คนขุดสุสาน - เทียนเซี่ยปาชั่ง

เรื่อง คนขุดสุสาน (The Ghost Blow the Light)
แต่งโดย เทียนเซี่ยปาชั่ง (Tian Xia Ba Chang) แปลโดย ชิวเยี่ย


นิยายชุดนี้ เห็นว่าเป็นเรื่องบุกเบิกหัวข้อขุดสุสานที่ฮิตมาก มีทำเป็นภาพยนตร์และซีรีส์เยอะมากจนไล่จนงงเลย ถ้ามีเรื่องอะไรหลุดไปก็ขอคอมเมนต์ด้วยนะคะ

คนขุดสุสาน


เมืองโบราณกลางทะเลทราย

เล่มแรกนี่เน้นความเป็นมาของพระเอก หูป๊าอิ ไปสักครึ่งเล่ม เริ่มด้วยปู่ที่ศึกษาเคล็ดวิชาฮวงจุ้ยหยินหยางสิบหกอักษรครึ่งแรกจนเป็นนักดูฮวงจุ้ยมือฉกาจ ถึงพ่อไปร่วมปฏิวัติแต่เมื่อถึงยุคปฏิวัติวัฒนธรรมก็โดนจับสอบสวน ครอบตัวแตก หูป๊าอิที่ได้รับตำราเป็นมรดกอย่างเดียวที่เหลือก็โดนส่งไปทำงานในชนบทที่มองโกเลีย กับ หวังไข่เฉวียน หรือ พั้งจื่อ (เจ้าอ้วน) ชีวิตถึงลำบากแต่ก็สนิทกับชาวบ้านดี เคยออกตามหาคนหายจนเผชิญความลี้ลับของสุสานไทเฮาชาติเหลียว

เมื่อปี 1969 ครอบครัวเริ่มพ้นมลทิน หูป๊าอิได้โอกาสเข้าประจำการทหาร ถูกส่งไปทำงานก่อสร้างที่ช่องเขาคุนหลุน พบความลึกลับของอารามปีศาจเก้าชั้นจนตายเกือบยกคณะ อีกหลายปีก็ได้เลื่อนเป็นหัวหน้ากอง ร่วมรบที่เวียดนาม แต่ฝ่าฝืนระเบียบและถูกปลดส่งกลับบ้าน ทำงานขายเทปเพลงกับพั่งจื่อที่ปักกิ่ง เวลาผ่านไปไวถึงปี 1980 อายุสามสิบกว่าแต่ยังไม่มีความก้าวหน้าอะไร จนได้ทำความรู้จักกับ ต้าจิ๊นหยา ที่ค้าของเก่า ครอบครัวเป็นโจรสุสานที่เรียกกันว่านักคว่ำถ้วย (มีศัพท์เฉพาะกลุ่มเยอะมาก อย่าง คลำทองตรวจยศ เครื่องหมิง หรือขนมจ่างใหญ่ที่หมายถึงผีดิบ ฯลฯ) หูป๊าอิกับพั่งจื่อเลยได้เข้าร่วมวงการโดยอาศัยทุนความรู้ด้านฮวงจุ้ย

งานแรกก็กลับไปสุสานไทเฮาชาติเหลียว แต่เมื่อถึงสุสานถูกพบแล้ว มีหน่วยโบราณคดีสำรวจอยู่ จึงต้องหาไปหาที่ใหม่ไม่ไกล คือ ร่องน้ำเหยี่ยนเหรินในช่องลมดำ ที่ว่ากันว่ามีสุสานขุนศึกสมัยต้าจิ๊น อาศัยสาวนายพรานพื้นบ้านนำทาง ถึงเจออย่างทุลักทุเลเกือบโดนกินแต่ก็ไม่ได้อะไรมากนัก ของส่วนใหญ่ยกให้ชาวบ้าน และยังพบว่าดูราคาของเก่าไม่เป็น เมื่อกลับถึงปักกิ่ง ต้าจิ๊นหยาแนะให้ไปรับงานนำขบวนของคณะโบราณคดีไปซินเจียง

ศาสตราจารย์ เฉินจิ่วเหริน ต้องการไปสำรวจมากเพราะของกำลังถูกขโมยจนเสียหายหนัก ปีก่อนมีเพื่อนเก่าที่ย้ายไปอเมริกาพาคณะไปสำรวจหาสุสานจักรพรรดิหญิงของจิงเจวียและหายสาบสูญ ลูกสาว เชอร์รี่หยาง เลยออกทุนให้คณะอาจารย์และลูกศิษย์เดินทางไปตาม การเดินทางเข้าทะเลทรายดำมีอันตรายมาก ต้องใช้วิธีข่มขู่หาคนนำทางในพื้นที่ ประสบอันตรายระหว่างทาง แต่ก็ไม่เท่าเมื่อถึงเมืองจิงเจวียของชาวกุ่ยต้ง (หลุมผี) ที่ตายกันเป็นเบือ ... และยังพบว่าเชอร์รี่ก็สืบเชื้อสายนักคว่ำถ้วย สัญลักษณ์คลำทองที่ทำจากกรงเล็บนางอายก็เป็นของโบราณสมัยปลายฮั่น

  

ตอนนี้ถูกทำเป็นภาพยนตร์ 'Chronicles of the Ghostly Tribe' หรือ 'อสูรยักษ์แห่งหุบเขามรณะ' เมื่อปี 2015 นำแสดงโดย จ้าวโหย่วถิง เหยาเฉิน หลี่เฉิน ถังเยียน และไรเดียน แวนฮานน์ แล้วก็มีซีรีส์ 'คนขุดสุสาน: เมืองโบราณกลางทะเลทราย' หรือ 'Candle in the Tomb' เมื่อปี 2016 มี 21 ตอนจบ นำโดย จิ้งตง เฉินเฉียวเอิน จ้าวต๋า เยว่หยาง ดูได้ที่ WeTV
[21/03/13, 04/04/22]

อุโมงค์ปริศนาแห่งเขามังกร

เกิดเรื่องจนตายไปหลายคน ศาสตราจารย์เฉินเสียสติ ถึงเชอร์รี่จะเตือนว่า งานคลำทองตรวจยศเป็นการทำลายบุญกุศลเดิมอย่างรุนแรง คนดวงแข็งแค่ไหนก็หลบไม่พ้นการมีเรื่อง หูป๊าอิยังยืนยันจะทำต่อ สองสหายเลยลดโปรไฟล์และหาประสบการณ์ด้านของเก่าโดยเปิดกิจการเล็กๆ พักหนึ่ง ก่อนได้เบาะแส เดินทางกับต้าจิ๊นหยาไปเมืองกู่หลานมณฑลซานซี ที่มีสุสานสมัยถังในทิวเขามังกรที่เร้นลับมีคนเจอผีกั้นกำแพงจนหลงหาทางออกไม่ได้จนตายหาศพไม่พบมามาก

งานนี้อาศัยหูป๊าอิความรู้หาทางเข้าสุสานผ่านวัดบูชาเจ้ามังกรที่นักคลำทองสมัยก่อนสร้างเพื่อบังหน้า และก็พบว่าหนักกว่าที่คาดเมื่อมีสุสานมหึมาสมัยซีโจวซ้อนอยู่ล่างสุสานสมัยถัง ... แบบว่าถึงรอดแต่ก็เกือบเปลือยออกมาจากถ้ำ ทำให้เห็นว่าทั้งหูป๊าอิและพั้งจื่อมีรอยแดงประหลาดคล้ายลูกตาที่ตัว โชคดีที่ศาสตราจารย์ ซุนเย่าจู่ (ซุนเสวียอู่) ผู้เชี่ยวชาญด้านการถอดรหัสโบราณบอกว่าไม่ใช่คำสาป เป็นลักษณะภาพคำ แต่ก็ไม่ยอมบอกอะไรอีก

สุดท้ายเชอร์รี่ที่ไปหาข้อมูลของตาเพิ่มได้เบาะแส มาบอกว่าตนเป็นเชื้อสายชนเผ่าจาเกอลาหม่าหรือที่เรียกกันว่านักปราชญ์ที่เคยใช้ดวงตาหยกบูชากุ่ยตงก่อนเกิดภัยพิบัติเป็นโรคร้ายเมื่ออายุสี่สิบ ต้องอาศัยมู่เฉินจูที่เป็นอัญมณีในประวัติศาสตร์มาแก้ ชาวเผ่าได้อพยพหนีจำนวนมากเนื่องจากถ้าอยู่ห่างโรคจะเกิดช้าลง และมีอาชีพขุดสุสานเพื่อหามู่เฉินจู ถึงขนาดที่เป็นแขนงสำคัญในพรรคคว่ำถ้วยทั้งสี่ คือ เปิดเนิน คลำทอง ย้ายภูเขา และปลดทิวเขา ชาวเผ่ามักทำสายย้ายภูแขาแยกเปลือก เวลาผ่านไปนานก็ยังไม่พบ ชนเผ่าเหลือน้อยลงทุกที

ทายาทรุ่นสุดท้าย เจ้อกูเซ้า เป็นนักบวชย้ายภูเขาที่เก่งกาจ ได้ไปขอเรียนวิชากับ พระเหลียวเฉิน อดีตคนคลำทองตรวจยศระดับตำนานที่อยากช่วยให้พ้นคำสาป และได้พากันไปหาเบาะแสมู่เฉินจูที่สุสานเปล่าใต้วัดนอกเมืองเห้ยสุ่ยของซีเซี่ย ระหว่างทางก็ลากบาทหลวง โทมัส ไปด้วยซึ่งภายหลังได้ช่วยเจ้อกูเซ้าอพยพไปอยู่อเมริกา มีหลานตาคือเชอร์รี่หยาง ก่อนตายด้วยโรคจากคำสาปที่เริ่มเมื่ออายุหกสิบ

กลับมาเรื่องคำสาปที่คราวนี้ หูป๊าอิ พั่งจื่อ เชอร์รี่ และ ศาสตราจารย์เฉิน เจอเข้าไปเต็มๆ โดยเฉพาะคนหลังสุดที่กำเริบแล้ว เป็นเหตุให้สามคนแรกรีบติดต่อศาสตราจารย์ซุนเพื่อหาทางแก้อย่างด่วน อาศัยบุญคุณของศาสตราจารย์เฉินได้ข้อมูลนิดหน่อยว่าเครื่องหมายที่เหมือนดวงตาน่าเป็นอักษรลับยุคโจวที่หมายถึงนกเฟิ่งหวง (ฟีนิกซ์) สุดท้ายได้เบาะแสจากแหล่งที่คาดไม่ถึงเรื่องสุสานกษัตริย์เซี่ยนที่ปกครองเขตปกครองที่แยกตัวช่วงกลียุคปลายฉิน-ฉู่ฮั่น ถึงฮั่นอู่ตี้


ตอนนี้ถูกทำเป็นซีรีส์ 'คนขุดสุสาน: อุโมงค์ปริศนาแห่งเขามังกร' หรือ 'Candle in the Tomb: The Lost Caverns' เมื่อปี 2020 มี 18 ตอนจบ นำโดย พานเยว่หมิง จางอวี่ฉี เจียงเชา เกาเหว่ยกวง ดูได้ที่ WeTV
[23/04/13, 04/04/22]

หุบเขาลับแห่งยูนนาน

สองหนุ่มหนึ่งสาวออกเดินทางไปหาสุสานกษัตริย์พ่อมดยุคกู่เตียนที่ยูนนาน คิดเป็นเซียนหลังตาย ใช้คนนับแสนสร้างสุสานพรอมสังเวยชีวิตมหาศาลกับวิชาเถิงอันน่าสยดสยองที่หุบเขาฉง สามสหายล่องแก่งเข้าถ้ำเพื่อลัดทางตัดเขาตามคำแนะนำของชาวบ้าน แต่น้ำมากจนหลง ฝ่าหลายด่านเพื่อเข้าแดนสยอง (เล่มนี้เนื้อเรื่องไม่ค่อยไปไหน เพราะมัวแต่เจอศพพ่อมดงูหลาม ต้นไม้กินคน ศพเหยื่อ ปลากินคน ศพสาวเปลือย หนอนยักษ์สมัยไดโนเสาร์ หนอนเถิง ปีศาจ ฯลฯ ถ้าเล่มก่อนๆ สามารถโมเมเรื่องลึกลับเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติได้มากกว่า เล่มนี้เห็นจะเกินกำลังไปมาก และออกจะน่าคลื่นเหียนกว่าเยอะ)

ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าสามสหายรอดออกมาได้อย่างสะบักสะบอม ของหายหกตกหล่นไปเพียบ ยังดีที่รักษาของที่อาจมีมู่เฉินจูออกมาได้ ของที่เหลืออีกนิดหน่อยก็บ่งชี้ว่าอาจเกี่ยวกับเคล็ดวิชาฮวงจุ้ยหยินหยางสิบหกอักษรครึ่งหลัง บวกกับรูปที่คล้ายคลึงกับเหตุสยองขวัญสมัยหูป๊าอิเป็นทหารที่เจอปีศาจในวัดร้างต้าเฟิ่งหวงในคุนหลุนที่ถูกสร้างเพื่อผนึกสุสานโบราณชาติหมั๋ว (จขบ. สงสัยว่าทำไมไม่เอาตอนวัดต้าเฟิ่งหวงไปอยู่ในเล่มแรกตามลำดับเวลา) จึงสรุปได้ว่าจะกลับไปปักกิ่งเพื่อตรวจสอบของ ก่อนไปหาพระลามะ ตะบองเหล็ก ที่เคยช่วยที่วัดต้าเฟิ่งหวงและดูเหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง


ตอนนี้ถูกทำเป็นซีรีส์ 'คนขุดสุสาน: หุบเขาลับแห่งยูนนาน' หรือ 'Candle In The Tomb : The Worm Valley' เมื่อปี 2021 มี 16 ตอนจบ นำโดย พานเยว่หมิง จางอวี่ฉี เจียงเชา ดูได้ที่ WeTV
[14/05/13, 04/04/22]

วังเทพคุนหลุน

หลังการผจญภัยชุดที่แล้ว สามสหายมาตั้งหลักที่ปักกิ่ง หูป๊าอิพบ จางอิ๋งชวน ที่สืบสายมาจากวิชาฮวงจุ้ยด้วยกัน ได้ความรู้เพิ่มเติมบวกคำเสี่ยงทาย ได้รับการติดต่อจากเศรษฐีชาวฮ่องกง หมิงซู่ (บรรพบุรุษเป็นโจรสุสานเซียงซี ทำเรื่องแบกศพพลิกถ้ำ) ให้พาไปหาศพคริสตัลน้ำแข็งพันปีที่ซากโบราณสถานราชวงศ์กู่เก๋อในแดนอาหลี่ที่ทิเบต ที่สำคัญคือมีปริศนาดวงตาเงินกู่เก๋อที่ลึกลับ ทำให้ทั้งสามรับงาน คณะเดินทางอื่นมีอนุภรรยา ฮั่นซู่น่า ลูกบุญธรรม อาเซี้ยง ที่มีดวงตาหยินหยางเพราะถูกเลี้ยงตามหลักของลัทธิวิทยาศาสตร์ (จขบ. สงสัยว่าอ้างถึง Scientology หรือเปล่า) คนคุ้มกัน และคนขับรถ

ที่ทิเบตก็ได้พระลามะกระบองเหล็กและคนนำทาง ชูอิ ช่วยเพื่อทำบุญกำจัดสุสานโบราณของหมัวที่ชั่วร้าย ไม่ต้องเดาว่าสมาชิกคณะเดินทางจะค่อยๆ ลดลงจากการบาดเจ็บล้มตายจากสัตว์ร้ายหรืออำนาจลึกลับต่างๆ คนที่รอดก็เจอคำสาปโรคเลือดแข็ง เมื่อไปถึงแท่นบูชาใต้ดินก็พบว่าการกำจัดคำสาปกุ่ยต้งคือการฆ่าคนเป็นเครื่องสังเวย แล้วนำศพและเฟิ่งหวงต่าน (มู่เฉินจู) มาโยนลงบ่อสองบ่อแยกกันเพื่อปิดทางเชื่อมความสัมพันธ์ แล้วจะเลือกใครให้ตาย ...

สรุปความรู้สึกหลังจากอ่านจบชุดคือสยองดี (แต่ไม่อธิบายกราฟฟิก ค่อยยังชั่ว) ปมต่างๆ และชื่อเผ่า สถานที่ ของ ฯลฯ แปลก ซ้ำ และเยอะจนมึน การถอนคำสาปก็เลยงงๆ แต่ก็อ่านสนุกดีค่ะ อย่าคิดมาก ^^

สรุปภาคแรกนี้ก็ถือว่าสนุกสนานตื่นเต้นค่ะ รู้สึกเหมือน 'อินเดียน่า โจนส์' (สำรวจของเก่า) ปนกับ 'เพชรพระอุมา' (เจอของประหลาด และยิ่งเหมือนขึ้นทุกทีๆ) แต่ความรู้สึกเสียดายมรดกทางวัฒนธรรม (ถึงในนิยายก็เถอะนะ) เพราะไปที่ไหนก็เละที่นั่น พังถล่มราบไปเป็นแถบๆ ทำเอาความสนุกของ จขบ. ลดไปเยอะเหมือนกัน อ้อ เรื่องนี้มีอ้างถึงการปฏิวัติจีนด้วยความรู้สึกบอกไม่ค่อยถูก ส่วนเรื่องฮวงจุ้ย เขียนอะไรไม่รู้เรื่องเลยแต่ฟังขลังดี สำนวนแปลพอไปได้แต่ไม่สละสลวยและมีตลกโผล่ออกมาบ้าง (อย่างทหารรุ่น 82 และทหารพลร่มรุ่น 101 ที่ศึกนอร์มังดี) สุดท้ายคืออย่าไปหวังเรื่องวิทยาศาสตร์ ถึงพยายามอ้างแต่ก็ไม่เนียน (แบบเรื่องของ Dan Brown นั่นแหละ)


ตอนนี้ถูกทำเป็นภาพยนตร์ 'Candle in the Tomb: Kunlun Shrine' หรือ 'คนขุดสุสาน ตอน วังเทพคุนหลุน' เมื่อปี 2020 นำแสดงโดย หวังหลงเจิ้ง หวังจืออวิ่น หานเย่โจว หลิวปัว หม่าอี้ หยางซิ่ง ดูได้ที่ WeTV และก็ทำเป็นซีรีส์ 'Candle in the Tomb: Kunlun Shrine' เมื่อปี 2022 นำแสดงโดย พานเยว่หมิง จางอวี่ฉี เจียงเชา
[19/06/13, 04/04/22]


คนขุดสุสาน ภาค 2


ตำนานสุสานหวงต้าเซียน

เรื่องนี้ย้อนอดีตไปปี 1969 หูป๊าอิกับพั้งจื่อถูกส่งไปเป็นอาสาสมัครที่ภูเขาต้าซิ่งอันหลินงในมณฑลเฮยหลงเจียแถวมองโกเลีย ซึ่งทั้งคู่ก็อยู่อย่างเซ็งจัดเพราะไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจทำ เมื่อมีโอกาสเลยอาศัยความรู้ของสาวชาวบ้าน เยี่ยนจือ ไปล่าหมีเอาดีมารักษาชาวบ้านและจับเพียงพอนมาถลกหนังแลกลูกอมผลไม้ เลยพลัดหลงเข้าในศาลเพียงพอนที่เคยมีสมาคนลับเคยมาขุดหาของ จนทั้งสามถูกสะกดเกือบฆ่าตัวตาย

เมื่อทำผลงานได้ดีมีโอกาสลาพัก หูป๊าอิกับพั้งจื่อเลยขอลาไปเยี่ยมเพื่อนหญิงที่แอบชอบนาม ติงสือเทียน ผู้ถูกส่งไปทำงานที่ไร่ปศุสัตว์กับเฒ่า เหล่าหยางผี ในเขตเค่อหลุ่นจั่วฉีที่ไม่ห่างเกินไปนัก ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องวัวที่เป็นทรัพย์สินของรัฐแตกตื่นหนี ทั้งสี่คนเลยออกตามและเข้าสู่เขตไป๋เหยี่ยนคูที่มีตำนานว่าเป็นเขตมังกรปีศาจ แต่ความลับนอกจากเรื่องของเพียงพอนแล้ว (ไม่ต้องเดาว่ามีเอื่ยว 555) ก็ยังมีเรื่องสมัยสงครามที่กองทัพญี่ปุ่นมาตั้ง 'หน่วยวิจัยโรคระบาดและผลิตน้ำสะอาด' เพื่อค้นคว่าอาวุธชีวภาพที่เหนือธรรมชาติจนตายกันยกฐาน ...

ภาคสองออกมาได้หลอนสม่ำเสมอคงเส้นคงวา แต่แหม เรื่องอ้างถึงการปฏิวัติและท่านประธานดูจะเป็นมุกอย่างแรง

  

ตอนนี้ถูกทำเป็นภาพยนตร์ และมีซีรีส์ 'คนขุดสุสาน: ตำนานสุสานหวงต้าเซียน' หรือ 'Candle in the Tomb: The Weasel Grave' เมื่อปี 2017 มี 20 ตอนจบ นำโดย หร่วนจิงเทียน สวี๋ลู่ หาวห่าว หลิวเฉา หลี่มู่เฉิง ซ่างเถี่ยหลง หูเสี่ยวกวง ดูได้ที่ WeTV และ AIS นอกจากนี้ ยังมีดัดแปลงเป็นฐานของเรื่องอีกยี่สิบปีให้หลังในภาพยนตร์ 'Mojin: The Lost Legend' หรือ 'ล่าขุมทรัพย์ลึกใต้โลก' เมื่อปี 2015 นำโดย เฉินคุน ซูฉี ฮวงปอ แองเจล่าเบบี้
[19/02/15, 04/04/22]
ตำนานเซียนใต้ทะเลลึก

เมื่อศาสตราจารย์เฉินได้ข่าวจากศาสตราจารย์ซุนเรื่องกระจกส่องกระดูกฉินหวังจมอยู่ในเรือเศรษฐีแถวแนวแหวนปะการังในทะเลหนานไห่ มีเบาะแสเพียงจมในบริเวณที่เกิดไฟหยินพวยพุ่งจากก้นทะเล เลยขอให้เชอร์รี่หยางมาเกลี้ยกล่อมเพื่อใช้ความรู้ด้านฮวงจุ้ยกำหนดจุด ซึ่งในกรณีนี้เกี่ยวข้องกับชีพจรมังกรใต้ที่เริ่มจากภูเขาเอ๋อเหมย ตามแม่น้ำไปตะวันออก ผ่านเทือกเขาไห่เยี่ยน ออกทะเลเป็นเก้าสาขาสิบสามชีพจร

ซึ่งเหล่านักขุดสุสานก็คิดหาเงินก่อนไปอเมริกาด้วย เลยฟอร์มที่มีหูป๊าอิ พั้งจื่อ เชอร์รี่หยาง (ที่มีวิชาย้ายภูเขาถมทะเล แถมจบโรงเรียนนายเรืออเมริกา เคยเป็นช่างภาพนิตยสารเนชั่นแนลจีโอกราฟิก) และหมิงซู่ (ที่เคยออกทะเล) แล้วก็เริ่มกันที่เกาะวัดซานหู ได้เรือหลิวทะเลอันเก่าแก่ เคยเป็นเรือเร็วของโจรสลัด มีติดปืนใหญ่ด้วย และมีชื่อว่าผีสิงเพราะคนอังกฤษที่มาซื้อปรับปรุงตายเรียบโดยไม่รู้สาเหตุ นอกจากนั้นก็ได้คนจีนเวียดนามที่งมไข่มุกที่เรียกว่าตั้นหมินหรือขาวไข่มาช่วยอีกสามคน คือ หร่วนเฮย และลูกศิษย์ชายหญิงวัยรุ่น กู่ไช และ ตัวหลิง

แน่นอนว่าระหว่างทางเจอเรื่องไม่ธรรมดา ตั้งแต่เจอเรือผี โลงศพลอยน้ำมา ความลับในท้องเรือ และเมื่อถึงแถบวงแหวนก็มีโอกาสงมไข่มุก เจอซากโบราณ แต่ก็เจอพายุ งูทะเลยักษ์ ตกลงในสะดือทะเล เข้าไปในเมืองโบราณในกุยซวี พบเรือที่บรรทุกกระจกส่องกระดูกฉินหวังอันมีเรื่องผีและฉลาม และที่สุดคือต้องหาทางหนีออกจากใต้ทะเลให้ได้ โชคดีที่กู่ไชสืบเชื้อสายจากเผ่าตั้นเหรินที่เป็นผู้สร้างเมืองโบราณตั้งแต่ก่อนสมัยฉินและยังพอจำเรื่องสมัยเด็กก่อนพ่อแม่ตายได้บ้าง ...

เล่มนี้ดูจะออกแรงกันมากเป็นพิเศษนะคะ ส่วนเรื่องความลึกลับสยองขวัญก็ออกมาตรงๆ เยอะมากขึ้น แต่ จขบ. รู้สึกว่าการอธิบายเรื่องวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และทักษะเฉพาะหลายจุดไม่ค่อยเนียน (ที่จริงคือโอเคนะคะที่จะใส่ไข่ แต่น่าจะทำให้ราบรื่นอีกนิด ^_^) รู้สึกฮาเป็นพิเศษกับเรื่องวิงวอนเทียนโฮ้วเหนียงเหนียงและเจ้าแม่มาจู่ที่เป็นองค์เดียวกัน แต่เวลาออกทะเลต้องขอเจ้าแม่มาจู่คุ้มครองเพราะเทียนโฮ้วต้องรอให้ทหารตั้งแถวเกียรติยศถึงเสด็จได้ ถ้าเป็นเจ้าแม่มาจู่จะได้ลดพิธีการรีบออกมาช่วยเร็วๆ อ้อ เรื่องเอาสัตว์ยักษ์ใต้ทะเลมาขับเคลื่อนกลไกก็ทำให้สงสัยมากเลยว่าตอนจับล่ามโซ่ทำอย่างไร อย่าว่าแต่นึกถึงการเอาโทรลมาเปิดประตูกำแพงในภาพยนต์ 'The Lord of the Rings'
[23/04/15, 04/04/22]

ตำนานราชาศพเซียงซี

เล่มนี้ย้อนไปอดีตยุคขุนศึก นายพล หลัวเหล่าไว แห่งเซี่ยงซี ร่วมมือกับหัวหน้าปลดทิวเขา เฉินเต้าขุย (หัวหน้าโจรแซ่งเฉิน) หรือเฉินตาบอดในอนาคต ช่วยกันปล้นสุสานเอาเงินมาซื้ออาวุธ โจรขุดสุสานประเภทนี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เช่น กองกำลังคิ้วแดงระหว่างฮั่นตะวันตกตะวันออกที่เกิดในช่วงข้าวยากหมากแพง ไม่สนธรรมเนียม เพราะใช้กำลังคนมาก ขุดกันซึ่งหน้าไม่ต้องแคร์อะไร

งานใหญ่คราวนี้คือการขุดสุสานแม่ทัพหยวนที่ดัดแปลงมาจากอารามหลอมยาสมัยเก่าในภูเขาผิงซานแถบเซียงซี ซึ่งในช่วงแรกเฉินเต้าขุยก็พาคนของตนและทหารช่างของหลัวเหล่าไวบุกเข้าสองทาง แต่เจอกับดักและสัตว์พิษจนสูญเสียมาก เลยต้องของความช่วยเหลือจากนักบวชย้ายภูเขาเจ้อกูเช้าที่พาศิษย์น้องสองคนมาขุดสุสานหายาอายุวัฒนะแถวนั้นพอดี เจ้อกูเช้าสามารถหาทางเข้าที่ง่ายได้ แต่สุดท้ายก็ยังเกิดเรื่องตายเป็นเบือ ออกมาได้อย่างสะบักสะบอม หลัวเหล่าไวก็เสียชีวิต ทำให้กองทัพแตกสลาย

เจ้อกูเช้าออกไปตามหาพวกคลำทองตรวจยศเพื่อเรียนวิชามังกรเสาะหาภูเขาแยกทองชี้ตำแหน่ง งานนี้ไม่ง่ายเพราะพวกคำทองโดนกวาดล้างในสมัยหย่งเล่อ เหลือเครื่องรางคลำทองเพียงสามชิ้น ซึ่งก็ได้เบาะแสจากปู่ของหูป๊าอิ สุดท้ายเจ้อกูเช้าที่ท้อแท้ก็เดินทางออกนอกประเทศไม่ได้กลับมาอีก มีหลานตาคือเชอร์รี่หยาง (ตามที่เคยบรรยายในภาคที่แล้ว) ส่วนเฉินเต้าขุยแยกจะไปหาสุสานกษัตริย์เซี่ยนที่ยูนนาน เจอกับดักพิษเถิงในหุบเขาฉงกู่จนตาบอด ทำให้โจรปลดทิวเขาเสียหัวและเลือนหายไปด้วย ...

เรื่องนี้ก็น่าสนใจดีนะคะ เพราะเป็นการขุดสุสานในอีกขั้น คือใช้คนหลายพัน ทำให้สามารถยกระดับความบู๊เยอะมาก (แต่ จขบ. สงสัยเรื่องกลไกทั้งหลายพอสมควรนะ 555) ความจริงต้องเรียกว่าปล้นราบคาบ ทำลายเรียบ แต่ก็มึนๆ อยู่เหมือนกันเพราะใช้ชื่อคล้ายๆ กัน โดยเฉพาะการขุดสุสานสี่แบบ 'เปิดเนิน คลำทอง ย้ายภูเขา และปลดทิวเขา' ที่มีขยายความอะไรกันอีกด้วย

    

ตอนนี้ถูกทำเป็นซีรีส์ 'Candle in the Tomb: The Wrath of Time' หรือ 'คนขุดสุสาน: ตำนานราชาศพเซียงซี' เมื่อปี 2019 มี 21 ตอนจบ นำโดย พานเยว่หมิง เกาเหว่ยกวง ซินจื่อเหลย เฉาเว่ยยวี่ เซิงก้วนเซิน ภาพยนตร์ 'Candle in the Tomb: The Wrath of Time' หรือ 'ตำนานราชาศพเซียงซี' เมื่อปี 2020 นำแสดงโดย หลี่เซิ่งหรง เจิ้งตง หลินเฟิงเย่ ฟู่เฮ่ออันฉี เมิ่งจ่านอี และยังดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ 'Mojin: Mysterious Treasure' หรือ 'คนขุดสุสาน: อุโมงค์ปริศนาศพเซียงซี' เมื่อปี 2020 นำโดย จางจื้อเหยา หูเสวี่ยเอ๋อร์ หลี่เตี้ยนจุน เหอฉีเหว่ย โจวเสี่ยวชวน ทั้งสามเรื่องดูได้ที่ WeTV
[11/05/15, 04/04/22]

ตำนานสุสานตี้เซียน

เมื่อพบว่าความจริงว่ากระจกส่องกระดูกฉินหวังที่งมขึ้นมา ถูกศาสตราจารย์ซุนฮุบไว้และความจริงเป็นกระจกปากว้าที่ใช้ทำนาย หูป๊าอิเลยบีบให้ศาสตราจารย์ซุนช่วยนำทางไปขุดสุสานเพื่อหายาวิเศษตันติ่งเทียบซูมาขจัดพิษศพในร่างตัวหลิง เรื่องคือศาสตราจารย์ซุนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านยันต์โบราณและเมื่อสิบสองปีก่อนสมัยปฏิวัติวัฒนธรรมต้องไปทำงานหนักที่ส่านซีจนได้รู้จักกับ เฟิงเสวียเหวิน ที่เป็นทายาทรุ่นสุดท้ายของตระกูลเจ้าของที่ดินและกวนซานไท่เป่า (โจรสุสาน)

ตระกูลเฟิงอาศัยอยู่ใกล้หุบเขาโลงศพในเขาอูซาน เรียกตัวเองว่าพวกกวนซานไท่เป่า ขุดสุสานจนเชื่ยวชาญวิชาพยากรณ์และฮวงจุ้ยเมื่อถึงต้นรัชสมัยหมิงไท่จู เฟิงหวังหลี่ เข้ารับราชการคอยสร้างสุสานจักรพรรดิ และในสมัยหย่งเล่อยังแนะนำให้ทำลายยันต์คลำทองและปราบปรามโจรปลดทิวเขา ต่อมาจนถึงช่วงปลายราชวงศ์ เฟิงสือกู่ ลาออกกลับบ้านเดิมแล้วเข้าไปขุดสุสานโบราณในหุบเขาโลงศพ เมื่ออกมาก็ตั้งตัวเป็นตี้เซียนชักชวนชาวบ้านให้สละร่างตามหนังสือสวรรค์กระดูกมังกรหลง (กู่เทียนซู) เพื่อบรรลุเป็นเซียน เฟิงสือกู่พาชาวบ้านสร้างหมู่บ้านตี้เซียนเพื่อเป็นที่พำนักและยังทิ้งปริศนาไว้ให้ลูกหลานเผื่อต้องการที่พึ่งพิงในอนาคต ซึ่งสายทายาทของ เฟิงสือฉี ก็ได้อพยพหนีภัยสงครามไปที่อื่น ทิ้งคำสั่งเสียให้ทายาทเข้าไปสำรวจในสุสาน ถ้าเซียนศพของเฟิงสือกู่กลายเป็นปีศาจก็ให้กำจัดทิ้ง

คณะผจญภัยที่มีหูป๊าอิ พั้งจื่อ เชอร์รี่หยาง และ ศาสตราจารย์ซุน ก่อนอื่นก็ต้องหาตำบลชิงซีอันเป็นที่ตั้งของบ้านเดิม ระหว่างทางได้พบ เถ้าแก่หลี่ ที่เป็นคนของเฟิงวอซานที่เป็นอีกหนึ่งอาชีพในคัมภีร์ขุนเขา (ซานจิง) เชี่ยวชาญด้านการผลิตอาวุธต่างๆ ทำให้ได้ของดีมาเยอะ โดยเฉพาะร่มจินกังที่เป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวของพวกคลำทองที่นักคลำทอง จินซ่วนผาน สั่งไว้นานแล้ว (แต่ไม่มาเอา) แถมยังได้ลูกศิษย์และลูกสาวบุญธรรม เยาเม่ยเอ๋อร์ เข้ามาร่วมเดินทางด้วย แต่งานนี้นับว่าหนักหนาที่สุด เป็นการดวลกับนักขุดสุสานระดับเหนือเซียนที่มาสร้างสุสานเอง รับรองว่างัดเทคนิคมาใช้แบบไม่ยั้ง แถมใครหลอกใครกี่ซับกี่ซ้อนช่างซับซ้อนเหลือคณา ...

ท้ายเรื่องมีอ้างถึง จางซานเย่ (ท่านสามแซ่จาง) นักคว่ำถ้วยยุคชิงตอนปลาย มีฉายาจางซานเลี่ยนจื่อจากการมียันต์คลำทองสามอัน เมื่อจะล้างมือก็ส่งยันต์ต่อให้ลูกศิษย์ที่มีอยู่ห้าคน คนที่ได้ยันต์คือ คือพระเหลียวเฉินที่วัดอู๋ขู่ จินซ่วนผาน และ เที่ยหมัวโถว (หัวบดเหล็ก) เหล่าเยาเอ๋อร์ ส่วนตาหยินหยาง ซุนกว๋อฝู่ ได้เคล็ดวิชาฮวงจุ้ยหยินหยางสิบปกอักษรครึ่งเล่ม คนสุดท้ายลูกชายเป็นไม่ได้ ต้อง 'เป็นหนึ่งรุ่นพักสามรุ่น' จากบาปกรรม ภายหลังเหล่าเยาเอ๋อร์ถูกกับดักตาย เหลียวเฉินไปบวช และจินซ่วนผานไปตายในสุสานจนหูป๊าอิไปพบและได้ยันต์คลำทองของแท้ บวกกับการโยงซุนเสวียอู่ถึงพี่น้องเหล่าหยางผี ก็ถือได้ว่ามีการขมวดปมของชุดได้ชัดเจนมากค่ะ

เรื่องนี้พูดได้ว่าออกกำลังสะบั้นหั่นแหลกมาก ได้อารมณ์ 'The Mummy' อย่างมากเลย การผจญภัยทั้งหลาย จขบ. รู้สึกว่าเวอร์มากกว่าตอนอื่นพอสมควร โดยเฉพาะสะพานนกแอ่นไหมทองและเกราะสุสานตระหนกเก้าตาย (คือถ้าคิดเรื่องแฟนตาซีก็โอเคนะคะ แต่เมื่อเทียบกับแนวติดดินของเรื่องก็นับว่าแปลก) อ้อ พวกสุสานและกลไกก็ดูจะหรูหราเกินกำลังคนธรรมดาไป ส่วนเรื่องเคล็ดวิชาทั้งหลาย จขบ. ก็ยังมึนตึ๊บอยู่ดี คือถึงจะพยายามบรรยายยังไงก็อ่านไม่รู้เรื่องแม้แต่น้อย 555 อ้อ มีเรื่องสั้นๆ ตอนท้ายเล่มที่เกี่ยวกับปู่ หูกว๋อหัว ที่เปิดร้านทำนายฮวงจุ้ย ได้ทำนายเรื่องที่ตั้งบ้านให้เศรษฐีว่าเป็นตำแหน่งหมวกผี คือ 'อยู่ที่นี่ตาย ฝังที่นี่เป็นมงคล' แต่สุดท้ายถึงเงินไหลมาเทมาก็ตายหมดเพราะ 'มีคุณธรรมเป็นมงคล ไร้คุณธรรมกลับสูญสิ้น'
[17/05/15, 20/05/15]

ที่มา
[1] เทียนเซี่ยปาชั่ง (ชิวเยี่ย แปล). คนขุดสุสาน 1 ตอนเมืองโบราณกลางทะเลทราย. สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 330 หน้า, 2555.
[2] เทียนเซี่ยปาชั่ง (ชิวเยี่ย แปล). คนขุดสุสาน 2 อุโมงค์ปริศนาแห่งเขามังกร. สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 288 หน้า, 2555.
[3] เทียนเซี่ยปาชั่ง (ชิวเยี่ย แปล). คนขุดสุสาน 3 หุบเขาลับแห่งยูนนาน. สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 384 หน้า, 2555.
[4] เทียนเซี่ยปาชั่ง (ชิวเยี่ย แปล). คนขุดสุสาน 4 วังเทพคุนหลุน. สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 352 หน้า, 2555.
[5] เทียนเซี่ยปาชั่ง (หลิงหลง แปล). คนขุดสุสาน ภาค II ตำนานสุสานหวงต้าเซียน. สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 448 หน้า, 2557.
[6] เทียนเซี่ยปาชั่ง (หลิงหลง แปล). คนขุดสุสาน ภาค II ตำนานเซียนใต้ทะเลลึก. สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 464 หน้า, 2557.
[7] เทียนเซี่ยปาชั่ง (หลิงหลง แปล). คนขุดสุสาน ภาค II ตำนานราชาศพเซียงซี. สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 464 หน้า, 2557.
[8] เทียนเซี่ยปาชั่ง (หลิงหลง แปล). คนขุดสุสาน ภาค II ตำนานสุสานตี้เซียน. สยามอินเตอร์บุ๊คส์, 512 หน้า, 2557.


รายการนิยายจีนแปลไทย, ไทม์ไลน์หนังสืออิงประวัติศาสตร์/ย้อนยุค จีน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spy×Family - Endo Tatsuya

ลำนำรักเทพสวรรค์ - ถงหัว

สืบลับฉบับคาโมโนะฮาชิ รอน - Amano Akira