ไตรภาคถังรุ่งเรือง - หวงอี้
เรื่อง เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ
โดย หวงอี้ แปลโดย น.นพรัตน์
สรุปเรื่องหลัง 'มังกรคู่สู้สิบทิศ' คือ ลูกสาว ฉีจื่อหลิง และ สือชิงเสวียน แต่งงานกับ หลิงจง ที่เป็นบุตรบุญธรรม โค่วจง ที่ตอนนี้ทั้งกลุ่มผู้อาวุโสถอนตัวออกจากยุทธจักรเดินทางไปตะวันตก ส่วน วาวา ส่งศิษย์ทายาท คือ หมิงคง เข้าวังจนได้ครองราชย์เป็นพระนาง บูเช็กเทียน (อู่เจ้า) แห่งราชวงศ์โจว สามารถปกครองได้ราบรื่น ประชาสุขสงบ ในวงขุนนางถึงน่ากลัวแต่ไม่สนใจชนชั้น บูเช็กเทียนก็ต้องการปฏิรูปสำนักศักดิ์สิทธิ์โดยจะล้มสองสำนักแรกหกสำนักหลัง ฆ่าผู้นำ รวบคัมภีร์ไว้ให้หมด
เทพอธรรม ตู้อ้าว โดนสังหาร หลงอิง ที่ถูกเลี้ยงดูให้เป็นกระถางเคล็ดวิชาจิตแห่งธรรมปลูกฝังมารหลบหนีได้ถึงห้าปี จนจวนตัว เผาคัมภีร์ที่มีอรรถกถาของเจ้าอธรรม สั้งหวี่เถียน (ที่ฝึกสำเร็จคนแรก) ทิ้ง สลายฝีมือเริ่มฝึกปรือเอง เมื่อถูกองค์หญิง ไท่ผิง และ พ่างกงกง (ขันทีคนสนิทจากสำนักศักดิ์สิทธิ์) จับได้ บูเช็กเทียนที่ได้บันทึกอสูรฟ้าถึง 9 จาก 10 แล้วจึงให้เข้าวังในนครลั่วหยางมาคัดลอกคัมภีร์ ซึ่งหลงอิงก็ต้องระวังตัวให้ดี เพราะถูก สตรีกุสุมาลย์ นาม ฮูหยินผีเสื้อในฝัน ศิษย์ของคุณชายมากรัก โหวซีไป๋ ที่ต้องการแก้แค้นให้อาจารย์ตามฆ่าเพื่อไม่ให้รวมคัมภีร์ได้ครบ และไม่ให้โดนบูเช็กเทียนฆ่าทิ้งหลังเสร็จงาน
การแก่งแย่งในเมืองหลวงรุนแรง สังฆราชา ฝ่าหมิง แห่งวัดเซ็นพิสุทธิ์ ศิษย์ที่วาวาวางไว้ในสถาบันสงฆ์ โดยให้รวมปมเด่นสำนักมารและสถาบันสงฆ์ฝึกวิชาเทวราชไม่แตกแหลก เพื่อครอบครองจิตเซียนของเรือนฌาณเมตไตร (แบบเดียวกับเทพอาถรรพ์ สือจือเซวียน ที่สามารถจุดไฟรักของแม่สือชิงเสวียนได้) ซึ่งในรุ่นนี้คือ ตวนมู่หลิง ศิษย์ของซือเฟยเซวียน หลงอิงที่ฝึกพันธุมารจึงต้องสู้กับครรภเซียนของตวนมู่หลิง หลังจากพักรบชั่วคราว ยังหว่านล้อมฮูหยินผีเสื้อในฝันให้ร่วมกันช่วย หมิงฮุ่ย และ หมิงซิน เต้าโกวแห่งอารามพรตอนุตตร ศิษย์ของ ตันชิงจื่อ (ทายาทสายหนึ่งของ แม่ชีธรณี ผู้ตั้งเรือนฌาณเมตไตรและบุคคลรุ่นเดียวกับเทพอธรรมรุ่นที่หนึ่ง เซี่ยเทียว) หนีการตามล่าของฝ่าหมิงจากเฉิงตูไปเรือนฌาณเมตไตร ฝ่าหมิงพยายามแย่งชิงกับบูเช็กเทียน ถึงขนาดสังหารแม่ทัพใหญ่ชายแดน ดีที่ฝ่าหมิงยังบาดเจ็บเพราะอยู่ และบูเช็กเทียนได้แสดงฝีมือนำการกวาดล้างหลายรอบจนต้องถอยก่อน (จขบ. สงสัยว่าในฐานะฮ่องเต้น่าจะอยู่แถวหลังมากกว่านะ อย่างว่าแต่บูเช็กเทียนเหมือนจะเก็บงำความสามารถจนแทบไม่มีใครรู้)
หลงอิงที่ตอนนี้พันธุ์มารเริ่มแข็งแกร่งกลายเป็นเทพอธรรมสำเร็จรูปก็เป็นฉากหน้าให้บูเช็กเทียนจัดการกับปัญหา โดยมีผู้ช่วยเป็น ฟงกว่อถิง มือกระบี่หน้าพระพักตร์ และ ว่านเยิ่นหวี่ ยอดฝีมือสำนักกระบี่กวนจงที่ได้ชื่อว่าเป็นมือดาบอันดับเลิศล้ำต่อจากโค่วจง (และใช้ดาบจันทร์ในบ่อของโค่วจงด้วย) จนได้รับพระราชทานนางกำนัล เหรินหยา พร้อมสองผู้ติดตามเป็นอนุ ได้รู้จักหัวหน้าพรรคไผ่ลาย กุ้ยโหย่วเหวย ที่เป็นศิษย์หลิงจง ตั้งใจว่าจะทำเรื่องดีก่อนเร้นกาย แก้ชื่อเสียของสำนัก และเข้าเป็นพวกสนับสนุนมหาเสนาบดี ตี้เหยินเจี๋ย ที่ต่อต้านมหาเสนาบดีวุ่ยอ๋อง อู่เฉิงซื่อ และเหล่าคนโปรดที่มือไม่ถึงหรือน่าสงสัยของบูเช็กเทียน และในเรื่องรัชทายาทที่ยังไม่ได้แต่งตั้งก็สนับสนุนหลินจวือจวินอ๋อง หลี่จงจี
ปัญหาเร่งด่วนคือเรื่องการรบกับชี่ตันที่ไปได้ไม่สวย ม่อชว่อเข่อข่าน แห่งถูเจี๋ยพยายามขยายอำนาจ ทำให้ เหิงคงมู่เยี่ย ราชบุตรเขยแห่งถูฟาน (ทิเบต) มาเป็นทูตเพื่อพยายามสร้างพันธมิตร ซึ่งก็ไปกับตี้เหยินเจี๋ยได้ด้วยดี (กับหลงอิงยิ่งเยี่ยมจนได้สาวผมทอง เม่ยซิวนาฟู มาอีกหนึ่ง) แต่งานนี้ถูเจี๋ยเอาจริง เพื่อบ่อนทำลายความมั่นคงถึงขนาดลงทุนส่งราชครู ควนอี้ และกุนซือคุณหนู ม่อชีจีชุน เข้าจงหยวนเพื่อควบคุมสหพันธ์แม่น้ำใหญ่ ส่วนองค์หญิง หนิงเยี่ยน ราชธิดาก็เป็นราชทูตก็พานักบู๊เข้ามาแสดงศักดา แต่โดนหลงอิงแสดงฝีมือสะกดอีกฝ่ายตรงข้ามและพยายามให้ชนกลุ่มน้องที่ถูเจี๋ยข่มอยู่เอาใจออกห่างอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ทั้งฐานะจริงบวกกับปลอมตัวเป็นลูกครึ่งถูเจี๋ย บุรุษเสี่ยงชีวิต ฟ่านชิงโจว และหมอหลวง หวังถิงจิง (อันหลังนี่ใช้หน้ากากอัปลักษณ์ม่ออี้ซินของโค่วจง <- จขบ. รู้สึกว่าหนังหน้าปลอมนี่ทนดีแฮะ หลายสิบปียังไม่เสื่อมสภาพเลย)
ส่วนชีวิตรักก็จีบสาวเพิ่มดะทั้งจริงทั้งเท็จ (มีโอกาสก็กะลิ้มกะเหลี่ย จูบปาก ลูบคลำโอบกอด ++) เช่น องค์หญิงไท่ผิง, ลูกสาวคนสวยของตี้เหยินเจี๋ย ตี้โอ่วเซียน (คนนี้มีบริการพิเศษเปลี่ยนเส้นเอ็นล้างไขกระดูก บวกหาอาจารย์ให้ อัพเกรดม้าอีก แต่ก็มีสาวใช้ ชิงจือ แถมมาด้วย), นักพรตหญิงฉายาเทพกัญญา มินเสียนชิง เจ้าของอุทยานเอวัง, ขุนนางสาว ซ่างกวนว่านเอ๋อ, นางรำสายลับสองหน้า ฮัวซิ่วเม่ย จากแคว้นชิวซือ ฯลฯ (ทำเอารู้สึกว่านิยายหวงอี้นี่ไม่เห็นฉากเมียหลวงเมียน้อยตีกันเลย ชีวิตครอบครัวสงบสุขอย่างไม่น่าเชื่อ)
เมื่อถึงตอนนี้ หลงอิงใช้อาวุธหลากหลาย เช่น กรงเล็บเหินฟ้า ดาบสีนิล คันธนูใหญ่ที่พับได้ (ยิงระยะพันก้าว) และ อาวุธเชื่อมถล่มฟ้า (ที่นึกไม่ออกว่าหน้าตาอย่างไร แถมบทสัมภาษณ์ผู้แต่งก็ดูเหมือนจะบอกให้จินตนาการเองเอง -_-") บูเช็กเทียนไว้ใจให้นำทัพบุกแดนผิงโจวจี้โจว ทำการปฎิรูปกองทัพ สร้างพันธมิตรกับต้าอ๋องเผ่าซี (และจีบสาวงาม) ฆ่าผู้นำฝ่ายศัตรู (แบบว่าชื่อจำยากและออกแป๊บเดียวตาย)
หลงอิงส่องประกายเกินไปทำให้เริ่มเป็นเป้า การที่ชายแดนสงบชั่วคราวและฝ่าหมิงปรับความเข้าใจกับบูเช็คเทียนได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฝ่าหมิงถูกตบตาด้วยคนสนิท นักพรต ไท่หยวน (เจ้าสำนักอารามนักพรตเทียนซือเต้า) ที่แอบฝึกวิชาฟ้าเหลืองของ ซุนเอิน และคิดว่าเป็น หลูสวิน (ศิษย์ซุนเอิน) กลับชาติมาเกิด แถมรู้ความลับเรื่องการทลายนภากาศจากความทรงจำเดิม จนหลบออกไปฝึกวิชา ทำให้ฝ่าหมิงมาหาหลงอิงเพื่อคุยเรื่องในเมืองเปียนฮวน
แต่เกิดเรื่องร้ายในถูฟาน ทำให้สามสหายต้องรีบเดินทางไปช่วย ตามด้วยออกนอกทางไปตามเบาะแสชนเผ่าลี้ลับ ช่วยคุ้มครองส่งหญิงงามและของวิเศษศิลาสวรรค์ที่เป็นการเดินหมากการเมืองระหว่างเผ่า (ตอนสร้างทอร์นาโดนี่เหมือน Iron Man 555) ตามด้วยเอาแกนของศิลาไปผสมตีเป็นกระบี่ฟ้า (โทนี่ สตาร์คควรอายม้วนเมื่อเทียบกัน เอาโลหะอ่อนผสม หลอมได้มวลเพิ่ม แถมฟังเสียงดูความก้าวหน้าในเตาหลอม คนตีส่วนใหญ่ก็มือใหม่) เล่มหนึ่งมอบให้ฟงกว่อถิง
หลังจากที่หลงอิงรู้ว่าได้ลูกชายกับเม่ยซิวนาฟู แทนที่จะกลับเมืองหลวงก็พากันไปหนันเจา (น่านเจ้า) เพื่อตามหาผู้วิเศษชนเผ่าเหยี่ยว เหมยเยี่ย คนรักของฟงกว่อถิงที่ 'คาดหวังชาติหน้า' มาเกิดใหม่ (ที่ จขบ. ฮามากคือต้องหาก่อนว่าเธอเกิดเป็นใคร และจะยิ่งฮากว่านี้ถ้าเหมยเยี่ยไม่สามารถล็อคสเป็คตามความคาดหมายของฝ่ายชายว่างามจนตะลึง) ซึ่งสาวที่น่าสงสัยมีสองคน คือ จี้กาน สาวงานอันดับหนึ่งของไป๋จู๋ และ เยี่ยหลิง ธิดาอ๋องแห่งเมิ่งเซ่อเจา เสิ้งหลอพี
แถบนี้ก็มีการแย่งชิงระหว่างเผ่าดุเดือดเช่นเคยเพราะ จงมี่จื้อ เจ้าแห่งภูตของสองเผ่าจากพ่อและแม่และคู่ปรับของเหมยเยี่ยกำลังขยายอำนาจ จงมี่จื้อเข้าตีเมืองฟงเฉิง ชาวเมืองหนีหมด เหลือพวกหลงอิงที่มีพันธมิตรคือเยี่ยหลิงและพี่ชาย พีหลอเก๋อ (จขบ. สงสัยมากว่าจะเป็นพระเจ้าพีล่อโก๊ะ <- แปลว่าหวงอี้เขียนให้นักอ่านไทยหรือเปล่า 555) กับนักรบชนเผ่าเหยี่ยวรวมกันแล้วร้อยกว่าที่ต้องรักษาเมืองจากการโจมตีเป็นหมื่น แน่นอนว่าสามารถจัดการได้เรียบร้อย
หลังจากเตร็ดเตร่มาสามปี (เล่ม 10 ถึงกลาง 14) หลงอิงก็กลับถึงลั่วหยาง เช็คชื่อสาวในสังกัด เข้าสู่วังวนของการตั้งรัชทายาทและการทลายนภากาศโดยมีเบาะแสจากวิชาทั้งสี่คือเคล็ดวิชาอมตะ จิตแห่งธรรมปลูกฝังมาร กระบี่เมตไตรย ม้วนภาพเทพประยุทธ์ (ส่วน จขบ. รู้สึกว่าวิชาฝีมือชักคล้ายดราก้อนบอลล์) และการกลบเกลื่อนฉากหลังของซือเจี่ยอู่เจ้าที่ทำให้หลงอิงต้องออกโรงคู่กับฝ่าหมิงที่เมืองเซียงหยางในฐานะผู้อาวุโสสำนักศักดิ์สิทธิ์ เฒ่าประหลาดคัง และ ยมบาลฟาง ที่รอดจากการกวาดล้าง (ระลึกความหลังนิกายเรืองโรจน์ที่โดนสือจือเซวียนเจี๋ยน) เจอ ต๋ามาฮูหยิน สาวลึกลับที่ฝึกคัมภีร์หมื่นวิถีมูลฐานและเข้าตีสนิทหลูหลิงอ๋อง หลี่เสียน
จบเรื่องนี้หลงอิงก็แยกไปสำนักใหญ่สหพันธ์แม่น้ำใหญ่ที่ทะเลสาบต้งถิงในคราบฟ่านชิงโจว นอกจากสืบความลับก็จีบสาวดะ (เยอะจน จขบ. เลิกสน รู้สึกว่าจำนวนสาวน่าจะนำหานป๋อ และทำแต้มใกล้เซี่ยงเส้าหลงเข้าไปเรื่อยๆ) ที่สหพันธ์แบ่งขั้วถูเจี๋ยที่นำโดยราชครู ควนอี้ และสำนักมารที่นำโดยเข่อข่านน้อย ไถเล่อซวีหวิน (ปู่เป็นบุตรของบุรุษสวรรค์ ซีอิ้ง ย่าเป็นธิดา เจ้าเต๋อเอี๋ยน จากมังกรคู่ฯ) บุตรบุญธรรมของม่อชว่อเข่อข่าน มีมือดีที่ซ่อนตัวมากมาย เช่น เกาฉีจ้าน ทายาทขุนพลถังที่โดนกวาดล้างและเป็นศิษย์สำนักม่อจื่อ, ไป่ชิงหยิน หรือ หยางชิงหยิน ที่เจนจบทุกศาสตร์สาขา เป็นศิษย์ ไป่ชิงเอ๋อ (ศิษย์น้องของวาวา) รวมฝีมือของศิษย์เทพอาถรรพ์ มือสังหารเงา หยางซวีเอี้ยน ทายาทราชวงศ์สุยผู้เป็นปู่ และตำราหมื่นวิถีมูลฐาน, ม่ออี้เมิ่ง หรือ เซียงป้า ผู้ดูแลกิจการค้ามนุษย์หอนางโลม ทายาท เซียงอี้ซาน ที่เกี่ยวข้องกับตระกูลหยาง บวกกับยอดฝีมือสำนักนงคราญหยกที่ตั้งโดยไป่ชิงเอ๋อกลุ่มใหญ่ นำโดย เซียงฮูหยิน แน่นอนว่าวิชาทรงเสน่ห์ได้ปะทะพันธุ์มารอย่างดุเดือด (จขบ. ยิ่งอ่านยิ่งสงสัยว่าพลังหลงอิงแปลกและสูงขนาดนั้น เวลาปลอมตัวไม่มีใครสงสัยว่าเป็นพันธุ์มารบ้างหรือ)
มาจบภาคที่บุเช็คเทียนต้องการทลายนภาชืดชาการเมือง ทำให้หลี่เสียนที่สุมหัวกับอู่ซันซือเตรียมการขึ้นบัลลังก์ คนเก่าอย่างตี้เหยินเจี๋ยและพ่างกงกงเตรียมถอนตัว ส่วนหลงอิงก็ต้องเตรียมรับมือด้วยการใช้ฐานะหมอหลวงหวัง ทำการแบบไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวร แต่ที่ลุ้นสุดยาวนาน (ข้ามจากเล่ม 14 จนจบภาคก็ไม่ไปไหน) คงเป็นหลงอิงจะได้ เซียงเยี่ยหลิ่ง (หลานปู่ของ ซ่งซือเต้า และ เซียงสิ้วสวิน) เจ้าของสถานปศุสัตว์ม้าบินเป็นแฟนคนใหม่หรือเปล่า แถมยังถูกสหพันธ์ส่งไปจีบในนามฟ่านชิงโจว โดยมีเดิมพันเป็นตำแหน่งชนชั้นผู้นำ ... เมื่อหลงอิงหวนกลับมา เทพนครคงมิใช่เทพนครเมื่อกาลก่อน ทั้งไม่มีวันกลับคืนสู่สภาพเดิม ราชวงศ์โจวจะถูกราชวงศ์ถังเข้ามาแทนที่ พระราชอำนาจของบูเช็คเทียนเฉกเช่นอาทิตย์ใกล้อัสดงแล้ว ...
ในคำนำเล่มแรกบอกว่าเรื่องนี้ชื่อจีนคือ 'เย่อเยี่ยตังคง' แปลว่า สุริยันจันทราประดับนภา หรือ 'The Only Woman Emperor of China' ช่างห่างไกลกับชื่อไทยที่เหมือนยำ 'มังกรคู่สู้สิบทิศ' + 'เทพมารสะท้านภพ' + 'เหยี่ยวเหนือฟ้า' (ถึงเล่มสุดท้ายจะเป็นผลงานแปลของ ว. ณ เมืองลุง) รู้สึกเหมือนเทชื่อใส่ชามแล้วกวนอย่างไหร่ไม่ทราบแม้ว่าจะสื่อถึงตัวละครหลักได้ตรงกว่าก็เถอะค่ะ
ซึ่งเท่าที่อ่านมาเนื้อหาก็ออกคอมโบเช่นกัน เพื่อให้ได้อรรถรสเต็มที่ควรอ่าน 'จอมคนแผ่นดินเดือด' และ 'มังกรคู่สู้สิบทิศ' ก่อน (แต่ จขบ. ก็ชักหลงๆ ลืมๆ แล้วว่าใครเป็นใคร เพราะงั้นก็ไม่ได้ซีเรียสนัก) ถ้าได้ 'เทพมารสะท้านภพ' และ 'เทพทลายนภา' ก็ยิ่งดี บรรยากาศเหมือนชุมนุมเลี้ยงรุ่นพร้อมเรื่องเก่าเล่าใหม่ แทบจะเป็นการโขกออกมาจากพิมพ์เดิมแล้วโซซัดโซเซไปเรื่อยๆ ความรู้สึก ณ ปัจจุบันคือความซับซ้อนของการเมืองค่อนข้างโอเค แต่ถูกขัดกระแสบวกเจือจางด้วยการดำเนินเรื่องและการจีบสาว อ่านได้แแบบเฉยๆ เก็บแต้มให้ครบ กัดฟันเป็นระยะ เทียบกับผลงานนิยายกำลังภายในเรื่องยาวของหวงอี้เรื่องอื่น จขบ. ขอให้ความชอบที่ตำแหน่งบ๊วย(-_-")
รวมทั้งสิ้นสิบแปดเล่มจบ ระยะเวลาในเรื่องประมาณห้าปีตั้งแต่หลงอิงถูกจับเข้าเมืองหลวงในปีที่สามของรัชกาลเทียนโซ่วจนถึงปีที่หนึ่งในรัชกาลเสิงลี่ที่หลี่เสียนได้ขึ้นเป็นรัชทายาท (ลองเทียบแล้วน่าจะได้ ค.ศ. 693-698) อ้อ เล่ม 15-17 ใช้ตอบการเล่น Reading Bingo Challenge 2014 นะคะ ส่วนภาคสองคือ 'เหยี่ยวมารสัประยุทธ์สิบทิศ' และภาคสุดท้าย 'เหยี่ยวมารสยบสิบทิศ'
เรื่อง เหยี่ยวมารสัประยุทธ์สิบทิศ
โดย หวงอี้ แปลโดย น.นพรัตน์
เรื่องนี้เป็นภาคต่อของ 'เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ' คำนำเล่มแรกบอกว่าเรื่องนี้ชื่อจีนคือ 'หลงจ้านไจ้เยี่ย' ซึ่งแปลได้ว่ามังกรสัประยุทธ์กลางไพร ชื่ออังกฤษคือ 'Dragon Battles in the Wild' เป็นตอนสองของไตรภาคถังรุ่งเรือง เสิ้งถังซันปู้ชวี หรือ The Trilogy of Grand Tang Dynasty - Episode II ซึ่งชื่อไทยก็ให้ความรู้สึกเหมือนเดิมคือ เหยี่ยวมาร x สิบทิศ (x คือตัวแปร อย่าคิดมาก 555) ขอนอกเรื่องว่าคุณพ่อ จขบ. บ่นว่าชื่อยาวไป น่าจะใช้คำสั้นๆ แบบเหยี่ยวมารสู้สิบทิศ แต่ จขบ. ว่าน่าจะเลือกคำที่ยาวเท่ากันและเสียงคล้ายๆ อย่าง ตระการ ตระหง่าน ประสาน หรือทะยาน จะได้คล้องจองและสับสนมากขึ้นว่าชื่อไหนมาก่อนヽ(・∀・)メ
ในด้านเนื้อหาเท่าที่อ่านมา ความรู้สึกปัจจุบันของ จขบ. ก็เหมือนกับภาคก่อนเด๊ะ โดยเฉพาะหลงอิงที่แสดงความเทพแบบลุ่มๆ ดอนๆ ไปเรื่อยๆ และสามารถมีวาทะ 'หลงอิงกล้ากล่าวว่านอกจากมันแล้ว ไม่มีผู้ในเข้าใจสถานการณ์อย่างถ่องแท้' [เล่ม 13 หน้า 34] และที่ยิ่งน่ากลัวคือไร้ความรู้สึกขึ้นเรื่อยๆ ... ภาคสุดท้ายคือ 'เหยี่ยวมารสยบสิบทิศ'
หลงอิงกับฝ่าหมิงลอบสังหารหลี่เสียนไม่สำเร็จเพราะเจอหยางชิงเหยินที่ได้รับปูนบำเหน็จในฐานะพระนัดดาของหลี่เอียน หลี่ชิงเหยิน เป็นเหอเจี้ยนอ๋อง ส่วนหลงอิงส่งครอบครัวออกนอกเทพนคร พาฟงกว่อถิงนำทัพผสมราชวงศ์โจวและถูฟานอย่างละห้าร้อยไปหุยเกอเพื่อกวาดล้างขุนโจร เปียนเอ้า และ ตันหลอตู้ ที่เป็นคนของม่อชว่อเข่อข่าน แน่นอนว่าทางถูเจี๋ยก็เตรียมรับมือ เป็นยุทธการทัพแกร่งช่วงชิง เพื่อหาชนเผ่าลี้ลับหลงอิงจึงแยกเดี่ยวออกไปภูเขาเทียนซาน ร่วมมือกับนิกายเรืองโรจน์รุ่นสุดท้าย หยวนจื่อ (อมนุษย์) ฝูไท่ (นิกายนี้เป็นต้นตอคัมภีร์หมื่นวิถีมูลฐาน) ก่อนวกมารวมกับทัพและเผชิญถูเจี๋ยที่วางกับดักพร้อมยอดฝีมือสำนักมาร เหนี่ยวเยา ไล่ล่าถึงเมืองไร้สังกัด (ที่ทำให้นึกถึงเมืองเปียนฮวนสีซีดอย่างไรไม่ทราบ -_-)
ที่น่าสนใจในเล่มหนึ่งคือมีอธิบายอาวุธเชื่อมถล่มฟ้าว่าเป็นสองชิ้นเชื่อมต่อกัน ยาวหนึ่งวาสองเชียะ หนักหนึ่งร้อยยี่สิบชั่ง ด้านหนึ่งเป็นส่วนผสมของหอกและทวน ทั้งยังเป็นเหล็กหมาดและดาบเหิงเตา ซึ่งอ่านแล้วจับฉ่ายดี มีรูปด้วยนะคะ ขอขอบคุณคุณ kts ที่ชี้เป้า ^_^ ในเล่มสองคือธนูมารของหลงอิงยิงได้ตั้งสามลี้คือราวหนึ่งกิโลเมตรครึ่ง รู้สึกรับไม่ได้อย่างไรพิกล แบบว่าเรื่องความสามารถทางกายยอมรับได้ว่าเป็นกำลังภายใน แต่อาวุธน่าจะติดที่เทคโนโลยีด้วย สุดท้ายคิดไปคิดมาได้ว่าเทคโนโลยีเวอร์ก็โผล่มาเยอะมากแล้ว จะเริ่มบ่นทำไมเนี่ย -_- ในเล่มสามที่น่าสยองมากคือฮัวซิ่วเม่ยมาหาหลงอิงและได้รับการบอกตามตรงว่าไม่ได้อาบน้ำเลยตั้งแต่มาถึงดินแดนตะวันตก! (แต่เธอก็ไม่ว่านะ) ส่วนที่น่าสนใจคือความเห็นหลงอิงต่อม่อชว่อเข่อข่านที่ดูแคลนบูเช็คเทียนเพราะใช้เสน่ห์ยั่วยวนจนก้าวขึ้นครองบัลลังก์ว่าน่าจะให้สู้ตัวต่อตัว 555
บูเช็คเทียนใกล้สละราชย์ ทำให้หลงอิงต้องหาทางถอยให้ตนเองและพวกพ้อง โดยเล็งสมบัติในสุสานอดีตข่านถูเจี๋ยเป็นทุนในการเร้นกาย มีการเผยโฉมยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งถูเจี๋ย อวตารคุรุ ทัวปาหูหลอ (มีศักดิ์คล้ายราชาบู๊ ปี้เสียน) ที่สนามพลังระดับบูเช็คเทียน ทำเอาหลงอิงและฝูไท่สาหัส ส่วนสาวงามในช่วงนี้คือเจ้าสำนักนงคราญหยก อู๋เสีย แห่งสำนักนงคราญหยกที่ผลการปะทะออกมาเจ๊ากันไป หลงอิงและพวกไปเมืองภูตร้ายเตรียมหาสุสานซาปอเลวี่ยเข่อข่านและองค์หญิงเชียนจินในทะเลทรายจุงการ์ สำหรับเรื่องลายแทงได้ม่อชีจีชุนช่วยหาพิกัด เมื่อขุดออกมาได้ก็ส่งของวิเศษกลับเผ่าเจ้าของเดิมและแบ่งที่เหลือออกไป ผลงานนอกด่านนี้ได้สดุดีวีรกรรมจากราชสำนักอย่างครึกโครม
ผ่านไปครึ่งปี (หรือห้าเล่มเต็ม) หลงอิงก็ไปถูฟานเพื่อสมทบกับสาวๆ ที่พ่างกงกงพาย้ายหนีมรสุมการเมือง ได้พบกับลูกที่เกิดจากเม่ยซิวนาฟูและตี้โอ้วเซียนตั้งครรภ์และคลอดลูกชายอีกคน หลังพักผ่อนไปหลายเดือน หลงอิงก็กลับภาคกลางโดยใช้ฐานะฟ่านชิงโจวก่อนเปลี่ยนเป็นหวังถิงจิงพาฝูไท่ที่ปลอมเป็นผู้ช่วยเข้าเมืองหลวงเพื่อลงสนามรักกับ โหยวฮูหยิน แห่งสำนักนงคราญหยก ซึ่งฝูไท่ได้เปรียบเพราะมีตำราหนึ่งวิถีมูลฐานทั้งฉบับเปิดเผยและซ่อนเร้น (วิชานงคราญหยกมาจากฉบับเปิดเผยรวมกับอิตถีเพศของสำนักทศเย็น) แถมยังได้ ผู้วิเศษสามจริงแท้ ศิษย์สตรีของฝ่าหมิงเป็นติวเตอร์วิชาเคล็ดลับในหอหยกอีก
คราวนี้หลงอิงได้ log book อย่างดีจาก เชียนไต้ ยอดฝีมือที่อุ้มชูหมิงคงแต่เล็ก ภายหลังถอนตัวไปอยู่สำนักพรต และมาขัดตาทัพปลอมตัวเป็นหมออัปลักษณ์ให้หลงอิงตอนไปอาละวาดนอกด่าน ทำเอาเป็นหมอวิเศษตัวจริงไปแล้ว เมื่อฝ่าหมิงสลายฐานอำนาจ เซียงป้าแทรกซึมวังไทจือ ในสภาพที่บุรุษอ่อนแอสตรีเข้มแข็ง ที่ในช่วงนี้มักเป็นสตรีที่กุมอำนาจรอบตัวหลี่เสียน เช่น พระสนมเหวย, อันเล่อจวินจู่ หลี่กว่อเอ๋อ พระธิดาองค์เล็ก, หนิงไช่ซวง (ยอดฝีมือสถาบันสงฆ์ที่ไว้ผม), ซ่างกวนว่านเอ๋อ นอกจากนี้ยังมียอดฝีมืออย่างรวม ลิซา หรือหลี่หลิงซาที่เป็นนักพรตหญิงผมทอง แจมด้วยสี่นงคราญหยกแห่งสำนักนงคราญหยก (อู๋เสีย ต๋ามาฮูหยิน โหยวฮูหยิน เซียงฮูหยิน) บวกกับสาวในสังกัดอื่นๆ ทำการวินิจฉัยสตรีภายในวังข้อหนึ่ง นั่นคือพวกนางรู้จักยั่วยวนบุรุษ ... วิธีแห่งการยั่วยวนยังเป็นขีดความสามารถในการอยู่รอด
หลงอิงที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงมารและพันธุมารสิงร่างก็สลัดคราบหมอวิเศษ เปลี่ยนเป็นฟ่านชิงโจวเดินทางไปสถานปศุสัตว์ม้าบินเพื่อก่อกวนหยางชิงเหยิน ก่อนถึงฟ่านชิงโจวประลองกับไถเล่อซวีหวิน ถึงสู้ไม่ได้แต่หลงอิงทำให้ไถเล่อซวีหวินต้องพักฟื้นเป็นปีโดยจ่ายออกด้วยการผ่านความตายเป็นคำรบสอง แล้วก็เดินทางไปสถานปศุสัตว์ม้าบิน (ถึงจนได้! จขบ. รอมาสักสิบสี่เล่มแล้ว) โดยฟ่านชิงโจวนำนางโจร ไช่เว่ย ที่ปลอมตัวเป็นชายติดไปด้วย ไช่เว่ยต้องการใช้ไกด์ทัวร์รายการท่องเที่ยวตามรอยเซียนวิเศษ (ชมสถานที่ที่โค่วจงและฉีจื่อหลิงเคยอยู่ กินขนมเปี๊ยะสูตรมังกรคู่ ฯลฯ ซึ่งอ่านแล้วเหมือนทัวร์ตามหนังเกาหลี) ไปหายาให้พี่สาวในหลุมฝังศพ หลู่เมี่ยวจื่อ ที่ใต้หอน้อยหลังเขา
ที่สถานปศุสัตว์ม้าบิน ฟ่านชิงโจวได้รับการต้อนรับอย่างดีผิดคาด อยู่ในหอทัศนาคันนาในบริเวณของตึกฉังจู่ (เจ้าของสถานที่) คนดูแลคือ ซ่งเวิ่น ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องและมือขวาของเซียงเยี่ยหลิ่ง ซึ่งหลังจากหลงอิงได้พบเซียงเยี่ยหลิ่งหลังม่าน (ฝึกลมปราณธาตุธรรมชาติถึงระดับว่านเยิ่นหวี่ทำให้หลงอิงจับคลื่นอะไรไม่ได้) ก็เกิดอาการแรกสดับก็หลงรักแล้วก็เดินหน้าเต็มที่ ซึ่งก็ไม่ยากอะไรเพราะสาวเจ้าหลงรักจากเสียงลือเสียงเล่าอ้างของขุนพลน้อยคนใหม่ แถมไปเค้นคอเอาความจริงจากกุ้ยโหย่วเหวยแล้วเรียบร้อย ทำให้การเดินหน้าเรื่องแต่งงานได้รับไฟเขียวอย่างรวดเร็ว (หลงอิงยังมีหน้าพูดได้เต็มปากว่า 'ดูเหมือนมีภรรยาอนุภรรยามากมาย แต่ที่ตบแต่งสู่ขอมีเพียงนางมารน้อยคนเดียว ตี้โอ่วเซียนเป็นบุตรีโทนของกว๋อเหลา ในสายตาของผู้เฒ่าทั้งหลาย ต้องไม่เป็นการลดฐานะของเฉิงจู่')
กิจกรรมอื่นที่ทำคือช่วยให้ไช่เว่ยสมหวัง สะกดหยางชิงเหยิน ประลองกับทายาทตระกูลซ่งแห่งหลิงหนัน ซ่งขุย ที่ได้รับการชี้แนะจากหลิงชง และก็รับ เซียงอวี้ ดาวรุ่งฝ่ายหญิงของสถานปศุสัตว์ม้าบินเป็นศิษย์ เสริมสร้างเป็นยอดฝีมือเพื่อวางตัวให้เป็นองครักษ์ให้โอรสสามของเซี่ยงอ๋อง หลี่ต้าน นาม หลี่หลงจี ที่จะผลักดันให้เป็นว่าที่โอรสสวรรค์ และได้มือดีฝ่ายชาย มู่เฟย มาเป็นสาวกด้วย และเป็นกำลังสำคัญในการเล่นหม่าฉิว (ตีคลี) ที่พรรคไผ่ลายให้เป็นไพ่ตายรอบชนะเลิศของขบวนสถานปศุสัตว์ทั้งที่หลงอิงเคยดูครั้งเดียว งานนี้ไม่ง่ายเพราะขบวนกวนจงที่นำโดย อวี้เหวินซวอ (ทายาทที่เด่นล้ำสุดของ อวี้เหวินฮั่วจี๋) เสริมด้วยหยางชิงเหยิน และขบวนกวนจงแม้ชนะต้องเท่ากับแพ้แบบเลอะเลือกไม่เข้าใจ นอกสนามยังมียอดหญิงแห่งเจียงหนัน ตูเฟิ่ง (ตัวจริงคือ ซวงเฉียว ธิดาบุญธรรมของเซียงป้า) พร้อมอู๋เสียที่ปลอมเป็นสาวใช้
ภารกิจที่สถานปศุสัตว์ม้าบินสิ้นสุดในเล่ม 14 หลงอิงกลับเทพนครส่งจดหมายที่เจ้าเรือนญานเมตไตรรุ่นก่อนส่งเคล็ดพลังหยินไร้ที่สุดให้บูเช็กเทียน เป็นการยุติการต่อสู้ช่วงชิงระหว่างสองฝ่าย แล้วหลงอิงก็ช่วยฝูไท่ช่วงชิงความรักของโหยวฮูหยินและเคล็ดสำนึกขวางฟ้าที่ซ่อนอยู่ในตำราหมื่นวิถีมูลฐานฉบับจริง ซึ่งจะช่วยการฝึกวิชามือโลหิตของฝูไท่ ช่วงแรกหลงอิงใช้ฐานะเฒ่าประหลาดคังเข้าเมืองหลวง แล้วเปลี่ยนเป็นใช้ฐานะฟ่านชิงโจวแทรกซึมเข้าเมืองหลวง
ขณะที่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงรุนแรง บูเช็กเทียนเตรียมลอกคราบเพื่อแสวงมรรคาการทลายนภากาศโดยใช้ร่างเซียนไต้ที่กำลังจะตาย ซึ่งสำนักศักดิ์สิทธิ์ก็จะสิ้นสุดกับหมิงคง ตี้เหยินเจี๋ยตาย และ หลี่ฉงรุ่น โอรสองค์โตของหลี่เสียนตายเพราะยาพิษพร้อมน้องสาว หย่งไท่จวินจู่ และราชบุตรเขย อู่เอี๋ยนจี ที่เป็นสายสัมพันธ์เชื่อมตระกูลหลี่และอู่
พวกหยางชิงเหยินสงสัยฟ่างชิงโจวคือหลงอิง แต่ถูกแอบฟังพอดีเลยโดนตลบหลังหลอก หลงอิงส่งครอบครัว (ภรรยาหนึ่งหมวดและลูกชายสองคน) ไปหนันเจาเพื่อหลบมรสุมช่วงผลัดแผ่นดิน ก่อนจะเข้าเทพนครซึ่งตอนนี้ชุมนุมเสือสิงห์กระทิงแรดกันเต็มพิกัด แม้แต่นักพรตไท่หยวนและมหาสมณะ เสียนโซ่ว ที่เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสถาบันสงฆ์ แน่นอนว่าโชว์ดาวน์ของอาวุธเชื่อมถล่มฟ้า และราชโองการสุดท้าย เรื่องหลังของข้ามอบให้หลงอิงจัดการ ... ส่งข้าถึงพระสุสานเฉียนหลิง ร่มหลุมเดียวกับฮ่องเต้ผู้ล่วงลับ จากนั้นทุกคนปลดเกษียณคืนสู่ไร่นา
เรื่อง เหยี่ยวมารสยบสิบทิศ
โดย หวงอี้ แปลโดย น.นพรัตน์
เรื่อง 'เหยี่ยวมารสยบสิบทิศ' (เทียนตี้หมิงหวน) เป็นภาคสุดท้ายของไตรภาคถังรุ่งเรือง (The Trilogy of Grand Tang Dynasty - Episode III) ที่สองภาคแรกคือ 'เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ' และ 'เหยี่ยวมารสัประยุทธ์สิบทิศ' ซึ่ง จขบ. อ่านมาด้วยทิฐิอย่างรุนแรงว่าต้องเก็บให้หมดเพื่อให้ครบชุด อื่นๆ ไม่มีอีกแล้ว หวังว่าจะกัดฟันแข็งใจอ่านภาคนี้ให้จบด้วย อ้อ รู้สึกว่าการออกแบบปกภาคนี้ดูจะง่ายกว่าภาคอื่นนะคะ เปลี่ยนแต่สีเน้นเท่านั้นเอง
บูเช็กเทียนสวรรคต (หมิงคงอมมุกชำระจิตหายใจทางท้อง ฝ่าด่านความเป็นความตายเพื่อทลายนภาสำเร็จ) หลี่เสี่ยนขึ้นเป็นถังจงจงฮ่องเต้ของต้าถัง เปลี่ยนชื่อเทพนครเป็นลั่วหยาง เตรียมย้ายเมืองหลวงไปฉางอาน แต่ที่กุมอำนาจคือเหวยฮองเฮา พระโอรสที่เกิดจากนางกำนัล หลี่ฉงจวิ้น เป็นไทจือ หลี่หลงจีเริ่มออกแววและได้รับการสนับสนุนของหลงอิง ฝ่าหมิงคุ้มครองพ่างกงกงจากไป อู๋เสียพบที่มาของหลงอิง (ทำให้สงสัยว่าเมื่อไหร่ราชินีมารจะเสร็จเทพอธรรม) ฟ่านชิงโจวออกโรงอีกครั้งมาป่วนพวกพรรคต่างๆ ที่หยางโจว
ส่วนที่ลั่วหยาง ฝูไท่ปลอมตัวเป็นหมอวิเศษอัปลักษณ์และเริ่มติดนิสัยหลงอิง ต่อจากโหยวฮูหยินก็ไล่ตามต๋ามาฮูหยิน และ เสี่ยวหมิ่น (นางกำนัลที่ความงามเลื่องลือระดับเหรินหยาของหลงอิง) ที่เหวยฮองเฮาประทานให้ โชคดีที่พบว่าหัวหน้าพรรคอุดร เถียนสั้งเอียน (ที่สั่งฆ่าล้างบ้าน ตู๋กูสั้งหมิง ซึ่งอวี้เหวินซวอกำลังสืบหาตัวการ) คือ เตี้ยนเจี๋ยถัง ที่เป็นศิษย์ทรยศของนิกายเรืองโรจน์ที่ขโมยศิลาห้าสีของสายต๋ามาฮูหยิน หมอวิเศษอัปลักษณ์ยังผ่านด่านองค์หญิงไท่ผิงที่สงสัยว่าเป็นหลงอิงปลอมตัวด้วย
ฟ่านชิงโจวเข้าฉางอานโดยข้ออ้างค้าขายเครื่องหอม โดยอาศัยจมูกที่ไวเป็นเลิศผสมกลิ่นขึ้นมาใหม่และยังได้ความช่วยเหลือจากตัวประหลาดเครื่องหอม หลู่ตัน โดยตั้งเรือนเจ็ดสีขึ้นขายของ ตอนนี้ในวังแบ่งเป็นสามอำนาจ คือ เหวยฮองเฮา อู่ซันซือ และขันที ทังกงกง ส่วนไทจือก็แย่งชิงกับองค์หญิงไท่ผิงและหยางชิงเหยิน หลงอิงสนับสนุนหลี่หลงจีที่ได้ตำแหน่งหลินจวืออ๋อง ระหว่างนี้ก็สร้างปมกับหญิงเพิ่มเติม รวมถึงหมิงฮุ่ยและหมิงซิน (ถึงไม่ที่สุดแต่ไม่ละเว้นแม้แต่แม่ชี) เปิดเผยตัวจริงกับอวี้เหวินซวอและคนอื่นบางคน สรุปคือการดำเนินเรื่องลากไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ และ เรื่อยๆ
ถึงเล่ม 10 ม่อชว่อเข่อข่านบุกจงหยวน หลงอิงนำพลไปยันทัพหน้าไว้ที่เมืองถงว่าน (สร้างโดย เฮ่อเหลียนปอป๋อ จาก 'จอมคนแผ่นดินเดือด') ที่ตั้งอยู่ใต้ของแม่น้ำไห่หลิวถู่ที่มีกำแพงฉางเฉิงน้อย เสร็จแล้วหลงอิงยังนำฝูไท่ อวี้เหวินซวอ และอีกสามคนเข้าทะเลทรายเหมาอูซูจนถึงตัวม่อชว่อเข่อข่านแต่ก็เกือบสูญเสียพันธุมาร (แน่นอนว่าเก็บกู้ได้และเก่งขึ้น) ต่อมาหลงอิงก็นำขบวนทัพเหยี่ยวสู้กับทัพสุนัขป่า
เมื่อจบเรื่องก็ไล่ล่า เหนี่ยวเยา ที่เป็นศิษย์ร่วมสำนักของเถียนสั้งเอียนจนฆ่าได้ที่ชายแดน โหวฮูหยินก็ฆ่าตัวตายไปด้วย แล้วก็ไปหาเหล่าภรรยาและลูกจำนวนมากที่อาศัยแถวหนานเจา และเข้าไปเฉิงตูเพื่อเจรจากับอู๋เสีย ฟ่านชิงโจวเข้าร่วมในวงการเมืองของเมืองหลวงอีกรอบ ช่วงนำพรรคไผ่ลายต่อกรทางน้ำกับพรรคอุดรก็เกือบได้ปักธงกับตวนมู่หลิงที่หยางโจว อีกเกือบคือ ตู๋กูเชี่ยนหยาง ช่วงที่หนุนถังจงจงฮ่องเต้ปะทะเหวยฮองเฮาหลังไทจือหลี่ฉงจวิ้นก่อการล้มเหลวและอู่ซันซือถูกกำจัด
หยางชิงเหยินเป็นผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ หลงอิงและฝู่ไท่ก็ยุ่งในฉางอานต่อ
ที่มา
[1] หวงอี้ (น. นพรัตน์ แปล). เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ. 18 เล่มจบภาค, สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 232 + 224 + 222 + 224 + 231 + 232 + 224 + 224 + 232 + 224 + 223 + 224 + 224 + 232 + 216 + 224 + 216 + 216 หน้า, 2555-2557.
[2] หวงอี้ (น. นพรัตน์ แปล). เหยี่ยวมารสัประยุทธ์สิบทิศ. 18 เล่มจบ, สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 232 + 216 + 216 + 208 + 224 + 224 + 224 + 216 + 216 + 216 + 232 + 232 + 224 + 224 + 224 + 224 + 232 + 224 หน้า, 2557-2558 (ต้นฉบับ 2014-2515).
[3] หวงอี้ (น. นพรัตน์ แปล). เหยี่ยวมารสยบสิบทิศ. เล่ม 1-17, สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 224 + 216 + 216 + 224 + 224 + 224 + 224 + 216 + 216 + 224 + 216 + 216 + 216 + 208 + 216 + 216 + 208 หน้า, 2558-2560 (ต้นฉบับ 2015-2017).
รายการนิยายจีนแปลไทย, ไทม์ไลน์หนังสืออิงประวัติศาสตร์/ย้อนยุค จีน
โดย หวงอี้ แปลโดย น.นพรัตน์
สรุปเรื่องหลัง 'มังกรคู่สู้สิบทิศ' คือ ลูกสาว ฉีจื่อหลิง และ สือชิงเสวียน แต่งงานกับ หลิงจง ที่เป็นบุตรบุญธรรม โค่วจง ที่ตอนนี้ทั้งกลุ่มผู้อาวุโสถอนตัวออกจากยุทธจักรเดินทางไปตะวันตก ส่วน วาวา ส่งศิษย์ทายาท คือ หมิงคง เข้าวังจนได้ครองราชย์เป็นพระนาง บูเช็กเทียน (อู่เจ้า) แห่งราชวงศ์โจว สามารถปกครองได้ราบรื่น ประชาสุขสงบ ในวงขุนนางถึงน่ากลัวแต่ไม่สนใจชนชั้น บูเช็กเทียนก็ต้องการปฏิรูปสำนักศักดิ์สิทธิ์โดยจะล้มสองสำนักแรกหกสำนักหลัง ฆ่าผู้นำ รวบคัมภีร์ไว้ให้หมด
เทพอธรรม ตู้อ้าว โดนสังหาร หลงอิง ที่ถูกเลี้ยงดูให้เป็นกระถางเคล็ดวิชาจิตแห่งธรรมปลูกฝังมารหลบหนีได้ถึงห้าปี จนจวนตัว เผาคัมภีร์ที่มีอรรถกถาของเจ้าอธรรม สั้งหวี่เถียน (ที่ฝึกสำเร็จคนแรก) ทิ้ง สลายฝีมือเริ่มฝึกปรือเอง เมื่อถูกองค์หญิง ไท่ผิง และ พ่างกงกง (ขันทีคนสนิทจากสำนักศักดิ์สิทธิ์) จับได้ บูเช็กเทียนที่ได้บันทึกอสูรฟ้าถึง 9 จาก 10 แล้วจึงให้เข้าวังในนครลั่วหยางมาคัดลอกคัมภีร์ ซึ่งหลงอิงก็ต้องระวังตัวให้ดี เพราะถูก สตรีกุสุมาลย์ นาม ฮูหยินผีเสื้อในฝัน ศิษย์ของคุณชายมากรัก โหวซีไป๋ ที่ต้องการแก้แค้นให้อาจารย์ตามฆ่าเพื่อไม่ให้รวมคัมภีร์ได้ครบ และไม่ให้โดนบูเช็กเทียนฆ่าทิ้งหลังเสร็จงาน
การแก่งแย่งในเมืองหลวงรุนแรง สังฆราชา ฝ่าหมิง แห่งวัดเซ็นพิสุทธิ์ ศิษย์ที่วาวาวางไว้ในสถาบันสงฆ์ โดยให้รวมปมเด่นสำนักมารและสถาบันสงฆ์ฝึกวิชาเทวราชไม่แตกแหลก เพื่อครอบครองจิตเซียนของเรือนฌาณเมตไตร (แบบเดียวกับเทพอาถรรพ์ สือจือเซวียน ที่สามารถจุดไฟรักของแม่สือชิงเสวียนได้) ซึ่งในรุ่นนี้คือ ตวนมู่หลิง ศิษย์ของซือเฟยเซวียน หลงอิงที่ฝึกพันธุมารจึงต้องสู้กับครรภเซียนของตวนมู่หลิง หลังจากพักรบชั่วคราว ยังหว่านล้อมฮูหยินผีเสื้อในฝันให้ร่วมกันช่วย หมิงฮุ่ย และ หมิงซิน เต้าโกวแห่งอารามพรตอนุตตร ศิษย์ของ ตันชิงจื่อ (ทายาทสายหนึ่งของ แม่ชีธรณี ผู้ตั้งเรือนฌาณเมตไตรและบุคคลรุ่นเดียวกับเทพอธรรมรุ่นที่หนึ่ง เซี่ยเทียว) หนีการตามล่าของฝ่าหมิงจากเฉิงตูไปเรือนฌาณเมตไตร ฝ่าหมิงพยายามแย่งชิงกับบูเช็กเทียน ถึงขนาดสังหารแม่ทัพใหญ่ชายแดน ดีที่ฝ่าหมิงยังบาดเจ็บเพราะอยู่ และบูเช็กเทียนได้แสดงฝีมือนำการกวาดล้างหลายรอบจนต้องถอยก่อน (จขบ. สงสัยว่าในฐานะฮ่องเต้น่าจะอยู่แถวหลังมากกว่านะ อย่างว่าแต่บูเช็กเทียนเหมือนจะเก็บงำความสามารถจนแทบไม่มีใครรู้)
[16/01/13, 10/02/13]
หลงอิงที่ตอนนี้พันธุ์มารเริ่มแข็งแกร่งกลายเป็นเทพอธรรมสำเร็จรูปก็เป็นฉากหน้าให้บูเช็กเทียนจัดการกับปัญหา โดยมีผู้ช่วยเป็น ฟงกว่อถิง มือกระบี่หน้าพระพักตร์ และ ว่านเยิ่นหวี่ ยอดฝีมือสำนักกระบี่กวนจงที่ได้ชื่อว่าเป็นมือดาบอันดับเลิศล้ำต่อจากโค่วจง (และใช้ดาบจันทร์ในบ่อของโค่วจงด้วย) จนได้รับพระราชทานนางกำนัล เหรินหยา พร้อมสองผู้ติดตามเป็นอนุ ได้รู้จักหัวหน้าพรรคไผ่ลาย กุ้ยโหย่วเหวย ที่เป็นศิษย์หลิงจง ตั้งใจว่าจะทำเรื่องดีก่อนเร้นกาย แก้ชื่อเสียของสำนัก และเข้าเป็นพวกสนับสนุนมหาเสนาบดี ตี้เหยินเจี๋ย ที่ต่อต้านมหาเสนาบดีวุ่ยอ๋อง อู่เฉิงซื่อ และเหล่าคนโปรดที่มือไม่ถึงหรือน่าสงสัยของบูเช็กเทียน และในเรื่องรัชทายาทที่ยังไม่ได้แต่งตั้งก็สนับสนุนหลินจวือจวินอ๋อง หลี่จงจี
ปัญหาเร่งด่วนคือเรื่องการรบกับชี่ตันที่ไปได้ไม่สวย ม่อชว่อเข่อข่าน แห่งถูเจี๋ยพยายามขยายอำนาจ ทำให้ เหิงคงมู่เยี่ย ราชบุตรเขยแห่งถูฟาน (ทิเบต) มาเป็นทูตเพื่อพยายามสร้างพันธมิตร ซึ่งก็ไปกับตี้เหยินเจี๋ยได้ด้วยดี (กับหลงอิงยิ่งเยี่ยมจนได้สาวผมทอง เม่ยซิวนาฟู มาอีกหนึ่ง) แต่งานนี้ถูเจี๋ยเอาจริง เพื่อบ่อนทำลายความมั่นคงถึงขนาดลงทุนส่งราชครู ควนอี้ และกุนซือคุณหนู ม่อชีจีชุน เข้าจงหยวนเพื่อควบคุมสหพันธ์แม่น้ำใหญ่ ส่วนองค์หญิง หนิงเยี่ยน ราชธิดาก็เป็นราชทูตก็พานักบู๊เข้ามาแสดงศักดา แต่โดนหลงอิงแสดงฝีมือสะกดอีกฝ่ายตรงข้ามและพยายามให้ชนกลุ่มน้องที่ถูเจี๋ยข่มอยู่เอาใจออกห่างอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ทั้งฐานะจริงบวกกับปลอมตัวเป็นลูกครึ่งถูเจี๋ย บุรุษเสี่ยงชีวิต ฟ่านชิงโจว และหมอหลวง หวังถิงจิง (อันหลังนี่ใช้หน้ากากอัปลักษณ์ม่ออี้ซินของโค่วจง <- จขบ. รู้สึกว่าหนังหน้าปลอมนี่ทนดีแฮะ หลายสิบปียังไม่เสื่อมสภาพเลย)
ส่วนชีวิตรักก็จีบสาวเพิ่มดะทั้งจริงทั้งเท็จ (มีโอกาสก็กะลิ้มกะเหลี่ย จูบปาก ลูบคลำโอบกอด ++) เช่น องค์หญิงไท่ผิง, ลูกสาวคนสวยของตี้เหยินเจี๋ย ตี้โอ่วเซียน (คนนี้มีบริการพิเศษเปลี่ยนเส้นเอ็นล้างไขกระดูก บวกหาอาจารย์ให้ อัพเกรดม้าอีก แต่ก็มีสาวใช้ ชิงจือ แถมมาด้วย), นักพรตหญิงฉายาเทพกัญญา มินเสียนชิง เจ้าของอุทยานเอวัง, ขุนนางสาว ซ่างกวนว่านเอ๋อ, นางรำสายลับสองหน้า ฮัวซิ่วเม่ย จากแคว้นชิวซือ ฯลฯ (ทำเอารู้สึกว่านิยายหวงอี้นี่ไม่เห็นฉากเมียหลวงเมียน้อยตีกันเลย ชีวิตครอบครัวสงบสุขอย่างไม่น่าเชื่อ)
[23/03/13, 20/05/13]
เมื่อถึงตอนนี้ หลงอิงใช้อาวุธหลากหลาย เช่น กรงเล็บเหินฟ้า ดาบสีนิล คันธนูใหญ่ที่พับได้ (ยิงระยะพันก้าว) และ อาวุธเชื่อมถล่มฟ้า (ที่นึกไม่ออกว่าหน้าตาอย่างไร แถมบทสัมภาษณ์ผู้แต่งก็ดูเหมือนจะบอกให้จินตนาการเองเอง -_-") บูเช็กเทียนไว้ใจให้นำทัพบุกแดนผิงโจวจี้โจว ทำการปฎิรูปกองทัพ สร้างพันธมิตรกับต้าอ๋องเผ่าซี (และจีบสาวงาม) ฆ่าผู้นำฝ่ายศัตรู (แบบว่าชื่อจำยากและออกแป๊บเดียวตาย)
หลงอิงส่องประกายเกินไปทำให้เริ่มเป็นเป้า การที่ชายแดนสงบชั่วคราวและฝ่าหมิงปรับความเข้าใจกับบูเช็คเทียนได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฝ่าหมิงถูกตบตาด้วยคนสนิท นักพรต ไท่หยวน (เจ้าสำนักอารามนักพรตเทียนซือเต้า) ที่แอบฝึกวิชาฟ้าเหลืองของ ซุนเอิน และคิดว่าเป็น หลูสวิน (ศิษย์ซุนเอิน) กลับชาติมาเกิด แถมรู้ความลับเรื่องการทลายนภากาศจากความทรงจำเดิม จนหลบออกไปฝึกวิชา ทำให้ฝ่าหมิงมาหาหลงอิงเพื่อคุยเรื่องในเมืองเปียนฮวน
แต่เกิดเรื่องร้ายในถูฟาน ทำให้สามสหายต้องรีบเดินทางไปช่วย ตามด้วยออกนอกทางไปตามเบาะแสชนเผ่าลี้ลับ ช่วยคุ้มครองส่งหญิงงามและของวิเศษศิลาสวรรค์ที่เป็นการเดินหมากการเมืองระหว่างเผ่า (ตอนสร้างทอร์นาโดนี่เหมือน Iron Man 555) ตามด้วยเอาแกนของศิลาไปผสมตีเป็นกระบี่ฟ้า (โทนี่ สตาร์คควรอายม้วนเมื่อเทียบกัน เอาโลหะอ่อนผสม หลอมได้มวลเพิ่ม แถมฟังเสียงดูความก้าวหน้าในเตาหลอม คนตีส่วนใหญ่ก็มือใหม่) เล่มหนึ่งมอบให้ฟงกว่อถิง
หลังจากที่หลงอิงรู้ว่าได้ลูกชายกับเม่ยซิวนาฟู แทนที่จะกลับเมืองหลวงก็พากันไปหนันเจา (น่านเจ้า) เพื่อตามหาผู้วิเศษชนเผ่าเหยี่ยว เหมยเยี่ย คนรักของฟงกว่อถิงที่ 'คาดหวังชาติหน้า' มาเกิดใหม่ (ที่ จขบ. ฮามากคือต้องหาก่อนว่าเธอเกิดเป็นใคร และจะยิ่งฮากว่านี้ถ้าเหมยเยี่ยไม่สามารถล็อคสเป็คตามความคาดหมายของฝ่ายชายว่างามจนตะลึง) ซึ่งสาวที่น่าสงสัยมีสองคน คือ จี้กาน สาวงานอันดับหนึ่งของไป๋จู๋ และ เยี่ยหลิง ธิดาอ๋องแห่งเมิ่งเซ่อเจา เสิ้งหลอพี
แถบนี้ก็มีการแย่งชิงระหว่างเผ่าดุเดือดเช่นเคยเพราะ จงมี่จื้อ เจ้าแห่งภูตของสองเผ่าจากพ่อและแม่และคู่ปรับของเหมยเยี่ยกำลังขยายอำนาจ จงมี่จื้อเข้าตีเมืองฟงเฉิง ชาวเมืองหนีหมด เหลือพวกหลงอิงที่มีพันธมิตรคือเยี่ยหลิงและพี่ชาย พีหลอเก๋อ (จขบ. สงสัยมากว่าจะเป็นพระเจ้าพีล่อโก๊ะ <- แปลว่าหวงอี้เขียนให้นักอ่านไทยหรือเปล่า 555) กับนักรบชนเผ่าเหยี่ยวรวมกันแล้วร้อยกว่าที่ต้องรักษาเมืองจากการโจมตีเป็นหมื่น แน่นอนว่าสามารถจัดการได้เรียบร้อย
[30/06/13, 25/08/13, 03/11/13, 05/11/13, 16/11/13]
หลังจากเตร็ดเตร่มาสามปี (เล่ม 10 ถึงกลาง 14) หลงอิงก็กลับถึงลั่วหยาง เช็คชื่อสาวในสังกัด เข้าสู่วังวนของการตั้งรัชทายาทและการทลายนภากาศโดยมีเบาะแสจากวิชาทั้งสี่คือเคล็ดวิชาอมตะ จิตแห่งธรรมปลูกฝังมาร กระบี่เมตไตรย ม้วนภาพเทพประยุทธ์ (ส่วน จขบ. รู้สึกว่าวิชาฝีมือชักคล้ายดราก้อนบอลล์) และการกลบเกลื่อนฉากหลังของซือเจี่ยอู่เจ้าที่ทำให้หลงอิงต้องออกโรงคู่กับฝ่าหมิงที่เมืองเซียงหยางในฐานะผู้อาวุโสสำนักศักดิ์สิทธิ์ เฒ่าประหลาดคัง และ ยมบาลฟาง ที่รอดจากการกวาดล้าง (ระลึกความหลังนิกายเรืองโรจน์ที่โดนสือจือเซวียนเจี๋ยน) เจอ ต๋ามาฮูหยิน สาวลึกลับที่ฝึกคัมภีร์หมื่นวิถีมูลฐานและเข้าตีสนิทหลูหลิงอ๋อง หลี่เสียน
จบเรื่องนี้หลงอิงก็แยกไปสำนักใหญ่สหพันธ์แม่น้ำใหญ่ที่ทะเลสาบต้งถิงในคราบฟ่านชิงโจว นอกจากสืบความลับก็จีบสาวดะ (เยอะจน จขบ. เลิกสน รู้สึกว่าจำนวนสาวน่าจะนำหานป๋อ และทำแต้มใกล้เซี่ยงเส้าหลงเข้าไปเรื่อยๆ) ที่สหพันธ์แบ่งขั้วถูเจี๋ยที่นำโดยราชครู ควนอี้ และสำนักมารที่นำโดยเข่อข่านน้อย ไถเล่อซวีหวิน (ปู่เป็นบุตรของบุรุษสวรรค์ ซีอิ้ง ย่าเป็นธิดา เจ้าเต๋อเอี๋ยน จากมังกรคู่ฯ) บุตรบุญธรรมของม่อชว่อเข่อข่าน มีมือดีที่ซ่อนตัวมากมาย เช่น เกาฉีจ้าน ทายาทขุนพลถังที่โดนกวาดล้างและเป็นศิษย์สำนักม่อจื่อ, ไป่ชิงหยิน หรือ หยางชิงหยิน ที่เจนจบทุกศาสตร์สาขา เป็นศิษย์ ไป่ชิงเอ๋อ (ศิษย์น้องของวาวา) รวมฝีมือของศิษย์เทพอาถรรพ์ มือสังหารเงา หยางซวีเอี้ยน ทายาทราชวงศ์สุยผู้เป็นปู่ และตำราหมื่นวิถีมูลฐาน, ม่ออี้เมิ่ง หรือ เซียงป้า ผู้ดูแลกิจการค้ามนุษย์หอนางโลม ทายาท เซียงอี้ซาน ที่เกี่ยวข้องกับตระกูลหยาง บวกกับยอดฝีมือสำนักนงคราญหยกที่ตั้งโดยไป่ชิงเอ๋อกลุ่มใหญ่ นำโดย เซียงฮูหยิน แน่นอนว่าวิชาทรงเสน่ห์ได้ปะทะพันธุ์มารอย่างดุเดือด (จขบ. ยิ่งอ่านยิ่งสงสัยว่าพลังหลงอิงแปลกและสูงขนาดนั้น เวลาปลอมตัวไม่มีใครสงสัยว่าเป็นพันธุ์มารบ้างหรือ)
มาจบภาคที่บุเช็คเทียนต้องการทลายนภาชืดชาการเมือง ทำให้หลี่เสียนที่สุมหัวกับอู่ซันซือเตรียมการขึ้นบัลลังก์ คนเก่าอย่างตี้เหยินเจี๋ยและพ่างกงกงเตรียมถอนตัว ส่วนหลงอิงก็ต้องเตรียมรับมือด้วยการใช้ฐานะหมอหลวงหวัง ทำการแบบไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวร แต่ที่ลุ้นสุดยาวนาน (ข้ามจากเล่ม 14 จนจบภาคก็ไม่ไปไหน) คงเป็นหลงอิงจะได้ เซียงเยี่ยหลิ่ง (หลานปู่ของ ซ่งซือเต้า และ เซียงสิ้วสวิน) เจ้าของสถานปศุสัตว์ม้าบินเป็นแฟนคนใหม่หรือเปล่า แถมยังถูกสหพันธ์ส่งไปจีบในนามฟ่านชิงโจว โดยมีเดิมพันเป็นตำแหน่งชนชั้นผู้นำ ... เมื่อหลงอิงหวนกลับมา เทพนครคงมิใช่เทพนครเมื่อกาลก่อน ทั้งไม่มีวันกลับคืนสู่สภาพเดิม ราชวงศ์โจวจะถูกราชวงศ์ถังเข้ามาแทนที่ พระราชอำนาจของบูเช็คเทียนเฉกเช่นอาทิตย์ใกล้อัสดงแล้ว ...
[16/12/13, 20/01/14, 17/02/14, 30/03/14, 07/04/14]
ในคำนำเล่มแรกบอกว่าเรื่องนี้ชื่อจีนคือ 'เย่อเยี่ยตังคง' แปลว่า สุริยันจันทราประดับนภา หรือ 'The Only Woman Emperor of China' ช่างห่างไกลกับชื่อไทยที่เหมือนยำ 'มังกรคู่สู้สิบทิศ' + 'เทพมารสะท้านภพ' + 'เหยี่ยวเหนือฟ้า' (ถึงเล่มสุดท้ายจะเป็นผลงานแปลของ ว. ณ เมืองลุง) รู้สึกเหมือนเทชื่อใส่ชามแล้วกวนอย่างไหร่ไม่ทราบแม้ว่าจะสื่อถึงตัวละครหลักได้ตรงกว่าก็เถอะค่ะ
ซึ่งเท่าที่อ่านมาเนื้อหาก็ออกคอมโบเช่นกัน เพื่อให้ได้อรรถรสเต็มที่ควรอ่าน 'จอมคนแผ่นดินเดือด' และ 'มังกรคู่สู้สิบทิศ' ก่อน (แต่ จขบ. ก็ชักหลงๆ ลืมๆ แล้วว่าใครเป็นใคร เพราะงั้นก็ไม่ได้ซีเรียสนัก) ถ้าได้ 'เทพมารสะท้านภพ' และ 'เทพทลายนภา' ก็ยิ่งดี บรรยากาศเหมือนชุมนุมเลี้ยงรุ่นพร้อมเรื่องเก่าเล่าใหม่ แทบจะเป็นการโขกออกมาจากพิมพ์เดิมแล้วโซซัดโซเซไปเรื่อยๆ ความรู้สึก ณ ปัจจุบันคือความซับซ้อนของการเมืองค่อนข้างโอเค แต่ถูกขัดกระแสบวกเจือจางด้วยการดำเนินเรื่องและการจีบสาว อ่านได้แแบบเฉยๆ เก็บแต้มให้ครบ กัดฟันเป็นระยะ เทียบกับผลงานนิยายกำลังภายในเรื่องยาวของหวงอี้เรื่องอื่น จขบ. ขอให้ความชอบที่ตำแหน่งบ๊วย
รวมทั้งสิ้นสิบแปดเล่มจบ ระยะเวลาในเรื่องประมาณห้าปีตั้งแต่หลงอิงถูกจับเข้าเมืองหลวงในปีที่สามของรัชกาลเทียนโซ่วจนถึงปีที่หนึ่งในรัชกาลเสิงลี่ที่หลี่เสียนได้ขึ้นเป็นรัชทายาท (ลองเทียบแล้วน่าจะได้ ค.ศ. 693-698) อ้อ เล่ม 15-17 ใช้ตอบการเล่น Reading Bingo Challenge 2014 นะคะ ส่วนภาคสองคือ 'เหยี่ยวมารสัประยุทธ์สิบทิศ' และภาคสุดท้าย 'เหยี่ยวมารสยบสิบทิศ'
[16/01/13, 16/11/13, 30/01/14, 16/06/14, 28/09/21]
เรื่อง เหยี่ยวมารสัประยุทธ์สิบทิศ
โดย หวงอี้ แปลโดย น.นพรัตน์
เรื่องนี้เป็นภาคต่อของ 'เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ' คำนำเล่มแรกบอกว่าเรื่องนี้ชื่อจีนคือ 'หลงจ้านไจ้เยี่ย' ซึ่งแปลได้ว่ามังกรสัประยุทธ์กลางไพร ชื่ออังกฤษคือ 'Dragon Battles in the Wild' เป็นตอนสองของไตรภาคถังรุ่งเรือง เสิ้งถังซันปู้ชวี หรือ The Trilogy of Grand Tang Dynasty - Episode II ซึ่งชื่อไทยก็ให้ความรู้สึกเหมือนเดิมคือ เหยี่ยวมาร x สิบทิศ (x คือตัวแปร อย่าคิดมาก 555) ขอนอกเรื่องว่าคุณพ่อ จขบ. บ่นว่าชื่อยาวไป น่าจะใช้คำสั้นๆ แบบเหยี่ยวมารสู้สิบทิศ แต่ จขบ. ว่าน่าจะเลือกคำที่ยาวเท่ากันและเสียงคล้ายๆ อย่าง ตระการ ตระหง่าน ประสาน หรือทะยาน จะได้คล้องจองและสับสนมากขึ้นว่าชื่อไหนมาก่อน
ในด้านเนื้อหาเท่าที่อ่านมา ความรู้สึกปัจจุบันของ จขบ. ก็เหมือนกับภาคก่อนเด๊ะ โดยเฉพาะหลงอิงที่แสดงความเทพแบบลุ่มๆ ดอนๆ ไปเรื่อยๆ และสามารถมีวาทะ 'หลงอิงกล้ากล่าวว่านอกจากมันแล้ว ไม่มีผู้ในเข้าใจสถานการณ์อย่างถ่องแท้' [เล่ม 13 หน้า 34] และที่ยิ่งน่ากลัวคือไร้ความรู้สึกขึ้นเรื่อยๆ ... ภาคสุดท้ายคือ 'เหยี่ยวมารสยบสิบทิศ'
หลงอิงกับฝ่าหมิงลอบสังหารหลี่เสียนไม่สำเร็จเพราะเจอหยางชิงเหยินที่ได้รับปูนบำเหน็จในฐานะพระนัดดาของหลี่เอียน หลี่ชิงเหยิน เป็นเหอเจี้ยนอ๋อง ส่วนหลงอิงส่งครอบครัวออกนอกเทพนคร พาฟงกว่อถิงนำทัพผสมราชวงศ์โจวและถูฟานอย่างละห้าร้อยไปหุยเกอเพื่อกวาดล้างขุนโจร เปียนเอ้า และ ตันหลอตู้ ที่เป็นคนของม่อชว่อเข่อข่าน แน่นอนว่าทางถูเจี๋ยก็เตรียมรับมือ เป็นยุทธการทัพแกร่งช่วงชิง เพื่อหาชนเผ่าลี้ลับหลงอิงจึงแยกเดี่ยวออกไปภูเขาเทียนซาน ร่วมมือกับนิกายเรืองโรจน์รุ่นสุดท้าย หยวนจื่อ (อมนุษย์) ฝูไท่ (นิกายนี้เป็นต้นตอคัมภีร์หมื่นวิถีมูลฐาน) ก่อนวกมารวมกับทัพและเผชิญถูเจี๋ยที่วางกับดักพร้อมยอดฝีมือสำนักมาร เหนี่ยวเยา ไล่ล่าถึงเมืองไร้สังกัด (ที่ทำให้นึกถึงเมืองเปียนฮวนสีซีดอย่างไรไม่ทราบ -_-)
ที่น่าสนใจในเล่มหนึ่งคือมีอธิบายอาวุธเชื่อมถล่มฟ้าว่าเป็นสองชิ้นเชื่อมต่อกัน ยาวหนึ่งวาสองเชียะ หนักหนึ่งร้อยยี่สิบชั่ง ด้านหนึ่งเป็นส่วนผสมของหอกและทวน ทั้งยังเป็นเหล็กหมาดและดาบเหิงเตา ซึ่งอ่านแล้วจับฉ่ายดี มีรูปด้วยนะคะ ขอขอบคุณคุณ kts ที่ชี้เป้า ^_^ ในเล่มสองคือธนูมารของหลงอิงยิงได้ตั้งสามลี้คือราวหนึ่งกิโลเมตรครึ่ง รู้สึกรับไม่ได้อย่างไรพิกล แบบว่าเรื่องความสามารถทางกายยอมรับได้ว่าเป็นกำลังภายใน แต่อาวุธน่าจะติดที่เทคโนโลยีด้วย สุดท้ายคิดไปคิดมาได้ว่าเทคโนโลยีเวอร์ก็โผล่มาเยอะมากแล้ว จะเริ่มบ่นทำไมเนี่ย -_- ในเล่มสามที่น่าสยองมากคือฮัวซิ่วเม่ยมาหาหลงอิงและได้รับการบอกตามตรงว่าไม่ได้อาบน้ำเลยตั้งแต่มาถึงดินแดนตะวันตก! (แต่เธอก็ไม่ว่านะ) ส่วนที่น่าสนใจคือความเห็นหลงอิงต่อม่อชว่อเข่อข่านที่ดูแคลนบูเช็คเทียนเพราะใช้เสน่ห์ยั่วยวนจนก้าวขึ้นครองบัลลังก์ว่าน่าจะให้สู้ตัวต่อตัว 555
บูเช็คเทียนใกล้สละราชย์ ทำให้หลงอิงต้องหาทางถอยให้ตนเองและพวกพ้อง โดยเล็งสมบัติในสุสานอดีตข่านถูเจี๋ยเป็นทุนในการเร้นกาย มีการเผยโฉมยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งถูเจี๋ย อวตารคุรุ ทัวปาหูหลอ (มีศักดิ์คล้ายราชาบู๊ ปี้เสียน) ที่สนามพลังระดับบูเช็คเทียน ทำเอาหลงอิงและฝูไท่สาหัส ส่วนสาวงามในช่วงนี้คือเจ้าสำนักนงคราญหยก อู๋เสีย แห่งสำนักนงคราญหยกที่ผลการปะทะออกมาเจ๊ากันไป หลงอิงและพวกไปเมืองภูตร้ายเตรียมหาสุสานซาปอเลวี่ยเข่อข่านและองค์หญิงเชียนจินในทะเลทรายจุงการ์ สำหรับเรื่องลายแทงได้ม่อชีจีชุนช่วยหาพิกัด เมื่อขุดออกมาได้ก็ส่งของวิเศษกลับเผ่าเจ้าของเดิมและแบ่งที่เหลือออกไป ผลงานนอกด่านนี้ได้สดุดีวีรกรรมจากราชสำนักอย่างครึกโครม
[15/06/14, 11/08/14, 18/08/14, 18/09/14, 13/10/14]
ผ่านไปครึ่งปี (หรือห้าเล่มเต็ม) หลงอิงก็ไปถูฟานเพื่อสมทบกับสาวๆ ที่พ่างกงกงพาย้ายหนีมรสุมการเมือง ได้พบกับลูกที่เกิดจากเม่ยซิวนาฟูและตี้โอ้วเซียนตั้งครรภ์และคลอดลูกชายอีกคน หลังพักผ่อนไปหลายเดือน หลงอิงก็กลับภาคกลางโดยใช้ฐานะฟ่านชิงโจวก่อนเปลี่ยนเป็นหวังถิงจิงพาฝูไท่ที่ปลอมเป็นผู้ช่วยเข้าเมืองหลวงเพื่อลงสนามรักกับ โหยวฮูหยิน แห่งสำนักนงคราญหยก ซึ่งฝูไท่ได้เปรียบเพราะมีตำราหนึ่งวิถีมูลฐานทั้งฉบับเปิดเผยและซ่อนเร้น (วิชานงคราญหยกมาจากฉบับเปิดเผยรวมกับอิตถีเพศของสำนักทศเย็น) แถมยังได้ ผู้วิเศษสามจริงแท้ ศิษย์สตรีของฝ่าหมิงเป็นติวเตอร์วิชาเคล็ดลับในหอหยกอีก
คราวนี้หลงอิงได้ log book อย่างดีจาก เชียนไต้ ยอดฝีมือที่อุ้มชูหมิงคงแต่เล็ก ภายหลังถอนตัวไปอยู่สำนักพรต และมาขัดตาทัพปลอมตัวเป็นหมออัปลักษณ์ให้หลงอิงตอนไปอาละวาดนอกด่าน ทำเอาเป็นหมอวิเศษตัวจริงไปแล้ว เมื่อฝ่าหมิงสลายฐานอำนาจ เซียงป้าแทรกซึมวังไทจือ ในสภาพที่บุรุษอ่อนแอสตรีเข้มแข็ง ที่ในช่วงนี้มักเป็นสตรีที่กุมอำนาจรอบตัวหลี่เสียน เช่น พระสนมเหวย, อันเล่อจวินจู่ หลี่กว่อเอ๋อ พระธิดาองค์เล็ก, หนิงไช่ซวง (ยอดฝีมือสถาบันสงฆ์ที่ไว้ผม), ซ่างกวนว่านเอ๋อ นอกจากนี้ยังมียอดฝีมืออย่างรวม ลิซา หรือหลี่หลิงซาที่เป็นนักพรตหญิงผมทอง แจมด้วยสี่นงคราญหยกแห่งสำนักนงคราญหยก (อู๋เสีย ต๋ามาฮูหยิน โหยวฮูหยิน เซียงฮูหยิน) บวกกับสาวในสังกัดอื่นๆ ทำการวินิจฉัยสตรีภายในวังข้อหนึ่ง นั่นคือพวกนางรู้จักยั่วยวนบุรุษ ... วิธีแห่งการยั่วยวนยังเป็นขีดความสามารถในการอยู่รอด
หลงอิงที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงมารและพันธุมารสิงร่างก็สลัดคราบหมอวิเศษ เปลี่ยนเป็นฟ่านชิงโจวเดินทางไปสถานปศุสัตว์ม้าบินเพื่อก่อกวนหยางชิงเหยิน ก่อนถึงฟ่านชิงโจวประลองกับไถเล่อซวีหวิน ถึงสู้ไม่ได้แต่หลงอิงทำให้ไถเล่อซวีหวินต้องพักฟื้นเป็นปีโดยจ่ายออกด้วยการผ่านความตายเป็นคำรบสอง แล้วก็เดินทางไปสถานปศุสัตว์ม้าบิน (ถึงจนได้! จขบ. รอมาสักสิบสี่เล่มแล้ว) โดยฟ่านชิงโจวนำนางโจร ไช่เว่ย ที่ปลอมตัวเป็นชายติดไปด้วย ไช่เว่ยต้องการใช้ไกด์ทัวร์รายการท่องเที่ยวตามรอยเซียนวิเศษ (ชมสถานที่ที่โค่วจงและฉีจื่อหลิงเคยอยู่ กินขนมเปี๊ยะสูตรมังกรคู่ ฯลฯ ซึ่งอ่านแล้วเหมือนทัวร์ตามหนังเกาหลี) ไปหายาให้พี่สาวในหลุมฝังศพ หลู่เมี่ยวจื่อ ที่ใต้หอน้อยหลังเขา
[02/12/14, 20/12/14, 26/01/15, 26/02/15, 16/03/15]
ที่สถานปศุสัตว์ม้าบิน ฟ่านชิงโจวได้รับการต้อนรับอย่างดีผิดคาด อยู่ในหอทัศนาคันนาในบริเวณของตึกฉังจู่ (เจ้าของสถานที่) คนดูแลคือ ซ่งเวิ่น ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องและมือขวาของเซียงเยี่ยหลิ่ง ซึ่งหลังจากหลงอิงได้พบเซียงเยี่ยหลิ่งหลังม่าน (ฝึกลมปราณธาตุธรรมชาติถึงระดับว่านเยิ่นหวี่ทำให้หลงอิงจับคลื่นอะไรไม่ได้) ก็เกิดอาการแรกสดับก็หลงรักแล้วก็เดินหน้าเต็มที่ ซึ่งก็ไม่ยากอะไรเพราะสาวเจ้าหลงรักจากเสียงลือเสียงเล่าอ้างของขุนพลน้อยคนใหม่ แถมไปเค้นคอเอาความจริงจากกุ้ยโหย่วเหวยแล้วเรียบร้อย ทำให้การเดินหน้าเรื่องแต่งงานได้รับไฟเขียวอย่างรวดเร็ว (หลงอิงยังมีหน้าพูดได้เต็มปากว่า 'ดูเหมือนมีภรรยาอนุภรรยามากมาย แต่ที่ตบแต่งสู่ขอมีเพียงนางมารน้อยคนเดียว ตี้โอ่วเซียนเป็นบุตรีโทนของกว๋อเหลา ในสายตาของผู้เฒ่าทั้งหลาย ต้องไม่เป็นการลดฐานะของเฉิงจู่')
กิจกรรมอื่นที่ทำคือช่วยให้ไช่เว่ยสมหวัง สะกดหยางชิงเหยิน ประลองกับทายาทตระกูลซ่งแห่งหลิงหนัน ซ่งขุย ที่ได้รับการชี้แนะจากหลิงชง และก็รับ เซียงอวี้ ดาวรุ่งฝ่ายหญิงของสถานปศุสัตว์ม้าบินเป็นศิษย์ เสริมสร้างเป็นยอดฝีมือเพื่อวางตัวให้เป็นองครักษ์ให้โอรสสามของเซี่ยงอ๋อง หลี่ต้าน นาม หลี่หลงจี ที่จะผลักดันให้เป็นว่าที่โอรสสวรรค์ และได้มือดีฝ่ายชาย มู่เฟย มาเป็นสาวกด้วย และเป็นกำลังสำคัญในการเล่นหม่าฉิว (ตีคลี) ที่พรรคไผ่ลายให้เป็นไพ่ตายรอบชนะเลิศของขบวนสถานปศุสัตว์ทั้งที่หลงอิงเคยดูครั้งเดียว งานนี้ไม่ง่ายเพราะขบวนกวนจงที่นำโดย อวี้เหวินซวอ (ทายาทที่เด่นล้ำสุดของ อวี้เหวินฮั่วจี๋) เสริมด้วยหยางชิงเหยิน และขบวนกวนจงแม้ชนะต้องเท่ากับแพ้แบบเลอะเลือกไม่เข้าใจ นอกสนามยังมียอดหญิงแห่งเจียงหนัน ตูเฟิ่ง (ตัวจริงคือ ซวงเฉียว ธิดาบุญธรรมของเซียงป้า) พร้อมอู๋เสียที่ปลอมเป็นสาวใช้
[16/03/15, 15/04/15, 26/05/15, 01/07/15]
ภารกิจที่สถานปศุสัตว์ม้าบินสิ้นสุดในเล่ม 14 หลงอิงกลับเทพนครส่งจดหมายที่เจ้าเรือนญานเมตไตรรุ่นก่อนส่งเคล็ดพลังหยินไร้ที่สุดให้บูเช็กเทียน เป็นการยุติการต่อสู้ช่วงชิงระหว่างสองฝ่าย แล้วหลงอิงก็ช่วยฝูไท่ช่วงชิงความรักของโหยวฮูหยินและเคล็ดสำนึกขวางฟ้าที่ซ่อนอยู่ในตำราหมื่นวิถีมูลฐานฉบับจริง ซึ่งจะช่วยการฝึกวิชามือโลหิตของฝูไท่ ช่วงแรกหลงอิงใช้ฐานะเฒ่าประหลาดคังเข้าเมืองหลวง แล้วเปลี่ยนเป็นใช้ฐานะฟ่านชิงโจวแทรกซึมเข้าเมืองหลวง
ขณะที่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงรุนแรง บูเช็กเทียนเตรียมลอกคราบเพื่อแสวงมรรคาการทลายนภากาศโดยใช้ร่างเซียนไต้ที่กำลังจะตาย ซึ่งสำนักศักดิ์สิทธิ์ก็จะสิ้นสุดกับหมิงคง ตี้เหยินเจี๋ยตาย และ หลี่ฉงรุ่น โอรสองค์โตของหลี่เสียนตายเพราะยาพิษพร้อมน้องสาว หย่งไท่จวินจู่ และราชบุตรเขย อู่เอี๋ยนจี ที่เป็นสายสัมพันธ์เชื่อมตระกูลหลี่และอู่
พวกหยางชิงเหยินสงสัยฟ่างชิงโจวคือหลงอิง แต่ถูกแอบฟังพอดีเลยโดนตลบหลังหลอก หลงอิงส่งครอบครัว (ภรรยาหนึ่งหมวดและลูกชายสองคน) ไปหนันเจาเพื่อหลบมรสุมช่วงผลัดแผ่นดิน ก่อนจะเข้าเทพนครซึ่งตอนนี้ชุมนุมเสือสิงห์กระทิงแรดกันเต็มพิกัด แม้แต่นักพรตไท่หยวนและมหาสมณะ เสียนโซ่ว ที่เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสถาบันสงฆ์ แน่นอนว่าโชว์ดาวน์ของอาวุธเชื่อมถล่มฟ้า และราชโองการสุดท้าย เรื่องหลังของข้ามอบให้หลงอิงจัดการ ... ส่งข้าถึงพระสุสานเฉียนหลิง ร่มหลุมเดียวกับฮ่องเต้ผู้ล่วงลับ จากนั้นทุกคนปลดเกษียณคืนสู่ไร่นา
[08/08/15, 09/09/15, 21/10/15, 23/12/15]
เรื่อง เหยี่ยวมารสยบสิบทิศ
โดย หวงอี้ แปลโดย น.นพรัตน์
เรื่อง 'เหยี่ยวมารสยบสิบทิศ' (เทียนตี้หมิงหวน) เป็นภาคสุดท้ายของไตรภาคถังรุ่งเรือง (The Trilogy of Grand Tang Dynasty - Episode III) ที่สองภาคแรกคือ 'เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ' และ 'เหยี่ยวมารสัประยุทธ์สิบทิศ' ซึ่ง จขบ. อ่านมาด้วยทิฐิอย่างรุนแรงว่าต้องเก็บให้หมดเพื่อให้ครบชุด อื่นๆ ไม่มีอีกแล้ว หวังว่าจะกัดฟันแข็งใจอ่านภาคนี้ให้จบด้วย อ้อ รู้สึกว่าการออกแบบปกภาคนี้ดูจะง่ายกว่าภาคอื่นนะคะ เปลี่ยนแต่สีเน้นเท่านั้นเอง
[26/11/15, 08/06/16]
บูเช็กเทียนสวรรคต (หมิงคงอมมุกชำระจิตหายใจทางท้อง ฝ่าด่านความเป็นความตายเพื่อทลายนภาสำเร็จ) หลี่เสี่ยนขึ้นเป็นถังจงจงฮ่องเต้ของต้าถัง เปลี่ยนชื่อเทพนครเป็นลั่วหยาง เตรียมย้ายเมืองหลวงไปฉางอาน แต่ที่กุมอำนาจคือเหวยฮองเฮา พระโอรสที่เกิดจากนางกำนัล หลี่ฉงจวิ้น เป็นไทจือ หลี่หลงจีเริ่มออกแววและได้รับการสนับสนุนของหลงอิง ฝ่าหมิงคุ้มครองพ่างกงกงจากไป อู๋เสียพบที่มาของหลงอิง (ทำให้สงสัยว่าเมื่อไหร่ราชินีมารจะเสร็จเทพอธรรม) ฟ่านชิงโจวออกโรงอีกครั้งมาป่วนพวกพรรคต่างๆ ที่หยางโจว
ส่วนที่ลั่วหยาง ฝูไท่ปลอมตัวเป็นหมอวิเศษอัปลักษณ์และเริ่มติดนิสัยหลงอิง ต่อจากโหยวฮูหยินก็ไล่ตามต๋ามาฮูหยิน และ เสี่ยวหมิ่น (นางกำนัลที่ความงามเลื่องลือระดับเหรินหยาของหลงอิง) ที่เหวยฮองเฮาประทานให้ โชคดีที่พบว่าหัวหน้าพรรคอุดร เถียนสั้งเอียน (ที่สั่งฆ่าล้างบ้าน ตู๋กูสั้งหมิง ซึ่งอวี้เหวินซวอกำลังสืบหาตัวการ) คือ เตี้ยนเจี๋ยถัง ที่เป็นศิษย์ทรยศของนิกายเรืองโรจน์ที่ขโมยศิลาห้าสีของสายต๋ามาฮูหยิน หมอวิเศษอัปลักษณ์ยังผ่านด่านองค์หญิงไท่ผิงที่สงสัยว่าเป็นหลงอิงปลอมตัวด้วย
[28/12/15, 21/01/16, 08/06/16, 27/06/16, 14/07/16, 18/08/16]
ฟ่านชิงโจวเข้าฉางอานโดยข้ออ้างค้าขายเครื่องหอม โดยอาศัยจมูกที่ไวเป็นเลิศผสมกลิ่นขึ้นมาใหม่และยังได้ความช่วยเหลือจากตัวประหลาดเครื่องหอม หลู่ตัน โดยตั้งเรือนเจ็ดสีขึ้นขายของ ตอนนี้ในวังแบ่งเป็นสามอำนาจ คือ เหวยฮองเฮา อู่ซันซือ และขันที ทังกงกง ส่วนไทจือก็แย่งชิงกับองค์หญิงไท่ผิงและหยางชิงเหยิน หลงอิงสนับสนุนหลี่หลงจีที่ได้ตำแหน่งหลินจวืออ๋อง ระหว่างนี้ก็สร้างปมกับหญิงเพิ่มเติม รวมถึงหมิงฮุ่ยและหมิงซิน (ถึงไม่ที่สุดแต่ไม่ละเว้นแม้แต่แม่ชี) เปิดเผยตัวจริงกับอวี้เหวินซวอและคนอื่นบางคน สรุปคือการดำเนินเรื่องลากไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ และ เรื่อยๆ
ถึงเล่ม 10 ม่อชว่อเข่อข่านบุกจงหยวน หลงอิงนำพลไปยันทัพหน้าไว้ที่เมืองถงว่าน (สร้างโดย เฮ่อเหลียนปอป๋อ จาก 'จอมคนแผ่นดินเดือด') ที่ตั้งอยู่ใต้ของแม่น้ำไห่หลิวถู่ที่มีกำแพงฉางเฉิงน้อย เสร็จแล้วหลงอิงยังนำฝูไท่ อวี้เหวินซวอ และอีกสามคนเข้าทะเลทรายเหมาอูซูจนถึงตัวม่อชว่อเข่อข่านแต่ก็เกือบสูญเสียพันธุมาร (แน่นอนว่าเก็บกู้ได้และเก่งขึ้น) ต่อมาหลงอิงก็นำขบวนทัพเหยี่ยวสู้กับทัพสุนัขป่า
[12/09/16, 09/12/16, 30/05/17]
เมื่อจบเรื่องก็ไล่ล่า เหนี่ยวเยา ที่เป็นศิษย์ร่วมสำนักของเถียนสั้งเอียนจนฆ่าได้ที่ชายแดน โหวฮูหยินก็ฆ่าตัวตายไปด้วย แล้วก็ไปหาเหล่าภรรยาและลูกจำนวนมากที่อาศัยแถวหนานเจา และเข้าไปเฉิงตูเพื่อเจรจากับอู๋เสีย ฟ่านชิงโจวเข้าร่วมในวงการเมืองของเมืองหลวงอีกรอบ ช่วงนำพรรคไผ่ลายต่อกรทางน้ำกับพรรคอุดรก็เกือบได้ปักธงกับตวนมู่หลิงที่หยางโจว อีกเกือบคือ ตู๋กูเชี่ยนหยาง ช่วงที่หนุนถังจงจงฮ่องเต้ปะทะเหวยฮองเฮาหลังไทจือหลี่ฉงจวิ้นก่อการล้มเหลวและอู่ซันซือถูกกำจัด
หยางชิงเหยินเป็นผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ หลงอิงและฝู่ไท่ก็ยุ่งในฉางอานต่อ
[16/07/17, 15/08/17, 18/12/17]
ที่มา
[1] หวงอี้ (น. นพรัตน์ แปล). เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ. 18 เล่มจบภาค, สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 232 + 224 + 222 + 224 + 231 + 232 + 224 + 224 + 232 + 224 + 223 + 224 + 224 + 232 + 216 + 224 + 216 + 216 หน้า, 2555-2557.
[2] หวงอี้ (น. นพรัตน์ แปล). เหยี่ยวมารสัประยุทธ์สิบทิศ. 18 เล่มจบ, สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 232 + 216 + 216 + 208 + 224 + 224 + 224 + 216 + 216 + 216 + 232 + 232 + 224 + 224 + 224 + 224 + 232 + 224 หน้า, 2557-2558 (ต้นฉบับ 2014-2515).
[3] หวงอี้ (น. นพรัตน์ แปล). เหยี่ยวมารสยบสิบทิศ. เล่ม 1-17, สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 224 + 216 + 216 + 224 + 224 + 224 + 224 + 216 + 216 + 224 + 216 + 216 + 216 + 208 + 216 + 216 + 208 หน้า, 2558-2560 (ต้นฉบับ 2015-2017).
รายการนิยายจีนแปลไทย, ไทม์ไลน์หนังสืออิงประวัติศาสตร์/ย้อนยุค จีน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น