จอมโหดกระทะเหล็ก - Saijo Shinji
เรื่อง จอมโหดกระทะเหล็ก! จอมโหดกระทะเหล็ก! R และ จาง!! สายเลือดกระทะเหล็ก
โดย ชินจิ ไซโจ้, บ.ก. เคย์โกะ โอยาม่า
เรื่องนี้ถือได้ว่าขึ้นแท่นเป็นการ์ตูนในตำนานด้านความพิสดารของอาหาร และถือได้ว่าบวมขึ้นไปเรื่อยๆ ตั้งแต่เล่มสอง (ในภาคสองและสามถึงความแปลกดรอปลงไปเยอะ แต่ยังโดดเด่นมาก) ทั้งความแปลกประหลาด ความเร็วของผลกระทบของอาหาร (ที่ยังไม่น่าย่อย 555) เวลาในการหมักเครื่องปรุงและทำอาหาร ขนาดหน้าอกของเหล่าสาวๆ และการลดขนาดรอยเอว แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ เนื้อเรื่องที่พระเอกอยู่ฝ่ายมืดหัวร่อฮ่าๆๆ ไปเรื่อยก็มีเสน่ห์ของอาหารให้ติดตามแบบ ... เอิ่ม บอกไม่ถูก แต่ถึงอย่างไร เมนูก็ดูน่าสนใจ หลายอันก็ดูน่าหิว และจำนวนมากน่าสยดสยอง
ที่น่าสนใจคือด้าน logistic ในการแข่งขันที่หาวัตถุดิบที่มีสัตว์เป็นๆ มาเตรียมให้ทั้งที่ไม่น่าคิดถึงจนถึงน่าจะปัญหากับอนามัยและสาธารณสุขเขต องค์การพิทักษ์สัตว์ ยัน CITES อย่างนกพิราบหลายสิบตัวที่ใช้ทำไข่เลือด ตะพาบน้ำ นกกระเรียน เหล้ากระดูกเสือ ฯลฯ มาให้เชือดกันสดๆ-_-" ซึ่งคนดูก็ประสาทแข็งกันไม่พอควรเลยละ
รายละเอียดหน้าตามีที่เขียนใน bloggang ดีๆ เยอะแล้วค่ะ อย่างของคุณชีริว ส่วน จขบ. ขอเขียนกันลืมในบล็อกการ์ตูนอาหาร 555 และพยายามรวบรวมลิงก์อาหารในเรื่องที่คนไทยลองทำตามอย่างน่าแตกตื่น! คือคุณ SchwedaKong ทั้งรวมชุดก็อย่างของและคลิป (ถ้าทราบลิงก์ก็ขอข้อมูลหน่อยนะคะ ^^) ทั้งนี้ จขบ. ไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของลิงก์ใดๆ มา แต่ขอชื่นชมในความสามารถและความกล้าลองอย่างยิ่ง อ้อ ภาคสองมีเพิ่มสูตรอาหารบางเมนูในเล่มท้ายเล่มด้วย ^^
จอมโหดกระทะเหล็ก!
ราชาอาหารจีน อากิยามะ ไคอิจิโร่ หายตัวเมื่อสิบกว่าปีก่อนไปสอนการทำอาหารอย่างโหดให้หลานชาย อาจิยามะ จาง ที่ภูเขากุนมะ เมื่อไคอิจิโร่ป่วยเป็นมะเร็งและลิ้นเสีย จึงฆ่าตัวตายและส่งหลานที่อายุ 16 (แต่หน้าท่าทางแก่เฮือก) มาทำงานกับคู่แข่งตลอดกาลคือจักรพรรดิอาหารจีน โกบังโจ มึซึจู (75 ปี แต่กล้ามเวอร์) เถ้าแก่ร้านโกบังโจแห่งกินซ่าที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่ง ร้านนี้ขนาดใหญ่ มีพ่อครัวกว่าสิบห้าคน นำโดยลูกชายที่เป็นหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ โกบังโจ ยาอิจิ (45 ปี) และพ่อครัวเอก ลี โคเอ จากฮ่องกง ลูกสาวผู้รับช่วงต่อคือ โกบังโจ คิริโกะ (16 ปี) ก็เป็นพ่อครัวฝึกหัดเพื่อหัดงานทุกอย่าง ส่วนพ่อครัวฝึกหัดคนล่าสุดและไม่มีฝีมือคือ โอโกโนงิ ทาคาโอะ (16 ปีอีกแล้ว)
คิริโกะมีอุดมการณ์ว่าอาหารคือใจ คิดถึงคนกินเป็นหลัก ฝีมือเฉียบ เช่นทำข้าวผัดทองคำ (ข้าวกับไข่) ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของร้านได้ เมื่อจางที่ถืออุดมการณ์อาหารคือการดวลมาถึงก็ทำข้าวผัดสไตล์ไคเซ็น เมื่อคิริโกะทำอาหารมาคาไน ผัดกระเพาะลูกวัวตับไก่ ให้พ่อครัวทาน จางก็ทำผัดตับหมูกับขึ้นฉ่าย แล้วก็แข่งกันไปเรื่อยๆ และทำให้เห็นจุดเก่งจุดอ่อนของแต่ละคน อย่างจางเสียท่าเวลาเจอทำอาหารมากๆ ในครั้งเดียวเพราะไม่เคย ส่วนคิริโกะหัดทำดอกไม้จากผักก็อาศัยการสังเกตหาทางเอง ส่วนมึซึจูและยาอิจิก็เคยแสดงทำเนื้อกระทะหมุน ระหว่างนี้จางและทาคาโอะก็สนิทกัน จางเคยพาทาคาโอะขึ้นเขาไปจับไก่และนกกระทาทำไก่แม่ลูกสุมไฟ
โอทานิ นิจิโด นักชิมเลวร้ายแต่ลิ้นทองมาร้าน ฝีมือขนาดดูและดมก็บอกได้ว่าทำอย่างไร ก็เจอไล่กลับด้วย น้ำซุปตุ๋นไข่ไก่ดำ (ไข่เค็ม ไข่เยี่ยวม้า) ของคิริโกะ ซุปมันสมองแกะตุ๋นใส่ชะอมของจาง (คลิป) งานนี้โอทานิเสียหน้ามาก เลยส่ง บิโต ริวจิ ที่เชี่ยวชาญซอส XO มาทำแฝดสดคั่วเต้าเจี้ยว XO (กุ้งมังกรและหอยพัด) เจอจางทำเนื้อวัวใบไผ่ มาปราบ
โอทานิเสนอให้ประธานสหพันธ์อาหารจีนแห่งญี่ปุ่นจัดการแข่งขันชิงแชมเปี้ยนอาหารจีนทั่วญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง (เล่ม 2-5) สำหรับพ่อครัวหนุ่มกว่าร้อยคน รอบแรกแบ่ง 24 สายเพื่อคัด 24 คน โจทย์คือทำซุป จางทำซุปเห็ดเวทมนต์จากเห็ดที่ออกฤทธิ์หลอนประสาทที่ทำเอากรรมการสลบและเริ่มชื่อเสียอย่างโด่งดัง ในรอบหนึ่ง จางเจอ ซาวาดะ เคอิ หนุ่มหล่อที่ใช้ไฟทำเนื้อย่าง จางเอาชนะด้วยข้าวตังไทเก๊กสองรส (เนื้อกับผัก) จากเนื้อหน้าแข้งเป็นการย้ำว่าฝีมือคือหัวใจสำคัญของอาหารจีน
รอบสองอาหารไก่เจอ คาวาฮาระ ยูจิ ที่ใช้เครื่องทำอาหารสูญญากาศทำครีบปลาครรภ์หงส์ชาสด (ไก่อ่อนต้มยัดไส้หูฉลามรสชา) ซึ่งจางโต้ด้วยเส้นไหมครรภ์หงส์ (ไก่อ่อนต้มยัดไส้วุ้นเส้น) ส่วนรอบสามทำอาหารจากเหง้าบัวเพื่อเข้ารอบชิงเจอเด็กดี โอมาเอะ โคดะ ที่จางทำเหง้าสีเพลิงเนื้อพุทรา (ซุปนึ่งเหง้าบัวพุทราจีนและลำใย) ที่ทำให้กรรมการมีปัญหากับอาหารของโคดะ เหง้าบัวผัดปุยเมฆ (ปลาไหลกับเหง้าบัวผัดกะทิ)
รอบชิงมีสามคน คือ คิริโกะ จาง และสาวลูกครึ่งจีนฝรั่งเศส เซเรนุ ยัง (อาหารคือความไม่สิ้นสุด) ที่ทำอาหารแบบใหม่นูแวล ชีนอวา ซึ่งโจทย์แรกคือแป้งหมี่ที่เซเรนุทำหมี่ผลึกแก้วเกาหลี (หมี่อิตาลีราดซอสเกาหลี) จางทำตอเสียะหมี่ใส่เครื่อง (เนื้อแผ่นน้ำข้น น้ำซอสทอด สามสดเข้มข้น และราดจิ๊กโช่วสูตรลับร้อยปี) ส่วนคิริโกะทำหมี่แช่เย็นสีปะการังแดงเพื่อเด็กที่ไม่ชอบกินผัก ส่วนรอบสองเป็นของหวานที่จางทำพายรูปนกพิราบใส้ไข่พิสดารหรือไข่เลือด (รีดเลือดจากนกเป็นๆ หลายสิบตัว) ส่วนคิริโกะทำแตงโมสามชั้น (อัลมอนด์เยลลี่ผลไม้ รังนกน้ำกะทิ ถั่วและแทพปิโอกะแช่เย็น) เซเรนุทำมะละกอพุดดิ้งปิ้งใส่ท่อรังไข่กบ ซึ่งผลคือคิริโกะชนะเฉียดฉิวแบบคนดูไล่จับนก ...
เซเรนุมาทำงานที่ร้านโกบังโจเพื่อฝึกฝีมือ เกิดเรื่องใหม่เมื่อ ฮิกิเมะ ดัน ที่ร้านส่งไปเรียนในเมืองจีนกลับมาแล้วนิสัยเปลี่ยนจะเปิดร้านอาหารจีนชินคิโรที่โฮเตลมิราจ หาเรื่องทำร้ายท้าแข่งกับจาง ฮิกิเมะทำหมูเปรี้ยวสมุนไพรใส่ผลไม้ จางทำหมูเปรี้ยวรสส้มยุซุ ต่อด้วยอาหารปลา คือ ฮิกิเมะทำปลาหลีฮื้อทอดราดเครื่อง (ทอดแล้วยังไม่ตาย จขบ. อย่างแหวะที่สุดในเรื่องนี้) ส่วนจาง (และทาคาโอะ ที่ต้องทำแทนเพราะจางเจ็บหนัก) ทำปลาอามาไดทั้งเกล็ด และทั้งสองก็พอสมน้ำสมเนื้อกันในการทำ สี่ชวงมั้วโบเต่าฮู่ (มีเนื้อเต้าหู้หน่อกระเทียม) และ เลี่ยวเก็กทึง (ไก่ยัดข้าวเหนียวตุ๋นหม้อดิน) ที่น็อคคู่ 555
ตามด้วยงานเสนออาหารใหม่ในร้านโกบังโจที่ไม่ทราบเป็นอย่างไร กลายเป็นเปาะเปี๊ยะหมด ที่เข้ารอบได้เสนอให้ลูกค้าก็มีปอเปี๊ยะหวานที่ห่อใส้ในแบบจีนและครีมคัสตาร์ดด้วยพาทฟิโรของเซเรนุ ปอเปี๊ยะรสเค็มใส้กุ้งที่เปลือกห่อทำจากเนื้อไก่ทุบซาซามิของคิริโกะ ปอเปี๊ยะใส่ซุปขาเป็ดของจาง และปอเปี๊ยะใส้ฟักทองและครีมปูของทาคาโอะ ที่ทำเอาทั้งสี่เดี้ยงเพราะต้องทำเยอะ โดยเฉพาะคิริโกะและจางที่ต้องออกแรงและยุ่งยากมาก
โอทานิเรียกเซียนมาร โกเงียว ไค ผมสาหร่ายที่เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรจีนหยินหยางธาตุห้าจากฮ่องกง มาเป็นหัวหน้าพ่อครัวที่ชินคิโร โอทานิส่งหัวหมูมาเป็นบัตรเชิญในงานเปิดร้าน จางและทาคาโอะจึงแต่งหญิงไปส่งหัวคนเท้งหมี่พ้วยใส้มันสมองเม็ดบัวอ่อนกลับไป ระเบิดเป็นศึกประลองอาหารของฤดูร้อน สวรรค์และนรก (เล่ม 8-11) งานนี้ต้องจางเท่านั้นจึงจะพอรับมือความหน้าไหว้หลังหลอกของโกเงียว
ศึกแรกคืออาหารบำรุงกระเพาะที่จางทำกระเพาะหมูต้มกับผลอี่ยิ้งและกระเพาะหมูผัดกระเทียม ส่วนโกเงียวทำมกเถี่ยวเชี้ย (พระกระโดดกำแพง?) ที่มีกลิ่นสุดหรู ศึกสองอาหารเย็นสบาย ซึ่งจางทำข้าวต้มยาจีน โกเงียวทำข้าวต้มใบบัวและน้ำตาลก้อน (น้ำตาลกรวด?) รอบสามอาหารเสริมพลัง โกเงียวทำพุทราจีนห่อปลาเขียกฮื้อและกุหลาบฮามานาซึดองหวาน จางทำซุปตะพาบน้ำกับไขสันหลังหมู
รอบสี่ทำอาหารอายุวัฒนะที่ล้วนแต่เลือกใช้สัตว์เป็นๆ จางใช้จิ้งจกยักษ์และอิวาทาเกะผัด แมงป่องทอดน้ำมัน เสริมด้วยนอแรดดำและน้ำตามังกร (นิ่วปลาวาฬ) ปรุงรสด้วยเหล้าดองจิ้งจก เหล้าดองกระดูกเสือ และเหล้าดองฟอสซิลไดโนเสาร์ (เอิ่ม ...) ที่ส่งผลรุนแรงจนเลือดกำเดาออก ส่วนโกเงียวใช้การทอดต้มนกกระเรียนเต่าทะเลและโสมเกาหลี (ถอนขนด้วยน้ำมันถ่านหิน จขบ. ว่ารายการนี้มีรสนิยมแบบเผาพิณต้มกระเรียนแบบตัวอักษรเลย -_-") ที่ทำให้มือกินเองไม่หยุด
รอบห้าเป็นอาหารใกล้สวรรค์ที่จางทำนั้มไฮ่ฮื้อชึง (หอยมือเสือ มะละกอ ฟักคินชิและทุเรียนอบ) ที่ทำให้โกเงียวใช้เหล้าน็อคกรรมการไปคนหนึ่ง (เวอร์เยอะเลย) ซึ่งทำให้ได้เจ้าของโรงแรมมิราจเป็นผู้ตัดสินทดแทน ได้ลองฮ่วยไจฉิ่ว หม้ออเวจี (หม้อนรกอีเห็นหน้าขาว) ด้วยคอนเซปต์สวรรค์กับนรกห่างกันแค่เส้นยาแดงผ่าแปด รสชาติความสุขคือการตาย ที่ทำให้โดนต่อยหน้าเกิดจลาจลเละตุ้มเปะ ...
จบงานนี้ก็มีผู้ท้าชิงมือสมัครเล่นคือคุณชาย ยุมิซุ สกูล ที่ล้มพ่อครัวมาแล้ว 99 คน (เล่ม 11-14) ครั้งแรกทำไข่ยัดใส้ซูเฟลที่เจอฮู้อ๊วงโหยตำรับกวางตุ้งเวอร์ชั่นอากิยามะ รอบสองหมูหันที่สกูลที่ออกลูกหมูทอดยัดใส้ธัญชาติ ส่วนจางทำเค่ายู่ตือ ลูกหมูย่างไฟแบบดั้งเดิม เป็นการเน้นถึงสามรสชาติยิ่งใหญ่ ชุ่ย หน่อ กุ๊ก (กรุบกรอบ นุ่มเหนียว เรียบเป็นมัน) รอบสามอาหารตับที่สกูลใช้ราวิโอลีห่อเห็ดร่างแหยัดฟัวกราราดซอสรสไวน์บัลซามิโก ส่วนจางทำเล้งกัวฮ้งเตียง (ตับไก่ขาวดองตับปลางัวเสริมไขมันสันหลังหมูแล้วปิ้ง จิ้มน้ำซุปไก่ตะเภาไวน์แดง) ที่เลียนแบบไม่ได้ ทำให้สกูลถูกน็อคเอาท์
หัวหน้าคนรับใช้ คาริอิ คาริน มารับช่วงต่อโดยส่งอาหารฟุจะ (มังสวิรัติ) เป็นสารท้าดวลอาหารคือความรู้ แถมด้วยซุปเปอร์พุดดิ้งที่เป็นคัสตาร์ดรสมะนาวเค้กสปองก์ในก้อนเดียว ซึ่งโจทย์แรกคืออาหารแกะที่จางทำเนื้อแกะเคี่ยวยู้อี่ฮู้เอี๊ยอวย (อาหารเนื้อแกะตะวันตกของจีนกับผลมะเดื่อ) เจอเนื้อแกะย่างรสเครื่องเทศและน้ำซุปมะเขือเทศ รอบสองคืออาหารปลานึ่งที่คาริอิทำปลาฟุกโกะนึ่งด้วยเครื่องทำอาหารกำหนดอุณหภูมิอย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนจางทำปลาอีคุดนึ่งที่สุดยอด
เพื่อโฆษณาการแข่งขันชิงแชมเปี้ยนอาหารจีนครั้งที่สอง โอทานิจัดรายการทีวีจะเชือดผู้เข้ารอบสุดท้ายในการแข่งคราวที่แล้ว โจทย์เป็นอาหารเป็ดที่ จูเลียโน ฮอนโง สาธิตทำอาหารฝรั่งเศสชื่อดังเป็ดทอดราดซอสเลือด เซเรนุทำอึ๊งฮ้อฮ้งก้วง หรือหนังเป็ดแช่เย็นและไส้กรอกเนื้อเป็ดซอสลูกท้อ ส่วนคิริโกะทำโอ๊วเตี๊ยบฮวยบู้ที่เป็นของคาวรสเค็มลูกพลัมยัดไส้เนื้อเป็ดต้มซุปและของหวานรสหวานที่เป็นลูกพีชยัดไส้เนื้อเป็ดต้มไวน์แดง ส่วนจางคือบะหมี่เป็ดเอเซียอาคเนย์ซุปเลือดและมันสมองเป็ด
ในงานแข่งขันชิงแชมเปี้ยนอาหารจีนทั่วญี่ปุ่นครั้งที่สอง (เล่ม 15-27) มีคนสมัครเกินสองพัน ทำให้ต้องคัดออกด้วยคำถามปรนัยที่เริ่มยากขึ้น ซึ่งจางก็ท้าทายคำตอบที่ถูกต้องของเวลาในการนึ่งขนมจีบด้วยการพิสูจน์จากการนึ่ง แช่แข็ง และนึ่งซ้ำ ด่านสุดท้ายคือทำข้าวผัดโดยจับฉลากเลือกข้าวเก่า ข้าวใหม่ ข้าวนำเข้า ซึ่งเซเรนุทำข้าวผัดราดหน้า หกเกี๋ยงช่าหวม, คิริโกะทำข้าวผัดทองเงินทรงไทเก๊ก กิมงิ้งช่าหวม, ทาคาโอะก็นิสัยเสียเข้ารอบด้วยฝีมือคนอื่น (รับอิทธิพลจากจางมากขึ้นทุกที) -_-" จางที่ทำข้าวผัดราดซุป เสียงทึงช่าหวม และสามารถสร้างความวิบัติให้คนรอบข้างตามปกติ แต่สกูลผ่านด้วยข้าวผัดไข่ยัดข้าว, ซาซาบี ฮอนโง ทำข้าวผัดปลาหมึกตากแห้ง และ โครันเซ (ว่าที่แปะลั้งอ๊วงผู้ปกครองวงการอาหารจีนในเอเซีย อาหารคือการล่วงหน้าครึ่งก้าว) ทำข้าวผัดห่อใบบัว สรุปเหลือ 32 คน
รอบจริงใช้กรรมการธรรมดาห้าสิบคนให้ความอร่อย กรรมการพิเศษห้าคนให้ด้านข้อมูล การชิม ความงาม กลิ่น และสารอาหาร รวมร้อยคะแนน รอบแรกคัดออกครึ่งหนึ่งเป็นอาหารเต้าหู้ คิริโกะทำมิลเฟอเต้าหู้กับฟองเต้าหู้ราดซอสกุ้ง, ซาซาบีทำเต้าหู้กลิ่นทรงโลงศพทอดยัดไส้ครีม, โครันเซทำเป็ดรมควันกับเต้าหู้ห่อทอด, เซเรนุทำแอปเปิ้ลนึ่งสอดใส้เต้าหู้ใส่เกี๊ยมตั่งและซุปน้ำเต้าหู้หวานใส่เห็ดหูหนูขาวแป๊ะก๊วย, สกูลทำเนื้อปูกับเต้าเจี้ยวปูหูฉลามห่อแปะเฮียะนึ่ง, จางทำเส้นหมี่ราดน้ำซุปเต้าหู้ปลาอิชิไดในหม้อดินหินย่างไฟ, ทาคาโอะทำเต้าหู้ปลาหมูต้ม
รอบสองให้จับแข่งเกี๊ยวซ่าทีละคู่ จางทำเกี๊ยวซ่าน้ำไส้หมูใส่หัวไชเท้าราดหน้าเกี๊ยวซ่าทอด, ริกุ เอ็นจากุ ทำเกี๊ยวซ่าน้ำไส้หมูปลิงทะเล, ริกุ คันโอ ทำเกี๊ยวซ่านึ่งทอดไส้แป๊ะฉ่าย เนื้อบด หอมจีน กุ้ยฉ่าย, จุน โทโมฮิเดะ ทำเกี๊ยวซ่านึ่งกุยช่าย, ริกุ เรกะ ทำเกี๊ยวซ่าน้ำไส้พุทราจีนกับเยลลี่หยาดรักแบบเย็น, ทาคาโอะทำอะไรไม่ชัดเจน, คิริโกะทำเกี๊ยวซ่าปักกิ่งไส้ไข่กับกุยช่าย, ซาวาดะทำเกี๊ยวซ่าที่เป็นไส้กรอกยาวทอด, โครันเซทำเกี๊ยวซ่าทอดรูปรังผึ้งห่อระเบิดสามชั้น และไซโค ทาวารายะ โทโมซึงุ ที่ทำเกี๊ยวซ่านึงปลาหมึกกระดองจนถอนตัว, เซเรนุทำภูเขาเกี๊ยวซ่าทอดราดซอสไอศกรีมวานิลลา ไส้ผลไม้ตากแห้งไขมันสันหลังหมู, คุมะ เก็น ทำเกี๊ยวซ่าปลาวาฬราดน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวเปรี้ยว, ซาซาบีทำเกี๊ยวซ่าน้ำเนื้อสีข้างลูกวัวราดซอสเขียวกับดำ, ฟุจิตะ คันอิจิ ทำเกี๊ยวซ่าสมุนไพร, สกูลทำเกี๊ยวซ่าปลาทองไส้หูฉลามกุ้งน้ำซุปชางตุง และคาวาฮาระทำเกี๊ยวซ่าปลาทองไส้เนื้อไก่ตับปิ้งน้ำซุปเยลลี่ (สองคนนี้เอาเกี๊ยวซ่าลอยน้ำในอ่างปลาทอง 555)
รอบสามจับคู่แข่งเครื่องปรุงรส สกูลใช้เต้าเจี้ยวจากพิสทาจิโอใส่เนยกามังแบร์และเนยแข็ง ทำเป็ดย่างตำรับกวางตุ้งรสพิสตาจิโอ, ซาซาบีให้เมล็ดกาแฟทอดปั่นทำเนื้อจรเข้ผัดเครื่องปรุงกาแฟ, เรกะทำเนื้อขาอ่อนไก่ทอดนุ่มผัดซอสกล้วย, คิริโกะทำมันสมองลูกวัวคลุกน้ำจิ้มอาโวกาโด, คันโอทำปลากะรังหนูหมักเหม็นแบบฟุนะซูชิใส่น้ำปลา (น่าอร่อยนะ) ทำนกกระทานึ่ง, จางใช้น้ำมันราสีแดงสดที่ไม่เผ็ดจากพริกเกาหลีทำข้าวผัด, เซเรนุใช้เต้าเจี้ยวข้าวโพดทำปลาจะละเม็ดห่อชับแป้งทอด โครันเซทำน้ำมันราไร้สีจากพริกเขียวที่เผ็ดสุดยอดทำกุ้งมังกรผัด
รอบสี่ทำอาหารปลาฉลามที่มีกลิ่นแอมโมเนียเมื่อตาย ทำให้ทั้งหมดต้องเชือดกันสดๆ และหาทางจัดการกับผิวหนัง ซาซาบีทำไก่งวงย่างผัดไส้เนื้อปลาฉลามสับราดซอสผลไม้, จางทำปลาฉลามทอดทั้งตัวราดหน้าถัวงอกสอดไส้หูฉลามและเนื้อฉลามบด (แหวะสุดๆ จากการเอาเครื่องในออกเหลือหัวใจไม่ให้ตาย แล้วทอดทั้งเป็น), คิริโกะทำข้าวสวยเนื้อและไข่ปลาฉลามราดหน้าหนังปลา ตับปลา เกล็ดปลา ซุปปลา ฯลฯ ส่วนโครันเซทำของว่างเนื้อวัวเนื้อปลาฉลามแช่แข็ง หม้อไฟปลาฉลาม หัวใจหม้อไฟ และของหวานโป่ยป้อหวมปลาฉลามสับห่อไส้นึ่ง
รอบชิงเป็นอาหารนกกระจอกเทศต้อนรับศตวรรษที่ 21 ซึ่งต้องฆ่านกอย่างไม่เครียด (ศึกหนักสำหรับจางที่รังสีอำหิตมากจนเข้าใกล้นกไม่ได้) และยังต้องปรุงเนื้อที่ไม่มีรสให้มีเอกลักษณ์ คิริโกะชูธีมเกลือ ทำเนื้อนกกระจอกเทศกับเกลือของกุ้งและผักผลไม้และพุดดิ้งเลือดสลับชั้นเป็นรูปแบบขนมมิลเฟอ พันใบบัวแล้วปิ้งในเกลือหิน โครันเซทำใช้เนื้อนกกระจอกเทศบด ไข่ เหง้าบัว และเครื่องปรุงอื่น ทำเหง้าบัวยัดไส้ เป็นอาหารที่อ่อนนุ่มและกรอบสองจานสำหรับคนในอนาคตที่ขากรรไกรแย่ลงและคนปัจจุบัน ส่วนจางก็ทำอาหารเพื่อการเอาชีวิตรอด การ์แพชชิโอเนื้อนกกระจอกเทศดิบราดหน้าด้วยไส้เดือนแมลงปอด้วงทอดน้ำมัน เพิ่มรสเนื้อจืดชืดด้วยหนอนแมลงวันอันลือลั่นจนงานกระจุย ไม่มีผู้ชนะเลิศเพราะต้องเลิกกลางคัน
เถ้าแก่มึซึจูออกมาจะดวลกับทั้งสาม แข่งเกี๊ยวซ่ากับโครันเซ แฮ่กึ๊นกับคิริโกะ และบะหมี่กับจาง โอทานิขอเป็นกรรมการ แต่ตายกระทันหัน ในงานศพเผยโฉมย่าของจาง เม้งฮุย ที่พาหลานไปฝึกที่จีน คิริโกะเลยขอตามไปด้วย ใช้เวลาถึง 3 ปีถึงกลับมาพร้อมของนำเข้าที่เป็นของสงวนและสัตว์อนุรักษ์ ... และร่างฟื้นสองตนในภูเขากุนมะในตอนพิเศษ 'เอนดิ้งน่าสะเทือนขวัญ' (ความจริงมีเรื่องเติมหน้า 'สมาคมพิสดาร' ที่นักเรียน ม. ปลาย เจอผีแฟนสาวหลอกหลอนจนไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมชั้นที่สามารถจับวิญญาณมาใส่ในของได้)
จอมโหดกระทะเหล็ก! R
เริ่มด้วยจางทำซาลาเปาไส้ปูซอฟต์เชลล์ทอดมอมเมาพ่อครัวที่กำแพงเมืองจีน เรื่องจริงคือหลังจางกลับจากเมืองจีนและหายไปครึ่งปี ก็โดนคุณหนู เอริซ่า แห่งบาทอรี่ฟู๊ดส์เจ้าของเครือข่ายร้านสิบสามมังกรที่อเมริกาทาบทาม (หมายหัว) ให้มาร่วมงาน แต่จางไม่ยอมเข้าร่วมเลยโดนทำร้ายเจ็บหนัก แถมสมุดอากิยามะโน๊ตที่จดสูตรแต่รุ่นปู่ก็โดนขโมยไป เมื่อร้านสิบสามมังกรเป็นแบ็คให้โอทานิจัดศึกสุดยอดอาหารจีนชิงถ้วยบิ๊กโอทานิ นิจิโด (เล่ม 1-5) จางจึงมาเข้าร่วมเพื่อทวงถามสมุด
งานนี้ใหญ่มากเพราะรางวัลอย่างแพง มีรอบคัดเลือกเพื่อหาคนเข้ารอบจริง 16 คน (รางวัลคนละหนึ่งล้านเยน) รอบต่อไปก็เพิ่มรางวัลขึ้นเรื่อยๆ จนถึงรอบชนะเลิศก็ร้อยล้านเยน ตัวอย่างงานที่เข้ารอบ เช่น ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ้ว (ยากิโซบะปรุงซีอิ๊วดำน้ำตาลเม็ด) ของ โอทานิ มิซึกิ (ลูกเลี้ยงโอทานิอายุ 16 ปี) ส่วนในสิบสามมังกร บลู เมนาล ทำก๋วยเตี๋ยวปรุงรสยืดเส้นด้วยมือ จางอยู่ในกลุ่มตันตันเม็ง/ตาตาหมี่ ที่คนของสิบสามมังกรทำแบบหน้าไอศกรีมโรยงาคั่ว และ เครื่องปรุงน้ำจิ้มงาน้ำซุปใส มีคนนอกทำแบบไม่มีเส้น ส่วนจางทำเถี่ยวลักเจียวไล้ตาตาหมี่ (เส้นก๋วยเตี๋ยวธรรมดาและงาดำหน้าพริกเคิร์ดชิลลี่) เข้ารอบฉลุยตามฟอร์ม
รอบจริงใช้กรรมการสิบคน มีคนเข้ารอบ 16 คน โดยรอบแรกทำอาหารไข่ เลือก 8 คนแรกที่ได้คะแนนเกิน 80 คะแนน ที่ทำก็มี ค็อกเทลยาคอนเย็นรวมมิตรไข่คาแทตมุริ แซลมอน เฮอร์ริ่ง คาร์เวียร์ (แจ๊ค โอเคนต์ สิบสามมังกร), ไอศกรีมพิเศษสองชนิดพร้อมไซโครเฟรนช์โทสต์แอปปริคอตซอส (ซาวาดะ), นมกระบือตั้งเลี้ยงดองกับไข่เค็มผัดนมสด (โตโมฮิเดะ), โซบะผสมหมี่ไข่นกกระจอกเทศกับคาราสึมิ (มิซึกิ), ไข่เยี่ยวม้าทอดกับมะเดื่อฝรั่งราดซอสไข่ชิชาโมะ (บลัด อัลการ์ด สิบสามมังกร), ขนมไหว้พระจันทร์ไส้คัสตาร์ด (โซฟี โรเทนเบิร์ก สิบสามมังกร), ไข่ขาวไส้เนื้อหอยตากแห้ง (อารี สตรีทอย สิบสามมังกร), ขนมจีบสองรสไข่ผัดใส่หูฉลามกับผัดหอยเม่นและเนื้อปู (บลู เมนาล สิบสามมังกร), มีลีเฟอแบบจีนสอดไส้เนื้อหมี (อาบุคุมะ เคนจิ), ไข่ขาวผัดนม (เปจิเอ คาตาริ สิบสามมังกร), ไข่ในถ้วยชานึ่งสามรส (ลูซี่ วอลเตอร์ สิบสามมังกร), เนื้อไก่ห่อใบบัวปรุงรสไข่เจาตั่ง (จาง), ไข่ขาวนึ่งยัดไส้หูฉลาม (คาจิว ไพรส สิบสามมังกร), โฮบิลอนทอดผ้ดเผ็ด (ยูดี วูลฟ์แมน สิบสามมังกร), ผัดรสอ่อนไข่ขาวกับเนื้อปลาขาว (แมด เอดการ์ สิบสามมังกร) และ ไก่ต้มน้ำซุปรังนกยัดไส้คินคัง (ฟูจิตะ)
ระหว่างรอแข่งรอบสอง จางทำท่าน็อคเอาท์จากการบาดเจ็บ คิริโกะ เซเรนุ และโอโคโนงิจึงช่วยทำแผลและบรรเทาอาการด้วยซุปตะพาบน้ำใส่ซังยากุกับเนื้อลำไย เนื้อวัวทอด และข้าวต้มมันเทศกับไข่แดง (สรรพคุณเวอร์ดี) ส่วนรอบสองจับคู่แข่งอาหารกุ้งที่ออกมาเป็นกุ้งผัดเผ็ดกันหมด โดยโซฟีทำกุ้งผัดเผ็ดทรงฮารุมากิพร้อมมายองเนส (ฮามากกับรูปประกอบมารี แอนโตเน็ตใช้ตะเกียบ), มิซึกิทำกุ้งผัดเผ็ดแบบพินโจสห่อคาไดฟ์พร้อมซอสพริก, บลัดทำกล้วยกับกุ้งกล้วยผ้ดซอสพริกใส่ผาลัวะเจีย, บลูทำกุ้งมังกรผัดซอสพริกห่อเนยเอชิเร่คลุกเห็ดทรัฟเฟิล, อารีทำกุ้งผัดเผ็ดสีเขียวน้ำมันเครื่องเทศ, จางทำมันสมองกุ้งกุลาลายทอดในเปลือกกับน้ำมันกุ้ง (จขบ. ว่าน่าจะเลี่ยนมากนะ), จุนทำกุ้งออมาร์ใส่กุ้งซากุระราดซอสพริกกลิ่นญี่ปุ่น และซาวาดะทำกุ้งผัดเผ็ดซอสมะขือเทศสีเหลือตกแต่งแบบเชอร์เบ็ต
รอบชนะเลิศเหลือสามคน โจทย์อาหารเนื้อวัวออสซี่ ซึ่งบลูทำเนื้อลูกวัวห่อ ตับ/หนวดข้าวโพดทอด หอยนางรม/ไข่ปลาเฮอร์ริ่ง, มิซึกิทำข้าวตังกับเนื้อผัดพริกสี่ชนิด ส่วนจางทำเนื้อวัวราดซุปใส่ก้อนข้าวเหนียวกลิ่นไวลด์ออสเตรเลีย เป็นอันจบการแข่งถ้วยบิ๊กโอทานิ แต่ของจริงไม่จบเพราะเป้าหมายของจางคือสมุดโน๊ต ทำให้เกิดการแข่งถ้วยอากิยามะ (ที่ใช้รางวัลจากตอนที่แล้ว) ระหว่างจางและตัวแทนสิบสามมังกร คือ ซาโตดะ จูโซ ที่มีฉายาพ่อมด และ เลโอนาโด ดา วินชี่ แห่งวงการอาหาร (อาหารคือการก้าวเดินทุกคืนวัน) แต่สามปีมานี้ถูกจ้างมาทำอาหารให้เอริซ่าที่กินยากมาก มีประวัติสร้างเมนูหลากหลาย เช่น ฟริตเตอร์ชั้งโกย แซลมอนมูส กาแฟไม่หก ซูชิมูสซีอิ๊ว เกร็ปฟรุ๊ตและมิราเคิลเบอร์รี่ตัดเปรี้ยว
ในการแข่งถ้วยอากิยามะ (เล่ม 5-7) เป็นการดวลด้วยคะแนน โจทย์แรกทำหมูเปรี้ยว ซึ่งจางทำหมูเปรี้ยวยัดไส้กระเพาะหมูน้ำส้มสายชูดำหมักอู่เหมย ส่วนซาโตดะทำหมูเปรี้ยวเส้น น้ำส้มสายชูเครื่องเทศในฟองลูกอมโคล่า รอบต่อไปคืออาหารเมนูน้ำที่ซาโตดะทำปลาแมงป่องต้มอะความพัททัวร์พร้อมเชอร์เบ็ตแอปเปิ้ลในน้ำ ส่วนจางทำปลาไหลมอเรย์ต้มเผ็ดในน้ำอ่อนและแมงกะพรุนจิ๋วเคล้าผัก
ตอนต่อมาคือ สกูลจะบุกตลาดอาหารแช่แข็งโดยมีพ่อครัวในสังกัดคือ บิโต ฮิกิเมะ และ โกเงียว ส่วน คิริโกะที่เป็นเถ้าแก่เนี้ยคนใหม่ของร้านโกบังโจ ให้จางกลับมาทำงานอีกครั้งเพื่อกระตุ้นพ่อครัวในสังกัด ซึ่งจางก็เริ่มทันทีโดยท้าทำฮ้วยอวยเน็กที่เป็นอาหารพื้นบ้าน ของร้านโกบังโจทำแบบที่คนญี่ปุ่นชอบคือเนื้อหมูต้มหั่นสไลซ์ปรุงรสเผ็ดหวาน จางทำแบบดั้งเดิมคือเอาเนื้อต้มสุกมาผัดจนพลิกแอ่นปรุงรสแล้วคลุกผัก คิริโกะทำฮ้วยอวยเน็กรสเค็ม โอโกโนงิทำฮ้วยอวยเน็กรสช็อกโกแลตโดยใช้พริกไทยดำและราสเบอรี่ตัดหวาน พอถึงจุดนี้ทีมสกูลโผล่มาแจม ฮิกิเมะทำฮ้วยอวยเน็กโดยใช้ข้าวกล้องงอกแทนผักเสิร์ฟฟร้อมซุปจากน้ำลวกหมู โกเงียวทำฮ้วยอวยเน็กพลูคาวกับเนื้อลูกหมูตากแห้ง บิโตทำฮ้วยอวยเน็กสมองหมูรมควันซอส จางจึงเกทับด้วยฮ้วยอวยเน็กโหนกอูฐ
รอบจริงเป็นอาหารหูฉลามในงบพันเยนที่ทั้งหมดล้วนใช้แนวอาหารหนึ่งช้อน บิโตทำไอศกรีมกลิ่นซอส XO เป็นของว่างก่อนอาหาร โกเงียวทำหูฉลามบางเฉียบบนดังโงะเหง้าบัว ฮิกิเมะทำหูฉลามสามเส้นขัดให้เป็นรอยเพื่อดูดซึมรสชาติแล้วชุบโกยย้งใส่คินกะแฮม จางทำหูฉลามไส้ปูในเปลือกแฮ่กึ๊น นับเป็นการดวลจบภาคที่เห็นถึงเงินเดือนต่ำเตี้ยเรี่ยดินของจาง 555
จาง!! สายเลือดกระทะเหล็ก
ร้านโกบังโจในกินซ่า ยังมี โกบังโจ ยาอิจิ เป็นพ่อครัวใหญ่ คนครัวมี ยูมิซุ อัน และ ยูมิซุ รุย (17 ปี) ลูกสาวของ ยูมิซุ คาริน แห่งยูมิซุโภคภัณฑ์, โอโกโนงิ มาริโอะ (18 ปี) ลูกของโอโกโนงิ ทาคาโอะ และ เซเรน หยาง จากร้านซีดราก้อน (มีน้องสาวแฝดสี่ คิเคียว สึวาบูกิ ยูซุ สัตสึกิ) และที่มาใหม่คือ อากิยามะ จาง (16 ปี) ลูกชายของโกบังโจ คิริโกะ และ อากิยามะ จาง (นึกไม่ออกว่าจะมีความรุนแรงในครัวกันขนาดไหน)
โอทานิ นิจิโด ที่ตอนนี้เป็นเจ้าของร้านเกี๊ยวน้ำเคียวคุโทจิจูกะจูโบ (Far East Chinese Kitchen) ได้ให้ โอทานิ เซ็นเน็น (25 ปี) เป็นผู้จัดการ จางมากินเกี๊ยวกุ้งชีสในซุปมะเขือเทศแล้วท้าประลองอาหารแห่งจิตใจกับเซ็นเน็น โดยทำเกี๊ยวไขกระดูกสุยเปาเจ่าจือ ผลสรุปคือเซ็นเน็นถูกโอทานิลดตำแหน่งไปทำความสะอาดห้องน้ำสามปีฐานเปลี่ยนแป้งเอง
เซ็นเน็นกลับมาท้าทำหมูเปรี้ยวหวาน โดยทำหมูผัดเปรี้ยวหวานสีเหลืองราดซอสเลมอน ส่วนจางทำหมูเปรี้ยวหวานผัดน้ำส้มสายชูดำญี่ปุ่น แข่งโดยการออกเมนูให้ลูกค้า จางเลยออกเมนูเพิ่มมีหมูผัดเปรี้ยวหวานก้อน หมูผัดเปรี้ยวหวานขาว หมูผัดเปรี้ยวหวานแดง หมูผัดเปรี้ยวหวานเหลือง แล้วยูมิซุโภคภัณฑ์ออกซีรีส์อาหารแช่แข็งที่ขายดีถล่มทลาย (แบ่งยอดขายให้ 15%) นอกจากนี้โทโชเม็ง (ตอเซี้ยะหมี่) ของจางฮิตมาก ทำให้นึกถึงตอนสิบขวบที่แม่สอนสั่งในฐานะผู้สืบทอดร้านอย่างน่าสยอง และตั้งใจจะชนะไอ้พ่อบ้าให้ได้
โอทานิส่งคนจากสาขานิวยอร์คมาสู้โดยให้ไปท้าที่ร้านโกบังโจ รอบแรก จางกับ โอทานิ ทาเทวากิ แข่งความเร็วในการทำโทโซเม็ง จางชนะขาด รอบสองทำโทโซเม็ง จางทำหมาล่าจูเสวียเตาเซี่ยวจ้าเมี่ยน (เชือดลูกหมูในร้านเลย) เอาชนะมาริโอะที่ทำพายตะพายโทโซเม็ง เจี่ยอวี๋เสวี่ยชู่ผี (ให้ตะพาบที่มีไข่และเชือดในร้านอีกตัว) ส่วน โอทานิ มอนโด ที่ทำโทโซเม็งเจ็ดสีแบบอิตาเลียน ไฉ่หงเซ่ออี้ต้าลี่เมี่ยน
โอทานิขอให้ประธาธานสมาคมอาหารจีนแห่งญี่ปุ่น ไซ โนบุโนริ จัดแข่งขันราชาอาหารจีนแห่งญี่ปุ่น รุ่นสองที่เข้าแข่งคือ โก เงียวกิ (สาวโลลิ 21 ปี) ลูกสาวเซียนโกเงียว จากร้านโกบังโจสาขาฮ่องกง ที่ถนัดใช้ยา, อาบุคุมะ มีช่า (16 ปี) ไอดอลลูกสาวจอง คุมะ เก็น หรือ อาบุุมะ เก็นจิน ร้านโทโดโอ ที่ฮอกไกโด และ โลเปส อากีเล่ (24 ปี) ลูกน้องจางรุ่นพ่อ ที่ต้องการชนะเพื่อมาดวลกับจางรุ่นพ่อ, คาวาฮาระ เรียวสุเกะ ลูกชายของคาวาฮาระ ยูจิ ที่เปิดโรงเรียนทำอาหารด้วยเครื่องมือ
ส่วนกรรมการที่เคยเผชิญหรือแพ้จางรุ่นพ่อมาก็มีฟูจิตะ คันอิจิ หัวหน้าพ่อครัวร้านอาหารจีนเพื่อสุขภาพฟูจิตะ (อาหารคือสมุนไพร), เอลิซซ่า ซาโตดะ ผู้นำภัตตาคารอาหารจีนในอเมริกาสิบสามมังกร (อาหารคือเวทมนตร์), จุน โทโมฮิเดะ หัวหน้าพ่อครัวร้านโทโยโร (อาหารคือวัฒนธรรม), ซาวาดะ เค ร้านคุนลุ้น ที่รปปงงิ (อาหารคือไฟและน้ำแข็ง) และ ซาซาบี้ ฮอนโง อยู่ที่แคลิฟอร์เนีย (อาหารคือความเป็นสากล)
รอบคัดเลือกจัดที่เรือโกลเด้นฟลาวเวอร์ รอบรอบแรกเป็นวงกตคำถาม หั่นเหลือ 684 คน รอบสองให้เลือกเต้าหู้ เหลือ 226 คน รอบสามคัดให้เข้ารอบ 48 คน ทำเมนูเต้าหู้ โก เงียวกิ ทำเหวินซือโต้วฝู่อันเป็นอาหารที่คิดค้นโดยพระสมัยราชวงศ์ชิง มีการหั่นเต้าหู้ขาวอ่อนบางกว่าเส้นผมและเสิร์ฟพร้อมซุป, มาริโอะmeเต้าหู้ปลาโดะโจชุปแป้งทอดสไตล์เสฉวน, อันทำครีมเต้าหู้กัยทีรามิสุชาเขียว, รุยทำเต้าหู้ขาวผัดไข่ม้วน
ในรอบจริง รอบแรกจัดที่ศูนย์วัฒนธรรมประจำเมืองเนมูโระในฮอกไกโด ใช้การจับคู่ดวลให้กรรมการกลางและตัวแทนชาวเมืองตัดสินให้เหลือ 24 คน จางทำฝูหรงไหต๋านเฝ่นหรวนเชี่ยวเสี่ยวหลงซยา (ประมาณกุ้งเครย์ฟิชผัดพริก) ชนะ 3D ต้ายิ่นจีตี้หวังเซี้ยะ (ปูทาฮาระทำจากเปลือกรสปูพิมพ์ 3D ใส่ใส้ข้าวผัดและครีมปู) ของคาวาฮาระ มาริโอะทำเนี้อกวาางเรนเดียร์ย่างไวน์แดงกับซอสแบล็กเคอแรนต์ (แน่ในจะว่าอาหารจีน ถึงมีชื่อจีนเฮยจยาหลุนหงจิ่วจือชวิ่นลู่โร่ว) อันทำซาลาเปาจี๋กุยเอ๋อร์เซี่ยวหลงโร่ว รุยทำกุ้งอิบาราโมะผัดพริก โลเปสทำโหยวจู่หยางชงไห่ขุยหรือกงฟีดอกไม้ทะเลกับต้นหอม เงียวคิทำเป่าเลอชิวกัวหม้อไฟปลาคาจิกะ และ โอทานิ ซุยเร็น ทำเหลียนเจียฮุ่นเหอเซิงอวี๋เพี่ยน (ซาชิมิ) ระหว่างนี้ก็เกิดเรื่องอันและมีช่าต่อสู้ชิงจาง
รองสอง อาหารแห่งศตวรรษ 21 ใช้แข่งสี่เลือกสอง (ได้เห็นชื่อแล้วก็เกิดอาการระลึกความหลังในภาคแรก) โอทานิ มกคิน ทำปลากระพงนึ่งกากเต้าหู้สไตล์นูเวลชินัว ชนะที่หนึ่ง ส่วนไข่ปลาปักเป้าและพาสต้าเมาเอ่อมันเทศโทโรจิมะคินโทคิของจางเข้าเป็นที่สอง (แพ้เพราะรังไข่ปลาปักเป้าหมักเป็นของพื้นบ้าน ธรรมดาเกิน) ที่ตกรอบคือแมงดาผัดพริกเสฉวนพร้อมซอสเหล้าหวานดำกับส้มอามานัทสึของเซ็นเน็น และจักจั่นทอดทั้งตัวของ อิคุโนะ ไทระ ส่วนเงียวกิทำหอยนางรมนึ่งซอสเหล้าจีนกับผลวอลนัตญี่ปุ่นชุยเร็นทำซุปคอลลาเจนรังไข่ปลาปักเป้ากับจักจั่น โลเปสทำข้าวผัดไข่ปลาปักเป้ารมควันกับชามะลิ มีซ่าทำต้มจืดอุ้งตีนหมี
รอบสามเป็นการแข่งสี่เอาหนึ่ง ชุดแรก จุน อาริอาเกะ ทำชาบูชาบูปลาตาเดียวแบบจีน, โก เงียวกิ ทำหมึกฮาคาชิต้มคอลลาเจรพริกไทยเสฉวน, ทาเคอิ โชตะ ทำหอยนางรมอิวะผัดเต้าหู้ทรงเครื่อง ที่เข้ารอบคือโลเปส อากิเล่ ที่ทำขนมหนวดมังกรทำด้วยถัวแดงไดนะกอน ชุดสอง อาบุคะมะ มีช่า ทำข้าวผัดราดหน้าปูกับต้นหอมอิวาสึ, ยุมิซุ อัน ทำอาคาชิยากิปูขี้เมา, โยเนดะ โจได ทำซาลาเปาเนื้อย่างบกคาเคะ และที่เข้ารอบคือ โอโกโนงิ มาริโอะ ที่ทำซาบะซูชิย่างถ่านรสส้ม ชุดสุดท้าย โอทานิ ซุยเร็น ทำข้าวนึ่งปลาไหลทะเลเกาลัด, โอทานิ มกคิน ทำตาลิญาตาเนี้อวัวโกเบแต่งด้วยภูเขาทอง มันภูเขา และเห็ดสน, ชิมาชิมะ ทาเทจิมะ ทำผัดหมึกใส่หมึกดำ และที่เข้ารอบคือ อากิยามะ จาง ที่ทำเนื้อโกเบอบส่วนทีโบนหมักเต้าเจี้ยวรสเผ็ดชา
รอบชนะเลิศแข่งที่เกาะอาโองะชิมะโดยให้หาวัตถุดิบกันเอง โอโกโนงิ มาริโอะ ทำเคบับพยัคฆ์ขาวเนื้อสามแบบ แต่งเป็นรูปเสือ, โลเปส อากิเล่ ทำเต่าทะเลกับอามะไดไฟน้ำแข็ง แต่งรูปมังกร, จาง ทำพินผานหงส์สามมิติตำรับร้านโกโจบัง แต่งรูปหงส์ ผลคือได้คะแนนเต็มทั้งหมด จนจางรุ่นพ่อและคิริโกะมาป่วน ทำให้จางชนะ โดยระหว่างการแข่งก็มีเรื่องที่ โครันเซ ไป๋หลันหวัง มาทวงทรัพสมบัติที่ อากิยามะ ไคอิจิโร่ ขโมยไป ส่วน โกบังโจ มุตสึจู ที่แย่งคู่หมั้น คาซุมิ ก็เคยขโมยเงินทุนบยามาชิตะ พวกสุดแสบก็เอาตัวหวงหลันชิงให้พาไปหา โจบังโก โยโรคุ พ่อของคิริโกะ ที่ฆ่า อากิยามะ บาคุ และโค ที่เป็นปู่ย่าของจาง แล้วตัดจบเพียงเท่านี้ ...
ลายเส้นก็เหมือนเดิม ส่วนความโดดเด่นด้านหน้าอกสตรีที่ท้าทายแรงโน้มถ่วงก็ยิ่งมากขึ้นอีก อาหารมาแปลกแต่ยังไม่โหดเท่าภาคแรกที่กลายเป็นตำนานของแท้และสามารถสร้างความทรงจำอย่างตราตรึง (แต่ไปทางลบเป็นส่วนมาก) สรุปคืออ่านเพื่อระลึกความหลังค่ะ
ที่มา
[1] Saijo Shinji & Oyama Keiko. จอมโหดกระทะเหล็ก! (Tetsunabe no Jan!). วิบูลย์กิจคอมมิกส์, 27 เล่มจบ, 2540-2545 (ต้นฉบับ 1995-2000).
[2] Saijo Shinji. จอมโหดกระทะเหล็ก! R (Tetsunabe no Jan R! Cyojo Sakusen). วิบูลย์กิจคอมมิกส์, 10 เล่มจบ, 2550-2552 (ต้นฉบับ 2007-2009).
[3] Saijo Shinji. จาง!! สายเลือดกระทะเหล็ก (Tetsunabe no Jan!!2nd). สำนักพิมพ์ Phoenix, 7 เล่มจบ, 2550-2552 (ต้นฉบับ 2016-2018).
รายการการ์ตูนญี่ปุ่น
โดย ชินจิ ไซโจ้, บ.ก. เคย์โกะ โอยาม่า
เรื่องนี้ถือได้ว่าขึ้นแท่นเป็นการ์ตูนในตำนานด้านความพิสดารของอาหาร และถือได้ว่าบวมขึ้นไปเรื่อยๆ ตั้งแต่เล่มสอง (ในภาคสองและสามถึงความแปลกดรอปลงไปเยอะ แต่ยังโดดเด่นมาก) ทั้งความแปลกประหลาด ความเร็วของผลกระทบของอาหาร (ที่ยังไม่น่าย่อย 555) เวลาในการหมักเครื่องปรุงและทำอาหาร ขนาดหน้าอกของเหล่าสาวๆ และการลดขนาดรอยเอว แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ เนื้อเรื่องที่พระเอกอยู่ฝ่ายมืดหัวร่อฮ่าๆๆ ไปเรื่อยก็มีเสน่ห์ของอาหารให้ติดตามแบบ ... เอิ่ม บอกไม่ถูก แต่ถึงอย่างไร เมนูก็ดูน่าสนใจ หลายอันก็ดูน่าหิว และจำนวนมากน่าสยดสยอง
ที่น่าสนใจคือด้าน logistic ในการแข่งขันที่หาวัตถุดิบที่มีสัตว์เป็นๆ มาเตรียมให้ทั้งที่ไม่น่าคิดถึงจนถึงน่าจะปัญหากับอนามัยและสาธารณสุขเขต องค์การพิทักษ์สัตว์ ยัน CITES อย่างนกพิราบหลายสิบตัวที่ใช้ทำไข่เลือด ตะพาบน้ำ นกกระเรียน เหล้ากระดูกเสือ ฯลฯ มาให้เชือดกันสดๆ
รายละเอียดหน้าตามีที่เขียนใน bloggang ดีๆ เยอะแล้วค่ะ อย่างของคุณชีริว ส่วน จขบ. ขอเขียนกันลืมในบล็อกการ์ตูนอาหาร 555 และพยายามรวบรวมลิงก์อาหารในเรื่องที่คนไทยลองทำตามอย่างน่าแตกตื่น! คือคุณ SchwedaKong ทั้งรวมชุดก็อย่างของและคลิป (ถ้าทราบลิงก์ก็ขอข้อมูลหน่อยนะคะ ^^) ทั้งนี้ จขบ. ไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของลิงก์ใดๆ มา แต่ขอชื่นชมในความสามารถและความกล้าลองอย่างยิ่ง อ้อ ภาคสองมีเพิ่มสูตรอาหารบางเมนูในเล่มท้ายเล่มด้วย ^^
ราชาอาหารจีน อากิยามะ ไคอิจิโร่ หายตัวเมื่อสิบกว่าปีก่อนไปสอนการทำอาหารอย่างโหดให้หลานชาย อาจิยามะ จาง ที่ภูเขากุนมะ เมื่อไคอิจิโร่ป่วยเป็นมะเร็งและลิ้นเสีย จึงฆ่าตัวตายและส่งหลานที่อายุ 16 (แต่หน้าท่าทางแก่เฮือก) มาทำงานกับคู่แข่งตลอดกาลคือจักรพรรดิอาหารจีน โกบังโจ มึซึจู (75 ปี แต่กล้ามเวอร์) เถ้าแก่ร้านโกบังโจแห่งกินซ่าที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่ง ร้านนี้ขนาดใหญ่ มีพ่อครัวกว่าสิบห้าคน นำโดยลูกชายที่เป็นหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ โกบังโจ ยาอิจิ (45 ปี) และพ่อครัวเอก ลี โคเอ จากฮ่องกง ลูกสาวผู้รับช่วงต่อคือ โกบังโจ คิริโกะ (16 ปี) ก็เป็นพ่อครัวฝึกหัดเพื่อหัดงานทุกอย่าง ส่วนพ่อครัวฝึกหัดคนล่าสุดและไม่มีฝีมือคือ โอโกโนงิ ทาคาโอะ (16 ปีอีกแล้ว)
คิริโกะมีอุดมการณ์ว่าอาหารคือใจ คิดถึงคนกินเป็นหลัก ฝีมือเฉียบ เช่นทำข้าวผัดทองคำ (ข้าวกับไข่) ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของร้านได้ เมื่อจางที่ถืออุดมการณ์อาหารคือการดวลมาถึงก็ทำข้าวผัดสไตล์ไคเซ็น เมื่อคิริโกะทำอาหารมาคาไน ผัดกระเพาะลูกวัวตับไก่ ให้พ่อครัวทาน จางก็ทำผัดตับหมูกับขึ้นฉ่าย แล้วก็แข่งกันไปเรื่อยๆ และทำให้เห็นจุดเก่งจุดอ่อนของแต่ละคน อย่างจางเสียท่าเวลาเจอทำอาหารมากๆ ในครั้งเดียวเพราะไม่เคย ส่วนคิริโกะหัดทำดอกไม้จากผักก็อาศัยการสังเกตหาทางเอง ส่วนมึซึจูและยาอิจิก็เคยแสดงทำเนื้อกระทะหมุน ระหว่างนี้จางและทาคาโอะก็สนิทกัน จางเคยพาทาคาโอะขึ้นเขาไปจับไก่และนกกระทาทำไก่แม่ลูกสุมไฟ
โอทานิ นิจิโด นักชิมเลวร้ายแต่ลิ้นทองมาร้าน ฝีมือขนาดดูและดมก็บอกได้ว่าทำอย่างไร ก็เจอไล่กลับด้วย น้ำซุปตุ๋นไข่ไก่ดำ (ไข่เค็ม ไข่เยี่ยวม้า) ของคิริโกะ ซุปมันสมองแกะตุ๋นใส่ชะอมของจาง (คลิป) งานนี้โอทานิเสียหน้ามาก เลยส่ง บิโต ริวจิ ที่เชี่ยวชาญซอส XO มาทำแฝดสดคั่วเต้าเจี้ยว XO (กุ้งมังกรและหอยพัด) เจอจางทำเนื้อวัวใบไผ่ มาปราบ
โอทานิเสนอให้ประธานสหพันธ์อาหารจีนแห่งญี่ปุ่นจัดการแข่งขันชิงแชมเปี้ยนอาหารจีนทั่วญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง (เล่ม 2-5) สำหรับพ่อครัวหนุ่มกว่าร้อยคน รอบแรกแบ่ง 24 สายเพื่อคัด 24 คน โจทย์คือทำซุป จางทำซุปเห็ดเวทมนต์จากเห็ดที่ออกฤทธิ์หลอนประสาทที่ทำเอากรรมการสลบและเริ่มชื่อเสียอย่างโด่งดัง ในรอบหนึ่ง จางเจอ ซาวาดะ เคอิ หนุ่มหล่อที่ใช้ไฟทำเนื้อย่าง จางเอาชนะด้วยข้าวตังไทเก๊กสองรส (เนื้อกับผัก) จากเนื้อหน้าแข้งเป็นการย้ำว่าฝีมือคือหัวใจสำคัญของอาหารจีน
รอบสองอาหารไก่เจอ คาวาฮาระ ยูจิ ที่ใช้เครื่องทำอาหารสูญญากาศทำครีบปลาครรภ์หงส์ชาสด (ไก่อ่อนต้มยัดไส้หูฉลามรสชา) ซึ่งจางโต้ด้วยเส้นไหมครรภ์หงส์ (ไก่อ่อนต้มยัดไส้วุ้นเส้น) ส่วนรอบสามทำอาหารจากเหง้าบัวเพื่อเข้ารอบชิงเจอเด็กดี โอมาเอะ โคดะ ที่จางทำเหง้าสีเพลิงเนื้อพุทรา (ซุปนึ่งเหง้าบัวพุทราจีนและลำใย) ที่ทำให้กรรมการมีปัญหากับอาหารของโคดะ เหง้าบัวผัดปุยเมฆ (ปลาไหลกับเหง้าบัวผัดกะทิ)
รอบชิงมีสามคน คือ คิริโกะ จาง และสาวลูกครึ่งจีนฝรั่งเศส เซเรนุ ยัง (อาหารคือความไม่สิ้นสุด) ที่ทำอาหารแบบใหม่นูแวล ชีนอวา ซึ่งโจทย์แรกคือแป้งหมี่ที่เซเรนุทำหมี่ผลึกแก้วเกาหลี (หมี่อิตาลีราดซอสเกาหลี) จางทำตอเสียะหมี่ใส่เครื่อง (เนื้อแผ่นน้ำข้น น้ำซอสทอด สามสดเข้มข้น และราดจิ๊กโช่วสูตรลับร้อยปี) ส่วนคิริโกะทำหมี่แช่เย็นสีปะการังแดงเพื่อเด็กที่ไม่ชอบกินผัก ส่วนรอบสองเป็นของหวานที่จางทำพายรูปนกพิราบใส้ไข่พิสดารหรือไข่เลือด (รีดเลือดจากนกเป็นๆ หลายสิบตัว) ส่วนคิริโกะทำแตงโมสามชั้น (อัลมอนด์เยลลี่ผลไม้ รังนกน้ำกะทิ ถั่วและแทพปิโอกะแช่เย็น) เซเรนุทำมะละกอพุดดิ้งปิ้งใส่ท่อรังไข่กบ ซึ่งผลคือคิริโกะชนะเฉียดฉิวแบบคนดูไล่จับนก ...
[13/06/14]
เซเรนุมาทำงานที่ร้านโกบังโจเพื่อฝึกฝีมือ เกิดเรื่องใหม่เมื่อ ฮิกิเมะ ดัน ที่ร้านส่งไปเรียนในเมืองจีนกลับมาแล้วนิสัยเปลี่ยนจะเปิดร้านอาหารจีนชินคิโรที่โฮเตลมิราจ หาเรื่องทำร้ายท้าแข่งกับจาง ฮิกิเมะทำหมูเปรี้ยวสมุนไพรใส่ผลไม้ จางทำหมูเปรี้ยวรสส้มยุซุ ต่อด้วยอาหารปลา คือ ฮิกิเมะทำปลาหลีฮื้อทอดราดเครื่อง (ทอดแล้วยังไม่ตาย จขบ. อย่างแหวะที่สุดในเรื่องนี้) ส่วนจาง (และทาคาโอะ ที่ต้องทำแทนเพราะจางเจ็บหนัก) ทำปลาอามาไดทั้งเกล็ด และทั้งสองก็พอสมน้ำสมเนื้อกันในการทำ สี่ชวงมั้วโบเต่าฮู่ (มีเนื้อเต้าหู้หน่อกระเทียม) และ เลี่ยวเก็กทึง (ไก่ยัดข้าวเหนียวตุ๋นหม้อดิน) ที่น็อคคู่ 555
ตามด้วยงานเสนออาหารใหม่ในร้านโกบังโจที่ไม่ทราบเป็นอย่างไร กลายเป็นเปาะเปี๊ยะหมด ที่เข้ารอบได้เสนอให้ลูกค้าก็มีปอเปี๊ยะหวานที่ห่อใส้ในแบบจีนและครีมคัสตาร์ดด้วยพาทฟิโรของเซเรนุ ปอเปี๊ยะรสเค็มใส้กุ้งที่เปลือกห่อทำจากเนื้อไก่ทุบซาซามิของคิริโกะ ปอเปี๊ยะใส่ซุปขาเป็ดของจาง และปอเปี๊ยะใส้ฟักทองและครีมปูของทาคาโอะ ที่ทำเอาทั้งสี่เดี้ยงเพราะต้องทำเยอะ โดยเฉพาะคิริโกะและจางที่ต้องออกแรงและยุ่งยากมาก
โอทานิเรียกเซียนมาร โกเงียว ไค ผมสาหร่ายที่เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรจีนหยินหยางธาตุห้าจากฮ่องกง มาเป็นหัวหน้าพ่อครัวที่ชินคิโร โอทานิส่งหัวหมูมาเป็นบัตรเชิญในงานเปิดร้าน จางและทาคาโอะจึงแต่งหญิงไปส่งหัวคนเท้งหมี่พ้วยใส้มันสมองเม็ดบัวอ่อนกลับไป ระเบิดเป็นศึกประลองอาหารของฤดูร้อน สวรรค์และนรก (เล่ม 8-11) งานนี้ต้องจางเท่านั้นจึงจะพอรับมือความหน้าไหว้หลังหลอกของโกเงียว
ศึกแรกคืออาหารบำรุงกระเพาะที่จางทำกระเพาะหมูต้มกับผลอี่ยิ้งและกระเพาะหมูผัดกระเทียม ส่วนโกเงียวทำมกเถี่ยวเชี้ย (พระกระโดดกำแพง?) ที่มีกลิ่นสุดหรู ศึกสองอาหารเย็นสบาย ซึ่งจางทำข้าวต้มยาจีน โกเงียวทำข้าวต้มใบบัวและน้ำตาลก้อน (น้ำตาลกรวด?) รอบสามอาหารเสริมพลัง โกเงียวทำพุทราจีนห่อปลาเขียกฮื้อและกุหลาบฮามานาซึดองหวาน จางทำซุปตะพาบน้ำกับไขสันหลังหมู
รอบสี่ทำอาหารอายุวัฒนะที่ล้วนแต่เลือกใช้สัตว์เป็นๆ จางใช้จิ้งจกยักษ์และอิวาทาเกะผัด แมงป่องทอดน้ำมัน เสริมด้วยนอแรดดำและน้ำตามังกร (นิ่วปลาวาฬ) ปรุงรสด้วยเหล้าดองจิ้งจก เหล้าดองกระดูกเสือ และเหล้าดองฟอสซิลไดโนเสาร์ (เอิ่ม ...) ที่ส่งผลรุนแรงจนเลือดกำเดาออก ส่วนโกเงียวใช้การทอดต้มนกกระเรียนเต่าทะเลและโสมเกาหลี (ถอนขนด้วยน้ำมันถ่านหิน จขบ. ว่ารายการนี้มีรสนิยมแบบเผาพิณต้มกระเรียนแบบตัวอักษรเลย -_-") ที่ทำให้มือกินเองไม่หยุด
รอบห้าเป็นอาหารใกล้สวรรค์ที่จางทำนั้มไฮ่ฮื้อชึง (หอยมือเสือ มะละกอ ฟักคินชิและทุเรียนอบ) ที่ทำให้โกเงียวใช้เหล้าน็อคกรรมการไปคนหนึ่ง (เวอร์เยอะเลย) ซึ่งทำให้ได้เจ้าของโรงแรมมิราจเป็นผู้ตัดสินทดแทน ได้ลองฮ่วยไจฉิ่ว หม้ออเวจี (หม้อนรกอีเห็นหน้าขาว) ด้วยคอนเซปต์สวรรค์กับนรกห่างกันแค่เส้นยาแดงผ่าแปด รสชาติความสุขคือการตาย ที่ทำให้โดนต่อยหน้าเกิดจลาจลเละตุ้มเปะ ...
[15/06/14]
จบงานนี้ก็มีผู้ท้าชิงมือสมัครเล่นคือคุณชาย ยุมิซุ สกูล ที่ล้มพ่อครัวมาแล้ว 99 คน (เล่ม 11-14) ครั้งแรกทำไข่ยัดใส้ซูเฟลที่เจอฮู้อ๊วงโหยตำรับกวางตุ้งเวอร์ชั่นอากิยามะ รอบสองหมูหันที่สกูลที่ออกลูกหมูทอดยัดใส้ธัญชาติ ส่วนจางทำเค่ายู่ตือ ลูกหมูย่างไฟแบบดั้งเดิม เป็นการเน้นถึงสามรสชาติยิ่งใหญ่ ชุ่ย หน่อ กุ๊ก (กรุบกรอบ นุ่มเหนียว เรียบเป็นมัน) รอบสามอาหารตับที่สกูลใช้ราวิโอลีห่อเห็ดร่างแหยัดฟัวกราราดซอสรสไวน์บัลซามิโก ส่วนจางทำเล้งกัวฮ้งเตียง (ตับไก่ขาวดองตับปลางัวเสริมไขมันสันหลังหมูแล้วปิ้ง จิ้มน้ำซุปไก่ตะเภาไวน์แดง) ที่เลียนแบบไม่ได้ ทำให้สกูลถูกน็อคเอาท์
หัวหน้าคนรับใช้ คาริอิ คาริน มารับช่วงต่อโดยส่งอาหารฟุจะ (มังสวิรัติ) เป็นสารท้าดวลอาหารคือความรู้ แถมด้วยซุปเปอร์พุดดิ้งที่เป็นคัสตาร์ดรสมะนาวเค้กสปองก์ในก้อนเดียว ซึ่งโจทย์แรกคืออาหารแกะที่จางทำเนื้อแกะเคี่ยวยู้อี่ฮู้เอี๊ยอวย (อาหารเนื้อแกะตะวันตกของจีนกับผลมะเดื่อ) เจอเนื้อแกะย่างรสเครื่องเทศและน้ำซุปมะเขือเทศ รอบสองคืออาหารปลานึ่งที่คาริอิทำปลาฟุกโกะนึ่งด้วยเครื่องทำอาหารกำหนดอุณหภูมิอย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนจางทำปลาอีคุดนึ่งที่สุดยอด
เพื่อโฆษณาการแข่งขันชิงแชมเปี้ยนอาหารจีนครั้งที่สอง โอทานิจัดรายการทีวีจะเชือดผู้เข้ารอบสุดท้ายในการแข่งคราวที่แล้ว โจทย์เป็นอาหารเป็ดที่ จูเลียโน ฮอนโง สาธิตทำอาหารฝรั่งเศสชื่อดังเป็ดทอดราดซอสเลือด เซเรนุทำอึ๊งฮ้อฮ้งก้วง หรือหนังเป็ดแช่เย็นและไส้กรอกเนื้อเป็ดซอสลูกท้อ ส่วนคิริโกะทำโอ๊วเตี๊ยบฮวยบู้ที่เป็นของคาวรสเค็มลูกพลัมยัดไส้เนื้อเป็ดต้มซุปและของหวานรสหวานที่เป็นลูกพีชยัดไส้เนื้อเป็ดต้มไวน์แดง ส่วนจางคือบะหมี่เป็ดเอเซียอาคเนย์ซุปเลือดและมันสมองเป็ด
ในงานแข่งขันชิงแชมเปี้ยนอาหารจีนทั่วญี่ปุ่นครั้งที่สอง (เล่ม 15-27) มีคนสมัครเกินสองพัน ทำให้ต้องคัดออกด้วยคำถามปรนัยที่เริ่มยากขึ้น ซึ่งจางก็ท้าทายคำตอบที่ถูกต้องของเวลาในการนึ่งขนมจีบด้วยการพิสูจน์จากการนึ่ง แช่แข็ง และนึ่งซ้ำ ด่านสุดท้ายคือทำข้าวผัดโดยจับฉลากเลือกข้าวเก่า ข้าวใหม่ ข้าวนำเข้า ซึ่งเซเรนุทำข้าวผัดราดหน้า หกเกี๋ยงช่าหวม, คิริโกะทำข้าวผัดทองเงินทรงไทเก๊ก กิมงิ้งช่าหวม, ทาคาโอะก็นิสัยเสียเข้ารอบด้วยฝีมือคนอื่น (รับอิทธิพลจากจางมากขึ้นทุกที) -_-" จางที่ทำข้าวผัดราดซุป เสียงทึงช่าหวม และสามารถสร้างความวิบัติให้คนรอบข้างตามปกติ แต่สกูลผ่านด้วยข้าวผัดไข่ยัดข้าว, ซาซาบี ฮอนโง ทำข้าวผัดปลาหมึกตากแห้ง และ โครันเซ (ว่าที่แปะลั้งอ๊วงผู้ปกครองวงการอาหารจีนในเอเซีย อาหารคือการล่วงหน้าครึ่งก้าว) ทำข้าวผัดห่อใบบัว สรุปเหลือ 32 คน
[16/06/14]
รอบจริงใช้กรรมการธรรมดาห้าสิบคนให้ความอร่อย กรรมการพิเศษห้าคนให้ด้านข้อมูล การชิม ความงาม กลิ่น และสารอาหาร รวมร้อยคะแนน รอบแรกคัดออกครึ่งหนึ่งเป็นอาหารเต้าหู้ คิริโกะทำมิลเฟอเต้าหู้กับฟองเต้าหู้ราดซอสกุ้ง, ซาซาบีทำเต้าหู้กลิ่นทรงโลงศพทอดยัดไส้ครีม, โครันเซทำเป็ดรมควันกับเต้าหู้ห่อทอด, เซเรนุทำแอปเปิ้ลนึ่งสอดใส้เต้าหู้ใส่เกี๊ยมตั่งและซุปน้ำเต้าหู้หวานใส่เห็ดหูหนูขาวแป๊ะก๊วย, สกูลทำเนื้อปูกับเต้าเจี้ยวปูหูฉลามห่อแปะเฮียะนึ่ง, จางทำเส้นหมี่ราดน้ำซุปเต้าหู้ปลาอิชิไดในหม้อดินหินย่างไฟ, ทาคาโอะทำเต้าหู้ปลาหมูต้ม
รอบสองให้จับแข่งเกี๊ยวซ่าทีละคู่ จางทำเกี๊ยวซ่าน้ำไส้หมูใส่หัวไชเท้าราดหน้าเกี๊ยวซ่าทอด, ริกุ เอ็นจากุ ทำเกี๊ยวซ่าน้ำไส้หมูปลิงทะเล, ริกุ คันโอ ทำเกี๊ยวซ่านึ่งทอดไส้แป๊ะฉ่าย เนื้อบด หอมจีน กุ้ยฉ่าย, จุน โทโมฮิเดะ ทำเกี๊ยวซ่านึ่งกุยช่าย, ริกุ เรกะ ทำเกี๊ยวซ่าน้ำไส้พุทราจีนกับเยลลี่หยาดรักแบบเย็น, ทาคาโอะทำอะไรไม่ชัดเจน, คิริโกะทำเกี๊ยวซ่าปักกิ่งไส้ไข่กับกุยช่าย, ซาวาดะทำเกี๊ยวซ่าที่เป็นไส้กรอกยาวทอด, โครันเซทำเกี๊ยวซ่าทอดรูปรังผึ้งห่อระเบิดสามชั้น และไซโค ทาวารายะ โทโมซึงุ ที่ทำเกี๊ยวซ่านึงปลาหมึกกระดองจนถอนตัว, เซเรนุทำภูเขาเกี๊ยวซ่าทอดราดซอสไอศกรีมวานิลลา ไส้ผลไม้ตากแห้งไขมันสันหลังหมู, คุมะ เก็น ทำเกี๊ยวซ่าปลาวาฬราดน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวเปรี้ยว, ซาซาบีทำเกี๊ยวซ่าน้ำเนื้อสีข้างลูกวัวราดซอสเขียวกับดำ, ฟุจิตะ คันอิจิ ทำเกี๊ยวซ่าสมุนไพร, สกูลทำเกี๊ยวซ่าปลาทองไส้หูฉลามกุ้งน้ำซุปชางตุง และคาวาฮาระทำเกี๊ยวซ่าปลาทองไส้เนื้อไก่ตับปิ้งน้ำซุปเยลลี่ (สองคนนี้เอาเกี๊ยวซ่าลอยน้ำในอ่างปลาทอง 555)
รอบสามจับคู่แข่งเครื่องปรุงรส สกูลใช้เต้าเจี้ยวจากพิสทาจิโอใส่เนยกามังแบร์และเนยแข็ง ทำเป็ดย่างตำรับกวางตุ้งรสพิสตาจิโอ, ซาซาบีให้เมล็ดกาแฟทอดปั่นทำเนื้อจรเข้ผัดเครื่องปรุงกาแฟ, เรกะทำเนื้อขาอ่อนไก่ทอดนุ่มผัดซอสกล้วย, คิริโกะทำมันสมองลูกวัวคลุกน้ำจิ้มอาโวกาโด, คันโอทำปลากะรังหนูหมักเหม็นแบบฟุนะซูชิใส่น้ำปลา (น่าอร่อยนะ) ทำนกกระทานึ่ง, จางใช้น้ำมันราสีแดงสดที่ไม่เผ็ดจากพริกเกาหลีทำข้าวผัด, เซเรนุใช้เต้าเจี้ยวข้าวโพดทำปลาจะละเม็ดห่อชับแป้งทอด โครันเซทำน้ำมันราไร้สีจากพริกเขียวที่เผ็ดสุดยอดทำกุ้งมังกรผัด
[17/06/14]
รอบสี่ทำอาหารปลาฉลามที่มีกลิ่นแอมโมเนียเมื่อตาย ทำให้ทั้งหมดต้องเชือดกันสดๆ และหาทางจัดการกับผิวหนัง ซาซาบีทำไก่งวงย่างผัดไส้เนื้อปลาฉลามสับราดซอสผลไม้, จางทำปลาฉลามทอดทั้งตัวราดหน้าถัวงอกสอดไส้หูฉลามและเนื้อฉลามบด (แหวะสุดๆ จากการเอาเครื่องในออกเหลือหัวใจไม่ให้ตาย แล้วทอดทั้งเป็น), คิริโกะทำข้าวสวยเนื้อและไข่ปลาฉลามราดหน้าหนังปลา ตับปลา เกล็ดปลา ซุปปลา ฯลฯ ส่วนโครันเซทำของว่างเนื้อวัวเนื้อปลาฉลามแช่แข็ง หม้อไฟปลาฉลาม หัวใจหม้อไฟ และของหวานโป่ยป้อหวมปลาฉลามสับห่อไส้นึ่ง
รอบชิงเป็นอาหารนกกระจอกเทศต้อนรับศตวรรษที่ 21 ซึ่งต้องฆ่านกอย่างไม่เครียด (ศึกหนักสำหรับจางที่รังสีอำหิตมากจนเข้าใกล้นกไม่ได้) และยังต้องปรุงเนื้อที่ไม่มีรสให้มีเอกลักษณ์ คิริโกะชูธีมเกลือ ทำเนื้อนกกระจอกเทศกับเกลือของกุ้งและผักผลไม้และพุดดิ้งเลือดสลับชั้นเป็นรูปแบบขนมมิลเฟอ พันใบบัวแล้วปิ้งในเกลือหิน โครันเซทำใช้เนื้อนกกระจอกเทศบด ไข่ เหง้าบัว และเครื่องปรุงอื่น ทำเหง้าบัวยัดไส้ เป็นอาหารที่อ่อนนุ่มและกรอบสองจานสำหรับคนในอนาคตที่ขากรรไกรแย่ลงและคนปัจจุบัน ส่วนจางก็ทำอาหารเพื่อการเอาชีวิตรอด การ์แพชชิโอเนื้อนกกระจอกเทศดิบราดหน้าด้วยไส้เดือนแมลงปอด้วงทอดน้ำมัน เพิ่มรสเนื้อจืดชืดด้วยหนอนแมลงวันอันลือลั่นจนงานกระจุย ไม่มีผู้ชนะเลิศเพราะต้องเลิกกลางคัน
เถ้าแก่มึซึจูออกมาจะดวลกับทั้งสาม แข่งเกี๊ยวซ่ากับโครันเซ แฮ่กึ๊นกับคิริโกะ และบะหมี่กับจาง โอทานิขอเป็นกรรมการ แต่ตายกระทันหัน ในงานศพเผยโฉมย่าของจาง เม้งฮุย ที่พาหลานไปฝึกที่จีน คิริโกะเลยขอตามไปด้วย ใช้เวลาถึง 3 ปีถึงกลับมาพร้อมของนำเข้าที่เป็นของสงวนและสัตว์อนุรักษ์ ... และร่างฟื้นสองตนในภูเขากุนมะในตอนพิเศษ 'เอนดิ้งน่าสะเทือนขวัญ' (ความจริงมีเรื่องเติมหน้า 'สมาคมพิสดาร' ที่นักเรียน ม. ปลาย เจอผีแฟนสาวหลอกหลอนจนไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมชั้นที่สามารถจับวิญญาณมาใส่ในของได้)
[18/06/14]
เริ่มด้วยจางทำซาลาเปาไส้ปูซอฟต์เชลล์ทอดมอมเมาพ่อครัวที่กำแพงเมืองจีน เรื่องจริงคือหลังจางกลับจากเมืองจีนและหายไปครึ่งปี ก็โดนคุณหนู เอริซ่า แห่งบาทอรี่ฟู๊ดส์เจ้าของเครือข่ายร้านสิบสามมังกรที่อเมริกาทาบทาม (หมายหัว) ให้มาร่วมงาน แต่จางไม่ยอมเข้าร่วมเลยโดนทำร้ายเจ็บหนัก แถมสมุดอากิยามะโน๊ตที่จดสูตรแต่รุ่นปู่ก็โดนขโมยไป เมื่อร้านสิบสามมังกรเป็นแบ็คให้โอทานิจัดศึกสุดยอดอาหารจีนชิงถ้วยบิ๊กโอทานิ นิจิโด (เล่ม 1-5) จางจึงมาเข้าร่วมเพื่อทวงถามสมุด
งานนี้ใหญ่มากเพราะรางวัลอย่างแพง มีรอบคัดเลือกเพื่อหาคนเข้ารอบจริง 16 คน (รางวัลคนละหนึ่งล้านเยน) รอบต่อไปก็เพิ่มรางวัลขึ้นเรื่อยๆ จนถึงรอบชนะเลิศก็ร้อยล้านเยน ตัวอย่างงานที่เข้ารอบ เช่น ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ้ว (ยากิโซบะปรุงซีอิ๊วดำน้ำตาลเม็ด) ของ โอทานิ มิซึกิ (ลูกเลี้ยงโอทานิอายุ 16 ปี) ส่วนในสิบสามมังกร บลู เมนาล ทำก๋วยเตี๋ยวปรุงรสยืดเส้นด้วยมือ จางอยู่ในกลุ่มตันตันเม็ง/ตาตาหมี่ ที่คนของสิบสามมังกรทำแบบหน้าไอศกรีมโรยงาคั่ว และ เครื่องปรุงน้ำจิ้มงาน้ำซุปใส มีคนนอกทำแบบไม่มีเส้น ส่วนจางทำเถี่ยวลักเจียวไล้ตาตาหมี่ (เส้นก๋วยเตี๋ยวธรรมดาและงาดำหน้าพริกเคิร์ดชิลลี่) เข้ารอบฉลุยตามฟอร์ม
รอบจริงใช้กรรมการสิบคน มีคนเข้ารอบ 16 คน โดยรอบแรกทำอาหารไข่ เลือก 8 คนแรกที่ได้คะแนนเกิน 80 คะแนน ที่ทำก็มี ค็อกเทลยาคอนเย็นรวมมิตรไข่คาแทตมุริ แซลมอน เฮอร์ริ่ง คาร์เวียร์ (แจ๊ค โอเคนต์ สิบสามมังกร), ไอศกรีมพิเศษสองชนิดพร้อมไซโครเฟรนช์โทสต์แอปปริคอตซอส (ซาวาดะ), นมกระบือตั้งเลี้ยงดองกับไข่เค็มผัดนมสด (โตโมฮิเดะ), โซบะผสมหมี่ไข่นกกระจอกเทศกับคาราสึมิ (มิซึกิ), ไข่เยี่ยวม้าทอดกับมะเดื่อฝรั่งราดซอสไข่ชิชาโมะ (บลัด อัลการ์ด สิบสามมังกร), ขนมไหว้พระจันทร์ไส้คัสตาร์ด (โซฟี โรเทนเบิร์ก สิบสามมังกร), ไข่ขาวไส้เนื้อหอยตากแห้ง (อารี สตรีทอย สิบสามมังกร), ขนมจีบสองรสไข่ผัดใส่หูฉลามกับผัดหอยเม่นและเนื้อปู (บลู เมนาล สิบสามมังกร), มีลีเฟอแบบจีนสอดไส้เนื้อหมี (อาบุคุมะ เคนจิ), ไข่ขาวผัดนม (เปจิเอ คาตาริ สิบสามมังกร), ไข่ในถ้วยชานึ่งสามรส (ลูซี่ วอลเตอร์ สิบสามมังกร), เนื้อไก่ห่อใบบัวปรุงรสไข่เจาตั่ง (จาง), ไข่ขาวนึ่งยัดไส้หูฉลาม (คาจิว ไพรส สิบสามมังกร), โฮบิลอนทอดผ้ดเผ็ด (ยูดี วูลฟ์แมน สิบสามมังกร), ผัดรสอ่อนไข่ขาวกับเนื้อปลาขาว (แมด เอดการ์ สิบสามมังกร) และ ไก่ต้มน้ำซุปรังนกยัดไส้คินคัง (ฟูจิตะ)
[23/06/14]
ระหว่างรอแข่งรอบสอง จางทำท่าน็อคเอาท์จากการบาดเจ็บ คิริโกะ เซเรนุ และโอโคโนงิจึงช่วยทำแผลและบรรเทาอาการด้วยซุปตะพาบน้ำใส่ซังยากุกับเนื้อลำไย เนื้อวัวทอด และข้าวต้มมันเทศกับไข่แดง (สรรพคุณเวอร์ดี) ส่วนรอบสองจับคู่แข่งอาหารกุ้งที่ออกมาเป็นกุ้งผัดเผ็ดกันหมด โดยโซฟีทำกุ้งผัดเผ็ดทรงฮารุมากิพร้อมมายองเนส (ฮามากกับรูปประกอบมารี แอนโตเน็ตใช้ตะเกียบ), มิซึกิทำกุ้งผัดเผ็ดแบบพินโจสห่อคาไดฟ์พร้อมซอสพริก, บลัดทำกล้วยกับกุ้งกล้วยผ้ดซอสพริกใส่ผาลัวะเจีย, บลูทำกุ้งมังกรผัดซอสพริกห่อเนยเอชิเร่คลุกเห็ดทรัฟเฟิล, อารีทำกุ้งผัดเผ็ดสีเขียวน้ำมันเครื่องเทศ, จางทำมันสมองกุ้งกุลาลายทอดในเปลือกกับน้ำมันกุ้ง (จขบ. ว่าน่าจะเลี่ยนมากนะ), จุนทำกุ้งออมาร์ใส่กุ้งซากุระราดซอสพริกกลิ่นญี่ปุ่น และซาวาดะทำกุ้งผัดเผ็ดซอสมะขือเทศสีเหลือตกแต่งแบบเชอร์เบ็ต
รอบชนะเลิศเหลือสามคน โจทย์อาหารเนื้อวัวออสซี่ ซึ่งบลูทำเนื้อลูกวัวห่อ ตับ/หนวดข้าวโพดทอด หอยนางรม/ไข่ปลาเฮอร์ริ่ง, มิซึกิทำข้าวตังกับเนื้อผัดพริกสี่ชนิด ส่วนจางทำเนื้อวัวราดซุปใส่ก้อนข้าวเหนียวกลิ่นไวลด์ออสเตรเลีย เป็นอันจบการแข่งถ้วยบิ๊กโอทานิ แต่ของจริงไม่จบเพราะเป้าหมายของจางคือสมุดโน๊ต ทำให้เกิดการแข่งถ้วยอากิยามะ (ที่ใช้รางวัลจากตอนที่แล้ว) ระหว่างจางและตัวแทนสิบสามมังกร คือ ซาโตดะ จูโซ ที่มีฉายาพ่อมด และ เลโอนาโด ดา วินชี่ แห่งวงการอาหาร (อาหารคือการก้าวเดินทุกคืนวัน) แต่สามปีมานี้ถูกจ้างมาทำอาหารให้เอริซ่าที่กินยากมาก มีประวัติสร้างเมนูหลากหลาย เช่น ฟริตเตอร์ชั้งโกย แซลมอนมูส กาแฟไม่หก ซูชิมูสซีอิ๊ว เกร็ปฟรุ๊ตและมิราเคิลเบอร์รี่ตัดเปรี้ยว
ในการแข่งถ้วยอากิยามะ (เล่ม 5-7) เป็นการดวลด้วยคะแนน โจทย์แรกทำหมูเปรี้ยว ซึ่งจางทำหมูเปรี้ยวยัดไส้กระเพาะหมูน้ำส้มสายชูดำหมักอู่เหมย ส่วนซาโตดะทำหมูเปรี้ยวเส้น น้ำส้มสายชูเครื่องเทศในฟองลูกอมโคล่า รอบต่อไปคืออาหารเมนูน้ำที่ซาโตดะทำปลาแมงป่องต้มอะความพัททัวร์พร้อมเชอร์เบ็ตแอปเปิ้ลในน้ำ ส่วนจางทำปลาไหลมอเรย์ต้มเผ็ดในน้ำอ่อนและแมงกะพรุนจิ๋วเคล้าผัก
ตอนต่อมาคือ สกูลจะบุกตลาดอาหารแช่แข็งโดยมีพ่อครัวในสังกัดคือ บิโต ฮิกิเมะ และ โกเงียว ส่วน คิริโกะที่เป็นเถ้าแก่เนี้ยคนใหม่ของร้านโกบังโจ ให้จางกลับมาทำงานอีกครั้งเพื่อกระตุ้นพ่อครัวในสังกัด ซึ่งจางก็เริ่มทันทีโดยท้าทำฮ้วยอวยเน็กที่เป็นอาหารพื้นบ้าน ของร้านโกบังโจทำแบบที่คนญี่ปุ่นชอบคือเนื้อหมูต้มหั่นสไลซ์ปรุงรสเผ็ดหวาน จางทำแบบดั้งเดิมคือเอาเนื้อต้มสุกมาผัดจนพลิกแอ่นปรุงรสแล้วคลุกผัก คิริโกะทำฮ้วยอวยเน็กรสเค็ม โอโกโนงิทำฮ้วยอวยเน็กรสช็อกโกแลตโดยใช้พริกไทยดำและราสเบอรี่ตัดหวาน พอถึงจุดนี้ทีมสกูลโผล่มาแจม ฮิกิเมะทำฮ้วยอวยเน็กโดยใช้ข้าวกล้องงอกแทนผักเสิร์ฟฟร้อมซุปจากน้ำลวกหมู โกเงียวทำฮ้วยอวยเน็กพลูคาวกับเนื้อลูกหมูตากแห้ง บิโตทำฮ้วยอวยเน็กสมองหมูรมควันซอส จางจึงเกทับด้วยฮ้วยอวยเน็กโหนกอูฐ
รอบจริงเป็นอาหารหูฉลามในงบพันเยนที่ทั้งหมดล้วนใช้แนวอาหารหนึ่งช้อน บิโตทำไอศกรีมกลิ่นซอส XO เป็นของว่างก่อนอาหาร โกเงียวทำหูฉลามบางเฉียบบนดังโงะเหง้าบัว ฮิกิเมะทำหูฉลามสามเส้นขัดให้เป็นรอยเพื่อดูดซึมรสชาติแล้วชุบโกยย้งใส่คินกะแฮม จางทำหูฉลามไส้ปูในเปลือกแฮ่กึ๊น นับเป็นการดวลจบภาคที่เห็นถึงเงินเดือนต่ำเตี้ยเรี่ยดินของจาง 555
[01/07/14]
ร้านโกบังโจในกินซ่า ยังมี โกบังโจ ยาอิจิ เป็นพ่อครัวใหญ่ คนครัวมี ยูมิซุ อัน และ ยูมิซุ รุย (17 ปี) ลูกสาวของ ยูมิซุ คาริน แห่งยูมิซุโภคภัณฑ์, โอโกโนงิ มาริโอะ (18 ปี) ลูกของโอโกโนงิ ทาคาโอะ และ เซเรน หยาง จากร้านซีดราก้อน (มีน้องสาวแฝดสี่ คิเคียว สึวาบูกิ ยูซุ สัตสึกิ) และที่มาใหม่คือ อากิยามะ จาง (16 ปี) ลูกชายของโกบังโจ คิริโกะ และ อากิยามะ จาง (นึกไม่ออกว่าจะมีความรุนแรงในครัวกันขนาดไหน)
โอทานิ นิจิโด ที่ตอนนี้เป็นเจ้าของร้านเกี๊ยวน้ำเคียวคุโทจิจูกะจูโบ (Far East Chinese Kitchen) ได้ให้ โอทานิ เซ็นเน็น (25 ปี) เป็นผู้จัดการ จางมากินเกี๊ยวกุ้งชีสในซุปมะเขือเทศแล้วท้าประลองอาหารแห่งจิตใจกับเซ็นเน็น โดยทำเกี๊ยวไขกระดูกสุยเปาเจ่าจือ ผลสรุปคือเซ็นเน็นถูกโอทานิลดตำแหน่งไปทำความสะอาดห้องน้ำสามปีฐานเปลี่ยนแป้งเอง
เซ็นเน็นกลับมาท้าทำหมูเปรี้ยวหวาน โดยทำหมูผัดเปรี้ยวหวานสีเหลืองราดซอสเลมอน ส่วนจางทำหมูเปรี้ยวหวานผัดน้ำส้มสายชูดำญี่ปุ่น แข่งโดยการออกเมนูให้ลูกค้า จางเลยออกเมนูเพิ่มมีหมูผัดเปรี้ยวหวานก้อน หมูผัดเปรี้ยวหวานขาว หมูผัดเปรี้ยวหวานแดง หมูผัดเปรี้ยวหวานเหลือง แล้วยูมิซุโภคภัณฑ์ออกซีรีส์อาหารแช่แข็งที่ขายดีถล่มทลาย (แบ่งยอดขายให้ 15%) นอกจากนี้โทโชเม็ง (ตอเซี้ยะหมี่) ของจางฮิตมาก ทำให้นึกถึงตอนสิบขวบที่แม่สอนสั่งในฐานะผู้สืบทอดร้านอย่างน่าสยอง และตั้งใจจะชนะไอ้พ่อบ้าให้ได้
โอทานิส่งคนจากสาขานิวยอร์คมาสู้โดยให้ไปท้าที่ร้านโกบังโจ รอบแรก จางกับ โอทานิ ทาเทวากิ แข่งความเร็วในการทำโทโซเม็ง จางชนะขาด รอบสองทำโทโซเม็ง จางทำหมาล่าจูเสวียเตาเซี่ยวจ้าเมี่ยน (เชือดลูกหมูในร้านเลย) เอาชนะมาริโอะที่ทำพายตะพายโทโซเม็ง เจี่ยอวี๋เสวี่ยชู่ผี (ให้ตะพาบที่มีไข่และเชือดในร้านอีกตัว) ส่วน โอทานิ มอนโด ที่ทำโทโซเม็งเจ็ดสีแบบอิตาเลียน ไฉ่หงเซ่ออี้ต้าลี่เมี่ยน
โอทานิขอให้ประธาธานสมาคมอาหารจีนแห่งญี่ปุ่น ไซ โนบุโนริ จัดแข่งขันราชาอาหารจีนแห่งญี่ปุ่น รุ่นสองที่เข้าแข่งคือ โก เงียวกิ (สาวโลลิ 21 ปี) ลูกสาวเซียนโกเงียว จากร้านโกบังโจสาขาฮ่องกง ที่ถนัดใช้ยา, อาบุคุมะ มีช่า (16 ปี) ไอดอลลูกสาวจอง คุมะ เก็น หรือ อาบุุมะ เก็นจิน ร้านโทโดโอ ที่ฮอกไกโด และ โลเปส อากีเล่ (24 ปี) ลูกน้องจางรุ่นพ่อ ที่ต้องการชนะเพื่อมาดวลกับจางรุ่นพ่อ, คาวาฮาระ เรียวสุเกะ ลูกชายของคาวาฮาระ ยูจิ ที่เปิดโรงเรียนทำอาหารด้วยเครื่องมือ
ส่วนกรรมการที่เคยเผชิญหรือแพ้จางรุ่นพ่อมาก็มีฟูจิตะ คันอิจิ หัวหน้าพ่อครัวร้านอาหารจีนเพื่อสุขภาพฟูจิตะ (อาหารคือสมุนไพร), เอลิซซ่า ซาโตดะ ผู้นำภัตตาคารอาหารจีนในอเมริกาสิบสามมังกร (อาหารคือเวทมนตร์), จุน โทโมฮิเดะ หัวหน้าพ่อครัวร้านโทโยโร (อาหารคือวัฒนธรรม), ซาวาดะ เค ร้านคุนลุ้น ที่รปปงงิ (อาหารคือไฟและน้ำแข็ง) และ ซาซาบี้ ฮอนโง อยู่ที่แคลิฟอร์เนีย (อาหารคือความเป็นสากล)
รอบคัดเลือกจัดที่เรือโกลเด้นฟลาวเวอร์ รอบรอบแรกเป็นวงกตคำถาม หั่นเหลือ 684 คน รอบสองให้เลือกเต้าหู้ เหลือ 226 คน รอบสามคัดให้เข้ารอบ 48 คน ทำเมนูเต้าหู้ โก เงียวกิ ทำเหวินซือโต้วฝู่อันเป็นอาหารที่คิดค้นโดยพระสมัยราชวงศ์ชิง มีการหั่นเต้าหู้ขาวอ่อนบางกว่าเส้นผมและเสิร์ฟพร้อมซุป, มาริโอะmeเต้าหู้ปลาโดะโจชุปแป้งทอดสไตล์เสฉวน, อันทำครีมเต้าหู้กัยทีรามิสุชาเขียว, รุยทำเต้าหู้ขาวผัดไข่ม้วน
ในรอบจริง รอบแรกจัดที่ศูนย์วัฒนธรรมประจำเมืองเนมูโระในฮอกไกโด ใช้การจับคู่ดวลให้กรรมการกลางและตัวแทนชาวเมืองตัดสินให้เหลือ 24 คน จางทำฝูหรงไหต๋านเฝ่นหรวนเชี่ยวเสี่ยวหลงซยา (ประมาณกุ้งเครย์ฟิชผัดพริก) ชนะ 3D ต้ายิ่นจีตี้หวังเซี้ยะ (ปูทาฮาระทำจากเปลือกรสปูพิมพ์ 3D ใส่ใส้ข้าวผัดและครีมปู) ของคาวาฮาระ มาริโอะทำเนี้อกวาางเรนเดียร์ย่างไวน์แดงกับซอสแบล็กเคอแรนต์ (แน่ในจะว่าอาหารจีน ถึงมีชื่อจีนเฮยจยาหลุนหงจิ่วจือชวิ่นลู่โร่ว) อันทำซาลาเปาจี๋กุยเอ๋อร์เซี่ยวหลงโร่ว รุยทำกุ้งอิบาราโมะผัดพริก โลเปสทำโหยวจู่หยางชงไห่ขุยหรือกงฟีดอกไม้ทะเลกับต้นหอม เงียวคิทำเป่าเลอชิวกัวหม้อไฟปลาคาจิกะ และ โอทานิ ซุยเร็น ทำเหลียนเจียฮุ่นเหอเซิงอวี๋เพี่ยน (ซาชิมิ) ระหว่างนี้ก็เกิดเรื่องอันและมีช่าต่อสู้ชิงจาง
รองสอง อาหารแห่งศตวรรษ 21 ใช้แข่งสี่เลือกสอง (ได้เห็นชื่อแล้วก็เกิดอาการระลึกความหลังในภาคแรก) โอทานิ มกคิน ทำปลากระพงนึ่งกากเต้าหู้สไตล์นูเวลชินัว ชนะที่หนึ่ง ส่วนไข่ปลาปักเป้าและพาสต้าเมาเอ่อมันเทศโทโรจิมะคินโทคิของจางเข้าเป็นที่สอง (แพ้เพราะรังไข่ปลาปักเป้าหมักเป็นของพื้นบ้าน ธรรมดาเกิน) ที่ตกรอบคือแมงดาผัดพริกเสฉวนพร้อมซอสเหล้าหวานดำกับส้มอามานัทสึของเซ็นเน็น และจักจั่นทอดทั้งตัวของ อิคุโนะ ไทระ ส่วนเงียวกิทำหอยนางรมนึ่งซอสเหล้าจีนกับผลวอลนัตญี่ปุ่นชุยเร็นทำซุปคอลลาเจนรังไข่ปลาปักเป้ากับจักจั่น โลเปสทำข้าวผัดไข่ปลาปักเป้ารมควันกับชามะลิ มีซ่าทำต้มจืดอุ้งตีนหมี
รอบสามเป็นการแข่งสี่เอาหนึ่ง ชุดแรก จุน อาริอาเกะ ทำชาบูชาบูปลาตาเดียวแบบจีน, โก เงียวกิ ทำหมึกฮาคาชิต้มคอลลาเจรพริกไทยเสฉวน, ทาเคอิ โชตะ ทำหอยนางรมอิวะผัดเต้าหู้ทรงเครื่อง ที่เข้ารอบคือโลเปส อากิเล่ ที่ทำขนมหนวดมังกรทำด้วยถัวแดงไดนะกอน ชุดสอง อาบุคะมะ มีช่า ทำข้าวผัดราดหน้าปูกับต้นหอมอิวาสึ, ยุมิซุ อัน ทำอาคาชิยากิปูขี้เมา, โยเนดะ โจได ทำซาลาเปาเนื้อย่างบกคาเคะ และที่เข้ารอบคือ โอโกโนงิ มาริโอะ ที่ทำซาบะซูชิย่างถ่านรสส้ม ชุดสุดท้าย โอทานิ ซุยเร็น ทำข้าวนึ่งปลาไหลทะเลเกาลัด, โอทานิ มกคิน ทำตาลิญาตาเนี้อวัวโกเบแต่งด้วยภูเขาทอง มันภูเขา และเห็ดสน, ชิมาชิมะ ทาเทจิมะ ทำผัดหมึกใส่หมึกดำ และที่เข้ารอบคือ อากิยามะ จาง ที่ทำเนื้อโกเบอบส่วนทีโบนหมักเต้าเจี้ยวรสเผ็ดชา
รอบชนะเลิศแข่งที่เกาะอาโองะชิมะโดยให้หาวัตถุดิบกันเอง โอโกโนงิ มาริโอะ ทำเคบับพยัคฆ์ขาวเนื้อสามแบบ แต่งเป็นรูปเสือ, โลเปส อากิเล่ ทำเต่าทะเลกับอามะไดไฟน้ำแข็ง แต่งรูปมังกร, จาง ทำพินผานหงส์สามมิติตำรับร้านโกโจบัง แต่งรูปหงส์ ผลคือได้คะแนนเต็มทั้งหมด จนจางรุ่นพ่อและคิริโกะมาป่วน ทำให้จางชนะ โดยระหว่างการแข่งก็มีเรื่องที่ โครันเซ ไป๋หลันหวัง มาทวงทรัพสมบัติที่ อากิยามะ ไคอิจิโร่ ขโมยไป ส่วน โกบังโจ มุตสึจู ที่แย่งคู่หมั้น คาซุมิ ก็เคยขโมยเงินทุนบยามาชิตะ พวกสุดแสบก็เอาตัวหวงหลันชิงให้พาไปหา โจบังโก โยโรคุ พ่อของคิริโกะ ที่ฆ่า อากิยามะ บาคุ และโค ที่เป็นปู่ย่าของจาง แล้วตัดจบเพียงเท่านี้ ...
ลายเส้นก็เหมือนเดิม ส่วนความโดดเด่นด้านหน้าอกสตรีที่ท้าทายแรงโน้มถ่วงก็ยิ่งมากขึ้นอีก อาหารมาแปลกแต่ยังไม่โหดเท่าภาคแรกที่กลายเป็นตำนานของแท้และสามารถสร้างความทรงจำอย่างตราตรึง (แต่ไปทางลบเป็นส่วนมาก) สรุปคืออ่านเพื่อระลึกความหลังค่ะ
[10/01/22]
ที่มา
[1] Saijo Shinji & Oyama Keiko. จอมโหดกระทะเหล็ก! (Tetsunabe no Jan!). วิบูลย์กิจคอมมิกส์, 27 เล่มจบ, 2540-2545 (ต้นฉบับ 1995-2000).
[2] Saijo Shinji. จอมโหดกระทะเหล็ก! R (Tetsunabe no Jan R! Cyojo Sakusen). วิบูลย์กิจคอมมิกส์, 10 เล่มจบ, 2550-2552 (ต้นฉบับ 2007-2009).
[3] Saijo Shinji. จาง!! สายเลือดกระทะเหล็ก (Tetsunabe no Jan!!2nd). สำนักพิมพ์ Phoenix, 7 เล่มจบ, 2550-2552 (ต้นฉบับ 2016-2018).
รายการการ์ตูนญี่ปุ่น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น