พยัคฆราชซ่อนเล็บ - เยี่ยกวน

เรื่อง พยัคฆราชซ่อนเล็บ (Jin Yi Ye Xing)
โดย เยี่ยกวน (Yue Guan) เรียบเรียงโดย น.นพรัตน์



เซี่ยสิน เป็นนักเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจที่ปลอมตัวไปเป็นสายในขบวนการค้ายาเสพติด ถึงถูกเทรนอย่างดีแต่อ่อนประสบการณ์ทำให้ปลอมตัวไม่รอดจนจบ ถูกไล่ล่ารถชนกระเด็นกลับไปหกร้อยปี ปลายรัชสมัยหงอู่ของ จูหยวนจาง ปฐมฮ่องเต้ราชวงศ์หมิงในเขตหูโจวที่หมู่บ้านคนชั้นต่ำ ในอดีตชาวบ้านแถบนี้สนับสนุน จางซื่อเฉิง ที่สู้กับจูหยวนจาง ทำให้ทั้งตนเองและทายาทถูกกดขี่ติดดินแบบรุ่นหลังไม่มีความหวังใด อย่างอดีตแม่ทัพ หูจิ่วลิ่ว ที่ช่วยเซี่ยสินก็จงใจไม่มีทายาท ก่อนตายจึงรักและสั่งสอนเซี่ยสินเหมือนลูกทั้งเรื่องวิชาทางน้ำและการรบ เซี่ยสินที่รู้ประวัติศาสตร์อยู่บ้างต้องการหาความก้าวหน้าโดยไปสวามิภักดิ์กับ เอี้ยนอ๋อง จูตี้ ที่ครองเป่ยผิงจะขึ้นครองราชย์เป็นหย่งเล่อฮ่องเต้ แต่ก็ไม่มีโอกาส

ระหว่างนั้นแผ่นดินเรื่องสงบ หงอู่ฮ่องเต้เริ่มถอดเขี้ยวเล็บกรมความมั่นคงแผ่นดิน (จิ่นอีเว่ย) ขุนนางใหญ่ในกรม ผู้ดูแลเรื่องราวตำแหน่งเจี่ยนซื่อ หลอเค่อเต๋อ จึงต้องหาทางสร้างความปั่นป่วน โดยเล็งที่เจ้า ฉีอ๋อง องค์ชายเจ็ดที่ไปกินเมืองชิงโจว ส่งคนสี่คนไปทำงานฝังตัวทีนำโดยเจ้าหน้าที่ชันสูตร ฟ่งซีฮุย โดยใช้เวลาสี่ปีสร้าง หยางซวี จากคุณชายเพลย์บอยตระกูลที่พ่อค้าที่ไม่โดดเด่น (พ่อ หยางติ่งคุน มาจากตระกูลคหบดี แต่มีปัญหากับครอบครัวจึงมาเป็นพ่อค้าซึ่งถือเป็นความเสื่อมเสีย ถูกกลั่นแกล้งจนภรรยาฆ่าตัวตาย จึงออกจากตระกูลไปบุกเบิกทางเองที่ต่างเมือง) ให้ประสบความสำเร็จทางการเงิน สอบบัณฑิตได้ซิ่วไฉ และเข้าไปช่วยดูแลการค้าเป็นฉากหน้าให้ฉีอ๋อง แต่เมื่อหยางซวีใกล้จะพร้อมใช้ในงานบ่อนทำลายฉีอ๋องโดยการยุยงให้ทำผิดกฏหมายอย่างรีดไถค้าของเถื่อน หยางซวีกลับถูกฆ่าที่บ้านพักร้อน แผนการทำท่าจะล้มครีนลง (พร้อมหัวตัวเอง) จนทั้งสี่ได้โอกาสสุดท้ายในตัวของเซี่ยสินที่หน้าเหมือนหยางซวี

เซี่ยสินที่ภายนอกถูกบังคับ ภายในอยากฉวยโอกาส ก็ใช้ความรู้เก่าในการปลอมตัวถึงสองชั้นคือต้องเป็นทั้งคุณชายหยางซวีและเซี่ยสินคนชั้นต่ำที่ไร้การศึกษา ใช้เวลาศึกษาลักษณะนิสัย ฟอกขาวผิว (555) สามารถปลอมตัวเข้ามาที่ตีกตระกูลหยาง ผ่านด่านพ่อบ้านเก่าแก่ เซียวจิ้งถัง และลูกสาว เซียวตี้ ที่สนิทกันแต่เล็กไปได้ แต่เรื่องสำคัญคือเซี่ยสินมองขาดว่าพวกฟ่งซีฮุยปิดบังความจริงและตัวเองเป็นหมากที่จะถูกทิ้ง จึงต้องเริ่มหาทางสลัดแอกและสืบหาคนที่ส่งนักฆ่ามาจัดการหยางซวีตัวจริงเพื่อรักษาชีวิตให้รอดและสร้างความก้าวหน้า
[30/06/14]

เซี่ยสินเริ่มจากการจัดฉากลอบฆ่า ทำให้ฟ่งซีฮุยไปบีบตระกูลเผิงที่ใช้ดาบห้าเสือล้างตระกูลทำการค้าคุ้มกันส่งมือดีมาคุ้มครอง (เผิงฮ่อเสียง ท่านทวดตระกูลนี้เบื้องหลังเป็นคนนิกายบัวขาวและศัตรูที่จูหยวนจางต้องการตัว) แต่ทางตระกูลเผิงกำลังขาดคน เลยต้องให้ลูกสาวฝีมือเยี่ยม เผิงจื่อฉี ปลอมตัวเป็นฝาแฝดชายมารับหน้าที่แทน ซึ่งหยางซวีก็ต้องทำตามคำสั่งบ่อนทำลายฉีอ๋องโดยมีฉากหน้าเป็นการค้า ฉากหลังเป็นการหาเงินอย่างผิดกฏหมาย ทำให้สาวสวยได้เห็นฝีมือจัดการเรื่องราวต่างๆ ของคุณชายที่ถูกตราหน้าว่าเสเพล (ซึ่งน่าสงสัยมากว่าพวกชักหุ่นเชิดไม่คุมเข้ม ความสามารถเกินพิกัดชาวประมงไม่รู้หนังสือสุดกู่) จนถึงแอบรู้ความจริงว่าเป็นตัวปลอมก็ยิ่งยินดีจนตกลงใจอยากแต่งงาน

หงอู่ฮ่องเต้ใกล้สิ้นพระชนม์ พระนัดดา จูยวิ่นเหวิน ตั้งแต่ก่อนขึ้นครองราชย์เป็นเจี้ยนเหวินฮ่องเต้ก็เตรียมลิดรอนอำนาจอ๋องกินเมือง (ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมเรียกพระปิตุลาว่าพระอา ฟังแหม่งค่ะ) เซี่ยสินที่ตอนนี้จัดการพวกฟ่งซีฮุ่ยเรียบร้อยจึงพยายามถ่วงเวลา โยกย้ายรากฐาน และแยกทางกับวังฉีอ๋องโดยลาไปแต่งงานที่เมืองหลวงกับคู่หมั้นชาติตระกูลสูงที่ตกลงกันแต่แบเบาะเพราะหยางติ่งคุนเคยช่วยพ่อของฝ่ายหญิงไว้ งานส่งท้ายคือไปซื้อของเถื่อนให้ฉีอ๋องที่เป่ยผิงกับหมอหัวงู ซีเหมินชิ่ง ทายาทคนของกรมที่ไม่ได้อยากยุ่งแต่ไม่มีทางเลือก

ระหว่างทางได้พบกับสาวนักต้มตุ๋น เซี่ยหวี่เฟย และศิษย์น้อง หนันเฟยเฟย ที่ไปหาพ่อค้าใหญ่ผู้จัดหาของ พอดีทางมองโกลแอบใช้ช่องท่างแทรกซึมเข้าเป่ยผิงมาก่อนการร้าย เซี่ยสินเห็นพิรุธเลยแจ้งทางวังเอี้ยนอ๋องได้ทันเวลา หยางซวียังช่วยชีวิต ฉีหมิงเอ๋อ (เหมียวจิ่นจวินจู่ ธิดาคนสุดท้องของเว่ยกว๋อกง ฉีต๋า และยังป็นน้องสาวของชายาเอี้ยนอ๋อง ฉีเฟย และกว๋อกงคนปัจจุบัน ฉีฮุยจู่) จนได้ถุงหอมให้ถือไปขอความช่วยเหลือโดยไม่รู้ว่าสมัยนั้นเป็นของแทนใจไว้หมั้นหมาย 555
[16/07/14, 27/07/14]


หยางซวีไม่รับคำเชิญของเอี้ยนอ๋องเพราะต้องการหลีกหนีเหตุการณ์ในอนาคตและพาคนโยกย้ายกลับรากฐานเดิมที่เมืองม่อหลิงในเจียงหนัน เกิดเหตุกระทบกระทั่งกับตระกูลหยางที่เคยชินกับการกดหยางติ่งคุน การฟ้องร้องในขั้นแรกทางหยางซวีชนะหลานชายคนโตที่เป็นทายาทและเป็นนักศึกษาไท่เสวียที่ใช้เส้นสายหวงจื่อเฉิน พระอาจารย์ของรัชทายาท นำเรื่องเข้าฟ้องที่นครหลวงอิ่งเทียนฝู่ ทำให้หยางซวีต้องขอความช่วยเหลือจากจวนเว่ยกว๋อกง ได้คุณชายสาม ฉีเจิงโซว่ วิ่งเต้นจนเรื่องบานปลายเป็นการประชุมทางวิชาการที่ครึกโครม 555 (แบบว่ากลอกกลิ้งจนกลมเกลี้ยงกันจริงๆ นะ) เมื่อตระกูลหยางกัดไม่ปล่อย เซี่ยสินก็จัดการแบบถอนรากถอนโคนแบบฉาวโฉ่ด้วยความช่วยเหลือของกรมความมั่นคง ดำเนินการเป็นที่ถูกใจของหลอเค่อเต๋อยิ่งนัก

เมื่อเรื่องเงียบลง หยางซวีที่ตอนนี้ได้สมรักกับเผิงจื่อฉีก็ลงรากปักฐานและตามหาคู่หมั้น เซี่ยลู่ถี ที่ครอบครัวตกต่ำลงจนใช้ชื่อปลอมเซี่ยหวี่เฟยต้มตุ๋นหาเงินมาแอบจุนเจือพี่ชาย เซี่ยลู่ฉาน เมื่อเจอคนที่รู้เบื้องหลังจึงดึงดันถอนหมั้นเพื่อปิดปาก (เซี่ยสินที่มาจากยุคอื่นไม่เห็นเสียหายอะไรหรอก) หยางซวีเลยตั้งเงื่อนไขทิ้งเวลาสามปีและกะจะเปลี่ยนใจเธอให้ได้ ซึ่งคนอ่านก็ดูแล้วไม่น่ายากเกินไป เพราะเซี่ยหวี่เฟยก็คอยช่วยเหลือเวลาปัยหาเข้า อย่างจัดการนักต้มตุ๋น ว่านสงหลิ่ง ให้เสียหลายรอบ

หยางซวีถูกเปิดเผยว่าเป็นนายทหารของกรมความมั่นคงได้รับการแต่งตั้งเป็นราชองครักษ์พกพาดาบหน้าบัลลังก์ขั้นที่สาม อารักษาหงอู่ฮ่องเต้ ฉีหมิงเอ๋อยังแนะนำให้รู้จัก องค์หญิงเป่าชิ่ง ราชธิดาองค์เล็กชันษาสี่ขวบผู้เป็นที่โปรดปรานอย่างมาก การจัดสอบแข่งขันประจำฤดูใบไม้ผลิที่บัณฑิตจากภาคเหนือสอบไม่ติดแม้แต่คนเดียวทำให้เกิดเรื่องไม่พอใจ มีการงัดข้อกับขุนนางเถรตรงที่ทำให้หยางซวีอยู่ในเรดาร์ของหงอู่จากการเสนอให้แยกสอบ

เผิงจื่อฉีถูกพี่ชายลากตัวกลับบ้าน ทำให้หยางซวีต้องหาขอไปช่วยราชการที่ชานตุง ตอนนั้นเกิดเรื่องนิกายบัวขาวก่อกบฏที่มณฑลส่านซี (นิกายนี้มีสาขาต่างๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกัน) หยางซวีได้รับงานติดตามผู้ตรวจการไปดูแลการจับกุมที่จี้หนันฝู่ ซึ่งก็สำเร็จทั้งสาขาท้องถิ่นและผู้นำที่หนีมาจากส่านซี แถมเซี่ยหวี่เฟยยังช่วยวางแผนให้แต่งงานกับเผิงจื่อฉี รวบคู่หมั้นเก่าสำเร็จ และที่น่าสนใจในเล่มหกคือเซี่ยสินได้แสดงฝีมือดาบให้ประจักษ์ ได้หนุ่มสวย หลิวอี๋เจี๋ย มาเป็นลูกน้องที่กรม
[22/08/14, 30/08/14, 22/09/14]

หยางซวีพาภรรยากลับมาอยู่เมืองหลวงได้สบายๆ สักครึ่งปีก็พบปัญหาเมื่อเซี่ยหวี่เฟยกลับมาจากการเคลียร์เรื่องศิษย์น้องก็เจอ หลี่จิ่วเจียง ที่สืบตำแหน่งเฉากว๋อกงรุกหนักหวังแต่ง การปะทะซึ่งหน้าถึงจะทำให้เซี่ยหวี่เฟยซาบซึ้งจัดก็ไม่ดียิ่ง หยางซวีถูกสั่งไปทำงานกวาดล้างโจรสลัดภายใต้หลี่จิ่วเจียงและเจอให้ไปสืบข่าวล่วงหน้า ซึ่งเป็นการผจญภัยที่เฉียดตายหลายครั้ง มีสัมพันธ์วาบหวามกับหัวหน้าสาม ซูอิ่ง แห่งเกาะแก่งคู่ ได้เป็นขุนนางไป่ฮู่สืบชั่วลูกหลานจากความเข้าใจผิด

หงอู่ฮ่องเต้สวรรคต พระนัดดาขึ้นครองราชย์และลงมือจัดการพระอาทันที ออกราชโองการก่อนสวรรคตปลอมไม้ให้เหล่าอ๋องเข้าเมืองหลวง ให้ส่งมอบกำลังทหาร คนแรกที่เจอคือโจวอ๋อง จูโหย่วซวิน ที่ไคฟงผู้เป็นพระอาคนที่ห้าและร่วมมารดากับเอี้ยนอ๋อง ทางกรมความมั่นคงเสนอตัวอยากทำผลงาน หยางซวีเลยเจอให้ไปขุดหรือสร้างความผิดและยังต้องติดตามเฉากว๋อกงไปจับกุม โจวอ๋องโดนปลดเป็นสามัญชนและเนรเทศไปยูนนาน, ฉีอ๋องโดนปลดเนรเทศไปเฟิ่งหยาง และเซียงอ๋องเผาตัวตาย หยางซวีถูกส่งไปจับผิดเอี้ยนอ๋องเลยได้โอกาสใกล้ชิด ติดตามเอี้ยนอ๋องเข้าเมืองหลวง และได้โอกาสย้ายข้างเต็มตัวโดยช่วยให้โอรสเอี้ยนอ๋องทั้งสามที่ถูกกักตัวในเมืองหลวงหนีขึ้นเหนือ

ตั้งแต่เล่มเก้าเป็นสงครามชิงบัลลังก์ ค่อยๆ ขยายกองทัพจากแปดร้อยชิงเมืองเป่ยผิง ใช้ไม่กี่พันบุกถึงด่านจวีหยงกวน เมื่อราชสำนักส่งกองทัพสามสิบหมื่น นำโดยขุนพลเฒ่าฉางซิงโหว กงปิ่งเหวิน เซี่ยสินสามารถช่วยเกลี้ยกล่อมแม่ทัพแนวหลัง ช่วยให้เอี้ยนอ๋องตีหักได้ถึงแม่น้ำฮูทวอ เมื่อราชสำนักส่งหลี่จิ้งหลงคุมกำลังห้าสิบหมื่นขึ้นเหนือ ทางเอี้ยนอ๋องต้องยอมเสี่ยงทิ้งทหารจำนวนน้อยป้องกันเป่ยจิง ตัวเองและโอรสองค์รอง จูเกาซวี จรยุทธด้านนอก ส่งหยางซวีและองครักษ์คนสนิทชาวมองโกว ไซ่ฮาจื้อ (อนาคตผู้บัญชาการกรมความมั่นคงรุ่นที่สี่) ไปไปเกลี้ยกล่อมองค์ชายสิบเจ็ด หนิงอ๋อง จูเฉวียน ที่ครองเมืองต้าหนิง เดิมหนิงอ๋องมีทหารเกราะเหล็กแปดหมื่นแต่โดนริบคืนคืน ถึงสถานการณ์ไม่ดีแต่ยังไม่กล้ากบฏ แม่ทัพสำคัญตอนนี้คือ เฉิงเหิง ซึ่งหยางซวีก็ได้ทหารแปดหมื่นในสภาพดีใช้ได้
[08/10/14, 27/10/14, 17/11/14]


ฉีเฟยและโอรสองค์โต จูเกาเช่อ รักษาเป่ยผิงไว้ได้ถึงเข้าฤดูหนาวจนทัพเอี้ยนอ๋องสามารถตะลุยไล่ให้ถอยไปเขตเต๋อโจวด้วยความเสียหายสิบหมื่นแต่ขุนนางกลัวความผิดเลยปิดเรื่องไว้และยังส่งฉีฮุยจู่พากำลังหนุนยี่สิบหมื่นมาสมทบ ฝ่านเอี้ยนหลังปราบแนวหลังได้ก็ลงใต้ พลาดพลั้งแล้วแต่ชนะเด็ดขาดที่แม่น้ำไป่โกว หลี่จิ้งหลงถอยทัพหมิงเหลือสามสิบหมื่นกลับเมืองหลวงและโดนปลด ทัพเอี้ยนเข้าล้อมเมืองจี้หนันฝู่ถึงสามเดือนก็ไม่แตก (ใครอำมหิตกว่าได้เปรียบ) จึงถอยกลับไปเมืองหวี่เฉิง

หยางซวีได้เป็นหัวหน้าสายสืบมังกรบินที่ทำหน้าที่จารกรรม ลงพื้นที่ปลอมตัวในรูปแบบต่างๆ ส่งข่าวและสร้างโอกาสได้อย่างดียิ่ง แต่ก็ติดในเมืองจี้หนันฝู่แทบเอาตัวไม่รอด ปัญหาคือเซี่ยสินไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นต่อ หย่าหู่และกู่เกอก็ไม่มีให้ใช้ (555) แวะไปเกาะแก่งคู่ พบว่ามีลูกสาวกับซูอิ่งและอีกคนในครรภ์ชื่อ ซือหยาง และ ซือสิน ก่อนจะแทรกซึมเข้าไปเมืองหลวงอิ่งเทียนฝู่ ทำการประสบความสำเร็จอย่างสูง เมื่อต้องถอยออกมาที่เซฟเฮาส์ยังพาฉีหมิงเอ๋อออกมาด้วย ถึงหยางซวีพยายามช่วยฉีเจิงโซว่ไม่สำเร็จ ก็ยังใช้ความจริงเกลี้ยกล่อมแม่ทัพเรือที่คุมกำลังบนแม่น้ำแยงซีเกียงให้แปรพักตร์ ทำให้เอี้ยนอ๋องสามารถตลุยถึงเมืองหลวง เจี้ยนเหวินแบบหลบหนีโดยให้ฮองเฮาและไทจือเผาตัวตาย ส่วนหลอเค่อเต๋อก็มอบขุมกำลังลับของกรมความมั่นคงให้หยางซวีก่อนฆ่าตัวตาย

หย่งเล่อฮ่องเต้ปูนบำเหน็จความชอบขุนนาง ในลำดับสูงสุดคือขุนนางคุณูปการชั้นเจ้าพระยา (กว๋อกง) หกคน ที่มีเรื่องพัวพันคือแม่ทัพใหญ่ ชิวฟุ ที่เป็นฉีกว๋อกง, ฉีเจิงโซว่เป็นติ้งกว๋อกง (ลูกชาย ฉีจิ่งชาง รับตำแหน่งต่อ), เฉิงกว๋อกง จูเหนิง (คนเก่าแก่เอี้ยนอ๋อง) และหยางซวีที่ได้เป็นฝู่กว๋อกง ส่วนทางกรมความมั่นคง คนของหยางซวีก็ได้คุมอำนาจคือ จี้กัง เป็นผู้ดูแลหน่วยเหนือที่สะสางคดีและหลิวอี้เจี๋ยเป็นผู้ดูแลหน่วยใต้ที่ควบคุมหน่วยเหนือ
[03/12/14, 27/12/14]

ทันทีที่เริ่มรัชกาลก็มีการชิงตำแหน่งไทจือระหว่างองค์ชายใหญ่ที่เป็นทายาทอ๋องเดิมและได้ขุนนางบุ๋นหนุนหลัง (รวมทั้งติ้งกว๋อกง) แต่สุขภาพอ่อนแอไม่เป็นที่โปรดปราน กับองค์ชายรองที่เข้มแข็งมีแบ็คขุนนางบู๊ (นำโดยฉีกว๋อกง) และใกล้ชิดหย่งเล่อช่วงสงครามมากกว่า ซึ่งหยางซวีก็พยายามเลี่ยงเต็มที่ไม่เข้ากับฝ่ายไหน ระหว่างนี้ฉีหมิงเอ๋อยังขอให้ฮองเฮาช่วยให้สมรสกับหยางซวี แต่เรื่องฐานะของฝ่ายหญิงและหยางซวีไม่ยอมลดตำแหน่งภรรยาเดิม แถมเซี่ยหวี่เฟยก็ตั้งครรภ์ เรื่องเลยยุติ

เมื่อชิวฟุที่ควบคุมการปราบปราบโจรสลัดวอโค่วล้มเหลว ในฐานะที่ฉีกว๋อกงเป็นฐานกำลังทหารหลักของฝ่ายองค์ชายรอง จูเกาซวีจึงต้องหาแพะรับบาปและเจาะจงตัวฐานที่มั่นเกาะแก่งคู่ ซึ่งหมายถึงต้องจัดการฝู่กว๋อกงที่เป็นแบ็คด้วย เมื่อเกาะแก่งคู่โดยบุกและเหล่าหัวหน้าถูกจับ หยางซวีก็โดนข้อหาถึงขนาดเข้าคุก จากความช่วยเหลือของหลายฝ่ายและการเตรียมพร้อมบวกกับฝ่ายจูเกาซวีที่รีบและต้องการปิดเรื่องจนไม่ปิดประตูทุกบาน หยางซวีสามารถแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเองและพวกสีหู่ (ที่โดนเสียจะตายมิตายแหล่) ระหว่างนี้หยางซวีก็ทำความเข้าใจกับฉีหมิงเอ๋อและตกลงใจกินเด็ก 555

งานนี้ทำให้ฝู่กว๋อกงเข้าเป็นพวกองค์ชายใหญ่เต็มตัว เสนอตัวเป็นแม่ทัพไปกวาดล้างโจรวอโค่ว ขออำนาจการเจรจากับทูตญี่ปุ่นและกำลังจากเกาะแก่งคู่ ทัพเรือทะเลสาบเฉาหู่ของตระกูลอวี้ (ที่กำลังมีการแก่งแย่งตำแหน่งผู้นำตระกูล โดยหยางซวีสนับสนุนฝ่ายองค์หญิง จินฮัว ที่เป็นสายลูกชายคนโต ซึ่งมีลูกเขย หลี่อี้ฟง เป็นแม่ทัพ) และกองเรือฟุโจวที่แม่ทัพเป็นคนของตระกูลฉี และมีขันที เจิ้งเหอ เป็นผู้ควบคุมกองทหาร [แล้วก็จบภาคที่เล่ม 15 เพียงเท่านี้ ซึ่ง จขบ. ว่าไม่เห็นจะมีภาคให้จบเลย]
[27/01/15, 03/02/15]


ฝู่กว๋อกงอาศัยกำลังทหารกวาดล้างโจรวอโค่วโดยใช้ระบบเตือนภัย ลงโทษและปูนบำเน็จที่เห็นผลชัดเจนและจนโจรสลัดถอยกลับญี่ปุ่น จัดการให้ขุนนางถวายรายงานแก่ฮ่องเต้เพื่อสนับสนุนการค้าทางทะเล แล้วลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการแล้วเดินทางไปญี่ปุ่นพร้อมกับเจิ้งเหอเพื่อเจรจากับโชกุน อะชิกะงะ โยะชิมัตสึ โดยตรง อาศัยการแย่งชิงอำนาจภายในจัดการให้หัวหน้าโจรและฐานที่มั่นโดนเก็บกวาดและได้ข้อตกลงเอื้อประโยชน์ระยะยาวต่อต้าหมิง (จขบ. รู้สึกว่าการพูดนอกเรื่องอย่างอิคคิวซัง หรือคำพูด 'เรามาแล้ว เราเห็นแล้ว เราปราบพิชิต' หรือ Veni, vidi, vici ก็น่ารักดี แต่ในแง่อื่นก็ดูละเปะสะปะเหมือนกันนะ)

เมื่อเรื่องเรียบร้อยก็ทำให้หยางซวีสามารถขอสมรสพระราชทานกับฉีหมิงเอ๋อเป็นภรรยาหลวงเจิ้งซื่อฮูหยิน (ส่วนเผิงจื่อฉีและเซี่ยหวี่เฟยเป็นฮูหยินชั้นหนึ่ง) ฉีหมิงเอ๋อเกิดเป็นจวินจู่ในตระกูลกว๋อกงที่มีหนึ่งฮองเฮา สองกว๋อกง พี่สาวอีกสองคนเป็นชายาอ๋อง คือ ไต้อ๋องเฟย และ อันอ๋องเฟย ถึงฉีหมิงเอ๋อยังเยาว์แต่ก็มีความเฉียบคมทางการเมืองและธุรกิจ เป็นผู้ช่วยสำคัญและควบคุมดูแลจวนกว๋อกงได้อย่างดี ให้ซูอิ่งพาลูกสาวมาอยู่ด้วย นอกจากนี้หยางซวีก็ยังได้ลูกสาวกับกับเผิงจื่อฉีชื่อ ซือฉี ด้านสาวใช้ รับเซียวตี้เป็นอนุ

เมื่อ เถี่ยมู่เอ่อ (ติมูร์มหาราช) จากทางตะวันตกส่งทูตมาสืบข่าวในต้าหมิงเพื่อหาโอกาสรุกราน ฝู่กว๋อกงก็ได้รับมอบหมายให้พาทูตไปดูการฝึกทหารเขตเต๋อโจวเพื่อให้เห็นแสนยานุภาพ แต่ก่อนได้กลับเมืองหลวงก็ได้รับราชโองการให้นำพลห้าหมื่นจากเด๋อโจวไปลงโทษผู้บัญชาการสำนักเหลียวตงที่ปิดข่าวที่ชนเผ่าตาตาร์บุกตีที่มันซันว่านเว่ยปล้มสดมภ์แล้วหลบหนีไป (ทำให้หยางซวีไม่อยู่ดูลูกสาวจากเซี่ยหวี่เฟย ซือหวี่ เกิด นับเป็นสี่คนรวด)

ฝู่กว๋อกงนอกจากจะล้มล้างเผ่าที่ก่อเรื่อง และเปิดโปงแผนลอบฆ่าของ อูหลันถูยา ที่ปลอมเป็นหญิงรับใช้มาล้างแค้น ก็เน้นการปรับปรุงด้านกสิกรรมและเศรษฐกิจเพื่อความปรองดองในการหาเงินระหว่างคนพื้นเมืองและชาวฮั่นในระยะยาว (แต่มองอีกแง่คือการกลืนเชื้อชาติ) ก่อตั้งการปกครองท้องถิ่น แล้วอาศัยช่วยฮ่องเต้ประพาสเป้ยจิง (เปลี่ยนชื่อจากเป่ยผิง) จัดตั้งฝ่ายปกครองสำนักเหลียวตงปู้เจิ้งซือที่ขึ้นตรงกับราชสำนัก ช่วงชิงและแบ่งตำแหน่งสำคัญให้คนของตัวให้คนของตัวกับชิวฟุ (ที่บัญชาการเป้ยจิง) เพื่อให้การปฏิรูปดำเนินต่อไป

หลังฝู่กว๋อกงกลับมาเมืองหลวง ก็มีการแต่งตั้งองค์ชายใหญ่เป็นรัชทายาท โดยจูเกาซวีเป็นฮั่นอ๋องกินเมืองยูนนาน องค์ชายสาม จูเกาซุ่ย เป็นเจ้าอ๋องกินเมืองเป่ยจิง ด้านครอบครัว ฉีหมิงเอ๋อตั้งครรภ์ และให้สาวใช้แต่งตาม เฉี่ยวหวิน เป็นอนุ (ตรงนี้เขียนได้น่าสนใจดีค่ะ 'เมื่อแต่งหญิงรับใช้เข้าบ้าน ต้องเป็นหญิงรับใช้ร่วมห้องเดียวกันเสียเก้าส่วน นอกจากนี้ได้แต่อยู่โดดเดี่ยวไปชั่วชีวิต คุณหนูที่ได้รับการปรนนิบัติตั้งแต่เล็ก จนล่วงรู้ความลับทั้งหมดของนาง ต้องไม่มอบเงินให้ออกจากตึกฝู่กว่อกงหรือแต่งให้กับบุรุษอื่นเด็ดขาด' กับ 'เซี่ยสินมีความรู้สึกว่า สังคมศักดินาเหลวแหลกเกินไป แต่มันเป็นชนชั้นปกครอง ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง')

จี้กังคว้าหางเปียเซี่ยสินได้ด้วยเรื่องตระกูลเผิงที่เป็นชนชั้นหัวหน้าพรรคบัวขาว ถึงตอนนี้ตระกูลเผิงได้ลูกเขยชักจูงให้ค้าขายจนร่ำรวยและถอนตัวจากพรรคหมดแล้วก็ยังถือว่าเป็นกบถและถือว่าถึงตาย ฮ่องเต้ต้องจับกุมสอบสวน ทำให้โดนเสี่ยวอี้ (น้องภรรยา) วีนใส่เต็มที่ 555 ถึงหยางซวีจะชนะคดีความ แต่เสียความไว้วางใจของหย่งเล่อ (ทำเอาคนอ่านเสียวสันหลังวาบ)

ลูกของฉีหมิงเอ๋อเป็นชาย ได้พระราชทานนาม หยางไหวเอี่ยน พร้อมตำแหน่งองครักษ์ซวินเว่ยอันเป็นปกติของบุตรชายขุนนางคุณูปการ แต่ที่ไม่ธรรมดาคือเป็นแม่ทัพอู่เต๋อเจียงจวินที่อยู่ขั้นห้า สูงกว่าสมัยฉีฮุยจู่ถึงสองขั้นที่มาของเรื่องคือหย่งเล่อได้ข่าวการเสียชีวิตของเฉิงกว๋อกงที่ไปรบกับอันนัมทางใต้ เลยยึดถือเด็กเป็นตัวแทน ทั้งที่กำลังไม่พอใจหยางซวีทั้งเรื่องเดิมและแนะให้เลิกรบกับอันนัม
[07/04/15, 30/04/15, 24/05/15, 31/05/15, 19/06/15, 28/08/15]


เมื่อมีข่าวทัพเถี่ยมู่เอ่อจากตะวันตก หยางซวีอาสาออกศึกแดนซีอวี้เพื่อพยายามลดความสูญเสียของราษฎร คนที่ตามไปก็มีนางรำ ซีหลิน และ เย่อนา ที่เป็นคนท้องถิ่นและถูกมอบเป็นของขวัญให้ฝู่กว๋อกงตอนอยู่เหลียวตง ส่วน ถังไซ่เอ๋อ ที่เป็นเด็กสาวสืบทอดวิชาพรรคบัวขาวก็แอบติดตามไปด้วย เลยได้เป็นบุตรบุญธรรมของหยางซวี โดยฮ่องเต้ให้เป็นเจี้ยนจวิน (ผู้ดูแลกองทัพ) ใต้ แม่ทัพผิงเชียงเจียงจวิน ซ่งเฉิง ที่คุมพื้นที่มากว่ายี่สิบปี เก่งมากทั้งบู๊และปกครองแต่ชราแล้ว ระหว่างทางไปหยางซวีก็คุ้มครององค์หญิงสามไปสมรสกับลูกชายคนรองของซ่งเฉิงด้วย ซึ่งเซี่นสินก็ยกย่องซ่งเฉิงมาก ไปด้วยกันได้อย่างดี และใช้ทุกรูปแบบในการดึงผู้นำท้องถิ่น (ซึ่ง จขบ. ดูว่าหลายเรื่องออกจะมากไป ความไม่จริงใจมองออกง่ายไปหน่อย)

ในขณะที่อิงกว๋อกง จางฝู่ ได้รับแต่งตั้งเป็นแม่ทัพปราบชาวอี้ บุกเมืองสำคัญของอันนัมทางใต้ ชิวฟุที่อยู่ทางเหนือรบกับตาร์ตาร์แต่ถูกหลอกจนเสียชีวิตในทะเลทราย หย่งเล่อฮ่องเต้กริ้วจัดเตรียมออกรบกับ เปิ่นหยาซื่อหลี เอง ระหว่างที่หยางซวีออกเดินทางเข้าทะเลทรายโดยมีทหารสามพันเป็นองครักษ์ สายลับของจี้กังแพร่งพรายการเคลื่อนไหว ทำให้ทั้งกองแตกพ่าย หยางซวีและหลิวอี้เจี๋ยหนีตายจนได้พบกับคนรู้จักและคดีเก่า เลยสามารถปลอมตัวเป็นพ่อค้า ภายหลังยังได้เจอพวกไซ่ฮาจื้อที่มีคนสนิทและฝ่ายหญิง ทำให้กลายเป็นกลุ่มใหญ่ (เซี่ยสินได้สองสาวเป็นอนุ) แต่ช่องทางการเดินทางหนีถุกปิด จึงตัดสินใจเดินลึกเข้าแดนศัตรู

หยางซวีได้พบ ฮาลีซูตาน ที่เป็นนัดดาของเถี่ยมู่เอ่อและเป็นแม่ทัพก่อนความแตกและถูกจับตัว ทว่าในบรรดาโอรสนัดดาของเถี่ยมู่เอ่อมีการแก่งแย่งรุนแรง ฮาลีซูตานกำลังจะถูกถอดอำนาจทหารซึ่งผลน่าจะทำให้ถึงตาย หยางซวีใช้โอกาสเกลี้ยกล่อมให้สังหารเถี่ยมู่เอ่อและชิงอำนาจ โดยอาสาเป็นคนลงมือเอง ผลที่ได้คือเกิดการแก่งแย่งอย่างรุนแรงจนเลิกการบุก

ส่วนหยางซวีก็สามารถหนีรอดกลับมาได้หลังจากระหกระเหินไปครึ่งปี (และก่อนที่ฮ่องเต้จะกลับเมืองหลวงไปจัดการเรื่องหลัง คือประกาศคำสรรเสริญไว้อาลัย จัดหลุมฝังศพหมวกเสื้อผ้า อวยยศไล่หลังเป็นฮั่นจงอ๋อง) สมทบกับฮ่องเต้กลับเมืองหลวงทันฟังคำสั่งเสียของฉีฮองเฮา และก็มีการตั้งค่ายตงจี้ซื่อฉ่าง (ค่ายตะวันออกดูแลเรื่องราว) ขึ้นมาคานอำนาจกรมความมั่นคง โดยมีขันทีมู่เอินเป็นผู้ดูแลค่าย

แต่หยางซวีกลับมาไม่นานก็อาสาออกไปสืบข่าวที่แคว้นวาลานำสายเลือดกษัตริย์มองโกล ทวอทวอปู้ฮัว และ อากาตว่อเอ่อจี้ ที่ตกค้างในแผ่นดินหมิงไปสถาปนาเป็นข่าน เพราะมีข้อสงสัยว่านี่อาจเป็นพวกต้มตุ๋นชาวฮั่นที่ปลอมตัวไป ถ้าจริงจะได้จัดเป็นหุ่นเชิด นอกจากงานสำเร็จ มเหสีของเปิ่นหยาซื่อหลี ถูเหมินเป่าอิน ยังพามารดาและอูหลันถูยามาขอพึ่งฮ่องเต้ต้าหมิง โดยขอเปลี่ยนชื่ออาศัยเป็นคนธรรมดา หยางซวีรับบัญชาหาบ้านให้ที่เมืองม่อหลิง สร้างสถานะเป็นยาย แม่ ลูกสาว โดยอูหลันถูยาได้ชื่อใหม่เป็น เซี่ยมู่เหวิน
[19/06/15, 29/06/15, 28/08/15, 26/09/15]


ระหว่างที่มีการแย่งชิงในราชสำนักและวงการขุนนางตามปกติ ฮ่องเต้ที่ได้รายงานว่านางกำนัลไม่พอก็มีบัญชาให้สำนักขันทีและกรมความมั่นคงเลือกซิ่วหนี่เข้าวังแปดร้อยคนจากบริเวณรอบเมืองหลวง ทำให้ชาวบ้านรีบจัดงานแต่งของลูกสาวกันเป็นการใหญ่ เซี่ยมู่เหวินก็โดนหางเลขจนต้องมาขอความช่วยเหลือจากหยางซวี ที่ระหว่างการเดินทางโดนวิกฤติแย่งชิงลูกเขยถึงขนาดกว๋อกงก็หนีกระเจิง อย่างฮามากถ้าไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องความสุขชั่วชีวิตของเด็กสาวจำนวนมาก (อ้อ รู้สึกว่าสัดส่วนสาวที่เข้าข่ายคัดเลือก คืออายุ 13-16 ที่ยังไม่ได้หมั้นหมายในเมืองม่อหลิงที่ 13% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ดูออกจะสูงผิดปกติอยู่นะ)

เมื่อฮ่องเต้กลับจากประพาสทางเหนือ การแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทก็ยิ่งตึงเครียด ผสมกับแผนการย้ายเมืองหลวง เซี่ยสินมีความลับและแผนการที่ไม่อาจบอกกล่าวกับผู้คน ถึงแม้ว่าเป้ามหายของมันอยู่ที่ส่วนรวม แต่ก็ขาดความชอบธรรม ดังนั้นจึงเกิดความรู้สึกอ่อนไหวเป็นพิเศษ ที่ผ่านมามันเจ้าอุบายความคิด หลอกให้ผู้คนมาติดกับ ถูกมันจูงจมูกไป แต่ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่เหนือการควบคุมของมัน สร้างความไม่สบายใจแก่มัน

ถึงตอนนี้หยางซวีก็มีลูกเพิ่มอีกชุด คือ ลูกชาย หยางไหวจื้อ กับเซียวตี้, ลูกสาวกับซีหลิน, ลูกชาย หยางไหวเอ้อ กับเผิงจื่อฉี, ลูกชาย หยางไหวอัน กับเย่อนา (เอาไหวที่ได้พระราชทานสำหรับลำดับรุ่น เอี่ยนจื้อเอ้ออัน แปลว่าไกลบรรลุใกล้ปลอดภัย แล้วก็คิดไว้อีกชุด เหวินซิ่วอู่เอี่ยน แปลว่าส่งเสริมบุ๋นยุติบู๊)

หลังจากการกวาดล้างหลายชั้นของฮ่องเต้ หยางซวีและจี้กังถูกส่งไปทางเหนือ เบื้องหน้าเพื่อกำหนดสถานที่สำคัญในเมืองหลวงใหม่และก่อตั้งกรมความมั่นคงทางเหนือ เบื้องหลังอันหนึ่งคือไปกำกับการก่อนกวนนอกด่าน ให้วาลาและตาร์ตาร์สู้กันจนอ่อนแรง เพื่อให้ตาร์ตาร์รู้ข่าวการบุกของวาลาได้เร็ว เสี่ยวอิงจึงใช้ฐานะเก่าไปแจ้งข่าวทำให้โดยจับตัวและจะถูกฆ่า ในขณะที่จี้กังต้องการสร้างผลงานให้เด่นชัดเลยแอบเปลี่ยนคำสั่งจนทำให้หยางซวีต้องเปลี่ยนแผนและเสียทหารหมิงเพิ่มอีกมาก เมื่อเรื่องจบเซี่ยสินจึงต้องเฉ่งให้ตายไปข้าง

หยางซวียังสนับสนุนให้ฮ่องเต้เปลี่ยนแนวทางการค้าโดยเสรีแทนการใช้ระบบบรรณาการซึ่งได้รับการตอบรับจากเหล่าขุนนางพ่อค้าที่ได้ประโยชน์อย่างล้นหลาม เจิ้งเหอออกเรืออีกครั้งโดยคราวนี้หยางซวีก็รับบัญชาไปตาหาเจี้ยนเหวิน โดยมีซูอิ่งและถังไซ่เอ๋อแอบตามไปด้วย หลังจากการเดินทางกว่าสองปี เจิ้งเหอและหยางซวีก็กลับสู่ต้าหมิงด้วยความสำเร็จอย่างยิ่ง แต่เซี่ยสินก็เดตรียมการล้างมือถอนตัวไว้แล้ว

ช่วงออกเรือเล่ม 14-15 นี่ทำให้นึกถึงว่าเป็นการเขียนเพื่อตอบปมในใจชาวจีนหรือเปล่า ในขณะที่จีนมีกองทัพเรือและเทคโนโลยีที่เหนือชั้น แต่กลับปิดกั้นการเดินทาง ปล่อยให้ทางยุโรปที่เพิ่งฟื้นจากยุคกลางรับประโยชน์ไปเต็มๆ (อ้อ ในเชิงอรรถสะกดชื่อผิดเป็นเฟอร์ดินานด์ มาเจอสัน และเรือหนีนา แล้วสงสัยว่าเครื่องปั่นไฟด้วยแรงลมในเรือคืออะไรกันแน่) สำหรับการจบ จขบ. ว่าน่าเสียดายมากสำหรับเรื่องที่สนุกมาตลอด นึกว่าจุดตกต่ำคือตอนไปญี่ปุ่น ที่ไหนได้มาตกม้าตายเอาตอนจบนี่เอง
[ 26/09/15, 06/10/15, 25/10/15, 31/10/15]

ในคำนำผู้แปลที่เล่ม 1 มีข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องนี้ว่าเป็นผลงานของหนึ่งในสามนักเขียนนิยายอิงประวัติศาสตร์ที่โด่งดังที่สุดของแผ่นดินใหญ่ โดยอีก 2 คน คือ จิ่วถู (ที่ตอนนี้เป็นชื่อระดับเห็นปุ๊บก็ซื้อโดยไม่ต้องคิด) และ อาเวี่ย (ไม่เคยได้ยินว่ามีแปลไทยนะคะ) นามปากกาเยี่ยกวน (แปลว่า ด่านจันทรา มาจากบทกวี จันทร์กระจ่างยุคฉินด่านยุคฮั่น) มีชื่อมาจากเรื่อง 'กลับสู่ราชวงศ์หมิงเป็นท่านอ๋อง' หรือที่ภายหลังเรื่องนี้ขายดีมาก ก็มีการแปลไทยในชื่อ 'ย้อนเวลาขึ้นเป็นอ๋อง' ที่มาแนวเบาเอาฮากว่า

เรื่องนี้มีชื่อจีนว่า 'จิ่นอีเย่สิง' ที่เป็นภาษิตแปลว่าสวมชุดแพรเลิศหรูเดินเหินตามวิกาล คือแม้นประสบความสำเร็จก็ไม่ต้องการให้ผู้คนรู้เห็น แต่ในเรื่องนี้หมายถึงบุคคลที่ปฏิบัติการลับ ไม่อาจเปิดเผยต่อผู้คน โครงเรื่องหลักออกแนว 'เจาะเวลาหาจิ๋นซี' แต่ดาร์กกว่าหน่อย เท่าที่อ่านมาก็บอกได้เลยว่าเริ่มต้นและดำเนินเรื่องได้สนุกน่าติดตาม โดดเด่นมากในช่วงสงครามชิงบัลลังก์ของหย่งเล่อ บรรยายวิถีชีวิตและเทคโนโลยีในอดีตได้เนียน ถึงเรื่องปลอมตัวจะเวอร์ไปนิด (เรื่องปกติในนิยาย) ออกสไตล์สายลับที่หักหลังกันเป็นกิจวัตรประจำวัน เนื้อหารุนแรงติดเรทไม่เหมาะสำหรับเยาวชน อีกจุดคือแปลออกมาเร็วมาก กลัวอย่างเดียวคือผู้แปลจะงานหนักเกินจนล้มหมอนนอนเสื่อ! คำเตือนคือ 30 เล่มจบ ซึ่ง จขบ. ว่าถ้ารักษาระดับไว้ได้ ยาวแค่นี้ไม่มีปัญหาอะไร แต่เล่มสุดท้ายดันออกทะเลแบบกู่ไม่กลับ เลยทำให้ความประทับใจตกลงมาก ซึ่งก็น่าเสียดายมากค่ะ


สุดท้ายคือเรื่องนี้มีการถ่ายทำซีรีส์ 'Braveness of the Ming' ในปี 2015-2016 นำแสดงโดย จางฮั่น และ ปาร์คมินยอง แต่พอจะฉายดันเกิดเรื่องที่เกาหลีใต้ซื้อขีปนาวุธ THAAD (Terminal High Altitude Area Defense) จากอเมริกามาติดตั้งเพื่อให้สามารถยิงสกัดขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ ทำให้รัฐบาลจีนไม่พอใจและแบนนักแสดงเกาหลี (เอาเรื่องการลงทุนในวงการบันเทิงมาโยงกับเรื่องความมั่นคงทางทหาร ดูแล้วให้ความรู้สึกว่าวงการบันเทิงในจีนมีความเสี่ยงสูง ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาก็แบนกันง่ายๆ แบบคุ้มดีคุ้มร้าย) ทำให้ไม่สามารถออกฉายได้ ค้างคามาเกินห้าปี จนมีข่าวว่าจะได้ฉายในปี 2020 แต่ตอนนี้ปลายปี 2021 แล้วก็ยังไม่เห็น จนคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้ดูแล้วค่ะ T_T
[30/06/14, 27/01/15, 09/10/21]


ที่มา
[1] เยี่ยกวน (น. นพรัตน์ แปล). พยัคฆราชซ่อนเล็บ. 15 เล่มจบ, สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 264 + 264 + 264 + 272 + 264 + 272 + 280 + 280 + 272 + 264 + 264 + 272 + 272 + 264 + 280 หน้า, 2557-2558.
[2] เยี่ยกวน (น. นพรัตน์ แปล). พยัคฆราชซ่อนเล็บ ภาค 2. 15 เล่มจบ, สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 288 + 264 + 264 + 264 + 272 + 272 + 280 + 272 + 272 + 264 + 280 + 272 + 264 + 264 + 272 หน้า, 2558.


รายการนิยายจีนแปลไทย, ไทม์ไลน์หนังสืออิงประวัติศาสตร์/ย้อนยุค จีน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spy×Family - Endo Tatsuya

ลำนำรักเทพสวรรค์ - ถงหัว

สืบลับฉบับคาโมโนะฮาชิ รอน - Amano Akira