ยามดอกวสันต์ผลิบาน - จือจือ

เรื่อง ยามดอกวสันต์ผลิบาน
โดย จือจือ แปลโดย เข่อซิน และ ตะไคร้


สกุลเฉิงแห่งซอยจิ่วหรูเป็นตระกูลบัณฑิตมีชื่อในเมืองจินหลิงตั้งแต่ราชวงศ์ที่แล้ว ปกป้องฮ่องเต้ราชวงศ์ที่แล้วจนตัวตาย ในราชวงศ์นี้ก็เป็นขุนนางหลายคน สกุลเฉิงเป็นครอบครัวใหญ่ มีสายสัมพันธ์แต่งงานกับสกุลใหญ่มีอิทธิพลจำนวนมาก ใช้เวลาหลายชั่วคนค่อยแยกจวนจนกลายเป็นห้าจวน ในรุ่นทวดที่เพิ่งเกิดตอนเปลี่ยนราชวงศ์ อดีตเจ้ากรมมหาดไทย เฉิงซวี่ แห่งจวนรองเป็นผู้นำตระกูล ถือครองทำเนียบวงศ์ตระกูล แต่รุ่นปู่เสียชีวิตเร็ว รุ่นพ่อไม่สามารถสอบจิ้นซื่อได้ ต้องรอถึงรุ่นหลาน เฉิงสือ ที่น่าไปได้ไกล

จวนหลักเสียนายท่านผู้เฒ่ารุ่นปู่แต่ก็มี ฮูหยินผู้เฒ่ากัว และนายท่านผู้เฒ่ารองประคับประคอง รุ่นพ่อที่นำโดยนายท่านใหญ่ เฉิงจิง สอบเป็นจิ้นซื่อและเป็นขุนนางได้ถึงสามคน ส่วนนายท่านสี่ เฉิงฉือ ที่เป็นลูกคนเล็กและอายุห่างมากก็ยิ่งโดดเด่น หลังบิดาตายก็ไปเรียนกับนายท่านผู้เฒ่ารองที่จิงเฉิงแต่เด็ก ตอนอายุสิบหก ตั้งร้านตั๋วแลกเงินอวี้ไท่จนรุ่งเรือง สร้างความร่ำรวยให้สกุลเฉิงทั้งตระกูล มีสายสัมพันธ์กับทั้งขุนนางและขันทีในราชสำนักอย่างลึกซึ้งจนสามารถยันพี่ใหญ่เฉิงจิงขึ้นตำแหน่งสูงได้ อายุยี่สิบเอ็ดก็เริ่มสอบโดยใช้เวลาเพียงสามปีก็ไต่จากซิ่วไฉเป็นจิ้นซื่อลำดับที่สองในรวดเดียว แต่หลังสอบได้กลับไม่รับราชการ มาอยู่จินหลิงเพื่อดูแลกิจการของจวนหลัก ทำให้อิทธิพลของจวนหลักมากพอที่จะยึดตำแหน่งผู้นำตระกูลในรุ่นต่อกลับมาได้ แต่ก็มีจุดอ่อนที่ในรุ่นหลานมีทายาทน้อย แต่คนโต เฉิงสวี่ ก็สามารถสอบซิ่วไฉได้อันดับหนึ่งเมื่ออายุเพียงสิบห้าปี

สำหรับสามจวนที่เหลือ จวนสามไม่สามารถสอบจิ้นซื่อได้ เปลี่ยนไปเป็นทำการค้าร้านโอสถจนร่ำรวยโดยอาศัยอิทธิพลตำแหน่งขุนนนางของจวนหลักและรองค้ำจุน แต่ก็ยังมีความทะเยอทะยานและฝากความหวังกับหลานชาย เฉิงเจิ้ง ที่เป็นซิ่วไฉว่าจะสอบเป็นจิ้นซื่อได้ จวนสี่เสียนายท่านผู้เฒ่าไปเร็ว ได้ ฮูหยินผู้เฒ่ากวน คอยดูแลอย่างระมัดระวังและรักษาความเป็นกลาง ส่วนจวนห้าเสียทั้งนายท่านผู้เฒ่าและฮูหยินผู้เฒ่าเร็ว นายท่านใหญ่ไม่เอาไหน สอบรับราชการไม่ได้ มีชีวิตเสเพล ทะเลาะกับฮูหยิน มีอนุ และจ่ายเงินสุรุ่ยสุร่าย ทำให้จวนห้าเหลือแต่ชื่อแต่ภายในกลวงเปล่า

โจวเจิ้น จากตระกูลโจวในเมืองรื่อเจ้าแห่งซานตง ได้เรียนที่สำนักศึกษาสกุลเฉิงจนสอบได้จิ้นซื่อ ทั้งยังได้แต่งงานกับคุณหนูใหญ่จวนสี่ เฉิงเฮ่อ แต่นางตายตอนคลอดลูกสาว โจวซูจิ่น โจวเจิ้นจึงแต่งงานใหม่กับ จวงเหลียงอวี้ จากครอบครัวข้าราชการที่โตมากับย่า มีทั้งความงามและคุณสมบ้ติเพียบพร้อม จวงเหลียงอวี้ดูแลโจวซูจิ่นอย่างดีเหมือนลูกตัวเองและยังพานางไปพบฮูหยินผู้เฒ่ากัวผู้เป็นยายจนสนิทสนม จวงเหลียงอวี้คลอดลูกสาวคนรอง โจวเฉาจิ่น ที่อายุน้อยกว่าพี่สาวถึงเจ็ดปี แต่การคลอดยาก สุขภาพทรุดโทรมจนตายในภายหลัง โจวซูจิ่นที่มองจวงเหลียงอวี้เป็นแม่แท้ๆ ก็ปกป้องดูแลน้องสาวอย่างเต็มที่ ฮูหยินผู้เฒ่ากัวรับหลานทั้งสองที่ไม่มีมารดามาดูแลสั่งสอน เมื่อโจวเจิ้นต้องไปเป็นนายอำเภอของผูเฉิงแห่งฝูเจี้ยน ลูกสาวจึงยู่กับท่านยายต่อ อีกหลายปีให้หลัง โจวเจิ้นก็แต่งงานใหม่กับ หลี่ซื่อ เมื่อได้ปกครองเมืองหนานซางแห่งเจียงซี ก่อนเลื่อนเป็นเจ้าเมืองเป่าติ้ง ยศผิ่นขั้นสี่เจิ้ง

คุณหนูตระกูลโจวเติบโตในจวนสี่ เป็นที่เอ็นดูของผู้ใหญ่และพี่ชายจวนสี่ ได้เรียนอักษรพิณในห้องศึกษาจิ้งอันสำหรับสตรีของสกุลเฉิง โจวซูจิ่นเป็นคุณหนูใหญ่ที่เพียบพร้อม เคารพนบนอบ อ่อนโยน ให้เกียรติ ตอนอายุสิบสี่หม้ันฮูหยินผู้เฒ่ากัวหมั้นหมายกับ เลี่ยวเส้าถัง บุตรชายผู้สืบทอดตระกูลเลี่ยวแห่งเมืองเจิ้นเจียงที่มีอนาคตสดใส แต่การไว้ทุกข์ในสกุลเลี่ยวทำให้ต้องเลื่อนงานแต่งออกไปนานจนโจวซูจิ่นได้ดูแลน้องสาวจนโต

โจวเสาจิ่นเป็นเป็นคุณหนูรองที่งดงามเหมือนแม่ แต่ไร้เดียงสาอ่อนแอ นิสัยไร้เดียงสาและหัวอ่อนไม่ทันคน สนิทสนมกับ เฉิงเจีย คุณหนูจวนสามที่เรียนด้วยกัน เมื่อโตขึ้นก็ถูกคุณชายจวนห้า เฉิงลู่ ที่ขอให้จวนสี่ช่วยดูแลทรัพย์สมบัติส่วนตัวมาตีสนิทจนโจวเสาจิ่นรับปากแต่งงานทั้งที่โจวเจิ้นคัดค้าน ทว่าเฉิงลู่กลับไปหมั้นหมายกับ อู๋เป่าจาง ธิดาเจ้าเมืองจินหลิง โจวเสาจิ่นยังถูกเฉิงเจียเรียกไปพบที่หลังสวนดอกไม้ ถูกเฉิงสวี่ที่แอบชอบและกำลังเมาข่มขืน มารดาของเฉิงสวี่ หยวนซื่อ ที่กำลังทาบทามคุณหนูใหญ่หมิ่นแห่งฝูเจี้ยนให้มาเป็นสะใภ้ก็โกรธจัด ถึงต้องรับการหมั้นหมายของเฉิงสวี่กับโจวเสาจิ่นแต่ก็ทารุณกรรมว่าที่ลูกสะใภ้จนโจวเสาจิ่นหนีออกจากจวนไปหาโจวซูจิ่นที่เมืองหลวงจินเฉิง

โจวเสาจิ่นตั้งใจจะตัดขาดกับเฉิงสวี่โดยสิ้นเชิง เมื่อพบว่าตั้งครรภ์ก็คิดฆ่าตัวตายจนโจวซูจิ่นช่วยทำแท้งทั้งยังแตกหักกับบิดา โจวเาจิ่นแต่งงานบังหน้าให้ หลินซื่อเซิ่ง หัวหน้าองครักษ์กองทัพฝ่ายซ้ายยศผิ่นขั้นสาม โดยโจวซูจิ่นยกสินเดิมให้ครึ่งหนึ่งแและเลี่ยวเส้าถังยังกู้ยืมเงินมาเป็นสินเดิมให้ด้วย เรื่องเบื่้องหลังคือคู่หมั้นและคนรักแต่เด็กของหลินซื่อเซิ่งต้องโทษกับครอบครัวทำให้แต่งเป็นฮูหยินไม่ได้ หลังแต่งงานหลอกมาหนึ่งปี โจวเสาจิ่นจึงรับคนรักให้เป็นอนุของสามีจนได้บุตรชาย ส่วนตัวเองก็ย้ายไปบ้านสวน ใช้เวลาสวดมนต์และไปวัดแสงดหาความสงบของจิตใจ

หลังเฉิงซวี่เสียชีวิตได้ไม่กี่ปี เฉิงจิงถูกฟ้องว่าบกพร่องต่อหน้าที่และเฉิงเว่ยพัวพันทุจริต ตระกูลเฉิงถูกยึดทรัพย์ บุรุษถูกประหาร สตรีที่จะถูกขายเข้ากองงานฝีมือจึงฆ่าตัวตายทั้งหมด ขนาดหลานสาวที่มีอายุเพียงเดือนเดียวก็ตาย เฉิงสวี่ได้เฉิงฉือช่วยจากลานประหารแต่ก็แขนขาด เฉิงลู่ที่รอดเพราะถูกขับออกจากตระกูล ถูกตระกูลอู๋เลิกการหมั้น ได้แต่งงานกับธิดาเศรษฐีและค้าขายจนร่ำรวย ได้ฟ้องร้องว่าโจวจิ้นสมรู้ร่วมคิดกับตระกูลเฉิง พี่สาวพี่เขยถูกโยงใย ทั้งยังมาหลอกโจวเสาจิ่นให้หนีไปกับตน โจวเสาจิ่นที่ตาสว่างจึงล่อเฉิงลู่มาที่วัดโจคังแล้วใช้กรรไกรปักท้องอย่างตั้งใจฆ่า ก่อนแล้วย้อนกลับไปตอนอายุสิบสอง เหลือเวลาก่อนสกุลเฉิงถูดยึดทรัพย์สิบสามปี

ในชีวิตใหม่ที่ยังไม่ทันคนเท่าไหร่เนื่องจากประสบการณ์จำกัดอยู่ดี โจวเสาจิ่นจึงตั้งใจจะเข้มแข็ง ปกป้องดูแลพี่สาว คนรับใช้ใกล้ชิด และสกุลเฉิงที่ดีกับตน ทั้งยังต้องแยกตนออกตากเฉิงลู่และเฉิงสวี่ให้ได้ จึงพยายามสังเกตและสืบข่าวจนพบว่าคนในสกุลมีความความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและมีการแก่งแย่งชิงดีกันตลอด ทั้งยังพยายามหาผู้อาวุโสที่สามารถบอกเล่าเรื่องการถูกยึดทรัพย์เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงด้วย ความระมัดระวังตัวของโจวเสาจิ่นทำให้เป็นที่โปรดปรานของผู้อาวุโสหญิงว่ารู้ความ

ระหว่างที่โจวซูจิ่นเริ่มเรียนการดูแลจวนกับฮูหยินใหญ่จวนสี่ ฮูหยินผู้เฒ่ากวนก็ให้โจวเสาจิ่นคัดลอกพระสูตร (ที่ทำอย่างชำนาญในชาติที่แล้ว -_-") ผลงานเข้าตาฮูหยินผู้เฒ่ากัวจวนหลักจนโจวซูจิ่นได้ไปคัดลอกพระไตรปิฎกบทอื่นให้ฮูหยินผู้เฒ่ากัวด้วย ในงานวันเกิดครบรอบแปดสิบปีของเฉิงซวี่ โจวเสาจิ่นพยายามหนีจากเฉิงสวี่จนได้เฉิงฉือช่วยไว้ ภายหลังโจวเสาจิ่นยังพยายามช่วยเฉิงเจียที่ถูกญาติชวนไปเล่นพนันถึงขนาดแอบวางเพลิงใกล้ศาลาที่เล่นในสวนเพื่อให้ถูกผู้ใหญ่สั่งสอน ระหว่างหนีก็ได้เฉิงฉ์อช่วยหลบคนในจวนไว้ ทั้งยังให้สาวใช้ ที่มีวิทยายุทธพามาส่งเรือน ทำให้โจวเสาจิ่นเริ่มคิดจะขอความช่วยเหลือจากเฉิงฉือ ส่วนเฉิงฉือเองก็เริ่มสังเกตโจวเสาจิ่นเป็นพิเศษ

โจวเสาจิ่นได้พวกฮูหยินผู้เฒ่าและลูกสะใภ้พาออกคบหาสมาคมกับสกุลอื่น ได้สนิทสนมกับคุณหนูตระกูลสูงมากกว่าชาติที่แล้ว จวนสามห่างเหินจากจวนสี่มากขึ้น เฉิงลู่ที่สอบผ่านเป็นซิ่วไฉก็ถูกบีบให้รับสมบัติที่นำมาฝากไว้กับจวนสี่เพื่อเลี่ยงภาษีคืนไปจัดการเอง













การแปลโดยทั่วไปคือเข้าใจไม่ยาก ถึงไม่ค่อยลื่นไหลแต่ก็ไม่หนักหนามากแบบหลายเรื่อง ที่อาจทำให้งงบ้างคือเรื่องใครเป็นใคร เพราะนอกจากจะซับซ้อนมากอยู่แล้ว โดยทั่วไปมีอธิบายเพิ่มในเชิงอรรถที่ดี แต่บางครั้งก็ไม่ได้อธิบายหรืออธิบายไม่ดนัก อย่างเฉาเชาที่คนไทยรู้จักในชื่อโจโฉมากกว่า ก็มี่ที่แปลหลุดคือใส่ชื่อซ้ำกันบ้าง ให้ชื่อหรือสะกดชื่อต่างกัน เช่น อู๋ซิ่ว/อู๋เซี่ยซิ่ว เฉิงเส้า/เฉิงเซ่า สำหรับเรื่องสำนวนติดที่ชอบใช้คำที่มีรากศัพท์จากภาษาอังกฤษ เช่น สะพานหินซิกแซก แก๊ง ตัวล็อค นกฟีนิกซ์ ฮัมเพลง เค้ก ฯลฯ และสำนวนสมัยใหม่ เช่น วิสัยทัศน์ จวนขุนนางเหลียงและคณะ (ทำให้นึกถึงการเขียนรายการอ้างอิงมาก 555) มีสะกดผิดบ้าง แต่สำหรับนิยายที่ออกเป็นตอนในเน็ตก็ถือว่าไม่มากนัก

[22/01/22]

ที่มา
[1] จือจือ (เข่อซิน & ตะไคร้ แปล). ยามดอกวสันต์ผลิบาน. Ink Stone_Romance, ตอนที่ 1-200, 2565.


รายการนิยายจีนแปลไทย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spy×Family - Endo Tatsuya

ลำนำรักเทพสวรรค์ - ถงหัว

สืบลับฉบับคาโมโนะฮาชิ รอน - Amano Akira