โฉมงามบรรณาการ & สามเสน่หา - เฉียนลู่
เรื่อง เพชรยอดคทา เพชรยอดขุนพล และ เพชรยอดบัลลังก์
แต่งโดย เฉียนลู่ (Qianlv) แปลโดย ทีมงานห้องสมุด
เพชรยอดคทา
แคว้นเฮ่าเยว่ที่อ่อนแอบังคับตระกูลชิงให้ส่งธิดาสามคน ชิงหลิง ชิงเฟิง และ ชิงโม่ ผู้โด่งดังด้านความงามและความสามารถเพียบพร้อมไปเป็นบรรณาการที่แคว้นฉงเยว่ที่มีอำนาจเหนือแคว้นทั้งหก เนื่องจากคนในตระกูลชิงถูกแคว้นฉงเยว่ฆ่าตาย คุณหนูตัดสินใจทำลายโฉมด้วยการกรีดหน้าแต่ก็ยังถูกส่งไปอยู่ดี ทั้งสามเลยผูกคอตาย ชิงเฟิงที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวที่สุดรอดผู้เดียว แต่อีกสองคนมีวิญญาณหญิงสาวจากโลกเข้าร่าง แน่นอนว่าที่มาไม่ธรรมดา จั๋วฉิง เป็นแพทย์นิติเวชอัจฉริยะ อาจารย์แพทย์ด้านจิตเวช และ กู้อวิ๋น เป็นสารวัตรสายสืบ แชมป์การต่อสู้ระดับเอเซีย และครูฝึกหน่วยพิเศษ ตอนที่ทั้งคู่กำลังปรึกษากันเรื่องคดีฆาตกรรมต่อเนื่องก็ถูกพามาอีกโลกด้วยจานที่มีจารึกยันต์แปดทิศซึ่งตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
เมื่อเกิดเหตุพยายามฆ่าตัวตาย ทหารที่คุ้มครองส่งสาวงามจึงมอมยาให้ไม่รู้เรื่อง เมื่อถึงนครหลวงฮ่วนหยางก็ส่งแยกไปทันที โดยชิงหลิงเข้าวังเป็นสนมของฮ่องเต้ เยี่ยนหงเทียน ชิงเฟิงไปจวนอัครเสนาบดี โหลวซี่เยี่ยน ส่วนชิงโม่ไปจวนแม่ทัพใหญ่ ซู่หลิง แต่จากความผิดพลาด ชิงเฟิงถูกส่งไปวังแทน ซึ่งเมื่อเป็นแบบนี้ชิงเฟิงเลยสวมรอยพี่สาวเพราะข่าวบอกว่าโหลวซี่เยี่ยนเป็นคนสุภาพอ่อนโยนน่าจะทำให้พี่มีความสุขได้ ซึ่งความก็แตกอย่างรวดเร็วเพราะที่เยี่ยนหงเทียนเรียกร้องชิงหลิงเนื่องจากเคยเจอมาก่อน ชิงเฟิงที่พยศไม่เบาถูกลดตำแหน่งเป็นนางกำนัล
จั๋วฉิงที่ไม่รู้เรื่องอะไรก็กลายเป็นชิงเฟิงอย่างที่คนรอบข้างบอก (โดยสรุปคืออ้างความจำเสื่อม) ระหว่างถูกส่งไปจวนโหลวก็ถูกชาวบ้านชิงตัวไปร้องทุกข์ให้ผู้มีพระคุณ เธอที่ยังงงๆ แต่ปรับตัวได้รวดเร็วก็ช่วยเขียนคำร้อง เมื่อมีการไต่สวนใหม่และคนตายในคุก เจ้าหน้าที่หวู่โจ้ (ชันสูตร) ไม่พบเบาะแส จั๋วฉิงที่ปลอมเป็นเด็กหนุ่มก็เลยช่วยชันสูตรศพให้อย่างผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เจ้ากรมอาญา ตันยี่หลัน ที่เพิ่งกลับมาและมีฝีมือเป็นที่เลื่องลือยังทึ่งสุดๆ (มีอ้างถึงเจ้ากรมอาญา ซ่งฉือ สมัยราชวงศ์ซ่งที่เขียนตำราว่าด้วยนิติเวชในปี 1235 และเป็นตัวเอกใน 'ยอดตุลาการราชวงศ์ซ่ง')
เมื่อจบเรื่องคืนความยุติธรรมให้ชาวบ้านแล้ว จั๋วฉิงก็พยายามหนีแต่ไม่สำเร็จ โดนองครักษ์ลูกครึ่งคนสนิท โม่ไป๋ ไล่ตามกลับมาได้ ซึ่งก็ดูแล้วยังไงก็ไม่มีทางไป เลยต้องไปจวนโหลว ซึ่งอัครเสนาบดีที่เริ่มสนใจก็ไม่ได้บังคับอะไร ตัวโหลวซี่เยี่ยนเองก็มีปม ไปไม่ค่อยดีกับพ่อ โหลวมู่ไห่ ที่เป็นแม่ทัพปราบตะวันตก และมารดารอง เซเซียนซิน ที่ไม่ถูกกับน้องสาว โหลวซี่หวู่ สุดท้ายยังเคยสัญญากับแม่ก่อนตายว่าจะมีภรรยาเดียวอีก
แน่นอนว่าเมื่อโหลวซี่เยี่ยนเลิศขนาดนี้ก็ต้องมีสาวชอบ แนวหน้าสุดคือ เยี่ยนหยูเซียน ที่เป็นองค์หญิงแห่งเฉาหยิน พระธิดาของไทเฮาตำหนักประจิม หยางจือหลัน ที่เป็นพระมารดาแท้ๆ ของฮ่องเต้ ขอเพิ่มเติมว่าการที่ไทเฮาตำหนักบูรพา โหลวซู่ซิน เป็นอาของโหลวซี่เยี่ยน ก็ทำให้ทั้งคู่รู้จักกันแต่เล็ก เป็นเหมือนพี่ชายน้องชายกันมาก และโหลวซี่เยี่ยนก็เป็นมือขวาที่ไว้ใจและให้ความสำคัญมากด้วย ถึงเยี่ยนหงเทียนจะติดใจชิงหลิง แต่ก็สามารถตัดใจได้เมื่อพบว่าสลับตัวและพบว่าโหลวซี่เยี่ยนชอบและชิงหลิงยังสามารถรักษาอาการหืดหอบของโหลวซี่เยี่ยนได้ ในงานเลี้ยงพระราชทานคณะทูตจากแคว้นเป่ยฉี ชิงเฟิงที่เป็นนางกำนัลรินสุราถูกหาว่าวางหาพิษ ชิงหลิงจึงชันสูตรศพกลางท้องพระโรงจนได้ความจริง ไม่นานก็ได้พบกับกู้อวิ๋น กลายเป็นคู่หูสืบสวนที่ยากจะหาใครเทียบ
เมื่อโหลวซี่เยี่ยนจีบเต็มที่ (ถึงมุกจะโบราณไปหน่อยนะ 555) เมื่อรวมกับความจริงใจ ความเข้าใจคุณสมบัติอื่นๆ นับว่าเลิศเกินกว่าจั๋วฉิงจะไม่ตะครุบไว้ อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนอยู่แล้ว ฉันไม่อยากสูญเสียความสุขที่สามารถคว้ามาได้ในตอนนี้เพียงเพราะความไม่แน่นอนพวกนั้นหรอก แต่ก่อนจะถึงวันงานก็มีเรื่องเช่นการลอบฆ่า ความรักของโหลวซี่หวู่กับพ่อบ้าน จิ่งซา คดีฆ่าควักหัวใจคุณหนู คดีทหารโดนฆ่าซึ่งโยงถึงการขโมยทองจำนวนมหาศาลจากคลังเมื่อสามปีก่อน (แหม แผนภาพที่ให้ดูมึนแฮะ) การจัดงานเฉลิมฉลองประจำสามปีที่จวนเสนาบดีมีแขกเป็นองค์ชายน้อยแคว้นเลี่ยวเยว่ ไป๋ยี่ ที่ถึงจะเด็กดูน่ารักแต่ก็แสบถึงที่สุด ฯลฯ และเมื่อ ดื่มเหล้าจอกนี้แล้ว เราสองจะร่วมจูงมือผ่านสุขทุกข์ไปด้วยกันตลอดชาติภพนี้ ...
ในภาพรวมถือว่าสนุกเลยล่ะค่ะ ทั้งโครงเรื่องและการดำเนินเรื่องที่มีรายละเอียดประกอบไม่ช้าไม่เร็วเกินเพื่อ ให้ความฟินมาได้เป็นเข่ง ถึงในบางช่วงจะรู้สึกไม่กระชับหรือรุ่ยๆ อยู่บ้าง ฮามาเรื่อยๆ อย่างตอนที่จั๋วฉิงเขียนคำร้อง คำวิจารณ์ของโหลวซี่เยี่ยนผู้รับหนังสือคือ การใช้คำถือว่ากระชับเฉียบคม แต่ตัวหนังสือกลับด้อยลักษณะอันควร ดูไม่สมส่วน อัปลักษณ์ผิดเพี้ยนเสียจริงๆ (ซึ่งจั๋วฉิงก็คิดประท้วงว่าลายมือหมอนะ 555) อ้อ ถูกใจเป็นพิเศษในส่วนเรื่องเงินกับกำมะถันด้วยเพราะส่วนใหญ่จะเล่นทดสอบครอบจักรวาล (แต่ไหงก็ยังหนีไม่พ้นล่ะ) ในด้านลักษณะทางสังคมศักดินาก็รู้สึกว่าสามารถหาสมดุลระหว่างอำนาจบารมี การเมืองและความยืดหยุ่นในบริบทของสภาพและความต้องการในการดำเนินเรื่องที่ใช้ได้ ถ้าจะเทียบกับเรื่อง 'ยอดกุนซือทะลุมิติ' ที่เป็นนิติเวชย้อนยุคเหมือนกัน ก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้มาแนวนิยายรักผู้หญิงอ่านนะคะ การชันสูตรไม่โหดเท่า แต่แหม ที่ย้อนยุคทั้งสองคนรู้สึกจะคุณสมบัติเยอะเกินไปหน่อย โดยเฉพาะเรื่องคุณหมอที่เมื่อคิดว่าต้องเรียนกันไม่ทราบกี่บอร์ด สั่งสมประสบการณ์อีก ทำให้รู้สึกว่าที่กำหนดอายุยี่สิบปลายดูจะน้อยไปนิดนะ
อ้อ มีแผนผังชื่อและความสัมพันธ์ที่ทำให้อ่านง่าย ตัวสะกดก็มีผิดตามปกติ ไม่ได้มากกว่าสำนักพิมพ์อื่น -_-" ส่วนเรื่องการแปลก็ถือว่าโอเคค่ะ มีผู้แปลร่วมหลายคน คือ เปรมสินี หยู ธันย์ วชิรณรงค์ ธนู รุ่งโรจน์เรืองฉาย และ วณิดา คารวะคุณ โดยแปลอ่านง่าย ไปได้เรื่อยๆ แต่ จขบ. ไม่รู้สึกอินจนเกิดความซาบซึ้งประทับใจที่ทำให้เป็นเรื่องในดวงใจได้ คือดูจากภาพรวมแล้วคิดว่ามีโอกาสมากนะคะ แต่เมื่ออ่านแล้วอารมณ์ที่ได้จากสำนวนทั้งยุคเก่าและใหม่รู้สึกไปไม่สุดทั้งสองข้าง เหมือนขาดเสน่ห์ของสำนวน ลีลา และความเฉียบคมอะไรบางอย่างไปน่ะค่ะ
คิดว่าการที่เรื่องที่แบ่งเป็นภาคและต้องปูพื้นตัวละครและปมต่างๆ ก็มีส่วนมาก แบบว่ารวมเป็นเรื่องเดียวหลายเล่ม เลยอาจจะทำให้สมดุลกว่า ซึ่งก็น่าเสียดายเหมือนกัน แต่ยังไงอีกสองเรื่องที่เหลือก็น่าติดตาม อยากรู้มากว่ากู้อวิ๋นหากำลังจากตัวชิงโม่ที่เล็กนิดนึงได้อย่างไร ถึงขนาดตีกันรถม้าเปิงเลยเชียว 555
เพชรยอดขุนพล
เรื่องนี้ดำเนินเรื่องไปพร้อมๆ กับ 'เพชรยอดคทา' สารวัตร กู้อวิ๋น ที่วิญญาณเข้าร่างน้องสาวคนเล็กอายุสิบห้า ชิงโม่ ถูกส่งไปให้เทพสงคราม แม่ทัพพิชิตแผ่นดิน ซู่หลิง ที่ทรงอำนาจโดยเฉพาะดวงตาพยัคฆ์น่าคร้ามเกรง มีพลังมหาศาล ที่จวนมีน้องรอง ซู่เริ่น เป็นกุนซือหน้าหยกที่เยือกเย็นฉลาดเฉลียวรูปโฉมงามจนพูดไม่ออกขนาดทำเอาหน้ามืด 555 แต่มีนิสัยชอบลองของไม่ให้เบื่อ ส่วนน้องสาม ซู่หยี่ เป็นรองแม่ทัพที่ออกจะมุทะลุไม่คิดมากแต่เปิดเผยตรงไปตรงมา
เพชรยอดบัลลังก์
สำหรับตอนสุดท้ายของน้องรอง ชิงเฟิง ก็เริ่มเรื่องตั้งแต่ตอนที่จุดเดียวกันคือตอนฆ่าตัวตาย ทำให้ชิงเฟิงถูกส่งเข้าวังในฐานะชิงหลิงที่ฮ่องเต้ เยี่ยนหงเทียน ระบุตัวไว้ เพราะเยี่ยนหงเทียนเคยได้ชิงหลิงช่วยไว้ครั้งหนึ่ง (กว่าจะพบว่าส่งผิดคน เรื่องของชิงหลิงกับโหลวซี่เยี่ยนก็เรียบร้อยแล้ว) แน่นอนว่าเมื่อถูกส่งตัวเข้าวัง ชิงเฟิงก็สู้เต็มที่ บวกกับยั่วโมโหเยี่ยนหงเทียนขึ้นอย่างมาก เลยถูกส่งไปทำงานหนักก่อนจะได้กลับมาเป็นพระสนมชิงผิน ถวายตัวอย่างดุเดือดเลือดพล่าน แล้วค่อยมีการเปลี่ยนแปลงร่วมเข้าช่วงชิงในวังหลังกับฮองเฮา ซินเยว่หนิง และ ฮุ่ยเฟย เจินเจิน
ซีรีส์ สามเสน่หา: จอมซนเจ้าเสน่ห์
แต่งโดย เฉียนลู่ (Qianlv) แปลโดย ทีมงานห้องสมุด
จอมซนเจ้าเสน่ห์
แคว้นฉงเยว่มีสามคุณหนูที่เกิดจากพี่น้องสามสามที่เลื่องลือ คือ โหลวเฉิน องค์หญิง เยี่ยนหนิง และ ซู่ซู่ ซึ่งเป็นทายาทหญิงเพียงคนเดียวในรอบร้อยปีของตระกูลทหาร (มีทายาทชายลูกอาอีกสามคน) ทำให้เธอเป็นที่รักใคร่ของญาติพี่น้องอย่างรุนแรง ยกเว้นแม่ ชิงโม่ (หรือสารวัตร กู้อวิ๋น) ที่เลี้ยงให้แกร่ง อันมีผลให้ซู่ซู่นอกจากจะเก่งรอบด้านในฐานะทายาทตระกูลทหารแล้ว ยังถนัดวิชาตัวเบาดอกบัวสิบแปดก้าวเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถหนีท่านแม่ที่ดุอย่างกับเสือได้ ซู่ซู่ยังเป็นแก้วตาดวงใจของท่านอา เอ้าเทียน ประมุขเกาะรวมวิญญาณที่ให้พัดเกล็ดกิเลนเป็นอาวุธคู่กาย
วันหนึ่งเยี่ยนหนิงก็ชวนอีกสองสาวเดิมพันให้หาสุดยอดสมบัติในใต้หล้ามาแข่งกันอีกหนึ่งปีให้หลัง ซู่ซู่เลยไปชายทะเลตงไห่ แต่ยังไม่ถึงเวลาที่เรือเกาะรวมวิญญาณมา ซู่ซู่เลยฆ่าเวลาโดยปลอมตัวเป็นชายขึ้นเรือประมงของตระกูลฉิน แต่เมื่อเรือออกนอกเขตทะเลฉงเยว่ไปเล็กน้อยก็เจอโจรสลัดเกาะห้วนหลางที่พาชาวประมงทั้งหมดไปที่เกาะ
เจ้าเกาะห้วนหลางคือ อี้เหมิ่ง มีลูกชายคนโต อี้หู่ เป็นทายาท ลูกคนอื่นคือ อี้อู่ และฝาแฝดหญิงชาย ซางหน่วน และ ซางเหลิ่ง ที่เกิดกับลูกของเจ้าเกาะคนเก่า โม่ซาง ที่ตายตอนลูกสองขวบ สองคนนี้ไม่เป็นที่ชื่นชอบของอี้เหมิ่งเพราะทั้งไม่แน่ใจว่าเป็นลูกตัวและความหลังไม่อยากนึกตอนที่โม่ซางเป็นเจ้าเกาะ ซึ่งทั้งสองก็โดดเดี่ยวและไม่ชอยใช้แซ่ของพ่อ โดยซางหน่วนไม่มีวิทยายุทธ ฝึกวิชาแพทย์ และยังศึกษาวิชาพิษอย่างลับๆ ส่วนซางเหลิ่งใช้ทวนเงินที่เรียนจากจอมยุทธที่ไม่ทราบชื่อเมื่อสิบปีก่อน
เกาะห้วนหลางมีลักษณะเด่นคือหมอกลงจัดยกเว้นเวลาหนึ่งเดือนในทุกปี ทำให้เป็นเวลาที่อาจถูกโจมตีได้ เรื่องแปลกคือปีนี้แคว้นเลี่ยวเยว่ที่มีอำนาจนำในหกแคว้นคู่กับฉงเยว่ได้ส่งกองทัพเรือมาบุกเกาะห้วนหลางที่ห่างจากแคว้นไปมาก แถมแม่ทัพคือ ถานไถเย่เลี่ย คุณชายสี่ของตระกูลแม่ทัพที่มีชื่อพอๆ กับตระกูลซู่ โดยถานไถเย่เลี่ยมีชื่อว่าเป็นคนเก่งฟ้าประทาน อี้เหมิ่งจึงขอความช่วยเหลือจาก โม่หยวน หลานอาของโม่ซางให้ช่วยตั้งค่ายกลคุ้มครองเกาะ โดยทางโจรสลัดไปโจมตีเรือเพื่อมาใช้แรงงาน
งานนี้โม่หยวนได้ยันต์แปดทิศสีม่วง (หน้าตาเหมือนของตระกูลซู แต่วัสดุคนละอย่าง) ที่อยู่ในหินศักดิ์สิทธิ์และกุญแจหินศักดิ์สิทธิ์จากสุสานโม่ซาง แต่เหล่ายอดชายเจ็บกันหมด โม่หยวนพาซู่ซู่ ซางหน่วน และ เอ้าซัน (องครักษ์ที่เอ้าเทียนแถมให้) ไปบ้านตระกูลโม่เพื่อรับการรักษาจากหมอโพธิสัตว์ ฟงอีชิง ผู้มีชื่อสูสีกับหมอเทวดาที่เป็นอาจารย์ของชิงเฟิง ก่อนถึงบ้านตระกูลโม่ ซู่ซู่ก็ได้สัตว์เลี้ยงเป็นลูกสุนัขจิ้งจอกเงิน ปาเจียว ส่วนถานไถเย่เลี่ยก็ถูกพ่อ ถานไถฟง ส่งตัวตามมารักษา เมื่อทั้งหมดเข้าในเขตหวงห้ามพร้อมกับ โม่เจอ พ่อของโม่หยวนและผู้อาวุโสกลุ่มใหญ่ก็เกิดเรื่องยกใหญ่ ...
แล้วก็มีตอนพิเศษเรื่องความรักของซางหน่วนเมื่อกลับเกาะห้วนหลาง เรื่องของซู่เริ่นและอวี้ฮั่นตั้นตอนท้องสองที่ระลึกความหลังสมัยเด็ก บะหมี่วันเกิดสิบสองปีของซู่ซู่ และทำไมกู้อวิ๋นถึงชอบลงโทษให้ลูกสาวกระโดดกบก็ฮาดี
เรื่องนี้ก็มาเรื่อยๆ มีเหตุการณ์แฟนตาซีบ้างเป็นระยะ ฮามากในช่วงบ้านตระกูลซู่ เรื่องความรักเล่มแรกมีลุ้นพระเอกบ้าง แต่เล่มสองลอยมาแบบหยอดน้ำตาลเสียท่วม ระหว่างอ่านก็ฟุ้งซ่านพอสมควร เช่น บ้านตระกูลโม่อยู่ทางเหนือมาก ท่าทางคงต้องนำเข้าอาหารกันเยอะพอดู การปลูกหญ้าหลิงเฉ่าเหมือนเลี้ยงแมลงกู่ไม่เบา เขตต้องห้ามตระกูลโม่ก็แปลกดีนะ ไม่ทราบใครสร้างค่ายกลยุ่บยั่บ ซึ่งทำให้ จขบ. สงสัยตามเคยว่าเอาพลังงานขับเคลื่อนมาจากไหน หรือเป็นแบบใช้หนเดียวทิ้ง 555 สุดท้ายคือไม่เข้าใจอย่างยิ่งว่าทำไม่เอาคำโปรยไว้บนปกหน้า ดูไม่สวยเลยค่ะ สรุปคืออ่านเรื่อยๆ ไม่ประทับใจอะไรเป็นพิเศษนะคะ
จอมใจเจ้ายุทธ
ที่มา
[1] เฉียนลู่ (hongsamut แปล). เพชรยอดคทา. ห้องสมุดดอทคอม, ซีรี่ส์โฉมงามบรรณาการ #1, 2 เล่มจบ, 532 + 440 หน้า, 2557.
[2] เฉียนลู่ (hongsamut แปล). เพชรยอดขุนพล. ห้องสมุดดอทคอม, ซีรี่ส์โฉมงามบรรณาการ #2, 3 เล่มจบ, 516 + + 480 หน้า, 2558.
[3] เฉียนลู่ (hongsamut แปล). เพชรยอดบัลลังก์. ห้องสมุดดอทคอม, ซีรี่ส์โฉมงามบรรณาการ #3, 3 เล่มจบ, 476 + 456 + 500 หน้า, 2558.
[4] เฉียนลู่ (hongsamut แปล). จอมซนเจ้าเสน่ห์. ห้องสมุดดอทคอม, ซีรี่ส์สามเสน่หา #1, 2 เล่มจบ, 480 + 518 หน้า, 2559.
รายการนิยายจีนแปลไทย
แต่งโดย เฉียนลู่ (Qianlv) แปลโดย ทีมงานห้องสมุด
แคว้นเฮ่าเยว่ที่อ่อนแอบังคับตระกูลชิงให้ส่งธิดาสามคน ชิงหลิง ชิงเฟิง และ ชิงโม่ ผู้โด่งดังด้านความงามและความสามารถเพียบพร้อมไปเป็นบรรณาการที่แคว้นฉงเยว่ที่มีอำนาจเหนือแคว้นทั้งหก เนื่องจากคนในตระกูลชิงถูกแคว้นฉงเยว่ฆ่าตาย คุณหนูตัดสินใจทำลายโฉมด้วยการกรีดหน้าแต่ก็ยังถูกส่งไปอยู่ดี ทั้งสามเลยผูกคอตาย ชิงเฟิงที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวที่สุดรอดผู้เดียว แต่อีกสองคนมีวิญญาณหญิงสาวจากโลกเข้าร่าง แน่นอนว่าที่มาไม่ธรรมดา จั๋วฉิง เป็นแพทย์นิติเวชอัจฉริยะ อาจารย์แพทย์ด้านจิตเวช และ กู้อวิ๋น เป็นสารวัตรสายสืบ แชมป์การต่อสู้ระดับเอเซีย และครูฝึกหน่วยพิเศษ ตอนที่ทั้งคู่กำลังปรึกษากันเรื่องคดีฆาตกรรมต่อเนื่องก็ถูกพามาอีกโลกด้วยจานที่มีจารึกยันต์แปดทิศซึ่งตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
เมื่อเกิดเหตุพยายามฆ่าตัวตาย ทหารที่คุ้มครองส่งสาวงามจึงมอมยาให้ไม่รู้เรื่อง เมื่อถึงนครหลวงฮ่วนหยางก็ส่งแยกไปทันที โดยชิงหลิงเข้าวังเป็นสนมของฮ่องเต้ เยี่ยนหงเทียน ชิงเฟิงไปจวนอัครเสนาบดี โหลวซี่เยี่ยน ส่วนชิงโม่ไปจวนแม่ทัพใหญ่ ซู่หลิง แต่จากความผิดพลาด ชิงเฟิงถูกส่งไปวังแทน ซึ่งเมื่อเป็นแบบนี้ชิงเฟิงเลยสวมรอยพี่สาวเพราะข่าวบอกว่าโหลวซี่เยี่ยนเป็นคนสุภาพอ่อนโยนน่าจะทำให้พี่มีความสุขได้ ซึ่งความก็แตกอย่างรวดเร็วเพราะที่เยี่ยนหงเทียนเรียกร้องชิงหลิงเนื่องจากเคยเจอมาก่อน ชิงเฟิงที่พยศไม่เบาถูกลดตำแหน่งเป็นนางกำนัล
จั๋วฉิงที่ไม่รู้เรื่องอะไรก็กลายเป็นชิงเฟิงอย่างที่คนรอบข้างบอก (โดยสรุปคืออ้างความจำเสื่อม) ระหว่างถูกส่งไปจวนโหลวก็ถูกชาวบ้านชิงตัวไปร้องทุกข์ให้ผู้มีพระคุณ เธอที่ยังงงๆ แต่ปรับตัวได้รวดเร็วก็ช่วยเขียนคำร้อง เมื่อมีการไต่สวนใหม่และคนตายในคุก เจ้าหน้าที่หวู่โจ้ (ชันสูตร) ไม่พบเบาะแส จั๋วฉิงที่ปลอมเป็นเด็กหนุ่มก็เลยช่วยชันสูตรศพให้อย่างผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เจ้ากรมอาญา ตันยี่หลัน ที่เพิ่งกลับมาและมีฝีมือเป็นที่เลื่องลือยังทึ่งสุดๆ (มีอ้างถึงเจ้ากรมอาญา ซ่งฉือ สมัยราชวงศ์ซ่งที่เขียนตำราว่าด้วยนิติเวชในปี 1235 และเป็นตัวเอกใน 'ยอดตุลาการราชวงศ์ซ่ง')
เมื่อจบเรื่องคืนความยุติธรรมให้ชาวบ้านแล้ว จั๋วฉิงก็พยายามหนีแต่ไม่สำเร็จ โดนองครักษ์ลูกครึ่งคนสนิท โม่ไป๋ ไล่ตามกลับมาได้ ซึ่งก็ดูแล้วยังไงก็ไม่มีทางไป เลยต้องไปจวนโหลว ซึ่งอัครเสนาบดีที่เริ่มสนใจก็ไม่ได้บังคับอะไร ตัวโหลวซี่เยี่ยนเองก็มีปม ไปไม่ค่อยดีกับพ่อ โหลวมู่ไห่ ที่เป็นแม่ทัพปราบตะวันตก และมารดารอง เซเซียนซิน ที่ไม่ถูกกับน้องสาว โหลวซี่หวู่ สุดท้ายยังเคยสัญญากับแม่ก่อนตายว่าจะมีภรรยาเดียวอีก
แน่นอนว่าเมื่อโหลวซี่เยี่ยนเลิศขนาดนี้ก็ต้องมีสาวชอบ แนวหน้าสุดคือ เยี่ยนหยูเซียน ที่เป็นองค์หญิงแห่งเฉาหยิน พระธิดาของไทเฮาตำหนักประจิม หยางจือหลัน ที่เป็นพระมารดาแท้ๆ ของฮ่องเต้ ขอเพิ่มเติมว่าการที่ไทเฮาตำหนักบูรพา โหลวซู่ซิน เป็นอาของโหลวซี่เยี่ยน ก็ทำให้ทั้งคู่รู้จักกันแต่เล็ก เป็นเหมือนพี่ชายน้องชายกันมาก และโหลวซี่เยี่ยนก็เป็นมือขวาที่ไว้ใจและให้ความสำคัญมากด้วย ถึงเยี่ยนหงเทียนจะติดใจชิงหลิง แต่ก็สามารถตัดใจได้เมื่อพบว่าสลับตัวและพบว่าโหลวซี่เยี่ยนชอบและชิงหลิงยังสามารถรักษาอาการหืดหอบของโหลวซี่เยี่ยนได้ ในงานเลี้ยงพระราชทานคณะทูตจากแคว้นเป่ยฉี ชิงเฟิงที่เป็นนางกำนัลรินสุราถูกหาว่าวางหาพิษ ชิงหลิงจึงชันสูตรศพกลางท้องพระโรงจนได้ความจริง ไม่นานก็ได้พบกับกู้อวิ๋น กลายเป็นคู่หูสืบสวนที่ยากจะหาใครเทียบ
เมื่อโหลวซี่เยี่ยนจีบเต็มที่ (ถึงมุกจะโบราณไปหน่อยนะ 555) เมื่อรวมกับความจริงใจ ความเข้าใจคุณสมบัติอื่นๆ นับว่าเลิศเกินกว่าจั๋วฉิงจะไม่ตะครุบไว้ อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนอยู่แล้ว ฉันไม่อยากสูญเสียความสุขที่สามารถคว้ามาได้ในตอนนี้เพียงเพราะความไม่แน่นอนพวกนั้นหรอก แต่ก่อนจะถึงวันงานก็มีเรื่องเช่นการลอบฆ่า ความรักของโหลวซี่หวู่กับพ่อบ้าน จิ่งซา คดีฆ่าควักหัวใจคุณหนู คดีทหารโดนฆ่าซึ่งโยงถึงการขโมยทองจำนวนมหาศาลจากคลังเมื่อสามปีก่อน (แหม แผนภาพที่ให้ดูมึนแฮะ) การจัดงานเฉลิมฉลองประจำสามปีที่จวนเสนาบดีมีแขกเป็นองค์ชายน้อยแคว้นเลี่ยวเยว่ ไป๋ยี่ ที่ถึงจะเด็กดูน่ารักแต่ก็แสบถึงที่สุด ฯลฯ และเมื่อ ดื่มเหล้าจอกนี้แล้ว เราสองจะร่วมจูงมือผ่านสุขทุกข์ไปด้วยกันตลอดชาติภพนี้ ...
ในภาพรวมถือว่าสนุกเลยล่ะค่ะ ทั้งโครงเรื่องและการดำเนินเรื่องที่มีรายละเอียดประกอบไม่ช้าไม่เร็วเกินเพื่อ ให้ความฟินมาได้เป็นเข่ง ถึงในบางช่วงจะรู้สึกไม่กระชับหรือรุ่ยๆ อยู่บ้าง ฮามาเรื่อยๆ อย่างตอนที่จั๋วฉิงเขียนคำร้อง คำวิจารณ์ของโหลวซี่เยี่ยนผู้รับหนังสือคือ การใช้คำถือว่ากระชับเฉียบคม แต่ตัวหนังสือกลับด้อยลักษณะอันควร ดูไม่สมส่วน อัปลักษณ์ผิดเพี้ยนเสียจริงๆ (ซึ่งจั๋วฉิงก็คิดประท้วงว่าลายมือหมอนะ 555) อ้อ ถูกใจเป็นพิเศษในส่วนเรื่องเงินกับกำมะถันด้วยเพราะส่วนใหญ่จะเล่นทดสอบครอบจักรวาล (แต่ไหงก็ยังหนีไม่พ้นล่ะ) ในด้านลักษณะทางสังคมศักดินาก็รู้สึกว่าสามารถหาสมดุลระหว่างอำนาจบารมี การเมืองและความยืดหยุ่นในบริบทของสภาพและความต้องการในการดำเนินเรื่องที่ใช้ได้ ถ้าจะเทียบกับเรื่อง 'ยอดกุนซือทะลุมิติ' ที่เป็นนิติเวชย้อนยุคเหมือนกัน ก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้มาแนวนิยายรักผู้หญิงอ่านนะคะ การชันสูตรไม่โหดเท่า แต่แหม ที่ย้อนยุคทั้งสองคนรู้สึกจะคุณสมบัติเยอะเกินไปหน่อย โดยเฉพาะเรื่องคุณหมอที่เมื่อคิดว่าต้องเรียนกันไม่ทราบกี่บอร์ด สั่งสมประสบการณ์อีก ทำให้รู้สึกว่าที่กำหนดอายุยี่สิบปลายดูจะน้อยไปนิดนะ
อ้อ มีแผนผังชื่อและความสัมพันธ์ที่ทำให้อ่านง่าย ตัวสะกดก็มีผิดตามปกติ ไม่ได้มากกว่าสำนักพิมพ์อื่น -_-" ส่วนเรื่องการแปลก็ถือว่าโอเคค่ะ มีผู้แปลร่วมหลายคน คือ เปรมสินี หยู ธันย์ วชิรณรงค์ ธนู รุ่งโรจน์เรืองฉาย และ วณิดา คารวะคุณ โดยแปลอ่านง่าย ไปได้เรื่อยๆ แต่ จขบ. ไม่รู้สึกอินจนเกิดความซาบซึ้งประทับใจที่ทำให้เป็นเรื่องในดวงใจได้ คือดูจากภาพรวมแล้วคิดว่ามีโอกาสมากนะคะ แต่เมื่ออ่านแล้วอารมณ์ที่ได้จากสำนวนทั้งยุคเก่าและใหม่รู้สึกไปไม่สุดทั้งสองข้าง เหมือนขาดเสน่ห์ของสำนวน ลีลา และความเฉียบคมอะไรบางอย่างไปน่ะค่ะ
คิดว่าการที่เรื่องที่แบ่งเป็นภาคและต้องปูพื้นตัวละครและปมต่างๆ ก็มีส่วนมาก แบบว่ารวมเป็นเรื่องเดียวหลายเล่ม เลยอาจจะทำให้สมดุลกว่า ซึ่งก็น่าเสียดายเหมือนกัน แต่ยังไงอีกสองเรื่องที่เหลือก็น่าติดตาม อยากรู้มากว่ากู้อวิ๋นหากำลังจากตัวชิงโม่ที่เล็กนิดนึงได้อย่างไร ถึงขนาดตีกันรถม้าเปิงเลยเชียว 555
[28/11/14, 02/10/21]
เรื่องนี้ดำเนินเรื่องไปพร้อมๆ กับ 'เพชรยอดคทา' สารวัตร กู้อวิ๋น ที่วิญญาณเข้าร่างน้องสาวคนเล็กอายุสิบห้า ชิงโม่ ถูกส่งไปให้เทพสงคราม แม่ทัพพิชิตแผ่นดิน ซู่หลิง ที่ทรงอำนาจโดยเฉพาะดวงตาพยัคฆ์น่าคร้ามเกรง มีพลังมหาศาล ที่จวนมีน้องรอง ซู่เริ่น เป็นกุนซือหน้าหยกที่เยือกเย็นฉลาดเฉลียวรูปโฉมงามจนพูดไม่ออกขนาดทำเอาหน้ามืด 555 แต่มีนิสัยชอบลองของไม่ให้เบื่อ ส่วนน้องสาม ซู่หยี่ เป็นรองแม่ทัพที่ออกจะมุทะลุไม่คิดมากแต่เปิดเผยตรงไปตรงมา
[xx/xx/xx]
สำหรับตอนสุดท้ายของน้องรอง ชิงเฟิง ก็เริ่มเรื่องตั้งแต่ตอนที่จุดเดียวกันคือตอนฆ่าตัวตาย ทำให้ชิงเฟิงถูกส่งเข้าวังในฐานะชิงหลิงที่ฮ่องเต้ เยี่ยนหงเทียน ระบุตัวไว้ เพราะเยี่ยนหงเทียนเคยได้ชิงหลิงช่วยไว้ครั้งหนึ่ง (กว่าจะพบว่าส่งผิดคน เรื่องของชิงหลิงกับโหลวซี่เยี่ยนก็เรียบร้อยแล้ว) แน่นอนว่าเมื่อถูกส่งตัวเข้าวัง ชิงเฟิงก็สู้เต็มที่ บวกกับยั่วโมโหเยี่ยนหงเทียนขึ้นอย่างมาก เลยถูกส่งไปทำงานหนักก่อนจะได้กลับมาเป็นพระสนมชิงผิน ถวายตัวอย่างดุเดือดเลือดพล่าน แล้วค่อยมีการเปลี่ยนแปลงร่วมเข้าช่วงชิงในวังหลังกับฮองเฮา ซินเยว่หนิง และ ฮุ่ยเฟย เจินเจิน
[xx/xx/xx]
ซีรีส์ สามเสน่หา: จอมซนเจ้าเสน่ห์
แต่งโดย เฉียนลู่ (Qianlv) แปลโดย ทีมงานห้องสมุด
แคว้นฉงเยว่มีสามคุณหนูที่เกิดจากพี่น้องสามสามที่เลื่องลือ คือ โหลวเฉิน องค์หญิง เยี่ยนหนิง และ ซู่ซู่ ซึ่งเป็นทายาทหญิงเพียงคนเดียวในรอบร้อยปีของตระกูลทหาร (มีทายาทชายลูกอาอีกสามคน) ทำให้เธอเป็นที่รักใคร่ของญาติพี่น้องอย่างรุนแรง ยกเว้นแม่ ชิงโม่ (หรือสารวัตร กู้อวิ๋น) ที่เลี้ยงให้แกร่ง อันมีผลให้ซู่ซู่นอกจากจะเก่งรอบด้านในฐานะทายาทตระกูลทหารแล้ว ยังถนัดวิชาตัวเบาดอกบัวสิบแปดก้าวเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถหนีท่านแม่ที่ดุอย่างกับเสือได้ ซู่ซู่ยังเป็นแก้วตาดวงใจของท่านอา เอ้าเทียน ประมุขเกาะรวมวิญญาณที่ให้พัดเกล็ดกิเลนเป็นอาวุธคู่กาย
วันหนึ่งเยี่ยนหนิงก็ชวนอีกสองสาวเดิมพันให้หาสุดยอดสมบัติในใต้หล้ามาแข่งกันอีกหนึ่งปีให้หลัง ซู่ซู่เลยไปชายทะเลตงไห่ แต่ยังไม่ถึงเวลาที่เรือเกาะรวมวิญญาณมา ซู่ซู่เลยฆ่าเวลาโดยปลอมตัวเป็นชายขึ้นเรือประมงของตระกูลฉิน แต่เมื่อเรือออกนอกเขตทะเลฉงเยว่ไปเล็กน้อยก็เจอโจรสลัดเกาะห้วนหลางที่พาชาวประมงทั้งหมดไปที่เกาะ
เจ้าเกาะห้วนหลางคือ อี้เหมิ่ง มีลูกชายคนโต อี้หู่ เป็นทายาท ลูกคนอื่นคือ อี้อู่ และฝาแฝดหญิงชาย ซางหน่วน และ ซางเหลิ่ง ที่เกิดกับลูกของเจ้าเกาะคนเก่า โม่ซาง ที่ตายตอนลูกสองขวบ สองคนนี้ไม่เป็นที่ชื่นชอบของอี้เหมิ่งเพราะทั้งไม่แน่ใจว่าเป็นลูกตัวและความหลังไม่อยากนึกตอนที่โม่ซางเป็นเจ้าเกาะ ซึ่งทั้งสองก็โดดเดี่ยวและไม่ชอยใช้แซ่ของพ่อ โดยซางหน่วนไม่มีวิทยายุทธ ฝึกวิชาแพทย์ และยังศึกษาวิชาพิษอย่างลับๆ ส่วนซางเหลิ่งใช้ทวนเงินที่เรียนจากจอมยุทธที่ไม่ทราบชื่อเมื่อสิบปีก่อน
เกาะห้วนหลางมีลักษณะเด่นคือหมอกลงจัดยกเว้นเวลาหนึ่งเดือนในทุกปี ทำให้เป็นเวลาที่อาจถูกโจมตีได้ เรื่องแปลกคือปีนี้แคว้นเลี่ยวเยว่ที่มีอำนาจนำในหกแคว้นคู่กับฉงเยว่ได้ส่งกองทัพเรือมาบุกเกาะห้วนหลางที่ห่างจากแคว้นไปมาก แถมแม่ทัพคือ ถานไถเย่เลี่ย คุณชายสี่ของตระกูลแม่ทัพที่มีชื่อพอๆ กับตระกูลซู่ โดยถานไถเย่เลี่ยมีชื่อว่าเป็นคนเก่งฟ้าประทาน อี้เหมิ่งจึงขอความช่วยเหลือจาก โม่หยวน หลานอาของโม่ซางให้ช่วยตั้งค่ายกลคุ้มครองเกาะ โดยทางโจรสลัดไปโจมตีเรือเพื่อมาใช้แรงงาน
งานนี้โม่หยวนได้ยันต์แปดทิศสีม่วง (หน้าตาเหมือนของตระกูลซู แต่วัสดุคนละอย่าง) ที่อยู่ในหินศักดิ์สิทธิ์และกุญแจหินศักดิ์สิทธิ์จากสุสานโม่ซาง แต่เหล่ายอดชายเจ็บกันหมด โม่หยวนพาซู่ซู่ ซางหน่วน และ เอ้าซัน (องครักษ์ที่เอ้าเทียนแถมให้) ไปบ้านตระกูลโม่เพื่อรับการรักษาจากหมอโพธิสัตว์ ฟงอีชิง ผู้มีชื่อสูสีกับหมอเทวดาที่เป็นอาจารย์ของชิงเฟิง ก่อนถึงบ้านตระกูลโม่ ซู่ซู่ก็ได้สัตว์เลี้ยงเป็นลูกสุนัขจิ้งจอกเงิน ปาเจียว ส่วนถานไถเย่เลี่ยก็ถูกพ่อ ถานไถฟง ส่งตัวตามมารักษา เมื่อทั้งหมดเข้าในเขตหวงห้ามพร้อมกับ โม่เจอ พ่อของโม่หยวนและผู้อาวุโสกลุ่มใหญ่ก็เกิดเรื่องยกใหญ่ ...
แล้วก็มีตอนพิเศษเรื่องความรักของซางหน่วนเมื่อกลับเกาะห้วนหลาง เรื่องของซู่เริ่นและอวี้ฮั่นตั้นตอนท้องสองที่ระลึกความหลังสมัยเด็ก บะหมี่วันเกิดสิบสองปีของซู่ซู่ และทำไมกู้อวิ๋นถึงชอบลงโทษให้ลูกสาวกระโดดกบก็ฮาดี
เรื่องนี้ก็มาเรื่อยๆ มีเหตุการณ์แฟนตาซีบ้างเป็นระยะ ฮามากในช่วงบ้านตระกูลซู่ เรื่องความรักเล่มแรกมีลุ้นพระเอกบ้าง แต่เล่มสองลอยมาแบบหยอดน้ำตาลเสียท่วม ระหว่างอ่านก็ฟุ้งซ่านพอสมควร เช่น บ้านตระกูลโม่อยู่ทางเหนือมาก ท่าทางคงต้องนำเข้าอาหารกันเยอะพอดู การปลูกหญ้าหลิงเฉ่าเหมือนเลี้ยงแมลงกู่ไม่เบา เขตต้องห้ามตระกูลโม่ก็แปลกดีนะ ไม่ทราบใครสร้างค่ายกลยุ่บยั่บ ซึ่งทำให้ จขบ. สงสัยตามเคยว่าเอาพลังงานขับเคลื่อนมาจากไหน หรือเป็นแบบใช้หนเดียวทิ้ง 555 สุดท้ายคือไม่เข้าใจอย่างยิ่งว่าทำไม่เอาคำโปรยไว้บนปกหน้า ดูไม่สวยเลยค่ะ สรุปคืออ่านเรื่อยๆ ไม่ประทับใจอะไรเป็นพิเศษนะคะ
[07/04/16, 09/04/16, 02/10/21]
ที่มา
[1] เฉียนลู่ (hongsamut แปล). เพชรยอดคทา. ห้องสมุดดอทคอม, ซีรี่ส์โฉมงามบรรณาการ #1, 2 เล่มจบ, 532 + 440 หน้า, 2557.
[2] เฉียนลู่ (hongsamut แปล). เพชรยอดขุนพล. ห้องสมุดดอทคอม, ซีรี่ส์โฉมงามบรรณาการ #2, 3 เล่มจบ, 516 + + 480 หน้า, 2558.
[3] เฉียนลู่ (hongsamut แปล). เพชรยอดบัลลังก์. ห้องสมุดดอทคอม, ซีรี่ส์โฉมงามบรรณาการ #3, 3 เล่มจบ, 476 + 456 + 500 หน้า, 2558.
[4] เฉียนลู่ (hongsamut แปล). จอมซนเจ้าเสน่ห์. ห้องสมุดดอทคอม, ซีรี่ส์สามเสน่หา #1, 2 เล่มจบ, 480 + 518 หน้า, 2559.
รายการนิยายจีนแปลไทย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น