มังกรผู้พิชิต หงส์คู่บัลลังก์ - เม่ยอวี๋เจ่อ

เรื่อง มังกรผู้พิชิต หงส์คู่บัลลังก์
แต่งโดย เม่ยอวี๋เจ่อ (Mei Yu Zhe) แปลโดย นลิน ลีลานิรมน


มังกรผู้พิชิต หงส์คู่บัลลังก์ ปกเพริศพรายกลับพังภินท์ ซ่างหยางจวิ้นจู่ หวังเซวียน เติบโตอย่างมีเกียรติยศสูงส่งในฐานะธิดาของประมุขสกุลหวังแห่งหลางหยา บิดา เจิ้นกั๋วกง เป็นอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย มารดาคือ จี้นหมิ่นจ่างกงจู่ พี่ชาย หวังซู่ รักใคร่เอ็นดู ตระกูลมีอำนาจในราชสำนัก ไท่โฮ่วเป็นย่าน้อย หวงตี้เป็นน้าชาย อาหญิงเป็นหวงโฮ่วและมารดาของไท่จื่อ จื่อหลง หวังเซวียนยังสนิทสนมและคาดหวังว่าจะสมรสกับองค์ชายสาม จื่อถาน ที่เกิดจากเซี่ยกุ้ยเฟย

ในความเป็นจริง ตระกูลชั้นสูงแก่งแย่งชิงอำนาจจนเสื่อมถอยโดยเฉพาะในด้านกำลังทหาร ในรุ่นก่อนตระกูลหวังเชื่อมสัมพ้นธ์กับราชสำนักหลายชั้น ทั้งยังให้ธิดาสมรสกับ ชิ่งหยางหวัง ที่กุมกำลังทหาร ผ่านมาถึงรุ่นนี้ หวงตี้เกรงกลัวอำนาจตระกูลหวังจะเป็นภัยคุกคาม และได้โอกาสหลังไทเฮาเสียชีวิต ให้ เซี่ยหว่านหรู เป็นไท่จื่อเฟย และอยากเปลี่ยนให้จื่อถานที่เป็นพระโอรสองค์โปรดเป็นไท่จื่อแต่ทำไม่ได้ ที่หวงตี้ยินดีให้หวังเซวียนสมรสกับจื่อถานเพื่อให้สกุลหวังแตกแตกแยก เมื่อเซี่ยกุ้ยเฟยตายกระทันหัน หวงตี้จึงส่งจื่อถานไปเฝ้าสุสานหลวงสามปี โดยคาดว่าเมื่อจื่อถานกลับมาจะได้เวลาสมรสกับหวังเซวียนที่ปักปิ่นพร้อมแต่งงานพอดี

ขณะนั้น ผู้กุมอำนาจทหารคืออวี้จางหวัง เซียวฉี ที่มีชื่อว่าเป็นแม่ทัพสามัญชนชาวฮู่โจว แต่ที่จริงมาจากสกุลเซียวแห่งก่วงหลิง แม่เป็นสตรีต่ำต้อย พ่อตายเมื่ออายุสิบห้า อายุสิบหกเข้าร่วมกองทัพ ติดตามแม่ทัพจิ้งหย่วนไปปราบทูเจวี๋ย สร้างผลงานเลื่องลือ ล่มแคว้นเฮ่อหลาน ฆ่าบุตรชายโทนของทูเจวี๋ยหวัง หลังเฝ้าด่านสามปีก็ได้เป็นแม่ทัพหนิงซั่วฉายาขุนพลสวรรค์ เป็นแม่ทัพใหญ่ติ้งกั๋วจากการปราบกบฏเผ่าไป๋หรง อีกสามปีก็ปราบกบฎใต้ เลื่อนเป็นอวี้จางกง และเมื่ออายุสามสิบก็นำทหารสี่แสนตรึงทูเจวี๋ยอยู่เมืองหนิงชั่ว ได้บรรดาศักดิ์อวี้จางหวังและเป็นฟานหวังต่างแซ่เพียงคนเดียว เซียวฉีมีแม่ทัพที่เป็นคนสนิทสามคนคือ ถังจิ้ง หูกวงเลี่ย และ ซ่งไหฺวเอิน

เซียวฉีเป็นขั้วอำนาจที่ยังไม่เข้าฝ่ายไหน แต่อำนาจที่มากเกินไปทำให้หวงตี้ระแวงและเตรียมจะยึดอำนาจทหารโดยมีอัครเสนาบดีฝ่ายขวา เวินจงเซิ่น เป็นกำลังสำคัญ เซียวฉีจึงตกลงกับหวงโฮ่วและเจิ้นกั๋วกงยอมเป็นเป็นฐานอำนาจให้ไท่จื่อ มีการแสดงออกโดยการสมรสกับซ่างหยางจวิ้นจู่ จื่อถานหมดโอกาสขึ้นเป็นไท่จื่อและไม่ถุกเรียกกลับเมืองหลวงเพื่อไม่ให้ขวางตาหวงโฮ่ว หวังเซวียนต้องเติบใหญ่เพื่อทำหน้าที่ของธิดาสกุลหวัง แต่ในวันสมรสมีสารด่วนจากแนวหน้า เซียวฉีเดินทางไปชายแดนกลางงานเลี้ยงโดยไม่ร่ำลา เพราะทูเจวี๋ยบุกและฮ่องเต้จะยึดอำนาจกระทันหัน หวังเซวียนที่เป็นอวี้จางหวังเฟยจึงหาข้ออ้างว่าป่วยและไปพักฟื้นอยู่ฮุยโจวสามปี ทำให้ออกนอกฉากการชิงอำนาจในเมืองหลวง

ในทูเจวี๋ยก็มีการชิงอำนาจระหว่างองค์ชายทั้งหลาย ที่โดดเด่นมากคือ เฮ่อหลานเจิน หรือหูลวี่ โอรสลับของทูเจวี๋ยหวังกับสตรีเผ่าเฮ่อหลานที่ถูกเซียวฉีฆ่าล้างเผ่า เฮ่อหลานเจินที่ชิงดีชิงเด่นกับกับองค์ชาย ฮูหลาน ที่เป็นหลานอา ได้วางแผนจับภรรยามาต่อรองกับเซียวฉี นำคนหลบซ่อนเข้ามาถึงฮุยโจวและจับตัวหวังเซวียนและพาเดินทางไปชายแดนทูเจวี๋ย แต่ระหว่างทางเซียวฉีช่วยไว้ได้และพาไปค่ายเมืองหนิงชั่ว ส่วนเฮ่อหลานเจินบาดเจ็บหนักถึงขั้นมือขาด เซียวฉียังยุให้ไปตีกับฮูหลานต่อ

ตำหนักสวรรค์พลิกผัน อำนาจในเมืองหลวงเกิดการเปลี่ยนแปลง คนของเวินจงเซิ่นคบคิดทูเจวี๋ยทำให้เวินจงเซิ่นถูกปลด หวงโฮ่วให้เจิ้นกั๋วกงปลอมราชโองการกวาดล้างและประหารอีกฝ่าย หวงตี้เตรียมปลดไท่จื่อแล้วตั้งจื่อถานขึ้นแทน ให้องค์ชายรอง จื่อลวี่ วางเพลิงวัง ฆ่าผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์นคร หวังสวี่ ส่งสารออกไปเรียกกำลังพลแต่ถูกหวงโฮ่วจับได้ จื่อลวี่จึงหนีไปหาเชื้อพระวงศ์ทางใต้ เจี่ยนหนิงหวัง ให้พาทหารแสนห้าขึ้นมาเมืองหลวง หวงโฮ่วจึงยึดอำนาจ ตั้งไท่จื่อเป็นผู้สำเร็จราชการ แล้วให้เซียวฉีพาทหารหนึ่งแสนลงมาจากทางเหนือมาจัดการเจี่ยนหนิงหวังได้อย่างเรียบร้อย ในการนี้หวังเซวียนที่กลับไปเมืองฮุยโจวและกลายเป็นหมากในการแย่งชิงด้วย

หวงโฮ่วฆ่าหวงตี้ จื่อหลงขึ้นครองราชย์ในรัชศกเซวียนเหอ หวงโฮ่วที่ขึ้นเป็นหวงไท่โฮ่วชักนำให้พี่ชายและเซียวฉีฆ่ากันเอง ผลคือเซียวฉีคุมอำอาจได้หมด หวงไท่โฮ่วผิดหวังจนสติเลอะเลือน แต่หวังเซวียนแท้ง จื่อหลงครองราชย์ได้ไม่ถึงปีก็ตกม้าตาย เซียวฉีร่วมมือกับเจิ้นกั๋วกง หวงโฮ่วถูกบังคับให้สละชีพธำรงธรรม โอรสที่ยังแบเบาะ จื่อจิ้ง ขึ้นครองราชย์เป็นหมิงจิ่งตี้รัชศกเฉิงคัง โดยมีเซียวฉีเป็นผู้สำเร็จราชการในฐานะเซ่อเจิ้งหวัง

"เจ้าคือหวางเฟยของข้า คือสตรีผู้จะร่วมชีวิตกับข้า ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าอ่อนแอ!"...ทอดมองบุรุษทั่วหล้า เกรงว่าคงมีเพียงเขาที่ใช้วิธีเช่นนี้บอกรักสตรีคนหนึ่งได้ วาจานี้กลายเป้นคำสาปชั่วชีวิตข้า พันธนาการข้าไว้ข้างกายเขานับแต่นั้นมา รุกถอยร่วมกัน หวานขมร่วมกัน ไม่เหลือที่ให้ขลาดกลัวถอยหลังอีก

ลมฝนหนทางไกล เซียวฉีกุมอำนาจหลักแทนสกุลหวัง เมื่อหวงตี้เด็กตกบันไดจนสมองมีปัญหา จื่อลวี่ตั้งตนเป็นใหญ่ เซียวฉีจึงเรียกจื่อถานกลับมาเมืองหลวงและให้ไปจัดการเชื้อพระวงศ์ทางใต้ คือให้ญาติพี่น้องฆ่าล้างกันเอง ส่วนทางทูเจวี๋ย เซียวฉีก็สนับสนุนให้เฮ่อหลานเจินจัดการองค์ชายฮูหลาน ฆ่าทูเจวี๋ยหวังผู้เป็นบิดา และขึ้นเป็นหูเลวี่ยหวังหุ่นเชิดโดยมีถังจิ้นควบคุม สำหรับหวงเซวียน พ่อออกเดินทางท่องเที่ยวและไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีก แม่เสียชีวิต พี่ชายหวังซู่เข้าทำงานการด้านชลประธานและขึ้นเป็นเจียงซย่าหวัง ตัวหวงเซวียนเองถูกพิษจนสุขภาพแย่ลง

ในรัชศกเฉิงคังปีที่สาม เซียวฉีปลดหมิงจิ่งตี้และตั้งเป็นฉางซาหวัง จื่อถานถูกเชิดเป็นหวงเต้รัชศกหวงซี ถึงเซียวฉีคืนอำนาจแต่ความจริงควบคุมหมดทั้งราชสำนัก รวมถึงหวงโฮ่ว หูเหยา ที่เป็นน้องสาวต่างมารดาของหูกวงเลี่ย อัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายคือหวังซู่ ฝ่ายขวาขวาคือซ่งไหฺวเอินที่แต่งงานกับ อวี้ซิ่ว สาวใช้คนสนิทของหวังเซวียนที่เซียวฉีรับเป็นน้องบุญธรรม ฝ่ายในมีหวังเซวียนถอนรากขุมอำนาจเดิม

แผ่นดินแห่งสงคราม ลูกน้องเก่าแม่ทัพถังจิ้งเหมือนมีปัญหาจึงถูกเรียกเข้าเมืองหลวง ถังจิ้งเลยชิงก่อกบฎ ฆ่าแม่ทัพที่จงรักภักดีเซียวฉี นำทหารห้าหมื่นบุกเข้าจงหยวน ทั้งยังร่วมมือกับหูลวี่หวังแห่งหนานทูเจวี๋ยที่นำทหารหนึ่งแสนและตัวหลัวหวังของเป่ยทูเจวี๋ยอีกสองแสนห้าหมื่น เมืองหนิงชั่วถูกตีแตก หวังซู่ที่ส่งคนรักคือฉางหนิงจ่างกงจู่ กู้ไฉ่เวย ธิดาขุนนางที่ไท่โฮ่วรับเป็นธิดาบุญธรรมไปเชื่อมสัมพันธ์กับเฮ่อหลานเจินถูกคุมตัว ทางแนวหลังก็มีเรื่องการยักยอก โยงใยกับตาเล็กของจื่อถานและหูกวงเลี่ย นั่นคือทั้งหวงตี้และหวงโฮ่ว

เซียวฉีต้องขึ้นปราบแดนเหนือและบุกเข้าทูเจวี๋ยต่อ ซึ่งทำให้ห่างจากศูนย์กลางอำนาจเป็นเวลานาน หวังเซวียนที่ตั้งครรภ์กับซ่งไหฺวเอินต้องตรึงสถานการณ์ที่เมืองหลวงซึ่งกำลังใกล้ระเบิด เซียวฉีที่ครองอำนาจเด็ดขาดทำให้จือถานต้องพระราชทานเครื่องเชิดชูเกียรติเก้าประการ ปูนบำเหน็จขั้นสูงสุด และสัญญาสละราชย์ให้แก่ผู้ที่ตั้งอยู่ในธรรม แต่ในด้านหลังกลับให้สกุลหูกบฏ แต่ส่งข่าวไม่สำเร็จ จึงเกิดการกวาดล้างในราชสำนักอีกรอบ ปลดหวงโฮ่วที่กำลังตั้งครรภ์และฆ่าลูกชายที่คลอด

แต่ซ่งไหฺวเอินทรยศและนำกำลังบุกเมืองหลวง หวังเซวียนเป็นผู้นำในการป้องกันเมืองหลวง ทั้งยังต้องซ่อนตัวลูกฝาแฝดหญิงชาย เซียวอวิ่นหนิง และ เซียวอวิ่นซั่ว ที่กลายเป็นเป้าหมายตัวประกัน การรบชิงอำนาจในเมืองหลวงรุนแรงถึงในวังหลวงที่ทำให้จัดฉากว่าหวงตี้และอดีตหวงโฮ่วตายได้

เซียวฉีขึ้นเป็นเสินอู่เกาจู่หวงตี้ รัชศกไท่ชู ตั้งหวังเซวียนเป็นจิ้งอี้หวงโฮ่ว ปีที่เจ็ดหวังเซวียนที่สุขภาพทรุดโทรมเสียชีวิต ตามด้วยตอนพิเศษ เช่น เรื่องของจื่อถานหลังแกล้งตายซ่อนตัว เรื่ององค์หญิงเฉิงไท่ โหม่วชิ่นจือ ธิดาแม่ทัพที่ตายที่เซียวฉีรับเป็นธิดาบุญธรรม อนุของซ่งไหฺวเอิน และเรื่องระหว่างเซียวฉีและลูกชายที่ขึ้นเป็นไท่จื่อ มีเพียงคนไร้ทางให้ถอยเท่านั้นจึงจะก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ได้ ...

chart มังกรผู้พิชิต หงส์คู่บัลลังก์ /center>
เรื่องนี้ใช้ยุคในจินตนาการเป็นฉาก แต่น่าจะได้อิทธิพลจากยุคยุคห้าชนเผ่าสิบหกอาณาจักรและราชวงศ์เหนือใต้มากพอสมควร อย่างน้อยก็มีสกุลหวังแห่งหลางหยาและตระกูลเซี่ย ว่ากันตามตรง จขบ. รู้สึกว่าทำให้นึกถึงช่วงสุดท้ายของราชวงศ์จิ้นตะวันออก และเซียวฉีก็มีกลิ่นอายของหลิวอวี้ (363–422) ผู้ตั้งราชวงศ์หลิวซ่งไม่น้อยค่ะ

การดำเนินเรื่องใช้มุมมองบุรุษที่หนึ่งของหวังเซวียน ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนจากสาวน้อยที่บริสุทธิ์สดใส ถึงไม่ได้กับไม่รู้เรื่อง แต่ก็ยังอ่อนประสบการณ์มาก ค่อยๆ เจอความโหดร้ายของการแก่งแย่งชิงดี ถูกขัดเกลาจนกลายเป็นนักการเมืองที่เฉียบคม ถึงจะมองว่าโหดร้ายกับคนอื่น แต่ก็เหี้ยมกับตนเองไม่แพ้กัน ร่วมกับเซียวฉี ช่วงชิงอำนาจและความสงบสุขมาได้ ส่วนเซียวฉีนี่ต้องบอกว่าออร่าผู็ทำการใหญ่กระจายมาก

ในการการเฉือนคมชิงอำนาจทำได้เฉียบขาดมาก และที่ถูกใจมากคือไม่ค้างคาให้สงสัยกับอนาคตแบบใครจะโดนเชือดทิ้งเมื่อไหร่ คือการรวบอำนาจทำได้แข็งแกร่งจนน่าจะสร้างยุคที่ไม่วุ่นวายได้ ฉากรบหรือแอ็คชั่นทำได้อย่างโดดเด่นมากสำหรับนิยายที่ค่อนมาทางฝ่ายหญิง สำนวนการแปลบางครั้งอาจรู้สึกแข็งนิดๆ แต่ภาพรวมใช้ได้ การแปลคำและต่ำแหน่งเป็นจีนกลางหมด ทำให้การอ่านสม่ำเสมอ แต่ถ้าไม่ชินตำแหน่งก็อาจจะทำให้สะดุดได้

สุดท้ายคือสงสัยอย่างยิ่งว่าอาการร่างกายทรุดโทรมจนทำให้ตายที่เจอบ่อยมากโดยเฉพาะหลังคลอดที่มีกิจกรรมสมบุกสมบันในนิยายจีน เทียบกับอาการหรือโรคในปัจจุบันคืออะไร คือแมัไม่ได้ตายทันที แต่กลายเป็นเรื้อรังจะตายมิตายแหล่แทนนี่คือป่วยอะไรกันแน่

สรุปในภาพรวมคือเป็นเรื่องที่โดดเด่นมาก ถ้าชอบเรื่องแก่งแย่งชิงดีทั้งทางการเมืองและในราชสำนักจีนโบราณ และสามารถทนกับการปวดตับได้ในระดับหนึ่ง จบแบบลงตัว ถึงไม่สุขนิยมแต่ก็ไม่โหดร้ายเกินไป ต้องขอแนะนำเลยค่ะ

ซีรีส์ ซ่างหยาง ลำนำหงส์ลิขิตบัลลังก์

สุดท้ายคือมีทำเป็นซีรีส์ 'The Rebel Princess' ในปี 2021 มี 68 ตอนจบ ในไทยได้ออกฉายที่ TrueID+ ในชื่อ 'ซ่างหยาง ลำนำหงส์ลิขิตบัลลังก์' นำแสดงโดย จางจื่ออี๋ (หวังเซวียน) โจวอี้เหวย (เซียวฉี) หยางโย่วหนิง (จื่อถาน) อวี๋เหอเหว่ย (เจิ้นกั๋วกง หวังลิ่น) จ้าวหย่าจือ (จี้นหมิ่นจ่างกงจู่) ฮุ่ยอิงหง (เซี่ยกุ้ยเฟย) โดยเป็นซีรีส์เรื่องแรกที่จางจื่ออี๋แสดง ทั้งยังร่วมลงทุนด้วย

โครงเรื่องมีการปรับไปบ้าง แต่การเล่าก็ทำให้เข้าใจง่ายว่าใครทำอะไรไปบ้าง ไม่เหมือนในนิยายที่พอมองจากมุมมองของนางเอกที่ต้องเดารายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับแต่คนอื่น ในเรื่องการช่วงชิงอำนาจหักเหลี่ยมเฉือนคม หลายช่วงรู้สึกว่าสนุกและน่าสนใจกว่าในนิยายด้วย แต่บางครั้งก็รู้สึกว่าความน่าสนใจลดลง ในภาพรวมก็ให้สนุกพอๆ กัน โดยมีการเพิ่มพบทบาทของพ่อนางเอก และเปลี่ยนการจบเรื่องแบบสลับทิศ ที่ จขบ. รู้สึกว่าไม่ค่อยมีเสถียรภาพเท่ากับการจบของหนังสือ เพราะยังไงฮ่องเต้ก็ต้องรู้สึกถูกคุกคามเพราะการกุมอำนาจทหารของขุนนาง

ในภาพรวมคือทำได้ดีมากค่ะ ฝีมือการแสดงเฉียบขาด สถานที่ ฉากและเสื้อผ้าดูปราณีตและมีรสนิยม ไม่หรูหาแบบฉูดฉาดที่มักเจอในซีรีส์ แต่มีหลายฉากที่พยายามทำให้อลังการเกินไป โดยเฉพาะชุดนางเอกที่มักหางยาวลากพื้นแบบไม่เหมาะสมกับบริบท ฉากอาคารดูดีมาก ให้ตวามรู็สึกเหมือนจริง แต่สิ่งแวดล้อมในเมืองมีแนวโน้มจะไม่สมจริงเท่าไหร่เพราะไม่มีเมืองหรือบ้านเรือนประกอบไกลๆ

ฉากสงครามถือว่าดูดีพอใช้ ถึงยังรู้สึกลอยๆ อยู่บ้าง (จขบ. เป็นพวกโหด) แต่เมื่อเทียบกับซีรีส์อื่นคือโดดเด่นเป็นพิเศษ อาจไม่อลังการเหมือนในจินตนาการ โดยเฉพาะเรื่องการใช้ทหารม้า ส่วนเรื่องการใช้ธนู เครื่องยิงหิน หรือการตีเมือง ก็รู้สึกว่าอ่อนไปนิด แต่ก็เข้าใจว่างบจำกัดและเป็นอันตรายมากเกินไป แต่อย่างน้อย ฉากสู้กันบนดินก็ไม่ดูติดสลิงมากเกินไปนัก

ฉากอื่นที่แปลกๆ ก็มีนะคะ อย่างงานปักปิ่นที่มีติดปีกหรือไปทำกันในท้องพระโรง เซียวฉีฆ่าอ๋องทูเจวี๋ยด้วยตัวเอง ทั้งที่ปกติยากมากที่จะมีการสู้ตัวต่อตัวระหว่างผู้นำทัพแบบนี้ การลอบฆ่าจื่อถานที่ไม่คมอย่างมาก ทั้งที่ไม่มีองครักษ์เลยยังเอาไม่ลงในการโจมตีครั้งเดียว การหนีออกนอกวังกลางดึกแบบชิลด์ๆ ฯลฯ

ทั้งซีรีส์ เรื่องที่อยากบ่นมากที่สุดคือการเลือกนักแสดงบางส่วนที่อายุมากเกินไป เข้าใจว่าเลือกจางจื่ออี๋ที่ฝีมือการแสดงไม่ต้องห่วงและร่วมลงทุน แต่อายุจริงสามสิบเก้าตอนถ่าย เมื่อพอเจอบทสาวสิบห้าก็รู้สึกว่าไปไม่รอด ถึงตอนจบที่อายุน่าจะราวยี่สิบห้าก็ฝืนไปหน่อย โดยเฉพาะในช่วงแรกอากัปกิริยาขาดความมีชีวิตชีวาแบบเด็กสาวไร้เดียงสา ดูแล้วไม่เกิดจินตนาการร่วม แถมยังทำให้ตัวละครรุ่นเดียวกันที่อายุอยู่กลุ่มน้อยที่สุดในเรื่องต้องถูกดันอายุขึ้นไปทั้งแผง เวลาเห็นหน้าแล้วเทียบกับสีหน้าตอนพลาดเพราะอ่อนประสบการณ์ คือไปด้วยกันไม่ได้อย่างแรง อย่างจื่อถานที่หน้าแก่เสียขนาดนั้น!

ส่วนพระเอกเป็นรุ่นแก่กว่า เริ่มเรื่องราวสามสิบ ดูแล้วเหมาะสมทั้งในเรื่องบุคลิก และอายุ (อายุจริงสามสิบหก) ทั้งยังแสดงได้ดีมาก ออร่าแม่ทัพผู้ทำการใหญ่อย่างกระจาย มีเสน่ห์สุดๆ รุ่นใหญ่คนอื่นก็ตีบทกันกระจุย พอเห็นตัวละครรุ่นเด็กคนอื่นที่ถึงจะแสดงได้ดี แต่ดูหน้าแก่เกินไป เลยกระอักเลือดอีกรอบ
[03/01/22, 07/02/22, 20/02/22]

ที่มา
[1] เม่ยอวี๋เจ่อ (นลิน ลีลานิรมน แปล). มังกรผู้พิชิต หงส์คู่บัลลังก์. 2 เล่มจบ, สำนักพิมพ์อรุณ, 445 + 482 หน้า, 2563.


รายการนิยายจีนแปลไทย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spy×Family - Endo Tatsuya

ลำนำรักเทพสวรรค์ - ถงหัว

สืบลับฉบับคาโมโนะฮาชิ รอน - Amano Akira