ยอดหญิงหมอเทวดา - อวี้จิ่วฮวา

เรื่อง ยอดหญิงหมอเทวดา
โดย อวี้จิ่วฮวา (Yu Jiu Hua) แปลโดย เม่นน้อย


ปก ยอดหญิงหมอเทวดา 1-4

แผ่นดินแบ่งเป็นหลายแคว้น ต้าโจวอยู่แถบเจียงหนาน ตะวันออกติดทะเล ทางเหนือมีแคว้นเยียนและฉี ทางใต้เป็นแคว้นอี๋และเยวี่ย เมืองหลวงอยู่ที่ซั่งจิง ในสมัยฮ่องเต้ต้าโจวองค์ก่อน เจิ้นกั๋วกง สวีปั๋ว เป็นแม่ทัพใหญ่ควบราชบุตรเขยได้กุมอำนาจมาก จนฮ่องเต้ร่วมมือกันอันชิ่งโหว เซวียอี้ ที่เป็นพระสัสสุระของรัชทายาทกวาดล้างจนหมด ขุนนางที่ตายไปก็มีเสนาบดีกรมอากร เจินซีถิง รวมอยู่ด้วย

แต่ตอนที่สวีปั๋วยังเรืองอำนาจ เจินซีถิงได้จัดการให้ธิดาภรรยาเอก เจินสือเหนียง ที่อายุเพียงสิบเอ็ดปีรีบพระราชทานสมรสกับ เสิ่นจงชิ่ง ที่เป็นจ้วงหยวนฝ่ายบู๊ โดยภรรยาเอกของเจินซีถิงมีชื่อว่าเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง ส่วนเจินสือเหนียงถึงจะเพิ่งอายุสิบเอ็ดปี แต่ก็งามอย่างบริสุทธิ์ มีผิวหิมะกระดูกหยก ถึงเจินสือเหนียงจะเป็นสะใภ้ที่ไม่ถูกกับครอบครัวสามีอย่างแรง แต่ก็ได้ช่วยชีวิตเสิ่นจงชิ่งที่เกือบถูกพ่อตาจัดการเจี๋ยน แต่เสิ่นจงชิ่งที่ไม่รู้เรื่องและถูกบีบให้แต่งงานก็ไม่พอใจเพราะมีสัญญารักอยู่ก่อนแล้วกับ ฉู่ซินอี๋ ธิดาราชอาลักษณ์แห่งสำนักราชบัณฑิต หลังแต่งงานเสิ่นจงชิ่งก็รับอนุ (อี๋เหนียง) ถึงสี่คนก่อนจะรับฉู่ซินอี๋เข้ามาเป็นอนุที่มีอำนาจควบคุมเรือน เจินสือเหนียงที่อายุสิบสามปีก็โวยวายมาเรื่อยก็ผูกคอจนตายจริงๆ

หลังจากเจินสือเหนียงผูกคอตายสำเร็จ วิญญาณของอาจารย์แพทย์ เจี่ยนโยว ก็เข้าร่างเจินสือเหนียงจึงมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง เสิ่นจงชิ่งรำคาญจัดเลยขับไล่เจินสือเหนียงไปบ้านบรรพบุรุษตระกูลเสิ่นที่เมืองอู๋ถงที่อยู่กึ่งกลางระหว่างเมืองหลวงและค่ายเฟิงกู่ของเสิ่นจงชิ่ง มีระยะเวลาเดินทางหนึ่งวัน โดยให้เอาสินเจ้าสาวไปแต่ไม่ได้ช่วยอะไรอื่นอีก เจินสือเหนียงที่พบว่าตัวเองมีลูกติดท้อง คลอดลูกชายฝาแฝด เจี่ยนเหวิน และ เจี่ยนอู่ ยากมาก ตกเลือดจนเกือบตาย อาการเรื้อรังเป็นโรคโลหิตพร่อง ต้องใช้เงินรักษาตัวจนหมด ไม่มีเงินกินยาบ่อยครั้งจนอาการหนักขึ้นถึงขั้นใกล้ตาย มีความลำบากในการดำรงชีวิต เจินสือเหนียงจึงเป็นหมอหาเลี้ยงชีพถึงจะไม่ถูกธรรมเนียม เปลี่ยนชื่อ ขายยาเออเจียวที่ร้านยารุ่ยเสียง โดยแผนระยะยาวคือทำร้านขายยาให้ให้สำนักแพทย์หลวง เป็นทุนของลูกทั้งสองหลังเธอเสียชีวิตภายในเวลาไม่เกินสองปี โดยเตรียมให้ลูกอายุสิบสามก่อนจึงจะบอกเสิ่นจงซิ่งว่ามีลูก เพื่อให้ลูกทั้งสองโตพอที่จะรับมือภัยภายในครอบครัวได้

เสิ่นจงชิ่งเป็นแม่ทัพใหญ่ฝู่กั๋วขุนนางขั้นสอง ใช้เวลาห้าปีปราบวอโค่วทางตะวันออก รวมหนานอี๋และหนานเยวี่ย มีความก้าวหน้าทางราชการรุ่งเรืองแบบลุ่มๆ ดอนๆ เพราะถึงจะมองเรื่องการเมืองออกแต่ตรงไปตรงมา ฮ่องเต้ทั้งเชื่อใจและกุมขมับไปพร้อมกัน โดยน้องสาว เสิ่นจงหรู ได้เป็นพระสนมที่เลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็วจนเป็นเสิ่นเฟย ที่จวนมีมารดา ฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่น ที่มีพื้นเพธรรมดา ไม่ทันเกมเหล่าเสือสิงห์กระทิงแรดในราชสำนัก ส่วนน้องชาย เสิ่นจงชิ่น ที่สอบขุนนางไม่ได้ก็ถูกส่งไปเรียนหนังสือที่เมืองอื่น ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าที่ลำเอียงรักลูกชายคนเล็กไม่พอใจ พยายามหาทางใช้เส้นให้ได้ตำแหน่งขุนนาง ทั้งที่ความจริงคือเสิ่นจงชิ่นอยากเรียนศาสตร์แปดประตูพิศดารเลยขอพี่ชายให้ส่งไปเอง ระหว่างห้าปีนี้ฉู่ซินอี๋ก็ควบคุมในจวนได้เด็ดขาด ออกนิสัยที่ทำให้เสิ่นจงชิ่งเริ่มตาสว่างและเบื่อจนบางครั้งเคยคิดจะหย่า แต่ก็ไม่ได้ทำสักที

ขุนนางอีกคนที่มีความโดดเด่นขึ้นมาพร้อมกับเสิ่นจงชิ่งคือ เซียวอวี้ ที่เป็นจอหงวนบุ๋นคู่กับบู๊ของเสิ่นจงชิ่ง ปัจจุบันเป็นราชมนตรีและเสนาบดีกรมทหารและหัวหน้าสำนักราชเลขาธิการ แต่ด้วยตำแหน่งที่สูงล้ำหน้า บิดาที่เป็นขุนนางยศต่ำกว่าเลยพาอนุไปรับตำแหน่งขุนนางท้องถิ่นนอกเมืองหลวง เนื่องจากภรรยาของเซียวอวี้ที่เสียไปแล้วเป็นเพื่อนสนิทของเจินสือเหนียง จึงรู้เรื่องที่เจินสือเหนียงเคยขอชีวิตสามีกับบิดาไว้จนทำให้เสิ่นจงชิ่งเป็นกำลังสำคัญของฮ่องเต้ที่กำจัดเจิ้นกั๋วกง

เรื่องในราชสำนักก็วุ่นวาย ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันมีโอรสสิบองค์ ฮองเฮาได้ประสูติองค์ชายใหญ่ องค์ชายเจ็ด และองค์หญิงหก แถมอันชิ่งโหวที่เป็นบิดาก็คิดการใหญ่เกินฐานะ ในขณะที่ฮ่องเต้โปรดองค์ชายห้าวัยเจ็ดขวบที่ประสูติจากสนมคนโปรด เจิ้งกุ้ยเฟย ที่มีองค์ชายรองและองค์ชายสิบ เพื่อการควบคุมราชสำนักฮ่องเต้อยากจัดการฮองเฮาและพระสัสสุระแต่ก็ต้องการส่งองค์หญิงหกที่มีฐานะสูงส่งเพราะเป็นพระธิดาในฮองเฮาไปสมรสที่แคว้นฉีเพื่อโดดเดี่ยวแคว้นเยียน ฮ่องเต้ยังยอมสละทายาทที่ยังไม่เกิดของเสิ่นเฟย

เพื่อให้มั่นใจว่าขุนพลสำคัญคือเสิ่นจงชิ่งจะไม่มีสายสัมพันธ์ที่มีอำนาจ ฮ่องเต้ได้จัดการวางยาไว้นานแล้ว โดยประหารเจินซีถิงแบบยกบ้านอย่างไม่จำเป็นเพื่อให้ครอบครัวภรรยาไม่มีอำนาจและทำให้เสิ่นจงชิ่งไม่สามารถหย่าภรรยาที่ไม่มีบ้านให้กลับได้ แต่ฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่นที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวและอยากได้สะใภ้ใหญ่คนใหม่ที่มีเส้นสายให้ลูกชายคนเล็กก็ถูกอันชิ่งโหวหลอกให้สนใจคุณหนูสิบ

ปก ยอดหญิงหมอเทวดา 5-7

ฝีมือของหมอเจี่ยนก็มีชื่อโด่งดังและเป็นที่สนใจของหมอหลวงเมื่อจัดการโรคที่ระบาดได้ เมื่อแม่ของเซียวอวี้คือฮูหยินผู้เฒ่าเซียวป่วยหนักใกล้ตาย แพทย์หาสาเหตุไม่เจอ เจินสือเหนียงก็ถูกตามมารักษาฮูหยินผู้เฒ่าที่เป็นติ่งเนื้องอกหลังโพรงจมูกด้วยกรผ่าตัดจมูกจนสำเร็จ ทำให้เซียวอวี้ซาบซึ้งอย่างหนักเพราะหมอเจี่ยนดื่มยาพิษดับกระหายเพื่อให้มีแรงรักษาจนจบ และยังฉลาดเฉลียวชี้ให้เห็นปัญหาอื่นที่ต้องอาศัยความเฉียบแหลมทางการเมือง

เพื่อไม่ให้ฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่นก่อเรื่องกำจัดสะใภ้ ฮ่องเต้ก็ให้ฝ่ายในเชิญฮูหยินเสิ่นจงชิ่งมาร่วมงานในวัง ทำให้แม่ทัพได้มีปฏิสัมพันธ์กับฮูหยินอีกครั้ง (เจินสือเหนียงต้องหาทางปิดเรื่องลูกแทบแย่) โดยคราวนี้เสิ่นจงชิ่งทั้งประหลาดใจและเริ่มรักโดยไม่รู้ตัว รับผิดชอบดูแลความเป็นอยู่ ในที่สุดคนเถื่อนอย่างนางก็ได้รับการรับรองจากพรรคคอมมิวนิสต์เสียที ได้กลายเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอย่างเป็นทางการ ได้รับสวัสดิการของข้าราชการ และได้รับเงินเดือนจากรัฐทุกเดือนตามระเบียบ 555 ซึ่งทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าที่ไม่เข้าใจสารของฮ่องเต้ไม่พอใจอย่างหนัก

อันซิ่งโหวมีท่าจะยึดอำนาจ ฮ่องเต้เลยเริ่มโยกย้ายทหารและส่งคนไปสืบเรื่องเจินสือเหนียงจนเรื่องลูกฝาแฝดเลยส่งองครักษ์ไปดูแลแต่ไม่ยอมบอกพ่อของเด็ก ในงานเลี้ยงของราชสำนักอันซิ่งโหวลงมือไม่สำเร็จ ส่วนหนึ่งก็เพราะเจินสือเหนียงนี่แหละ เธอยังได้เป็นนายหญิงขั้นห้าแถมป้ายทองเว้นโทษตาย อันซิ่งโหว ฮองเฮา และองค์ชายใหญ่ถูกควบคุม แต่ฮ่องเต้ปิดข่าวเพราะต้องการให้องค์หญิงหกอภิเษกด้วยเกียรติยศสูงสุด แล้วค่อยจัดการให้ฮองเฮาเสียชีวิตภายหลัง

ระหว่างที่เสิ่นจงชิ่งมัวแต่เคลียร์เรื่องในวัง ฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่นที่ไม่พอใจก็ไม่ยอมให้เข้าบ้านกลางดึก เจินสือเหนียงจึงต้องไปขอที่พักพิงกับฮูหยินผู้เฒ่าเซียวจนความลับเรื่องตัวตนแตกหมด ฮูหยินผู้เฒ่าเซียวเลยรับเจินสือเหนียงเป็นบุตรบุญธรรมและข่มเหงรังแกบุตรชายให้ช่วยน้องสาวคนใหม่ 555 เสิ่นจงชิ่งที่เริ่มเข้าใจว่าภรรยาถูกกลั่นแกล้งอย่างไรและยังไงก็รู้สึกผิดและรักไปด้วยก็ยืนยันไม่หย่า เมื่อแม่ไม่ยอมให้กลับมาอยู่บ้านก็จัดการบ้านบรรพบุรุษให้ดี (ส่งคนไปเยอะขนาดนี้ยังไม่รู้เรื่องลูก -_-") ให้น้องชายกลับมาปรนนิบัติแม่ เรื่องทายาทก็จะหาภรรยาให้น้อง ฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่นที่ถึงลูกเตือนก็ไม่เชื่อ ตั้งใจจะจัดการให้เสิ่นจงชิ่งหย่าไปแต่งกับธิดาอันซิ่งโหว

ฝีมือทางการแพทย์ของเจินสือเหนียงถูกเปิดเผยขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากการที่เธอเย็บแผลของเสิ่นจงชิ่ง จนกลายเป็นว่าเสิ่นจงชิ่งให้แต่งตัวเป็นชายไปสอนแพทย์ทหารที่ค่าย แสดงฝีมือทั้งตัดและต่ออวัยวะ อันซิ่งโหวที่ต้องการแก้แค้นเจินสือเหนียงเกิดรู้เรื่องเป็นหมอ ทางฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่นก็ไม่พอใจและถูกหลอกง่ายมาก ในงานฉลองส่งองค์หญิงหกที่เสิ่นจงชิ่งจะเป็นผู้คุ้มกันขบวนเข้าแคว้นฉีเพื่อสืบข้อมูล ฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่นก็หาเรื่องให้ลูกชายหย่า เปิดโอกาสให้ฮองเฮาที่ใกล้จะโดนประทานความตายใช้สัญญาเก่าบีบให้ไทเฮาสั่งประหารเจินสือเหนียง แต่ก็รอดพราะสามารถรักษาองค์ชายเจ็ดที่สลบไปกว่าเดือนที่หมอหลวงถวายฎีกาให้เตรียมงานศพ

ระหว่างที่เสิ่นจงชิ่งคุ้มครองขบวนองค์หญิงหก เจินสือเหนียงก็ต้องรับมือฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่นและคณะ ตั้งแต่เรื่องงานพระศพฮองเฮา คนป่วยที่มารุมจนเปิดเป็นโรงแพทย์หุยชุนซึ่งจัดตามแบบโรงพยาบาลสมัยปัจจุบัน (มีให้ลงนามในหนังสือแจ้งความเสี่ยงด้วย -_-") ถึงเรื่องอาจารย์ของลูกชาย โดยนอกจากได้ราชองครักษ์ที่ฮ่องเต้แอบส่งมานานแล้วเป็นครูสอนวิทยายุทธ์ ยังได้อดีตพระอาจารย์มาสนอวิชาบุ๋นอีก แบบว่าเมื่อเสิ่นจงชิ่งรู้เรื่องลูกถึงเข้าใจว่าตัวเองช้าขนาดไหน

เสิ่นจงชิ่งที่ยังบื้อด้วยความกตัญญูก็พยายามหาทางให้มารดายอมรับภรรยาให้ได้ แน่นอนว่าไม่สำเร็จ แถมฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่นยังถูกสาวใช้ข้างกายที่เป็นสายศัตรูยุให้เล่นแรงจัด แต่เจินสือเหนียงก็ผ่านไปได้ ได้เข้าจวนแม่ทัพอย่างเป็นทางการ อนุทั้งหลายที่ล้วนแต่มีเบื้องหลังออกไป ฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่นก็หลงลืม ผ่านวิกฤตการณ์ชิงตำแหน่งฮองเฮา ทั้งยังสามารถช่วยชีวิตองค์หญิงแปดและองค์ชายห้าที่เป็นว่าที่รัชทายาท เปิดโรงแพทย์และสำนักศึกษาแพทย์หุยชุนในเมืองหลวง แยกร่างบุตรชายขององค์หญิงที่เป็นฝาแฝดติดกัน ฯลฯ คือสรุปว่าอนาคตในรัชสมัยหน้าของตระกูลเสิ่นนับว่าปลอดภัยและมั่นคงแข็งแกร่งอย่างยิ่ง เหลือแต่เรื่องสุขภาพของเจินสือเหนียงที่เลวร้ายลงทุกทีและเป็นจุดอ่อนของเสิ่นจงชิ่งที่เป็นกำลังสำคัญของต้าโจวในการรวบแคว้นอื่น ...

chart ยอดหญิงหมอเทวดา

จุดเด่นของเรื่องนี้คือการเขียนได้น่าติดตามมากเพราะได้ลุ้นและแช่งชักหักกระดูกไปเรื่อยและระหว่างรอเล่มต่อก็ค้างคามาก ในภาพรวม จขบ. ชอบลักษณะทางสังคมที่เข้ากับสังคมศักดินาจีนโบราณเป็นส่วนมากและค่าของหน่วยเงินที่ไม่เวอร์เกินไปนัก ที่หลุดส่วนใหญ่ก็เห็นว่าเพื่อให้พล็อตดำเนินไปอย่างมีขอบเขตมากขึ้น เรื่องการหักเหลี่ยมเฉือนคมยอมรับว่าทางตัวละครหลักไม่เด่น สปอตไลท์ไปลงที่ตัวประกอบอย่างฮ่องเต้และเซียวอวี้แทน 555 ซึ่งถ้าดูกันดีๆ แล้ว แทบพูดได้ว่าทั้งเสิ่นจงชิ่ง เซียวอวี้ และฮ่องเต้ก็มีลักษณะที่เสริมกันดีนะคะ พระมารดาและแม่ก็โดดเด่นกันคนละอย่าง -_-"

เนื่องจากเป็นเรื่องในโลกที่ไม่มีจริง แต่อิงธรรมเนียมจีน ซึ่งในบางแง่ก็เอาจุดใช้เสียมากมายโดยเฉพาะเรื่องสามีลูกสะใภ้ แต่ในบางช่วงชาวบ้านก็มีแนวคิดสมัยใหม่มากเกินไปในยุคศักดินาสวามิภักดิ์ดั้งเดิม จขบ. เลยพยายามเทียบว่าคล้ายสมัยไหนมากที่สุด แต่ในเล่มสองมีมะเขือเทศที่มาจากโลกใหม่ด้วย เลยรู้สึกลักลั่นหน่อยค่ะ ที่ตะหงิดอื่นก็อย่างเสิ่นจงชิ่งที่บอกว่ารบเก่งมาก แต่ดูแล้วไม่ค่อยสังเกตสิ่งรอบข้างอะไรเท่าไหร่ เช่นเรื่องลูกชาย เลยดูไม่ลื่นไปบ้าง แต่เนื่องจากไม่ได้เจอฉากรบจริงจัง เลยยังพอกล้อมแกล้มประมาณว่าเถรตรงไปได้ เมื่อคิดในหลายฉาก มีคนที่ไม่ควรเข้าถึงข้อมูลหรือรู้รายละเอียดที่สาธยายกันออกมาไม่น้อย หรือไม่ก็น่าจะรู้แต่ไม่รู้ เช่นคนที่สอนธรรมเนียมมารยาทการเข้าวังที่บ้านบรรพบุรุษหลายวันแต่ไม่รู้ว่ามีคุณชาย

ระหว่างอ่านที่รู้สึกติดขัดคือเรื่องทักษะแพทย์แผนจีนของเจี่ยนโยวที่ทำเอาสงสัยว่าเธอน่าเรียนแพทย์แผนจีนมามากเพราะดูจะเชี่ยวชาญทั้งยาสมุนไพรและฝังเข็ม ยาชาสำเร็จรูปและยาสลบที่ทำขึ้นก็ทันใจเหลือเกิน เรื่องแพทย์แผนจีนที่การรักษา ยา และยาพิษมีความเวอร์ตามแบบนิยายจีน ซึ่งก็ทำให้ความสงสัยโยงไปถึงโรคต่างๆ ที่ปรากฏในเรื่องว่าถ้าจะมองตามแพทย์แผนปัจจุบันจะออกมาเป็นโรคอะไรและการรักษาควรเป็นแบบไหน เช่น โรคเลือดพร่องหยินพร่อง คุณสมบัติทางยาของรังนกและยาหายากราคาแพงอื่นๆ การทำแผลที่มีการติดเชื้อโดยเย็บปิดหมดทั้งที่ไม่มียาฆ่าเชื้อ (เคยดูสารคดีเรื่องการพัฒนาเพนนิซิลิน เห็นว่าก่อนหน้าที่มีการใช้ในสงครามโลกครั้งที่สอง หมอทหารจะไม่เย็บปิดหมดเพื่อให้ล้างแผลได้) การที่บอกว่าทำคลอดไม่ได้เพราะไม่ใช่หมอตำแย (แต่ยังไงก็น่าจะเคยเรียนมาบ้างนะ) การให้อาหารทางจมูกด้วยสายยาง การต่ออวัยวะที่ จขบ. สงสัยว่ามีอุปกรณ์เช่นแว่นขยายและดูจะง่ายแบบเหลือเชื่อ การ cryogenics โดยไม่มีการเตรียมมาก่อน แถมทิ้งช่วงเป็นวัน เซลล์น่าจะตายหมดแล้ว ฯลฯ เรื่องเทคโนโลยีอื่นก็มีบ้าง อย่างโรงแพทย์ที่มีกระจกบานใหญ่เพราะการผลิตกระจกแผ่นขนาดใหญ่ถือเป็นเทคโนโลยีค่อนข้างใหม่ ค่ายกลที่ใช้ในทางทหารอายุหลายร้อยปีก็จินตนาการไม่ออกว่ามีอะไรบ้าง ใช้พลังงานอะไร ส่วนโลงน้ำแข็งพันปีก็สงสัยเรื่องสมดุลความร้อน

ส่วนเรื่องการแปลก็ตามมาตรฐานของแจ่มใส คือขอยกนิ้วให้กองบรรณาธิการ มีหลุดน้อยเมื่อเทียบกับสำนักพิมพ์ขนาดใหญ่อื่นๆ แต่ จขบ. รู้สึกว่าคำเรียกตัวเองอย่าง ข้าภรรยา หรือ ข้าผู้น้อยอนุภรรยา จะดีกว่าไหมที่จะทับศัพท์ไปเลยเพราะแบบนี้ยาวมาก หรือตำแหน่งฝ่ายหญิงเช่นนายหญิงขั้นสอง ถ้าเป็นฮูหยินขั้นสองคิดว่าดูขลังกว่านะคะ นอกจากนี้ก็มีสำนวนสมัยใหม่อยู่พอสมครร ทำให้อ่านแล้วสะดุดบ้าง แต่ก็เป็นแค่ความเห็นส่วนตัว ไม่ได้ติดใจอะไรค่ะ มีข้อสังเกตนิดหน่อยว่าในเล่มสองมีอ้างถึงซีรีส์ 'พระนางเจินหวน' ด้วย

สรุปความรู้สึกคือการดำเนินเรื่องสามารถทำให้รู้สึกว่าน่าสนุกติดตามเพื่อลุ้นมากพอดู การที่มีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในยุคเก่าเหมือนทำให้ตรรกะความเป็นไปได้ต้องเข้าสู่ความเป็นจริงมากขึ้นบ้าง แต่เมื่องอ่านดีๆ ความลักลั่นในทางการแพทย์และเทคโนโลยีที่เหมือนกับต้องตอบความต้องการที่ยากขึ้นๆ จนเหลือเชื่อ บวกกับแนวคิดด้านสังคมและวัฒนธรรมในหลายช่วงที่ล้ำไปหน่อย ทำให้ฐานรากของความน่าเชื่อถือน้อยลงมาก โดยเฉพาะช่วงสุดท้ายที่อึ้งสนิท สรุปภาพรวมคืออ่านเพลินเพราะความรู้สึกร่วมในการแช่งชักหักกระดูก สำหรับมากกว่ารักอยู่ Qudrant บน แต่ยังไม่ถึงชั้นบนสุดนะคะ ^_^
[02/05/17, 05/05/17, 05/06/17, 02/08/17, 05/09/17, 25/09/21]

ที่มา
[1] อวี้จิ่วฮวา (เม่นน้อย แปล). ยอดหญิงหมอเทวดา. ชุดมากกว่ารัก, แจ่มใสพับลิชชิ่ง, 7 เล่มจบ, 474 + 431 + 434 + 408 + 392 + 392 + 400 หน้า, 2560.


รายการนิยายจีนแปลไทย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spy×Family - Endo Tatsuya

ลำนำรักเทพสวรรค์ - ถงหัว

สืบลับฉบับคาโมโนะฮาชิ รอน - Amano Akira