แฟนฉันเป็นจิ๋นซีฮ่องเต้ - หย่งสุ้ย​เพียวหลิง

เรื่อง แฟนฉันเป็นจิ๋นซีฮ่องเต้
แต่งโดย หย่งสุ้ยเพียวหลิง (YongSuiPiaoLing) พิสูจน์อักษรโดย อิสรีย์



หลายร้อยปีก่อน เทพดวงดาวดูแลดวงซวยหรือเทพวิบัติ จ้าวเซวียน ผู้มีไม้กวาดหยกเป็นอาวุธ ถูกหลอกให้ออกจากสวรรค์เพราะไปที่ไหนซวยที่นั่น โดยเง็กเซียนฮ่องเต้ให้มาสืบเรื่องหลิวป๋อเวินเชือดมังกร แต่พอออกมาแล้วบันไดสวรรค์ก็ขาดทันที เพราะสวรรค์เก็บตัวถอยออกจากบททดสอบใหญ่จากประสบการณ์สามครั้งก่อนที่เกิดความสูญเสียอย่างหนัก คือสงครามมังกรหงส์ สงครามอูจู่กับปีศาจ และสงครามแต่งตั้งเทพเซียน จ้าวเซวียนระหกระเหินในโลกมนุษย์จนไปพักผ่อนในสุสานจิ๋นซีเสียนานเพราะพลังมังกรเยอะดี แต่พอตื่นขึ้นมาก็พบว่าได้ปลุกจิ๋นซีฮ่องเต้ อิ๋งเจิ้ง ที่วิญญาณถูกกักขังในร่างขี้นเป็นผีดิบ

ผีดิบก็มีลำดับขั้นเป็นผีดิบดำ ผีดิบขาว ผีดิบบิน ฮั่นป๋า และผีดิบบรรพบุรุษ อิ๋งเจิ้งที่ได้เลือดเซียนก็ได้อัปเกรดจากผีดิบดำธรรมดาเป็นผีดิบบิน ขณะเดียวกันพลังฮ่องเต้ก็ควบคุมความซวยของจ้าวเซวียนได้ จ้าวเซวียนจึงให้อิ๋งเจิ้งบำเพ็ญเพียรอยู่ในสุสานก่อนและสัญญาว่าจะให้เลือดเซียนหนึ่งหยดทุกสิบปี ส่วนตนเองก็ออกไปใช้ชีวิคที่ค่อนข้างปกติด้านนนอกสุสาน แต่ต้องแยกตัวบำเพ็ญเพียนเป็นระยะเพื่อไม่ให้ความซวยกระจายหลังการใช้พลัง

จ้าวเซวียนเปิดร้านขายโลงที่อำเภอหลงอวิ๋น และรับดูฤทษ์ยามฮวงจุ้ยจนมีชื่อเสียง มีลูกค้าทั้งที่ซื้อให้ญาติและที่ใช้เอง สนิทสนมกับเพื่อนบ้าน และยังเลี้ยง จ้าวอวี่ เด็กที่เกิดในสุสานเป็นศิษย์ ตอนนี้จ้าวอวี่อายุสิบหก นอกจากไปเรียนหนังสือก็บำเพ็ญเพียรไปด้วยเพราะมีวิญญาณหยิน พลังมืดเข้มข้น ถ้าควบคุมพลังมืดไม่ได้จะต้องไปบำเพ็ญสายมาร และยังเรียนการปราบภูตผีปีศาจไปไม่น้อย

ระหว่างที่จ้าวเซวียนไปช่วยดูที่ฝังศพ ก็ได้กระดูกมังกรที่แปดเปื้อนพลังชั่วร้ายมาหนึ่งชิ้น เลยเอาไปซ่อมโลงของอิ๋งเจิ้งที่พังเพราะถูกใช้เป็นที่ลับเล็บ พอดีมีโจรปล้นสุสาน แน่นอนว่าไม่สำเร็จเพราะมีองครักษ์ผีดิบเยอะแยะ แต่เมื่อโจรตาย ร่างถูกเผาด้วยธาตุไฟสีน้ำเงืนของเผ่าอูจู่ที่เคยมีอำนาจมาก ปาชิง ที่เป็นผู้สนับสนุนให้อิ๋งเจิ้งกุมอำนาจได้มั่นคงก็เป็นเผ่านี้ ทั้งยังเคยให้ตราประทับหยกของเผ่าอูจู่กับอิ๋งเจิ้งก่อนตาย และขอให้อิ๋งเจิ้งเดินทางไปที่บ้านเดิม แต่อิ๋งเจิ้งตายก่อน ตราประทับหยกก็ถูกรักษาในสุสาน จ้าวเซวียนเลยเก็บตราประทับหยกและเกลี้ยกล่อมให้อิ๋งเจิ้งออกมาอาศัยนอกสุสาน

เมื่อกลับไปหลงอวิ๋น จ้าวเซวียนก็ไปช่วยดูโรงเรียนประถมที่สร้างบนแดนประหารเดิม ทำให้เฮี้ยนและนักเรียนบาดเจ็บ แต่กลายเป็นว่าข้างใต้โรงเรียนมีค่ายกลจับมังกรที่พันธนาการวิญญาณมังกร หลงเจ๋อ อยู่ หลังจากปล่อยวิญญาณออกมาและสู้กันสักพัก จ้าวเซวียนก็เกลี้ยกล่อมให้ติดตามอิ๋งเจิ้งเพื่อฟื้นฟูวิญญาณที่ได้รับบาดเจ็บโดยอาศัยธาตุหยินและพลังฮ่องเต้ จ้าเซวียนยังเปลี่ยนแปลงความจำของตำรวจ เกาไหลฟง ที่ติดตามมาดูเพื่อให้ไม่แตกตื่นเกินควรและจัดการเรื่องขอทะเบียนบ้านให้อิ๋งเจิ๋งอย่างราบรื่นด้วย หลังอิ๋งเจิ๋งรู้เรื่องการชิงอำนาจของโอรสก็จิตตกไปพักหนึ่ง ก่อนจะเรียนรู้การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน

มีงานย้ายสุสานอีก พวกจ้าวเซวียนพบว่ามีการตั้งค่ายกลกักขังปีศาจงูเลยจัดการเสีย เหล่าวิญญาณมนุษย์ที่ถูกปลดปล่อยรีบไปรายงานตัวทำให้ยมทูตกระชากวิญญาณมาดูและเข้าใจผิดจะจับวิญญาณหยินของจ้าวอวี่ เมื่อโดนซัดน่วมเลยไปตามยมบาลมาช่วย เทพวิบัติเลยได้โอกาสขอให้ยมบางประทับรอยยมโลกบนวิญญาณหยินของจ้าวอวี่ จะได้ไม่ถูกเข้าใจผิด ปรับสภาพวิญญาณให้มั่นคง และเมื่อตายก็น่าจะได้ตำแหน่งดีๆ ด้วย จ้าวเซวียนยังจัดการให้จ้าวอวี่ทำสัญญาเป็นนายของผีดิบขาวกลายพันธุ์ จินต้าตัว อดีตพ่อค้าร่ำรวย ที่เมื่อเปลี่ยนเป็นผีดิบไม่เคยกินเลือดคนเป็นๆ มาก่อน ไม่ชอบเลือดสัตว์ อาศัยการนอนหลับและอายแสงพระจันทร์ในการดำรงอยู่ มีวิญญาณและใช้ชีวิตใกล้เคียงคนธรรมดา ที่มาขอให้จ้าวเซวียนช่วยสร้างโลง เพื่อให้จ้าวอวี่มีกำลังคุ้มครองเพิ่มขึ้น แต่จินต้าตัวดันถนัดการค้าขายและไรัฝีมือบู๊ ต้องโดนจับฝึกทั้งคู่อย่างหนัก

เพื่อนตำรวจของเกาไหลฟงที่เมืองซานฝันร้ายอย่างหนักติดกันจนสภาพย่ำแย่ เกาไหลฟงเลยแนะนำให้เชิญจ้าวเซวียนไปดู พอดีตำบลอู่ฟ่งในเมืองซานเป็นบ้านเกิดของปาชิง อิ๋งเจิ้งเลยติดตามไปด้วย หลังจากจัดการกับผีดิบแล้วก็ไปตำบลอู่ฟ่งจนเผชิญหน้ากับศิษย์ของปาชิง ชิงอู ที่รอคอยการมาของอิ๋งเจิ้งมาตลอด เผ่าอูจู่ที่เคยมีพลังมากได้อาศัยบนโลกมนุษย์และกำลังจะสูญสลาย อูจู่สายเลือดบริสุทธิ์เกิดขึ้นน้อยลงเรื่อยๆ ต้องอาศัยชะตาอื่นมาเสริม โดยเผ่าอูจู่มีสิบสองต้าอูแห่งบรรพกาลที่มีพลังมากขนาดสวรรค์ยังกริ่งเกรง เจ้าแม่โฮ่วถู ได้ชิงวิญญาณของต้าอูจากสวรรค์หลังการรบกับปีศาจ ส่งวิญญาณต้าอูคนหนึ่งไปเกิดเป็นจิ้นซีฮ่องเต้ที่มีชะตาสูงส่งซึ่งจะถูกนำไปใช้ต่อชะตาของเผ่าอูจู่ให้รุ่งเรื่องใหม่ได้ได้ แต่แผนล่ม หลังจากตาย วิญญาณอิ๋นเจิ้งถูกกักขัง ความสัมพันธ์ถูกตัดขาด ชิงอูประคับประคองดยดึงชะตามนุษย์มาเสริมแต่ก็ยังเสื่อมถอยเรื่อยๆ เมื่อจิ๋นซีมาหาถึงที่ก็เลยจะดึงพลังดวงขะตาและใช้ตราประทับหยกสะกด แน่นอนว่าสู้กันใหญ่ สุดท้ายชิงอูแพ้และสละตัวเองปิดผนึกหมู่บ้านเพื่อประคองเผ่าไปได้อีกร้อยปี โดยมีคนหนุ่มที่ถูกทิ้งไว้ข้างนอกหกคน ถ้าได้ตราประทับมาได้อาจจะทำให้เผ่าอูจู่สืบทอดสายเลือดต่อไปได้ ภายหลังจ้าวเซวียนได้คืนตราประทับหยกให้โดยให้หนุ่มๆ เป็นตัวประกันทำงานชดใช้


งานนี้จ้าวเซวียนเสียพลังอย่างหนัก ต้องปิดด่านบำเพ็ญคู่กับอิ๋งเจิ้งกว่าปีถึงรักษาระดับพลังไว้ได้ ส่วนตัวอิ๋งเจิ้งก็เลื่อนขั้นเป็นฮั่นป๋า ประจวบเหมาะกับจ้าวอวี่สอบเกาเข่าด้วยคะแนนเต็มเป็นอันดับหนึ่ง เลือกคณะโบราณคดีที่มหาวิทยาลัยประจำเมืองหลวง (ทำให้นึกถึงเรื่องนักเรียนคะแนนดีเลือกคณะโบราณคดีที่ไม่เป็นที่นิยมในจีนจนเป็นข่าวดัง) เลยย้ายบ้านไปด้วยกันหมด อิ๋งเจิ้งเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นที่ประสบความสำเร็จอย่างดี ให้ความสำคัญกับจ้าวเซวียนจากประสบการณ์อันเชี่ยวชาญ ส่วนจ้าวเซวียนเองก็เจอด่านรักแบบซื่อบื้อตาแบบฉบับเทพเซียนที่ทำเป็นแต่บำเพ็ญเพียร 555

วิญญาณจ้าวอวี่ถูกนักพรด อวี๋ผิงเซิง ตึงไปสังเวยกระบี่พิฆาตมังกร เมื่ออาจารย์อาจารย์ทั้งสองย่อมพิโรธหนักจัดการถึงตาย แต่อวี๋ผิงเซิงมีฉากหน้าที่ดีงามมาก ทำให้กรมคดีพิเศษของชาติที่รับผิดชอบเรื่องเหนือธรรมชาติคิดว่ามีคนร้าย รัฐมนตรีกรม สี่ชังกั๋ว ที่รับตำแหน่งต่อจากอาจารย์ผู้ก่อตั้งกรมออกคำสั่งสืบสวนอย่างเต็มที่ ใช้พนักงานพิเศษ เซียงเทียนเฉวียน ที่ตัวจริงคือสุนัขเทพเสี้ยวเทียนของ เทพเอ้อหลังเสิน และพนักงานประจำจำนวนมากมาล้อมจับที่ตลาดหลักทรัพย์ กว่าจะทำความเข้าใจกันได้ก็ซัดกันเปิดเปิง ทุกคนถูกเปลี่ยนความจำยกเว้นสี่ชังกั๋วที่ตกใจแทบตาย รายงานเรื่องจิ๋นซีฮ่องเต้คืนชีพไปยังผู้นำอย่างไม่ล่าช้า

จิ๋นซีฮ่องเต้แสดงความต้องการที่ไม่สนใจเรื่องอำนาจการเมือง แต่จะลงมือด้านธุรกิจ ตั้งบริษัทต้าฉินเพื่อเข้าควบคุมบริษัทที่หมายตา ตกลงความเข้าใจกับเหล่าผู้นำปัจจุบัน (ที่เลิกขุดสุสานเพิ่ม) และจากความที่เข้าใจเรื่องความหวาดระแวงของผู้มีอำนาจอย่างลึกซึ้งก็วางตัวได้ดีเยี่ยม รับของกำนัลอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ ใช้งานสี่ชังกั๋วเพื่อความสะดวก จ้าวเซวียนเองเมื่อรู้สึกว่าควรช่วยก็ไปช่วย เช่นเมื่อคณะโบราณคดีไปขุดสุสานสมัยหมิงอ๋องและชายาในแคว้นสู่แล้วเจอสัตว์ประหลาด

ถึงตอนนี้ ก็มีคนเล็งอิ๋งเจิ๋งอย่างลับๆ ขนาดส่งผีดูดเลือดมาจัดการ สุดท้ายกรมความมั่นคงแห่งชาติก็พบตัวคนเบื้องหลังคือผู้จัดการใหญ่โรงงานยาจงหวน ฟู่ซวี่ หรือ อะโสะ ทาคูอิชิ จากประเทศ R ที่เมื่อส่งข้อมูลให้อิ๋งเจิ้ง ก็พบว่าเป็น สวีฝู ที่ออกตามหายาอายุวัฒนะ เป็นตัวแทนของสวรรค์ในการแย่งชิงชะตาฮ่องเต้กับเจ้าแม่โฮ่วถู เป็นผู้สะกดวิญญาณอิ๋งเจิ้ง ตั้งค่ายกลสกัดชีพคลุมสุสาน และเตรียมกระบี่พิฆาตมังกรเพื่อฆ่ามังกรตัวสุดท้ายในสุสานจิ๋นซี สวีฝูได้ยาอายุวัฒนะของเซียนอาวุโสจนมีชีวิตถึงปัจจุบัน แต่ร่างกายรับไม่ได้จนเสื่อมโทรมไม่เหมือนคนไม่เหมือนผี

แน่นอนว่าใครก็สู้เทพเซียนตัวจริงไม่ได้ สวีฝูที่ลงเดิมพันหมดหน้าตักถูกจัดการหนัก หันไปพึ่งทางตะวันตกที่นำโดยสันตปาปาและสังฆราช มีมนุษย์นกที่ได้รับพลังจากแรงศรัทธา พระบิดาคือเทพมารที่ถูกจองจำที่เทือกเขาคุนลุ้นด้วยเส้นเอ็นและหนังมังกรของหลงเจ๋อ โองการสวรรค์ที่จ้าวเซวียนได้รับมาคืออะไรกันแน่ และความสัมพันธ์กับอิ๋งเจิ้งที่ได้รับทะเบียนสมรสอย่างรวดเร็วจากสวรรค์คืออะไร จะใช้เป็นตัวหมากอะไรอีก ...

ในภาพรวมถือว่าเป็นเรื่องที่อ่านได้สนุกมากค่ะ ผสมผสานระหว่างเรื่องการปราบปีศาจกับการก่อร่างสร้างตัวของจิ๋นซี มีแก๊ก มุกฮาๆ และความเงิบ (ของคนอื่น) มากมาย ในภาพรวมการขมวดปมก็ถือว่าครบในระดับหนึ่งถึงมีหลุดหรือติดขัดนอกเรื่องบ้าง น่าเสียดายที่ยังก้าวข้ามปมด้อยเรื่องชาติตะวันตกไม่ได้ และมีเรื่องความรักชาติมากเกินไปหน่อย โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาพื้นฐานและนิสัยของตัวละคร ที่รู้สึกแปลกๆ ก็มีเยอะพอควร

การแปลก็อ่านได้เรื่อยๆ สำหรับมาตรฐานของห้องสมุดถือว่าอ่านได้ แต่ถ้ามองทั่วไปก็รู้สึกว่าถ้าเกลาสำนวนหน่อยจะอ่านได้สนุกและฮากว่านี้มาก มีการใช้หน่วยฟุตในยุคโบราณ หรือที่บอกว่าจิ๋นซีฮ่องเต้ใส่ชุดยาวกี่เพ้าสีม่วง ซึ่งในความรู้สึกคือชุดกี่เพ้าหรือ qipao มันมีที่มาจากสมัยราชวงศ์ชิงไม่ใช่หรือ (แถมถ้าพูดถึงกี่เพ้า จะนึกถึงชุดเข้ารูปของผู้หญิงมากกว่า) ทำไมใส่ของสมัยใหม่ขนาดนี้ ควรเป็นชุดแบบยุคราชวงศ์ฉินสิ การอธิบายว่าแม่เป็นน้องของน้า (ควรเป็นลุง เข้าใจว่าสับสนเพราะแตกต่างจากจีนที่ด้านแม่ไม่แบ่งตามอายุ) ฯลฯ

สุดท้ายคือภาพปก ที่เข้าใจว่าเป็นรูปจิ๋นซีฮ่องเต้ ไหงผมขาวไปได้ ทั้งที่ในเรื่องเน้นย้ำมากกว่าผมดำยาวสลวยมาก และชุดฮ่องเต้สมัยฉินสีดำ ไม่ใช่สีเหลือง ทำให้ยิ่งรู้สึกทอดถอนใจกับความไม่รอบคอบของสำนักพิมพ์

สรุปคือถือว่าน่าสนใจ มีเสน่ห์ที่ทำให้อยากติดตาม ถึงจะเวอร์ไปเยอะ (ไม่นับเรื่องเหนือธรรมชาติ) ถึงไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องจิ๋นซีฮ่องเต้มากก็อ่านได้สบาย (จริงๆ ไม่รู้อาจจะดีกว่า เพราะพอนึกถึงประวัติศาสตร์มากเกินไปจะทำให้ไม่ฟินเอาดื้อๆ) ช่วงหลังออกทะเลไปหน่อย อ่านแล้วไม่ค่อยรู้สึกอยากอ่านซ้ำเท่าไหร่ค่ะ เพราะว่าลีลาของสำนวนยังไม่ดึงดูดพอ
[12/07/21]

ที่มา
[1] YongSuiPiaoLing (ห้องสมุด แปล). แฟนฮันเป็นจิ๋นซีฮ่องเต้. ห้องสมุดดอทคอม, เล่ม 1-4, 317 + 319 + 310 + 307 หน้า, 2564.


รายการนิยายจีนแปลไทย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spy×Family - Endo Tatsuya

ลำนำรักเทพสวรรค์ - ถงหัว

สืบลับฉบับคาโมโนะฮาชิ รอน - Amano Akira