บีต นักล่าอสูร - Sanjyo & Inada
เรื่อง บีต นักล่าอสูร (Beet the Vandel Buster)
เรื่องโดย Riku Sanjyo รูปโดย Koji Inada
โลกเข้าสู่ยุคมือเพราะแวนเดลหรือจอมภูตที่มีพลังความมืดอันแข็งแกร่งได้ออกมาปรากฏตัวบนโลก มีมอนสเตอร์เป็นอสูรรับใช้ แวนเดลมีเฮ้าส์หรือตำหนักมารเป็นฐานที่มั่น เจ้าตำหนักมารคือแวนเดลหน้ากระต่าย แชกกี้ ตำหนักมารจะขายอสูรให้แวนเดล มีการให้รางวัลแก่แวนเดลที่มีผลงานทำลายประเทศและล่าบัสเตอร์ และกำหนดระดับเป็นดาวฝังที่แขน แต่ผู้อยู่เบื้องหลังจริงๆ คือ ดาร์คเนสอายส์
มนุษย์ที่เป็นแวนเดลบัสเตอร์ต่อสู้ด้วยพลังนภาที่บงการพลังงานต่างๆ พลังขั้นสูงสุดที่เป็นไพ่ตายคือเขี้ยวอาคม มีการตั้งองค์กรดูแล สำนักงานใหญ่อยู่ที่แกรนซิสต้า มีสาขาที่เรียกว่าเฮาส์กระจายทั่วไป ซึ่งจะตั้งรางวัลและปรับระดับของบัสเตอร์ตามผลงานที่ได้ โดยเฮาส์จะปรับทับตราเลเวลหนึ่งที่อกบัสเตอร์ใหม่ แต่จะรอดหรือไม่หรือจะได้เลื่อนเลเวลเป็นอีกเรื่อง
บีต เป็นเด็กกำพร้าที่อาศัยกับครอบครัวในหมู่บ้านอันครูซที่มีพ่อ แม่ และลูกสาว โปอาล่า บีตต้องการเป็นบัสเตอร์และมีลักษณะพิเศษคือตื่นสามวันนอนหนึ่งวันซึ่งเหมาะสมกับการต่อสู้ยืดเยื้อ เมื่อหมู่บ้านถูกอสูรรังความจึงจ้างกลุ่มบัสเตอร์อันดับหนึ่งห้าคนของทวีป เช่น เซน่อน, ครูส, ไลโอ แวนเดลที่เป็นต้นเรื่องคือราชันย์แห่งโศกนาฏกรรม เบลโตเซ่ ระดับห้าดาว ได้จับบีตเป็นตัวประกัน ทำให้เซน่อนที่ความจริงเป็นพี่ชายบีทและพวกรวมพลังชีวิตที่เหลือไว้ในเขี้ยวอาคมแล้วส่งเข้าร่างบีตก่อนจะหายไปหมดทั้งแวนเดลและบัสเตอร์
บีตหายไปสามปี ระหว่างนี้ครอบครัวโปอาล่ามีปัญหา โปอาล่าเริ่มเป็นบัสเตอร์และไต่เลเวลถึงขั้น 21 จนเป็นที่เขม่นของแวนเดล มุเกน (สองดาว) วางแผนจัดการ แต่บีตก็มาช่วยได้ทันเวลาพอดี โดยบีตที่อยู่เลเวล 28 และใช้เขี้ยวอาคมของกลุ่มเซน่อนได้หลากหลายพร้อมกันถึงจะไม่สามารถควบคุมได้ดีก็ตาม บีตตัดสินในออกเดินทางไปจัดการแวนเดลให้หมดเพื่อยุติยุคมืด
บีตและโปอาล่าเดินทางไปเมืองท่าเรโดและจดสัญญากลุ่มนักสู้ ได้พบคนรู้จักคือบัสเตอร์ เสล็ด แต่ไม่นานเมืองก็ถูกบุกโดยขุนศึกเขียวจอมเจ้าเล่ห์ กรินิเด้ (หกดาว ไม่นานก็เลื่อนเป็นเจ็ด) แต่ถูกกลบรัศมีโดยแฟนธ่อม (ร่างแยกจากซากแวนเดล) ของเบลโตเซ่ที่ตอนนี้มีเจ็ดดาวและเป็นอันดับสูงสุด
บีตและโปอาล่าก็เข้าสู่แดนทมิฬอันเป็นเขตที่กรินิดี้ยึดครองและทำให้ไม่มีแสงแดดกว่ายี่สิบปีแล้ว มนุษย์ที่เหลืออยู่ในอาณาจักรโทรวาน่า (ถึงบอกว่าพึ่งพาตัวเองเรื่องอาหาร แต่ก็สงสัยมากว่าทำได้อย่างไร) บีตเผชิญกับเหล่าลูกน้องของกรินิเด้ ได้สมาชิกใหม่เป็นเพื่อนเก่า คิส และพบ มิลฟา (ระดับ 41) ที่เป็นบรอดบัสเตอร์ BB ที่ดูแลบัสเตอร์ไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง เมื่อพวกบีตไปถึงปราสาทก็จัดการกับกรินิเด้โดยมีแชกกี้และศาสตราจารย์อสูร โนอา (เจ็ดดาว) มาร่วมชม [เล่ม 7]
บีตเดินทางข้ามทะเลไปที่เบคาทรูตที่เคยเป็นเมืองอุตสาหกรรมสำคัญแต่ตอนนี้แทบไม่เหลืออะไร และได้พบกับครูสแห่งกลุ่มเซน่อนที่เสียความทรงจำ ระหว่างนี้แชกกี้ก็ส่งจดหมายถึงพวกเจ็ดดาวให้มาจัดการบีต โดยเรียงลำดับตามการจับฉลากคือ ยักษ์อมตะ กาโรนิวโด้, เจ้าแห่งท้องฟ้า บารอน, คมดาบหายนะ ฮิสตาริโอ, เบลโตเซ่ และ ปีศาจน้อย โรดิน่า ส่วนโนอาสละสิทธิ์ กลุ่มห้าคนคือบีท โปอาล่า คิส มิลฟา และเสล็ด เคลียร์ด่านกาโรนิวโด้ได้ที่เบคาทรูต เอาชนะบารอนผู้ดึงดาวออกจากร่างได้ที่ทุ่งร้างแซงมีล
กลุ่มของบีตพักรักษาตัวและฝึกฝีมือกับยอดฝีมือ BB คาร์ลอสซา ที่เป็นลุงของมิลฟา และบีตยังได้ดวลกับ BB อันดับหนึ่ง การ์เรล ที่เป็นลูกศิษย์ของคาร์ลอสซาเพราะการ์เรลแอบหึงด้วยความเข้าใจผิดว่าบีตมีความสัมพันธ์กับมิลฟา (ความจริงคนที่มิลฟาชอบคือคิส ส่วนบีตคู่กับโปอาล่า) แล้วพวกบีตก็เดินทางไปแกรนซิสต้าที่เป็นประเทศแม่ของบัสเตอร์ มีพ่อของมิลฟาเป็นราชาและแม่ทัพใหญ่ของบัสเตอร์เพื่อลบล้างความผิดของคิสที่ไปร่วมมือกับแวนเดล [เล่ม 14]
ตอนแรกพ่อของมิลฟาต้อนรับอย่างดีเพราะคิดว่าบีตเป็นแฟนมิลฟา เมื่อพบความจริงเขี้ยวอาคมก็จัดการพิพากษาชังคุกคิส ไม่นานเมืองถูกพวกแวนเดลบุก ฮิสตาริโอและไลโอที่กลายเป็นซอมบี้นำพวกลอบเข้าเมือง ทำร้ายบีตจนเจ็บสาหัสและจะพาตัวไป ถึง อัศวินแห่งปีก และโปอาล่าสามารถชิงตัวบีตกลับมาได้แต่ก็ตกไปในทางน้ำใต้ดิน ก่อนจะไปสู้ต่อที่เรือโจรสลัดของฮิสตาริโอ ส่วนคิสแหกคุกออกมาช่วยบีตและพาพวกมุ่งไปหาเรือโจรสลัด สเลดที่กลายเป็นมนุษย์ดัดแปลงสามารถคลายการควบคุมไลโอได้ ก่อนร่วมกันสู้ฮิสตาริโอที่สุดท้ายก็ถูกโบลติกแอ็กส์ของบลูแซมดูดเข้าไปในต่างมิติ
เรื่องนี้เป็นโชเน็นผจญภัยมาตรฐาน ลายเส้นสะอาดตา ถมดำแบบเรียบหรือใช้สกรีนค่อนข้างน้อย และให้อารมณ์ของ 'ดราก้อนบอลล์' พอสมควร จขบ. รู้สึกเรื่องการเก็บเลเวลก็แปลกๆ ดีนะ คือดูเหมือนว่าถึงจัดการอสูรระดับต่ำไปเรื่อยๆ ก็ดูเหมือนจะเพิ่มเลเวลได้ เพราะน่าจะขึ้นอยู่กับระดับอสูรที่สามารถจัดการด้วย และเรื่องที่เซน่อนที่ฝากน้องไว้กับคนอื่นแล้วไม่ติดต่อมาจนน้องไม่รู้ว่ามีพี่อยู่ด้วย ในภาพรวมอ่านได้เรื่อยๆ แต่เห็นชื่อพระเอกทีไร นึกถึงหัวบีทสีแดงขึ้นมาทุกที 555 หลังจากจบเล่ม 12 ก็หยุดยาวเพราะผู้เขียนป่วย กว่าจะออกอีกก็สิบปีให้หลัง แล้วก็ออกทีละเล่มอย่างช้า
เรื่องนี้ถูกทำเป็นอนิเมะ 'Beet the Vandel Buster' จำนวน 52 ตอน ออกฉายเมื่อปี 2004-2005 และ 'Beet the Vandel Buster: Excellion' จำนวน 25 ตอน ออกฉายเมื่อปี 2005-2006
ที่มา
[1] Riku Sanjyo & Koji Inada. บีต นักล่าอสูร (Bouken oh Beet). Siam Inter Comics, เล่ม 1-12, 2551-2552 (ต้นฉบับ 2002-2006).
[2] Riku Sanjyo & Koji Inada. บีต นักล่าอสูร (Bouken oh Beet). Siam Inter Comics, เล่ม 13-17, 2560-2565 (ต้นฉบับ 2016-2022).
รายการการ์ตูนญี่ปุ่น
เรื่องโดย Riku Sanjyo รูปโดย Koji Inada
โลกเข้าสู่ยุคมือเพราะแวนเดลหรือจอมภูตที่มีพลังความมืดอันแข็งแกร่งได้ออกมาปรากฏตัวบนโลก มีมอนสเตอร์เป็นอสูรรับใช้ แวนเดลมีเฮ้าส์หรือตำหนักมารเป็นฐานที่มั่น เจ้าตำหนักมารคือแวนเดลหน้ากระต่าย แชกกี้ ตำหนักมารจะขายอสูรให้แวนเดล มีการให้รางวัลแก่แวนเดลที่มีผลงานทำลายประเทศและล่าบัสเตอร์ และกำหนดระดับเป็นดาวฝังที่แขน แต่ผู้อยู่เบื้องหลังจริงๆ คือ ดาร์คเนสอายส์
มนุษย์ที่เป็นแวนเดลบัสเตอร์ต่อสู้ด้วยพลังนภาที่บงการพลังงานต่างๆ พลังขั้นสูงสุดที่เป็นไพ่ตายคือเขี้ยวอาคม มีการตั้งองค์กรดูแล สำนักงานใหญ่อยู่ที่แกรนซิสต้า มีสาขาที่เรียกว่าเฮาส์กระจายทั่วไป ซึ่งจะตั้งรางวัลและปรับระดับของบัสเตอร์ตามผลงานที่ได้ โดยเฮาส์จะปรับทับตราเลเวลหนึ่งที่อกบัสเตอร์ใหม่ แต่จะรอดหรือไม่หรือจะได้เลื่อนเลเวลเป็นอีกเรื่อง
บีต เป็นเด็กกำพร้าที่อาศัยกับครอบครัวในหมู่บ้านอันครูซที่มีพ่อ แม่ และลูกสาว โปอาล่า บีตต้องการเป็นบัสเตอร์และมีลักษณะพิเศษคือตื่นสามวันนอนหนึ่งวันซึ่งเหมาะสมกับการต่อสู้ยืดเยื้อ เมื่อหมู่บ้านถูกอสูรรังความจึงจ้างกลุ่มบัสเตอร์อันดับหนึ่งห้าคนของทวีป เช่น เซน่อน, ครูส, ไลโอ แวนเดลที่เป็นต้นเรื่องคือราชันย์แห่งโศกนาฏกรรม เบลโตเซ่ ระดับห้าดาว ได้จับบีตเป็นตัวประกัน ทำให้เซน่อนที่ความจริงเป็นพี่ชายบีทและพวกรวมพลังชีวิตที่เหลือไว้ในเขี้ยวอาคมแล้วส่งเข้าร่างบีตก่อนจะหายไปหมดทั้งแวนเดลและบัสเตอร์
บีตหายไปสามปี ระหว่างนี้ครอบครัวโปอาล่ามีปัญหา โปอาล่าเริ่มเป็นบัสเตอร์และไต่เลเวลถึงขั้น 21 จนเป็นที่เขม่นของแวนเดล มุเกน (สองดาว) วางแผนจัดการ แต่บีตก็มาช่วยได้ทันเวลาพอดี โดยบีตที่อยู่เลเวล 28 และใช้เขี้ยวอาคมของกลุ่มเซน่อนได้หลากหลายพร้อมกันถึงจะไม่สามารถควบคุมได้ดีก็ตาม บีตตัดสินในออกเดินทางไปจัดการแวนเดลให้หมดเพื่อยุติยุคมืด
บีตและโปอาล่าเดินทางไปเมืองท่าเรโดและจดสัญญากลุ่มนักสู้ ได้พบคนรู้จักคือบัสเตอร์ เสล็ด แต่ไม่นานเมืองก็ถูกบุกโดยขุนศึกเขียวจอมเจ้าเล่ห์ กรินิเด้ (หกดาว ไม่นานก็เลื่อนเป็นเจ็ด) แต่ถูกกลบรัศมีโดยแฟนธ่อม (ร่างแยกจากซากแวนเดล) ของเบลโตเซ่ที่ตอนนี้มีเจ็ดดาวและเป็นอันดับสูงสุด
บีตและโปอาล่าก็เข้าสู่แดนทมิฬอันเป็นเขตที่กรินิดี้ยึดครองและทำให้ไม่มีแสงแดดกว่ายี่สิบปีแล้ว มนุษย์ที่เหลืออยู่ในอาณาจักรโทรวาน่า (ถึงบอกว่าพึ่งพาตัวเองเรื่องอาหาร แต่ก็สงสัยมากว่าทำได้อย่างไร) บีตเผชิญกับเหล่าลูกน้องของกรินิเด้ ได้สมาชิกใหม่เป็นเพื่อนเก่า คิส และพบ มิลฟา (ระดับ 41) ที่เป็นบรอดบัสเตอร์ BB ที่ดูแลบัสเตอร์ไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง เมื่อพวกบีตไปถึงปราสาทก็จัดการกับกรินิเด้โดยมีแชกกี้และศาสตราจารย์อสูร โนอา (เจ็ดดาว) มาร่วมชม [เล่ม 7]
บีตเดินทางข้ามทะเลไปที่เบคาทรูตที่เคยเป็นเมืองอุตสาหกรรมสำคัญแต่ตอนนี้แทบไม่เหลืออะไร และได้พบกับครูสแห่งกลุ่มเซน่อนที่เสียความทรงจำ ระหว่างนี้แชกกี้ก็ส่งจดหมายถึงพวกเจ็ดดาวให้มาจัดการบีต โดยเรียงลำดับตามการจับฉลากคือ ยักษ์อมตะ กาโรนิวโด้, เจ้าแห่งท้องฟ้า บารอน, คมดาบหายนะ ฮิสตาริโอ, เบลโตเซ่ และ ปีศาจน้อย โรดิน่า ส่วนโนอาสละสิทธิ์ กลุ่มห้าคนคือบีท โปอาล่า คิส มิลฟา และเสล็ด เคลียร์ด่านกาโรนิวโด้ได้ที่เบคาทรูต เอาชนะบารอนผู้ดึงดาวออกจากร่างได้ที่ทุ่งร้างแซงมีล
[01/06/16]
กลุ่มของบีตพักรักษาตัวและฝึกฝีมือกับยอดฝีมือ BB คาร์ลอสซา ที่เป็นลุงของมิลฟา และบีตยังได้ดวลกับ BB อันดับหนึ่ง การ์เรล ที่เป็นลูกศิษย์ของคาร์ลอสซาเพราะการ์เรลแอบหึงด้วยความเข้าใจผิดว่าบีตมีความสัมพันธ์กับมิลฟา (ความจริงคนที่มิลฟาชอบคือคิส ส่วนบีตคู่กับโปอาล่า) แล้วพวกบีตก็เดินทางไปแกรนซิสต้าที่เป็นประเทศแม่ของบัสเตอร์ มีพ่อของมิลฟาเป็นราชาและแม่ทัพใหญ่ของบัสเตอร์เพื่อลบล้างความผิดของคิสที่ไปร่วมมือกับแวนเดล [เล่ม 14]
ตอนแรกพ่อของมิลฟาต้อนรับอย่างดีเพราะคิดว่าบีตเป็นแฟนมิลฟา เมื่อพบความจริงเขี้ยวอาคมก็จัดการพิพากษาชังคุกคิส ไม่นานเมืองถูกพวกแวนเดลบุก ฮิสตาริโอและไลโอที่กลายเป็นซอมบี้นำพวกลอบเข้าเมือง ทำร้ายบีตจนเจ็บสาหัสและจะพาตัวไป ถึง อัศวินแห่งปีก และโปอาล่าสามารถชิงตัวบีตกลับมาได้แต่ก็ตกไปในทางน้ำใต้ดิน ก่อนจะไปสู้ต่อที่เรือโจรสลัดของฮิสตาริโอ ส่วนคิสแหกคุกออกมาช่วยบีตและพาพวกมุ่งไปหาเรือโจรสลัด สเลดที่กลายเป็นมนุษย์ดัดแปลงสามารถคลายการควบคุมไลโอได้ ก่อนร่วมกันสู้ฮิสตาริโอที่สุดท้ายก็ถูกโบลติกแอ็กส์ของบลูแซมดูดเข้าไปในต่างมิติ
[17/01/23, 25/0/24]
เรื่องนี้เป็นโชเน็นผจญภัยมาตรฐาน ลายเส้นสะอาดตา ถมดำแบบเรียบหรือใช้สกรีนค่อนข้างน้อย และให้อารมณ์ของ 'ดราก้อนบอลล์' พอสมควร จขบ. รู้สึกเรื่องการเก็บเลเวลก็แปลกๆ ดีนะ คือดูเหมือนว่าถึงจัดการอสูรระดับต่ำไปเรื่อยๆ ก็ดูเหมือนจะเพิ่มเลเวลได้ เพราะน่าจะขึ้นอยู่กับระดับอสูรที่สามารถจัดการด้วย และเรื่องที่เซน่อนที่ฝากน้องไว้กับคนอื่นแล้วไม่ติดต่อมาจนน้องไม่รู้ว่ามีพี่อยู่ด้วย ในภาพรวมอ่านได้เรื่อยๆ แต่เห็นชื่อพระเอกทีไร นึกถึงหัวบีทสีแดงขึ้นมาทุกที 555 หลังจากจบเล่ม 12 ก็หยุดยาวเพราะผู้เขียนป่วย กว่าจะออกอีกก็สิบปีให้หลัง แล้วก็ออกทีละเล่มอย่างช้า
เรื่องนี้ถูกทำเป็นอนิเมะ 'Beet the Vandel Buster' จำนวน 52 ตอน ออกฉายเมื่อปี 2004-2005 และ 'Beet the Vandel Buster: Excellion' จำนวน 25 ตอน ออกฉายเมื่อปี 2005-2006
[01/06/16, 17/01/23]
ที่มา
[1] Riku Sanjyo & Koji Inada. บีต นักล่าอสูร (Bouken oh Beet). Siam Inter Comics, เล่ม 1-12, 2551-2552 (ต้นฉบับ 2002-2006).
[2] Riku Sanjyo & Koji Inada. บีต นักล่าอสูร (Bouken oh Beet). Siam Inter Comics, เล่ม 13-17, 2560-2565 (ต้นฉบับ 2016-2022).
รายการการ์ตูนญี่ปุ่น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น