนุ่มอนาคตไกลที่ใกล้ชิดสนิทสนมมาก จองที่ดินสร้างบ้านอยู่ติดกับไร่ของอวิ๋นหลาง

บ้านไร่เริ่มมีสายสัมพันธ์มากขึ้น ทั้งนี้ความอร่อยของอาหารและไพ่นกกระจอกก็มีส่วนช่วยอย่างมาก อวิ๋นหลางดูแลลูกชายปัญญาอ่อนสองคนของนายทหารยศเสี้ยวเว่ย เมิ่งตู้ ที่เคยเป็นครูฝึกทหารให้หลิวเช่อตอนยังเป็นเจียงตงอ๋องจนสามารถดูแลตนเองและทำงานเลี้ยงสัตว์ปีกได้อย่างเชี่ยวชาญจนได้ตำแหน่งหนงป๋อซื่อ (ผู้มีความรู้ด้านกสิกรรม) และติดต่อกับวังฉางเหมินที่ตั้งติดกันทางเหนือของบ้านไร่ที่หลิวเช่อให้อดีตฮองเฮาองค์แรก เฉินอาเจียว อยู่ ช่วยปรับปรุงวัง สร้างสระน้ำและระบบเกษตรกรรมจนวังฉางเหมินเสี้ยงตัวเองได้ และตั้งเมืองฟู่กุ้ยในบริเวณของวังเพื่อเป็นศูนย์กลางการค้าถ่านหินและดึงคนป่าเป็นแรงงาน เหล่าผลงานดึงดูดหลิวเช่อมาเยี่ยมบ่อยๆ อวิ๋นหลางที่สร้างรถม้าสี่ล้อก็เชิญ ตงฟางซั่ว ที่ถือดีในการอ่านมากและรอตำแหน่งมาแปดปี (มุกอัครเสนาบดีตรงนี้ฮา) มาที่บ้านไร่และภายหลังส่งไปทำงานให้วังฉางเหมิน

เมื่อไท่ไจ่ใกล้ตายก็อยากตายในสุสานจิ๋นซี อวิ๋นหลางจึงต้องเข้าไปลึกจนใกล้พระศพเพื่อรับตำแหน่งต่อ เผชิญทั้งกลไก แม่น้ำปรอท (สงสัยว่าสมัยปัจจุบันทำงานอะไรถึงบอกว่าเคยเจอปรอทมาก่อน) และทายาทของเซี่ยงอวี่ที่พยายามบุกรุกสุสานเพื่อแสวงหาความร่ำรวย สุดท้ายก็สามารถปิดตายสุสานด้านในสุดได้ โดยค่ายองครักษ์พิทักษ์สุดสานยังเปิดอยู่ แต่ก็ทำเอาอวิ๋นหลางเกือบตายเพราะพิษปรอท

เมื่อกองทัพซยงหนูบุกเข้าด่านมาอย่างกระทันหัน บางส่วนมาบริเวณอุทยานซั่งหลินเพื่อจับตัวเฉินอาเจียว อวิ๋นหลางจัดการให้คนงานซ่อนตัว ส่วนองครักษ์หนีหายไปหมด อวิ๋นหลางที่ผ่านการฝึกกับกองทัพอวี่หลินแล้วก็ออกไล่ล่าซยงหนูกับไต้อ๋องได้สิบหกคนจนได้บรรดาศักดิ์เส้าซ่างเจ้า ทั้งยังช่วยชีวิตเหล่าคุณชายเสเพลไว้ได้หลายคน ความสำเร็จของบ้านไร่ ทำให้เป็นเป้าของผู้มีอำนาจ โดยเฉพาะ จู่ฟู่เอี้ยน ที่เสนอแนวทางให้ฮ่องเต้ยึดอำนาจและความมั่งคั่งจากเชื้อพระวงศ์ ขุนนาง และพ่อค้า แต่จู่ฟู่เอี้ยนก็หาทางเล่นงานอวิ๋นหลางยังไม่ได้

ทุกสามปีจะมีการบวงสรวงบรรพชนของราชวงศ์ที่เปลี่ยนไปเป็นการซ้อมรบ (ถึงตาย) ระหว่างฮ่องเต้และเชื้อพระวงศ์ที่มีอำนาจ กองทหารเผชิญหน้ากันที่เขตพยัคฆ์หมอบ ฮั่วชวี่ปิ้งที่ได้ตั้งหน่วยฉีตูเว่ยจำนวนหนึ่งพันสามร้อยคน โดยมีเหล่าเพื่อนสนิทเป็นผู้ช่วย (อวิ๋นหลางที่เป็นซือหม่าดูแลพวกพลาธิการและการแพทย์) ก็ขอโอกาสไปสังเกตการณ์และใช้จากฝีมือการสร้างค่าย สร้างอุปกรณ์ และทำอาหาร แลกกับทรัพยากรต่างๆ เช่น ม้า เศษเกราะที่จะนำไปสร้างใหม่ โดยมีเป้าสร้างทหารสวมเกราะเคลื่อนที่เร็วเพื่อใช้จัดการกับซยงหนูโดยเฉพาะ หลังการรบ หน่วยฉีตูเว่ยยังช่วยรักษาทหารที่รับบาดเจ็บจำนวนมาก อวิ๋นหลางยังได้ช่วย หลิวหลิง องจู่ธิดาของไห่หนานอ๋องที่ถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส โดยภายหลังหลิวหลิงได้อาสาไปสมรสกับซยงหนู เสี่ยงชีวิตเพื่อสร้างอำนาจของตนเอง โดยได้อวิ๋นหลางช่วยสอนเรื่องอาหารเพื่อมัดใจคนและให้ชุดชาตะกั่วเคลือบปรอทไปวางยาพิษคนสำคัญด้วย

ระหว่างเดินทางกลับก็ได้พบกับสาวน้อย ซูจื้อ จากสำนักเสวียนจีเฉิงในขุนเขาที่ออกสู่โลก ภายหลังยังมีศิษย์พี่ ซ่งเฉียว และ เผ่าผอผอ ที่เก่งด้านการแพทย์ ทำให้อวิ๋นหลางสร้างพื้นเพว่ามาจากสำนักซีเป่ยหลี่กง (Northwestern Polytechnics University) ที่ไม่เชื่อในเวทมนตร์คาถา โดยตนเองสำเร็จวิชาอาหาร แต่มีศิษย์พี่ที่ศึกษาเรื่องอื่นๆ เพียงแต่ตอนนี้ทั้งสำนักเหลือตนเองเท่านั้น หลังจากเกิดแผ่นดินไหวจนตายกันหมดสำนัก จึงยอมไปเข้ากับสำนักหยูที่ฮ่องเต้กำลังส่งเสริมได้ พลังใดที่ไม่อยู่ในการควบคุมของกฎหมายบ้านเมือง ล้วนต้องกำจัดทิ้งให้หมดสิ้น

หน่วยฉีตูเว่ยพัฒนาอย่างรวดเร็ว อุปกรณ์ม้าศึกและการรักษาอาการบาดเจ็บพร้อมพรั่ง แถมด้วยการซ้อมรบ ขาดแต่ประสบการณ์จริง ในงานตรวจกำลังพลของฮ่องเต้ถึงทำได้ดี แต่มีคนปองร้ายฮั่วชวี่ปิ้งทำให้อวิ๋นหลางฆ่าคนต่อหน้าฮ่องเต้ ถูกทำโทษด้วยการจำคุกสองเดือนและได้พบกับพ่อลูก ซือหม่าถัน และ ซือหม่าเชียน (ผู้แต่งบันทึกประวัติศาสตร์สื่อจี้)
เมื่อพูดเรื่องครอบครัวของแก๊งสี่หนุ่ม หลีกั่นแต่งงานมาก่อนกับ หยางซื่อ มีลูกชายทารกที่ถูกส่งเข้าสำนักซีเป่ยหลี่กงแน่นอน ฮั่วชวี่ปิ้งแต่งกับ จางอิ๋ง ธิดาแม่ทัพที่แกร่งมาก สามารถต่อสู้และออกล่าสัตว์แทบไม่แพ้สามี โดยในวันแต่่งงาน พ่อของฮั่วชวี่ปิ้งก็จับลูกชาย ฮั่วกวง ใส่รถม้าให้เป็นศิษย์สำนักสำนักซีเป่ยหลี่กง ทำให้อวิ๋นหลางจับตัวอัครเสนาบดีในอนาคตไว้แน่น เฉาเซียงแต่งกับ หนิงเนียวเนียว ธิดาของแม่ทัพอันดับหนึ่งของจวนฉางผิง ทำให้ต้องย้ายออกไปทัพอื่น ตอนกแรกองค์หญิงฉางผิงไม่ต้องการให้ย้ายเลยไม่ยอมให้แต่ง แต่เว่ยชิงเห็นว่ายังไงก็ต้องย้ายออกเพื่อให้ฮ่องเต้ไม่ระแวง

อวิ๋นหลางเกิดรักแรกพบกับและแต่งงานกับซ่งเฉียว และมีลูกสาวกับจั๋วจีที่ถูกพ่อบีบเรื่องโรงหลอมเหล็กจนแต่งงานกับขุนนาง ซือหม่าเซียงหรู แต่ก่อนแต่งจั๋วจีมีความสัมพันธ์กับอวิ๋นหลาง เมื่อมีลูกสาวก็ไม่บอกและย้ายไปสู่กับซือหม่าเซียงหรู ฮั่นอู่ตี้จึงคิดใช้ลูกสาวมาควบคุมอวิ๋นหลาง ตั้งให้จั๋วจีเป็นฮูหยิน ลูกสาว อวิ๋นอิน เป็นองจู่และให้เฉินอาเจียวรับเป็นธิดาบุญธรรม งานนี้ทำให้ซือหม่าเซียงหรูหย่าจั๋วจี และจั๋วจีเลิกทำโรงหลอมเหล็กตามกฏหมายเกลือเหล็กโดยไปเปลี่ยน
[13/06/21]

ในคำนำสำนักพิมพ์และประวัติผู้แต่งอธิบายว่าผู้แต่งเป็นนักเรียนระดับแพลทินัมของเว็บไซต์ฉีเดี่ยนจงเหวินเริ่มมีชื่อเสียงจากนิยายอิงประวัติศาสตร์ในปี 2012 โดย 'พลิกฟ้าท้ามาตุภูมิฮั่น' เป็นผลงานอันดับที่สี่ เจี๋ยอวี่เอ้อร์มีชื่อเสียงคู่กับเยี่ยกวน ที่อ่านดูแล้วก็ไม่แปลกใจค่ะ เพราะว่านิยายมาแนวเดียวกัน แต่เน้นกันคนละแบบที่ จขบ. รู้สึกว่ากินกันไม่ลง ด้วยนิสัยส่วนตัวออกจะเอียงมาทางนโยบายชีวิตเรียบง่ายของเจี๋ยอวี่เอ้อร์มากกว่าหน่อย เพราะชอบนิยายแนวก่อร่างสร้างเมืองเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย แต่เยี่ยกวนมีความโดดเด่นให้ลุ้นเรื่องการเมืองและสงครามมากว่า พร้อมกับไม่มความเวอร์ของการนำเทคโนโลยีมาใช้เท่า 555


มีที่ติดใจเรื่องความเห็นของอวิ๋หลางต่อชาวซยงหนู อวิ๋นหลางที่มาจากปัจจุบันและมีแนวคิดสมัยใหม่พอควร ยังมีความรู้สึกเกลียดซยงหนูถึงขนาดอยากลงมือฆ่าเอง สามารถวางแผนให้ขายทั้งเผ่าเป็นทาส ใช้ทำงานหนัก เป็นทหารทาส หรือในสังเวียนกลาดิเอเตอร์แบบตั้งใจจะฆ่าล้างเผ่าพันธ์ และก็มีแนวคิดชาติและเผ่าพันธุ์นิยมอย่างสูง พร้อมแสดงความเป็นใหญ๋และความสูงส่งที่เหนือกว่าแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ที่เมื่อมองในแง่มุมว่าศิลปะสะท้อนชีวิตจริง ความนิยมของงานส่วนหนึ่งเกิดจากความสอดคล้องต่อความต้องการเบื้องลึกของผู้อ่าน ถึงนิยายชาติอื่นที่อ่านก็มีแนวคิดแบบนี้ไม่น้อย แต่ที่เปิดเผยขนาดนี้ก็มักเป็นนิยายสมัยเก่า ถ้าที่เขียนในปัจจุบันก็เป็นกลุ่มเฉพาะ หรืออย่างน้อยก็มักมีการสร้างภาพปกปิดแบบที่เห็นว่าผู้แต่งก็มีความตระหนัก ทำให้ จขบ. ในฐานะชาวต่างชาติก็รู้สึกหนักใจอยู่ลึกๆ บ้างเหมือนกัน



สรุปในภาพรวมคือเป็นเรื่องก่อร่างสร้างตัวเพื่อชีวิตอันสงบสุขท่ามกลางการกดดันของสังคมศักดินาจีนที่ทำได้อย่างโดดเด่นมาก แต่ก็มีจุดให้รู้สึกกังวลในเบื้องลึกอยู่บ้าง

ที่มา
[1] เจี๋ยอวี่เอ้อร์ (ธารยุทธ์ แปล). พลิกฟ้าท้ามาตุภูมิฮั่น. เล่ม 1-8, สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 352 + 344 + 344 + 288 + 296 + 296 + 288 หน้า, 2563.


รายการนิยายจีนแปลไทย, ไทม์ไลน์หนังสืออิงประวัติศาสตร์/ย้อนยุค จีน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spy×Family - Endo Tatsuya

ลำนำรักเทพสวรรค์ - ถงหัว

สืบลับฉบับคาโมโนะฮาชิ รอน - Amano Akira