บุรุษบูรพา ทำเนียบหลางหยา - ไห่เยี่ยน
เรื่อง บุรุษบูรพา ทำเนียบหลางหยา
โดย ไห่เยี่ยน (Hai Yan) แปลโดย ลี หลินลี่
ทำเนียบหลางหยาเป็นองค์กรที่ขายข้อมูล แต่ทุกปีจะจัดสิบอันดับใต้หล้าของยอดฝีมือ พรรคใหญ่ มหาเศรษฐี คุณชาย และยอดหญิงงาม ซึ่งในห้าปีหลังนี้ อันดับหนึ่งของพรรคใหญ่คือพรรคบูรพานที คุณชายอันดับหนึ่งคือประมุขสูงสุดพรรคบูรพานที เหมยฉางซู ฉายาบุรุษเหมยลุ่มน้ำบูรพา เมื่อสิบสองปีก่อนสร้างชื่อจากการเจรจาช่วยคนกับประมุขพรรคมังกรผงาดที่เป็นใหญ่ทางเหนือ
เหมยฉางซูตอนนี้อายุ 29 ปี ไม่มีวิทยายุทธและสุขภาพไม่ดี หมอเทวดาผู้เฒ่า สวินเจิน ที่รักษาสั่งให้พัก เหมยฉางซูจึงพา เฟยหลิว เด็กหนุ่มที่มีปัญหาสมองไม่เติบโตเพราะการบาดเจ็บ แต่เป็นอัจฉริยะด้านวิทยายุทธ ออกเดินทางท่องเที่ยวจนได้พบกับคุณชายแคว้นต้าเหลียงสามคนคือ เซียวจิ่งรุ่ย เซี่ยปี้ และ เหยียนอวี้จิน โดยเหมยฉางซูได้พบพวกเซียวจิ่งรุ่ยที่ช่วยชาวบ้านร้องเรียนว่าญาติของ ชิ่งกั๋วกง ทำร้ายชาวบ้าน จนรับเชิญไปพักผ่อนที่ราชานครจินหลิง เมื่อเข้าเมืองหลวงเหมยฉางซูก็ใช้ชื่อ ซูเจ๋อ
เซียวจิ่งรุ่ยและเซี่ยปี้เป็นบุตรชายของหนิงกั๋วโหว เซี่ยอวี้ และองค์หญิง ลี่หยาง ขนิษฐาของฮ่องเต้ปัจจุบัน เซียวจิ่งรุ่ยที่เป็นคุณชายใหญ่มีความสับสนของชาติกำเนิดจากอุบัติเหตุห้องถล่มตอนแม่คลอดพร้อมกับภรรยาเจ้าบ้านใหญ่ของหมู่บ้านน้ำพุสวรรค์ จั๋วติ่งเฟิง หลังเด็กทารกคนหนึ่งตาย จักรพรรดิเลยให้เป็นลูกของทั้งสองครอบครัวและให้ใช้แซ่ของราชวงศ์ เซียวจิ่งรุ่ยมีฐานะเป็นคุณชายรองของหมู่บ้านน้ำพุสวรรค์ด้วย มีความเป็นชาวยุทธ์ที่เปิดเผย แต่เนื่องจากชาติกำเนิดคลุมเครือ เซี่ยปี้จึงเป็นทายาทหนิงกั๋วโหว นอกจากนี้ลูกคนอื่นของหนิงกั๋วโหวและจั๋วติ่งเฟิงยังแต่งงานหรือจะแต่งกันด้วย พูดง่ายๆ คือสองครอบครัวนี้สนิทสนมกันมากที่สุด
เหยียนอวี้จิน เป็นนายน้อยคนเดียวของเหยียนโหว เหยียนเชวีย แห่งจวนกั๋วจิ้วผู้เป็นบุตรของไท่ซือและพี่ชายของหวงโฮ่ว เมื่อสามสิบปีก่อนเหยียนเชวียเป็นนักการฑูตหนุ่มผู้โดดเด่นในทำลายพันธมิตรแคว้นต้าอวี๋ เป่ยเอี้ยน และซีโม่ ที่มารุกรานต้าเหลียง แต่ในปัจจุบันไม่สนใจราชการ มุ่งสู่การฝึกตนของนักพรต พูดได้ว่าไม่ถามไถ่เรื่องอื่นใดอีก
เรื่องสำคัญในเมืองหลวงคือคณะทูตแคว้นต้าอวี๋และเป่ยเอี้ยนมาขอสมรส หนีหวงจวิ้นจู่ ที่อายุยี่สิบเจ็ดแล้วแต่ยังไม่สมรส สิบปีก่อนอวิ๋นหนานหวัง มู่เซิน ผู้เป็นพ่อพลีชีพกลางสนามรบ บุตรชาย มู่ชิง ยังเล็ก ทำให้พี่สาวคุมกำลังออกรบ สร้างผลงานสยบแคว้นฉู่ที่ด่านชิงหมิง เป็นแม่ทัพบัญชาการป้องกันชายแดนใต้ที่อวิ๋นหนาน จนเมื่อไม่กี่เดินก่อนมู่ชิงเพิ่งรับตำแหน่งแทน จักรพรรดิจึงจัดแข่งเลือกคู่ครองโดยเปิดให้ชาวต้าเหลียงเข้าร่วมด้วย มีการประลองวิทยายุทธเลือกสิบคน แล้วคัดต่อด้วยอักษร ให้ผู้เข้ารอบสุดท้ายมาประลองกับหนีหวงที่เป็นยอดฝีมือลำดับสิบอีกที ทำให้เป็นเรื่องที่ครึกครื้นมาก
ในราชสำนักเรื่องการแย่งชิงบัลลังก์ก็ยิ่งร้อนแรง รัชทายาท เซียวจิ่งเซวียน มี เยว่กุ้ยเฟย เป็นมารดา ในขณะที่อวี้หวัง เซียวจิ่งหวน ก็ถูกเลี้ยงดูมาโดย เหยียนหวงโฮ่ว ที่ไม่มีบุตร ทั้งคู่แก่งแย่งกันต่อหน้าลับหลังอย่างรุนแรง กวาดต้อนขุนนางแบ่งพรรคแบ่งพวก ที่มีการวางเดิมพันหรือประกันภัยหลายฝ่าย (เช่นเซี่ยปี้อยู่ฝ่ายอวี้หวัง ส่วนเซี่ยอวี้ภายนอกเป็นกลาง เบื้องหลังอยู่ฝ่ายรัชทายาท) ส่วนองค์ชายอื่นก็ไม่สามารถหรือมีกำลังเพียงพอ องค์ชายสามโอรสของฮุ่ยเฟยก็พิการ องค์ชายห้า ฮว๋ายหวัง ขี้ขลาด องค์ชายเก้าอายุเยาว์
เนื่องจากมีคำกล่าว บุรุษเหมยบูรพานที อัจฉริยะฉีหลิน คนใดได้ใจคนนั้นได้แผ่นดิน (จขบ. ว่า เอิ่ม...มากไปมั๊ง) รัชทายาทและอวี้หวังเลยเสนอหน้าออกมาพยายามซื้อใจให้เหมยฉางซูเป็นกุนซือ แต่เหมยฉางซูกลับแอบหลอกล่อทั้งคู่ ดูเหมือนจะเข้ากับฝ่ายอวี้หวัง แต่ความจริงแอบเสนอตัวให้องค์ชายเจ็ด จิ้งหวัง เซียวจิ่งเหยียน ที่มารดา จิ้งผิน มีศักดิ์ต่ำต้อย จิ้งหวังเป็นคนตรง มีผลงานทางทหารบ้างแต่ไม่เป็นที่โปรดปรานจนถือได้ว่าไร้โอกาส จากคำพูดของเหมยฉางซู จิ้งหวังก็ตัดสินใจเข้าแก่งแย่งได้เด็ดขาด
ที่เหมยฉางซูเข้าแย่งชิงด้วยเพราะเรื่องเมื่อสิบสองปีก่อน ชื่อจริงคือ หลินซูห์ บุตรโทนแม่ทัพใหญ่กองทัพอัคคีแดง หลินเซี่ย และองค์หญิง จิ้นหยาง ศิษย์เอกของปราชญ์ หลีฉง หลินซูห์ออกรบตั้งแต่อายุสิบสามจนเป็นแม่ทัพค่ายวิหกแดง และเคยเป็นคู่หมั้นของหนีหวงจวิ้นจู่ อาของหลินซูห์คือเฉินเฟย หลินเยวี่ยเหยา มารดาขององค์ชายใหญ่ฉีหวัง เซียวจิ่งอวี่
องค์หญิง เสวียนจี เผ่าฮว๋าที่ถูกกองทัพอัคคีแดงทำลายล้างหาทางแก้แค้น ฉีหวังรับโทษประหาร เฉินเฟยฆ่าตัวตาย หลินเซี่ยถูกสงสัยจึงต้องตาย องค์หญิงจิ้นหยางฆ่าตัวตาย ที่รอดคือหลินซูห์ก็บาดเจ็บสาหัสและถูกพิษไฟเย็น การรักษาแบบถอนรากถอนโคนต้องลอกหนังบดกระดูก เอาอายุและสุขภาพไปแลกกับรูปร่างและเส้นเสียงแบบคนปกติ หลินซูห์จึงปลอมตัวสร้างฐานะใหม่พร้อมคนสนิทบางคน ส่วนอวิ๋นหนานหวังถูกสงสัย ไม่ได้รับกำลังหนุนจึงเสียชีวิต หลีฉงผู้เป็นพระอาจารย์ฉีหวังถูกปลดให้ออกนอกเมืองหลวงและตรอมใจตาย
ก่อนเหมยฉางซูเข้าเมืองหลวงก็ได้ติดต่อสมุหราชองครักษ์ เหมิงจื้อ ยอดฝีมืออันดับหนึ่งต้าเหลียง ขุนพลชั้นหนึ่งผู้บัญชาการราชองครักษ์ห้าหมื่น มีความจงรักภักดีต่อฮ่องเต้มากแต่ก็เคยอยู่กองทัพอัคคีแดง ผู้ที่จำหลินซูห์ได้มีท่านทวด พระอัยยิกาไท่หวงไท่โฮ่วที่หลงๆ ลืมๆ ภายหลังยังมีหนีหวงจวิ้นจู่ และจิ้งผินที่เป็นหมอหญิงและถูกตระกูลหลินส่งเข้าวังเพื่อดูแลเฉินเฟย
หลินซูห์เคยสนิทสนมกับฉีหวังและจิ้งหวังอย่างมาก ต้องการล้างมลทินให้ผู้เสียชีวิตไปแล้ว เห็นความสามารถและความเที่ยงธรรมของจิ้งหวังที่ไม่เปลี่ยนแปลง พยายามคุ้มครองเด็กน้อย ถิงเซิง บุตรของฉีหวังที่เกิดในเรือนขังไพร่โดยการซุกซ่อนของเหล่าชายาที่ยอมสละชีวิต แต่สำหรับตัวหลินซูห์เอง คนที่หลุดขึ้นมาจากนรกอเวจีล้วนเปลี่ยนเป็นปีศาจร้ายทั้งนั้น ไม่เพียงเขาจดจำไม่ได้ แม้แต่ตัวข้ายังจำตัวเองไม่ได้เลย
คำแนะนำของเหมยฉางซูที่ให้ต่อเหล่าองค์ชายทำให้องค์ชายใหญ่ตกต่ำ อวี้หวังเหมือนสร้างผลงานมากหลาย ภาวะคุกคามมากจนเซียวจิ่งรุ่ยยังสามารถมีวาทะ เวลานี้ขุนนางในพระราชสำนัก ถ้าสัตย์ซื่อจริงใจก็ถูกเหน็บว่าอ่อนต่อโลก ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมก็ถูกมองว่าไร้เดียงสา สภาพแวดล้อมเป็นเช่นนี้ ผู้ใดสามารถยืนหยัดได้ เหมยฉางซูใช้โครงกระดูกในตู้ของขุนนางผู้สนับสนุนสององค์ชายเป็นจุดเริ่มต้นในการกำจัดฐานกำลังของรัชทายาทและอวี้หวังจนอำนาจในหกกรมกลวงโหว่ ซึ่งรวมถึงเซี่ยอวี้ที่เป็นตัวการสำคัญในการให้ร้ายฉีหวังด้วย เหมยฉางซูยังเสนอแนวทางการสร้างอำนาจบารมีของจิ้งหวังอย่างงำประกาย ส่งเสริมขุนนางมือสะอาดเข้ารับตำแหน่งในฐานะขุนนางไร้ฝ่าย
จนกระทั่งจิ้งผินได้เลื่อนขั้นเป็นเฟยและกุ้ยเฟย จิ้งหวังเลื่อนจากจวิ้นหวังเป็นชินหวัง อุปสรรคที่ต้องฝ่านอกจากรัชทายาทและอวี้หวัง ก็ยังมีทายาทเผ่าฮว๋าและ เซี่ยเจียง หัวหน้าหน่วยส่องอธรรมที่ขึ้นตรงกับฮ่องเต้และเป็นผู้สอบสวนเหตุการณ์คราวฉีหวัง สุดท้ายยังมีแคว้นรอบทิศ ทั้งต้าอวี๋ ตงไห่ เป่ยเอี้ยน และเยี่ยฉิน ที่อาศัยช่วงต้าเหลียงอ่อนแอเข้ารุกราน ...
ในสายตาคนทั้งหล้า อยู่หรือตายเป็นเรื่องใหญ่เทียมฟ้า แต่ในสายตาของสวรรค์ โลกหล้ากว้างใหญ่ มหันตภัยไร้ขอบเขต ความยุติธรรมของมวลมนุษย์มิได้ตัดสินที่ความสั้นยาวของชีวิต ดังคำว่ามีได้ย่อมมีเสีย คนที่รอดมาได้ผู้นั้นแม้ได้รับชีวิตใหม่ แต่สิ่งที่เขาสูญเสียไปไยมิใช่เป็นของสำคัญยิ่งกว่าชีวิต
เรื่องนี้ก็เกี่ยวกับการหักเหลี่ยมชิงดีในราชสำนักสไตล์พระเอกเทพที่สนุกดีนะคะ มีกำลังภายในอยู่บ้างแต่ไม่มากนัก ค่อนข้างโอเคมากสำหรับแนวทางการทำงานส่วนใหญ่ที่ไม่ทำให้ผู้บริสุทธิ์โดนหางเลขเข้าไปมากนัก โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงบริบทของสังคม เสียอยู่นิดที่การวางแผนตอนนี้ยังดูสั้นเป็นเรื่องๆ ไปหน่อย ฝ่ายตรงข้ามสะดุดความผิดของตัวเองไม่น้อย (ถึงเหมยฉางซูจะเป็นคนขุดขึ้นมาก็ตาม) ทำให้ไม่ประทับใจเหมือนโดนตีแสกหน้าน็อคเอ้าท์ลงไปกองกับที่ แต่ยังไงก็โหดใช้ได้
ในภาพรวมเน้นความสัมพันธ์ของลูกผู้ชาย ความรักนับว่าโบ๋เบ๋ ขนาดหนีหวงยังไปรักคนอื่น คนที่เฝ้าตามเหมยฉางซูมีเพียงนักดนตรีและสายลับ กงอวี่ ก็โดนฝ่ายชายปฏิเสธไร้เยื่อไย คู่ของเซี่ยวจิ่งเหยียนคือหลานสาวเจ้ากระทรวงอาลักษณ์และหัวหน้าขุนนางฝ่ายบุ๋นที่ถูกกำหนดตัวเพื่อสร้างฐานอำนาจ ที่พลัดพรากแล้วสมหวังอย่างมีอุปสรรคก็มีแค่ขุนพล เนี่ยเฟิง กับทูตส่องอธรรม เซี่ยตง
ตัวละครที่ จขบ. รู้สึกว่าขโมยซีนมากมีสองคน คือ ลิ่นเฉิน คุณชายเจ้าสำราญของหลางหยาผู้มีวิชาแพทย์สูงส่ง และ เกาจั้น หัวหน้าขันทีสูงสุดของวังหลวงที่มองเหตุการณ์ขาด เมื่อเห็นพระโอรสกับถิงเซิงที่ถูกเซี่ยวจิ่งเหยียนรับเป็นบุตรบุญธรรมก็มีคำพูดตอบคำแม่นม ฟ้าเริ่มจะมืดค่ำ เกากงกง ท่านรู้สึกหรือไม่...สายลมเริ่มโชยมาแล้ว ว่า ไม่ ไม่ใช่เริ่มโชยมา แต่ภายในกำแพงพระราชวังแห่งนี้...สายลมไม่เคยหยุดโบกโบยมาก่อน
การแปลในภาพรวมก็โอเค อ่านได้เรื่อยๆ แต่ก็มีแปลกๆ บ้างอย่าง อวี้หวังคือคำเรียกราชโอรสซี่งมีพระยศชั้นอวี้ (น่าเป็นหวังที่มีราชทินนามอวี้) พิธีสมโภชวัยหนุ่มสาว วาระไว้อาลัยแห่งชาติ หรือเซี่ยตงที่เป็นผู้หญิงใช้คำลงท้ายพ่ะย่ะค่ะ และ จขบ. รู้สึกว่าถ้าทับศัพท์ตำแหน่งหรือคำเรียกเพิ่มน่าจะได้อารมณ์มากกว่านี้ อย่างนักวางแผนนี่ไม่ค่อยอินเท่ากุนซือ และมีสะกดคำผิดตามปกติ -_-
สุดท้ายคือมีทำเป็นซีรีส์ 'Nirvana in Fire' หรือ 'หลางหยาป่าง' ในปี 2015 มี 54 ตอนจบ ออกฉายที่ช่องสามในชื่อ 'มหาบุรุษพลิกแผ่นดิน' นำแสดงโดย หูเกอ จางเจ๋อฮั่น หลิวเทา หวังข่าย อู๋เหล่ย โดยในนิยายมีคำนิยมของผู้กำกับโหวหงเลี่ยง และพระเอกด้วย ที่ จขบ. ดูแล้วรู้สึกสนุกมาก ภาพและเสียงสวยมาก เรื่องที่วกไปวนมาช่วงแรกและที่ดูหลุดๆ ในนิยายก็หายไปเยอะ ทำให้ดูสนุกกว่าอ่าน แต่พระเอกดูจะสุขภาพดีหล่อเหลาไปหน่อยนะ ^_^
ในนิยายเป็นยุคในจินตนาการที่เหมือนจะอิงชื่อกับราชวงศ์เหลียง (ค.ศ. 502–587) ในซีรีส์จัดให้อยู่สมัยราชวงศ์เหลียงโดยไม่สามารถกำหนดช่วงเวลาได้แน่นอน และจากความฮิตเลยมีซีรีส์ภาค 2 ในปี 2018 ด้วยค่ะ แต่สนุกสู้ภาคแรกไม่ได้
ที่มา
[1] ไห่เยี่ยน (ลี หลินลี่ แปล). บุรุษบูรพา ทำเนียบหลางหยา. 5 เล่มจบ, สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 352 + 344 + 344 + 336 + 320 หน้า, 2558-2559.
รายการนิยายจีนแปลไทย, ไทม์ไลน์หนังสืออิงประวัติศาสตร์/ย้อนยุค จีน
โดย ไห่เยี่ยน (Hai Yan) แปลโดย ลี หลินลี่
ทำเนียบหลางหยาเป็นองค์กรที่ขายข้อมูล แต่ทุกปีจะจัดสิบอันดับใต้หล้าของยอดฝีมือ พรรคใหญ่ มหาเศรษฐี คุณชาย และยอดหญิงงาม ซึ่งในห้าปีหลังนี้ อันดับหนึ่งของพรรคใหญ่คือพรรคบูรพานที คุณชายอันดับหนึ่งคือประมุขสูงสุดพรรคบูรพานที เหมยฉางซู ฉายาบุรุษเหมยลุ่มน้ำบูรพา เมื่อสิบสองปีก่อนสร้างชื่อจากการเจรจาช่วยคนกับประมุขพรรคมังกรผงาดที่เป็นใหญ่ทางเหนือ
เหมยฉางซูตอนนี้อายุ 29 ปี ไม่มีวิทยายุทธและสุขภาพไม่ดี หมอเทวดาผู้เฒ่า สวินเจิน ที่รักษาสั่งให้พัก เหมยฉางซูจึงพา เฟยหลิว เด็กหนุ่มที่มีปัญหาสมองไม่เติบโตเพราะการบาดเจ็บ แต่เป็นอัจฉริยะด้านวิทยายุทธ ออกเดินทางท่องเที่ยวจนได้พบกับคุณชายแคว้นต้าเหลียงสามคนคือ เซียวจิ่งรุ่ย เซี่ยปี้ และ เหยียนอวี้จิน โดยเหมยฉางซูได้พบพวกเซียวจิ่งรุ่ยที่ช่วยชาวบ้านร้องเรียนว่าญาติของ ชิ่งกั๋วกง ทำร้ายชาวบ้าน จนรับเชิญไปพักผ่อนที่ราชานครจินหลิง เมื่อเข้าเมืองหลวงเหมยฉางซูก็ใช้ชื่อ ซูเจ๋อ
เซียวจิ่งรุ่ยและเซี่ยปี้เป็นบุตรชายของหนิงกั๋วโหว เซี่ยอวี้ และองค์หญิง ลี่หยาง ขนิษฐาของฮ่องเต้ปัจจุบัน เซียวจิ่งรุ่ยที่เป็นคุณชายใหญ่มีความสับสนของชาติกำเนิดจากอุบัติเหตุห้องถล่มตอนแม่คลอดพร้อมกับภรรยาเจ้าบ้านใหญ่ของหมู่บ้านน้ำพุสวรรค์ จั๋วติ่งเฟิง หลังเด็กทารกคนหนึ่งตาย จักรพรรดิเลยให้เป็นลูกของทั้งสองครอบครัวและให้ใช้แซ่ของราชวงศ์ เซียวจิ่งรุ่ยมีฐานะเป็นคุณชายรองของหมู่บ้านน้ำพุสวรรค์ด้วย มีความเป็นชาวยุทธ์ที่เปิดเผย แต่เนื่องจากชาติกำเนิดคลุมเครือ เซี่ยปี้จึงเป็นทายาทหนิงกั๋วโหว นอกจากนี้ลูกคนอื่นของหนิงกั๋วโหวและจั๋วติ่งเฟิงยังแต่งงานหรือจะแต่งกันด้วย พูดง่ายๆ คือสองครอบครัวนี้สนิทสนมกันมากที่สุด
เหยียนอวี้จิน เป็นนายน้อยคนเดียวของเหยียนโหว เหยียนเชวีย แห่งจวนกั๋วจิ้วผู้เป็นบุตรของไท่ซือและพี่ชายของหวงโฮ่ว เมื่อสามสิบปีก่อนเหยียนเชวียเป็นนักการฑูตหนุ่มผู้โดดเด่นในทำลายพันธมิตรแคว้นต้าอวี๋ เป่ยเอี้ยน และซีโม่ ที่มารุกรานต้าเหลียง แต่ในปัจจุบันไม่สนใจราชการ มุ่งสู่การฝึกตนของนักพรต พูดได้ว่าไม่ถามไถ่เรื่องอื่นใดอีก
เรื่องสำคัญในเมืองหลวงคือคณะทูตแคว้นต้าอวี๋และเป่ยเอี้ยนมาขอสมรส หนีหวงจวิ้นจู่ ที่อายุยี่สิบเจ็ดแล้วแต่ยังไม่สมรส สิบปีก่อนอวิ๋นหนานหวัง มู่เซิน ผู้เป็นพ่อพลีชีพกลางสนามรบ บุตรชาย มู่ชิง ยังเล็ก ทำให้พี่สาวคุมกำลังออกรบ สร้างผลงานสยบแคว้นฉู่ที่ด่านชิงหมิง เป็นแม่ทัพบัญชาการป้องกันชายแดนใต้ที่อวิ๋นหนาน จนเมื่อไม่กี่เดินก่อนมู่ชิงเพิ่งรับตำแหน่งแทน จักรพรรดิจึงจัดแข่งเลือกคู่ครองโดยเปิดให้ชาวต้าเหลียงเข้าร่วมด้วย มีการประลองวิทยายุทธเลือกสิบคน แล้วคัดต่อด้วยอักษร ให้ผู้เข้ารอบสุดท้ายมาประลองกับหนีหวงที่เป็นยอดฝีมือลำดับสิบอีกที ทำให้เป็นเรื่องที่ครึกครื้นมาก
ในราชสำนักเรื่องการแย่งชิงบัลลังก์ก็ยิ่งร้อนแรง รัชทายาท เซียวจิ่งเซวียน มี เยว่กุ้ยเฟย เป็นมารดา ในขณะที่อวี้หวัง เซียวจิ่งหวน ก็ถูกเลี้ยงดูมาโดย เหยียนหวงโฮ่ว ที่ไม่มีบุตร ทั้งคู่แก่งแย่งกันต่อหน้าลับหลังอย่างรุนแรง กวาดต้อนขุนนางแบ่งพรรคแบ่งพวก ที่มีการวางเดิมพันหรือประกันภัยหลายฝ่าย (เช่นเซี่ยปี้อยู่ฝ่ายอวี้หวัง ส่วนเซี่ยอวี้ภายนอกเป็นกลาง เบื้องหลังอยู่ฝ่ายรัชทายาท) ส่วนองค์ชายอื่นก็ไม่สามารถหรือมีกำลังเพียงพอ องค์ชายสามโอรสของฮุ่ยเฟยก็พิการ องค์ชายห้า ฮว๋ายหวัง ขี้ขลาด องค์ชายเก้าอายุเยาว์
เนื่องจากมีคำกล่าว บุรุษเหมยบูรพานที อัจฉริยะฉีหลิน คนใดได้ใจคนนั้นได้แผ่นดิน (จขบ. ว่า เอิ่ม...มากไปมั๊ง) รัชทายาทและอวี้หวังเลยเสนอหน้าออกมาพยายามซื้อใจให้เหมยฉางซูเป็นกุนซือ แต่เหมยฉางซูกลับแอบหลอกล่อทั้งคู่ ดูเหมือนจะเข้ากับฝ่ายอวี้หวัง แต่ความจริงแอบเสนอตัวให้องค์ชายเจ็ด จิ้งหวัง เซียวจิ่งเหยียน ที่มารดา จิ้งผิน มีศักดิ์ต่ำต้อย จิ้งหวังเป็นคนตรง มีผลงานทางทหารบ้างแต่ไม่เป็นที่โปรดปรานจนถือได้ว่าไร้โอกาส จากคำพูดของเหมยฉางซู จิ้งหวังก็ตัดสินใจเข้าแก่งแย่งได้เด็ดขาด
ที่เหมยฉางซูเข้าแย่งชิงด้วยเพราะเรื่องเมื่อสิบสองปีก่อน ชื่อจริงคือ หลินซูห์ บุตรโทนแม่ทัพใหญ่กองทัพอัคคีแดง หลินเซี่ย และองค์หญิง จิ้นหยาง ศิษย์เอกของปราชญ์ หลีฉง หลินซูห์ออกรบตั้งแต่อายุสิบสามจนเป็นแม่ทัพค่ายวิหกแดง และเคยเป็นคู่หมั้นของหนีหวงจวิ้นจู่ อาของหลินซูห์คือเฉินเฟย หลินเยวี่ยเหยา มารดาขององค์ชายใหญ่ฉีหวัง เซียวจิ่งอวี่
องค์หญิง เสวียนจี เผ่าฮว๋าที่ถูกกองทัพอัคคีแดงทำลายล้างหาทางแก้แค้น ฉีหวังรับโทษประหาร เฉินเฟยฆ่าตัวตาย หลินเซี่ยถูกสงสัยจึงต้องตาย องค์หญิงจิ้นหยางฆ่าตัวตาย ที่รอดคือหลินซูห์ก็บาดเจ็บสาหัสและถูกพิษไฟเย็น การรักษาแบบถอนรากถอนโคนต้องลอกหนังบดกระดูก เอาอายุและสุขภาพไปแลกกับรูปร่างและเส้นเสียงแบบคนปกติ หลินซูห์จึงปลอมตัวสร้างฐานะใหม่พร้อมคนสนิทบางคน ส่วนอวิ๋นหนานหวังถูกสงสัย ไม่ได้รับกำลังหนุนจึงเสียชีวิต หลีฉงผู้เป็นพระอาจารย์ฉีหวังถูกปลดให้ออกนอกเมืองหลวงและตรอมใจตาย
ก่อนเหมยฉางซูเข้าเมืองหลวงก็ได้ติดต่อสมุหราชองครักษ์ เหมิงจื้อ ยอดฝีมืออันดับหนึ่งต้าเหลียง ขุนพลชั้นหนึ่งผู้บัญชาการราชองครักษ์ห้าหมื่น มีความจงรักภักดีต่อฮ่องเต้มากแต่ก็เคยอยู่กองทัพอัคคีแดง ผู้ที่จำหลินซูห์ได้มีท่านทวด พระอัยยิกาไท่หวงไท่โฮ่วที่หลงๆ ลืมๆ ภายหลังยังมีหนีหวงจวิ้นจู่ และจิ้งผินที่เป็นหมอหญิงและถูกตระกูลหลินส่งเข้าวังเพื่อดูแลเฉินเฟย
หลินซูห์เคยสนิทสนมกับฉีหวังและจิ้งหวังอย่างมาก ต้องการล้างมลทินให้ผู้เสียชีวิตไปแล้ว เห็นความสามารถและความเที่ยงธรรมของจิ้งหวังที่ไม่เปลี่ยนแปลง พยายามคุ้มครองเด็กน้อย ถิงเซิง บุตรของฉีหวังที่เกิดในเรือนขังไพร่โดยการซุกซ่อนของเหล่าชายาที่ยอมสละชีวิต แต่สำหรับตัวหลินซูห์เอง คนที่หลุดขึ้นมาจากนรกอเวจีล้วนเปลี่ยนเป็นปีศาจร้ายทั้งนั้น ไม่เพียงเขาจดจำไม่ได้ แม้แต่ตัวข้ายังจำตัวเองไม่ได้เลย
คำแนะนำของเหมยฉางซูที่ให้ต่อเหล่าองค์ชายทำให้องค์ชายใหญ่ตกต่ำ อวี้หวังเหมือนสร้างผลงานมากหลาย ภาวะคุกคามมากจนเซียวจิ่งรุ่ยยังสามารถมีวาทะ เวลานี้ขุนนางในพระราชสำนัก ถ้าสัตย์ซื่อจริงใจก็ถูกเหน็บว่าอ่อนต่อโลก ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมก็ถูกมองว่าไร้เดียงสา สภาพแวดล้อมเป็นเช่นนี้ ผู้ใดสามารถยืนหยัดได้ เหมยฉางซูใช้โครงกระดูกในตู้ของขุนนางผู้สนับสนุนสององค์ชายเป็นจุดเริ่มต้นในการกำจัดฐานกำลังของรัชทายาทและอวี้หวังจนอำนาจในหกกรมกลวงโหว่ ซึ่งรวมถึงเซี่ยอวี้ที่เป็นตัวการสำคัญในการให้ร้ายฉีหวังด้วย เหมยฉางซูยังเสนอแนวทางการสร้างอำนาจบารมีของจิ้งหวังอย่างงำประกาย ส่งเสริมขุนนางมือสะอาดเข้ารับตำแหน่งในฐานะขุนนางไร้ฝ่าย
จนกระทั่งจิ้งผินได้เลื่อนขั้นเป็นเฟยและกุ้ยเฟย จิ้งหวังเลื่อนจากจวิ้นหวังเป็นชินหวัง อุปสรรคที่ต้องฝ่านอกจากรัชทายาทและอวี้หวัง ก็ยังมีทายาทเผ่าฮว๋าและ เซี่ยเจียง หัวหน้าหน่วยส่องอธรรมที่ขึ้นตรงกับฮ่องเต้และเป็นผู้สอบสวนเหตุการณ์คราวฉีหวัง สุดท้ายยังมีแคว้นรอบทิศ ทั้งต้าอวี๋ ตงไห่ เป่ยเอี้ยน และเยี่ยฉิน ที่อาศัยช่วงต้าเหลียงอ่อนแอเข้ารุกราน ...
ในสายตาคนทั้งหล้า อยู่หรือตายเป็นเรื่องใหญ่เทียมฟ้า แต่ในสายตาของสวรรค์ โลกหล้ากว้างใหญ่ มหันตภัยไร้ขอบเขต ความยุติธรรมของมวลมนุษย์มิได้ตัดสินที่ความสั้นยาวของชีวิต ดังคำว่ามีได้ย่อมมีเสีย คนที่รอดมาได้ผู้นั้นแม้ได้รับชีวิตใหม่ แต่สิ่งที่เขาสูญเสียไปไยมิใช่เป็นของสำคัญยิ่งกว่าชีวิต
เรื่องนี้ก็เกี่ยวกับการหักเหลี่ยมชิงดีในราชสำนักสไตล์พระเอกเทพที่สนุกดีนะคะ มีกำลังภายในอยู่บ้างแต่ไม่มากนัก ค่อนข้างโอเคมากสำหรับแนวทางการทำงานส่วนใหญ่ที่ไม่ทำให้ผู้บริสุทธิ์โดนหางเลขเข้าไปมากนัก โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงบริบทของสังคม เสียอยู่นิดที่การวางแผนตอนนี้ยังดูสั้นเป็นเรื่องๆ ไปหน่อย ฝ่ายตรงข้ามสะดุดความผิดของตัวเองไม่น้อย (ถึงเหมยฉางซูจะเป็นคนขุดขึ้นมาก็ตาม) ทำให้ไม่ประทับใจเหมือนโดนตีแสกหน้าน็อคเอ้าท์ลงไปกองกับที่ แต่ยังไงก็โหดใช้ได้
ในภาพรวมเน้นความสัมพันธ์ของลูกผู้ชาย ความรักนับว่าโบ๋เบ๋ ขนาดหนีหวงยังไปรักคนอื่น คนที่เฝ้าตามเหมยฉางซูมีเพียงนักดนตรีและสายลับ กงอวี่ ก็โดนฝ่ายชายปฏิเสธไร้เยื่อไย คู่ของเซี่ยวจิ่งเหยียนคือหลานสาวเจ้ากระทรวงอาลักษณ์และหัวหน้าขุนนางฝ่ายบุ๋นที่ถูกกำหนดตัวเพื่อสร้างฐานอำนาจ ที่พลัดพรากแล้วสมหวังอย่างมีอุปสรรคก็มีแค่ขุนพล เนี่ยเฟิง กับทูตส่องอธรรม เซี่ยตง
ตัวละครที่ จขบ. รู้สึกว่าขโมยซีนมากมีสองคน คือ ลิ่นเฉิน คุณชายเจ้าสำราญของหลางหยาผู้มีวิชาแพทย์สูงส่ง และ เกาจั้น หัวหน้าขันทีสูงสุดของวังหลวงที่มองเหตุการณ์ขาด เมื่อเห็นพระโอรสกับถิงเซิงที่ถูกเซี่ยวจิ่งเหยียนรับเป็นบุตรบุญธรรมก็มีคำพูดตอบคำแม่นม ฟ้าเริ่มจะมืดค่ำ เกากงกง ท่านรู้สึกหรือไม่...สายลมเริ่มโชยมาแล้ว ว่า ไม่ ไม่ใช่เริ่มโชยมา แต่ภายในกำแพงพระราชวังแห่งนี้...สายลมไม่เคยหยุดโบกโบยมาก่อน
การแปลในภาพรวมก็โอเค อ่านได้เรื่อยๆ แต่ก็มีแปลกๆ บ้างอย่าง อวี้หวังคือคำเรียกราชโอรสซี่งมีพระยศชั้นอวี้ (น่าเป็นหวังที่มีราชทินนามอวี้) พิธีสมโภชวัยหนุ่มสาว วาระไว้อาลัยแห่งชาติ หรือเซี่ยตงที่เป็นผู้หญิงใช้คำลงท้ายพ่ะย่ะค่ะ และ จขบ. รู้สึกว่าถ้าทับศัพท์ตำแหน่งหรือคำเรียกเพิ่มน่าจะได้อารมณ์มากกว่านี้ อย่างนักวางแผนนี่ไม่ค่อยอินเท่ากุนซือ และมีสะกดคำผิดตามปกติ -_-
สุดท้ายคือมีทำเป็นซีรีส์ 'Nirvana in Fire' หรือ 'หลางหยาป่าง' ในปี 2015 มี 54 ตอนจบ ออกฉายที่ช่องสามในชื่อ 'มหาบุรุษพลิกแผ่นดิน' นำแสดงโดย หูเกอ จางเจ๋อฮั่น หลิวเทา หวังข่าย อู๋เหล่ย โดยในนิยายมีคำนิยมของผู้กำกับโหวหงเลี่ยง และพระเอกด้วย ที่ จขบ. ดูแล้วรู้สึกสนุกมาก ภาพและเสียงสวยมาก เรื่องที่วกไปวนมาช่วงแรกและที่ดูหลุดๆ ในนิยายก็หายไปเยอะ ทำให้ดูสนุกกว่าอ่าน แต่พระเอกดูจะสุขภาพดีหล่อเหลาไปหน่อยนะ ^_^
ในนิยายเป็นยุคในจินตนาการที่เหมือนจะอิงชื่อกับราชวงศ์เหลียง (ค.ศ. 502–587) ในซีรีส์จัดให้อยู่สมัยราชวงศ์เหลียงโดยไม่สามารถกำหนดช่วงเวลาได้แน่นอน และจากความฮิตเลยมีซีรีส์ภาค 2 ในปี 2018 ด้วยค่ะ แต่สนุกสู้ภาคแรกไม่ได้
[16/11/15, 02/12/15, 29/12/15, 20/01/16, 06/06/21, 13/08/22]
ที่มา
[1] ไห่เยี่ยน (ลี หลินลี่ แปล). บุรุษบูรพา ทำเนียบหลางหยา. 5 เล่มจบ, สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 352 + 344 + 344 + 336 + 320 หน้า, 2558-2559.
รายการนิยายจีนแปลไทย, ไทม์ไลน์หนังสืออิงประวัติศาสตร์/ย้อนยุค จีน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น