สามชาติสามภพ - ถังชีกงจื่อ

เรื่อง สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่ และ สามชาติสามภพ ลิขิตเหนือเขนย
เขียนโดย ถังชีกงจื่อ แปลโดย หลินโหม่ว


สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่


ซู่ซู่ เป็นสาวชาวมนุษย์ที่เคยช่วย เยี่ยหัว รัชทายาทเผ่าสวรรค์ (มังกร) เยี่ยหัวตอบแทนด้วยการไหว้ฟ้าดินกับซู่ซู่ เมื่อซู่ซู่ตั้งครรภ์ก็ถูกเยี่ยหัวพาขึ้นสวรรค์แต่ไม่เป็นที่โปรดปรานและให้อยู่ในเรือนพักที่ห่างไกล แถมเยี่ยหัวมีพันธะหมั้นหมายกับป๋ายเฉี่ยนธิดาคนเล็กของมหาเทพแห่งแคว้นชิงชิว แต่ซู่ซู่หวังจะได้ความรักสักเล็กน้อยเป็นตัวหล่อเลี้ยงจิตใจไว้ วันหนึ่ง เธอได้ยินว่าเยี่ยหัวรัก ซู่จิ่น ที่เป็นสนมของจักรพรรดิสวรรค์เทียนจวิน ผู้เป็นปู่ มีหนำซ้ำซู่จิ่นยังแกล้งว่าโดนซู่ซู่ผลักตกแท่นประหารเซียนจนตาเสีย เยี่ยหัวจึงควักลูกตาเธอชดใช้ไป เมื่อซู่ซู่คลอดลูกจึงตั้งชื่อว่า อาหลี (พรากจาก) และกระโดดลงจากแท่นประหารเซียน (ซู่ซู่ถูกซู่จิ่นหลอกว่าจะทำให้กลับไปโลกมนุษย์ แต่มนุษย์ที่กระโดดลงจากแท่นประหารเซียนจะกลายเป็นธุลี)

ความจริงซู่ซู่คือ ป๋ายเฉี่ยน เทพธิดาผู้งามที่สุดแห่งเผ่าจิ้งจอกขาวเก้าหางที่มีความเย้ายวนเป็นธรรมชาติ (อ่านแล้วคิดว่าเผ่านี้รั่วกันเป็นธรรมชาติมากกว่า) เมื่อยังเล็กออกจะกะโปโลเพราะถูกพี่ชายเลี้ยงมาอย่างแก่นเต็มที่ อาเหนียง (แม่) ที่เป็นห่วงว่าพอแต่งงานจะโดนแกล้ง เลยให้ไปกราบอาจารย์เรียนวิชา ถ้าโดนแกล้งจะได้กำราบบ้านสามีให้ไม่กล้าหือ

อาจารย์ที่อาเหนียงหมายตาไว้คือโอรสของเทพบิดร ม่อเยวี่ยน เทพแห่งสงครามและการดนตรี แต่ม่อเยวี่ยนไม่รับศิษย์สตรี (เพราะหล่อเกินจนไม่อยากมีเรื่องยุ่ง) อาเหนียงถึงแปลงร่างป๋ายเฉี่ยนเป็นชายชื่อ ซืออิน ได้เป็นศิษย์ปิดสำนักลำดับที่สิบเจ็ด ป๋ายเฉี่ยนเรียนอยู่นานก็ไม่เอาไหนเท่าไหร่ แต่ม่อเยวี่ยนก็ดูแลอย่างดี เมื่อศิษย์พี่เก้าโดนราชาปีศาจ ฉิงชาง จับตัวไปจะให้เป็นราชินี (ฉิงชางเป็นต้วนซิ่ว คือ ชายที่ชอบไม้ป่าเดียวกัน) และซืออินก็โดนหางเลขติดไปด้วย ก็ได้ม่อเยวี่ยนไปช่วยพาตัวกลับมาได้และยังช่วยรับอัสนีสวรรค์ ด่านเลื่อนขั้นเป็นเทพระดับสูงของป๋ายเฉี่ยนอีก (เทพเซียนมีการเลื่อนขั้นเป็นขั้นสูงและสูงสุดตามกำหนดสวรรค์ ถ้าไม่ผ่านก็ตาย ถึงผ่านก็เจ็บหนัก)

เมื่อเกิดสงครามระหว่างเผ่าเทพและปีศาจ เพราะถูกคนใกล้ชิดหักหลัง ม่อเยวี่ยนใช้พลังเกินตัวและสังเวยจิตให้ระฆังบูรพาเพื่อกักขังฉิงชางจนวิญญาณแตกสลาย ถึงคนอื่นจะมั่นใจว่าม่อเยวี่ยนตายแล้ว ป๋ายเฉี่ยนก็ไม่ยอมเชื่อและแอบขโมยร่างม่อเยวี่ยนไปหล่อเลี้ยงไว้ด้วยเลือดจากหัวใจ เผื่อจะฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง

หลังจากนั้น ป๋ายเฉี่ยนได้ถูกหมั้นหมายกับโอรสองค์รองของเทียนจวิน แต่ฝ่ายชายก็ไม่รักดี ยังไม่พบหน้าก็หนีตามไปกับสาวใช้ของเธอ ทำให้เทียนจวินโกรธจัดจนเนรเทศและประกาศว่าจะให้ป๋ายเฉี่ยนแต่งกับรัชทายาทเผ่าเทพ (ที่ยังไม่ได้แต่งตั้ง)

สามปีให้หลัง โอรสองค์โตของเทียนจวินก็มีลูกชายที่มีสัญญาณสวรรค์สูงส่งยิ่งจนเป็นที่แน่ชัดว่าจะได้สืบทอดตำแหน่งจักรพรรดิสวรรค์ เยี่ยหัวที่อายุน้อยกว่าป๋ายเฉี่ยนถึงเก้าหมื่นปี ก็ถูกสั่งสอนตั้งแต่เกิดอย่างเคร่งครัด เพื่อจะได้ถูกแต่งตั้งเป็นรัชทายาทเมื่ออายุครบห้าหมื่นปี เยี่ยหัวได้ถูกร่ำลือว่ามีหน้าคล้ายม่อเยวี่ยนเป็นพิมพ์เดียวกัน เป็นอัจฉริยะที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำสถิติอายุน้อยที่สุดเมื่อเลื่อนขั้นเป็นเทพขั้นสูง

เมื่อราชาปีศาจฉิงชางหนีออกจากระฆังบูรพาได้สำเร็จ ป๋ายเฉี่ยนที่ผ่านไปพอดีจึงต่อสู้เพื่อผลึกฉิงชางกลับเข้าไปอีก ถึงทำสำเร็จแต่ตัวเองก็โดนผนึกพลังและเปลี่ยนหน้าตากลายเป็นมนุษย์ธรรมดาจนมาพบกับเยี่ยหัว

เคราะห์กรรมที่ป๋ายเฉี่ยนผจญนี้เป็นด่านรักที่สวรรค์กำหนดในการเลื่อนขั้นเป็นเทพชั้นสูงสุด ป๋ายเฉี่ยนที่เจ็บปวดใจมากจึงไปที่ป่าท้อสิบหลี่ของ เจ๋อเหยียน ที่สนิทกับครอบครัวเพื่อขอยาให้ลืมเรื่องทั้งหมด อีกสามร้อยปีให้หลัง ป๋ายเฉี่ยนก็ได้พบกับเยี่ยหัวและอาหลี (หรือที่เธอเรียกว่าก้อนแป้งข้าวหนียวน้อยเพราะความน่ารักขาวผ่อง) อีกครั้ง แต่สำหรับป๋ายเฉี่ยนแล้ว ในโลกนี้ไม่มีซู่ซู่บนเขาจวิ้นจี๋อีกต่อไป นั่นเป็นเพียงความฝันตื่นหนึ่งของป๋ายเฉี่ยนซ่างเสิน ความฝันที่แสนจะทุกข์ตรมขมขื่นและมีสีดอกท้ออยู่จางๆ หลังตื่นจากฝัน ในฝันเป็นเช่นไร ได้ลืมเลือนไปจนสิ้น ...

ถึงเรื่องนี้จะไม่มีคำคมสั้นๆ ที่รู้สึกติดใจขึ้นมา แต่ที่เด่นคือองค์รวมของการบรรยายที่เยี่ยมและฮาดีมากค่ะ ทุกบทมีหลายตอน แถมเป็นอารมณ์ขันแบบที่เข้าทาง จขบ. ที่สุดแล้วด้วย ถึงปกติจะไม่ถูกโฉลกกับนิยายที่เขียนแบบบุรุษที่หนึ่ง แต่เรื่องนี้ต้องบอกว่าไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อยเพราะเรื่องเด่นที่สุดเป็นความรั่วสุดขีดของนางเอก การมองในมุมมองนางเอกย่อมได้เปรียบมาก

ท้ายเล่ม 1 มีตอนพิเศษเยี่ยหัวบทแรก ที่ต้องต่อด้วย บทหลัง ในเล่ม 2 เรื่องนี้เป็นมุมมองของพระเอกที่เสริมว่าเกิดอะไรขึ้น ตามด้วยเรื่องของพี่สี่นางเอกกับเจ๋อเหยียน และศิษย์พี่ป๋ายเฉี่ยนที่เกือบได้เป็นราชินี (ชาย) ปีศาจ สัมภาษณ์พระนางโดยผู้แต่ง และเรื่องชื่อตอนโตของก้อนแป้งฯ ที่เป็นตลกร้าย น่าสงสารพ่อหนูจริงๆ แต่ก็นั่นแหละค่ะ ชื่อพี่น้องป๋ายเฉี่ยนแต่ละคนก็ตั้งออกมาดูมั่วซั่วกันทั้งนั้น ชื่ออาหลีทำให้ต้องแปลงวลีที่ว่า บิดามังกร (พยัคฆ์) ไม่มีบุตรสุนัข ใหม่นะนี่

ความจริงอ่านแล้วน่าส่งสารก้อนแป้งฯ นะ ถึงเวลาปกติก็ดูแลดีอยู่ แต่เกิดเรื่องอะไรพ่อแม่ทิ้งไม่สนใจเลย อีกเรื่องคือสงสัยมากว่าร่างจริงของก้อนแป้งฯ เป็นอะไร พ่อเป็นมังกรดำ แม่จิ้งจอกขาวเก้าหาง ถ้าออกมาเป็นมังกรขาวคงน่ารักดี (แบบ ป๋ายเฟิ่งจิ่ว หลานอาป๋ายเฉี่ยน ที่พ่อเป็นจิ้งจอกขาวเก้าหาง แม่เป็นจิ้งจอกแดง ออกมาเป็นจิ้งจอกแดงเก้าหาง หู/ถุงเท้าขาว น่ารักชะมัด) แต่ผู้แปลบอกว่าพ่อหนูเป็นมังกรดำเหมือนพ่อค่ะ

ส่วนพิเศษสุดท้ายคือคำถามตอบระหว่างผู้เขียนและผู้แปล ที่น่าสนใจที่สุดคือเรื่องนิยายภาคต่อ โดยจะมีอีก 3 ภาค คือเรื่องของ เหลียนซ่ง-เฉิงอวี้ (สามชาติสามภพ ก้าวย่างเกิดปทุม) ป๋ายเฟิ่งจิ่ว-มหาเทพตงหัว (ยังไม่ตั้งชื่อเรื่อง) และม่อเยวียน-ส้าวหว่าน (ยังไม่ตั้งชื่อเรื่อง) ทำให้เกิดอาการเซ็งเพราะลำดับความอยากอ่านเรียงตามลำดับความช้าเป๊ะๆ เลย

หนังสือทั้งสองเล่มมีเชิงอรรถอย่างยาว ทั้งเรื่องอธิบายคำ วลี สำนวน หรือประวัติศาสตร์ที่พูดถึง (แต่คนไทยไม่รู้เรื่อง) ชื่อตัวละครพร้อมคำแปลชื่อและข้อมูลประกอบ คำเรียกต่างๆ ที่ไม่ได้แปลเป็นไทย เช่น เวลาและหน่วยแบบจีนตบท้ายภาพประกอบสี่สี ที่มีทั้งเขียนใหม่และแฟนอาร์ต (อันนี้เข้าขั้นมืออาชีพเลย) ฯลฯ นับว่าเป็นนิยายในภาษาไทยที่มีเชิงอรรถยาวที่สุดที่เคยเห็นมา (แต่ถ้าเทียบกับนิยายชุด 'Masters of Rome' ก็ถือว่าพอปานกลาง)

ส่วนนี้อาจจะทำให้ผู้อ่านบางคนแหยง เพราะแปลโดยรักษาบรรยากาศจีนไว้สูงมาก ใช้คำเรียกแบบจีนทั้งหมด แต่สำหรับ จขบ. ที่เป็นมือเก่าด้านนิยายกำลังภายในและมีวิวัฒนาการการอ่านตั้งแต่รุ่นสำเนียงแต้จิ๋ว จีนกลาง เกาหลี ที่ไม่เคยรวบรวมคำอธิบาย ต้องจำเอาเอง ถือว่าจิ๊บๆ ค่ะ และชอบมากด้วยเพราะได้บรรยากาศดี (แบบเรารอดตัวแล้ว คนอื่นไม่ทราบ ^_^)

ถ้าเทียบกับนิยายกำลังภายในรุ่นก่อนแล้ว รู้สึกว่าการแปลจะเน้นการใช้คำแทนตัวหรือผู้อื่น เช่น ปู้ฉายจ้ายเซี่ยเปิ่นซ่างเสิน (ตัวข้าเทพชั้นสูงสุดที่เรียกอย่างถล่มตัวสองชั้นซ้อน แต่อ่านบริบทแล้วดูเหมือนจะออกอารมณ์อีกด้านเลย) มากกว่ากำลังภายในรุ่นเก่าที่เน้นการเรียกลำดับญาติหรือศิษย์ เช่น ในเรื่องนางเอกถูกรุ่นพี่เรียกว่าศิษย์น้องลำดับสิบเจ็ด ในกำลังภายในก็จะกลายเป็นจับฉิกซือตี๋หรือจับฉิกซือม่วยในช่วงหลัง

หน้าปกทั้งสองเล่มเป็นภาพวาดใหม่เฉพาะงานค่ะ ได้เห็นรูปเต็มก่อนหน้านี้แล้วสวยดี คนจองได้โหวดเลือกหน้าปก อักษร ฯลฯ กันด้วย รูปปกนี่ตัดมาส่วนตรงกลาง ขยายหน้าให้เห็นชัดหน่อย ถ้าคลี่ปกหลัง-สัน-ปกหน้าออกจะได้ภาพเดียวกัน โดยรูปหน้าอยู่ด้านหลังจะได้ไม่โดนตัวอักษรบัง (ในรูปขาดตรงสัน และสีไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่) ของแถมมีโปสเตอร์ โปสการ์ด กระดาษคั่น โดยมีรูปที่วาดเพิ่มจากหน้าปก เป็นรูปเดี่ยวของเยี่ยหัว 2 รูป ของป๋ายเฉี่ยน 1 รูป โดย จขบ. ชอบรูปเยี่ยหัวที่ถือกระบี่ชิงหมิงมากที่สุดในสามรูปนี้ค่ะ สงสัยรสนิยมแบบป๋ายเฉี่ยนที่ไม่ชอบกลิ่นอายบุ๋นเกินไป ฮะๆๆ

นิยายรักแฟนตาซีจีนที่ใช้เน็ตในการโฆษณาและขายตรงอย่างเดียว เรื่องนี้ผู้แปลตั้งสำนักพิมพ์ ขอลิขสิทธิ์ แปล และพิมพ์ขายเอง เลยต้องสั่งซื้อโดยตรงเท่านั้นที่ ศึกจอมขมังเวท เรื่องการส่งทางไปรษณีย์ไม่มีปัญหาใดๆ ค่ะ ห่อเล่มพร้อมของแถมโปสการ์ดและที่คั่นหนังสือมาอย่างดีที่สุดที่เคยเจอ แถมโปสเตอร์ก็ใส่กระบอกแยกมา ชนิดที่เนี๊ยบกว่า จขบ. ตอนเรียนเขียนแบบอีก


เพิ่มเติมคือในปี 2017 มีฉายภาพยนตร์ 'Once Upon a Time' นำโดยหลิวอี้เฟย และ หยางหยาง ที่ดูแล้วก็มีรายได้และกำไรดี แถมได้รางวัลจากงานภาพยนต์ด้วย แต่ดันมาหลังซีรีส์ 'Eternal Love' ที่มี 58 ตอนจบ เมื่อต้นปี 2017 นำโดย หยางมี่ จ้าวโหย่วถิง ตี๋ลี่เร่อปา เกาเหว่ยกวง จางจื้อเหยา หยีเหมิงหลง และ จางปินปิน ที่ดังระเบิด ยอดวิวห้าหมื่นล้าน ทำสถิติสูงสุดของซีรีส์จีน รางวัลเพียบ ดาราคนที่เดิมไม่ค่อยดังก็แจ้งเกิดทั้งแผง หลายคนเป็นดาราที่ จขบ. ได้ดูผลงานครั้งแรก ความรู้สึกหลักคือหน้าพระเอกบางมุมเหมือนรูปวาดพระเอกบนหน้าปกนิยายกำลังภายในสมัยเก่ามาก และตี๋ลี่เร่อปาสวยมากแต่ไม่ดูจีน (คือไม่ไปด้วยกันกับพ่อแม่ในเรื่อง) ส่วนในไทยได้ฉายที่ช่อง 3 ที่ดันรอจนปี 2019 และฉายตอนตีสาม -_-"

เนื้อเรื่องเอา 'ลิขิตเหนือเขนย' มาเพิ่ม โดยมีการดัดแปลงพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องช่วงหลังซู่ซู่กระโดดประหารเซียน และเรื่องของตงหัว-ป๋ายเฟิ่งจิ่ว นั่นคือถ้าไม่ได้อ่านนิยายมา เวลาดูซีรีส์ก็อาจต้องทำใจว่าเป็นโลกคู่ขนานสักหน่อย ในภาพรวม ทั้งภาพ เสียง เพลง และการแสดงน่าดึงดูดให้ติดตามมาก เสียอยู่ตรงฉากบู๊ที่ออกหยองแหยงไม่หนักแน่นเหมือนไม่มีแรงไปหน่อย มีข้อสังเกตว่าชุดเกราะไม่ป้องกันหัวเลย และเครื่องแต่งกายบางชุดที่รู้สึกแปลกๆ อย่างเสื้อคลุมของเยี่ยหัวตอนพบป๋ายเฉียนในป่าท้อ รู้สึกเหมือนตะไคร่ขึ้น 555
[14/02/11, 28/11/21]


สามชาติสามภพ ลิขิตเหนือเขนย


แดนอุทกภัยแห่งบรรพกาลเป็นกลียุคที่ก่อกำเนิด ตงหัว ผู้อวตารยังบึงหัวแห่งแดนบูรพา เติบโตในทะเลมรกตแห่งชางหลิง ความสามารถรู้แจ้งด้วยตนเอง เหยียบผ่านกองกระดูกขาวสูงดังภูผา รวมสี่ทะเลหกบรรจบขึ้นนั่งบรรลังก์ประมุขแห่งฟ้าดิน ก่อนมอบอำนาจแก่เทียนจวิน เร้นกายยังวังมหาอรุณ เป็นไท่ซ่างหวงเทพเคารพผู้สูงส่ง มหาเทพตงหัวยืนอยู่ ปวงเทพไหนเลยกล้านั่งลง



ถึงมีลิขิตสวรรค์ แต่เดิมไร้วาสนาต่อกันแม้ส่วนเสี้ยว ทว่า เมื่อวันนั้น เหมี่ยวลั่วพูดว่าภายในใจเขามีทะเลดอกพุทธกังสดาล ไม่ทราบว่าด้านหลังทะเลบุปผาซ่อนเร้นผู้ใด เขาทราบดีว่าที่ซ่อนอยู่ด้านหลังทะเลบุปผาตือจิ้งจอกน้อยสีแดงตัวหนึ่ง ... ลิขิตสวรรค์บอกว่ามีวาสนาแล้วอย่างไร ไร้วาสนาแล้วอย่างไร เปิ่นจวินไม่เคยเกรงกลัวลิขิตสวรรค์มาก่อน และไม่ต้องให้ลิขิตสวรรค์มาให้ทาน

สำนวนก็จิกกัดมาแบบเต็มที่สมกับความคาดหวัง ไม่ต้องพูดอะไรมากกับความรั่วและการอำหน้าตายพร้อมความหนาของหนังหน้า 555

อ้อ น่ายินดีที่ลูกชาย ป๋ายกุ๋นกุ่น (สีขาวกลิ้งกลิ้ง ทำให้คิดว่าป๋ายเฟิ่งจิ่วมีสิทธิอะไรมาบ่นเรื่องชื่อตัวเอง ดูที่ตั้งให้ลูกเสียก่อน) ดูจะสืบทอดความพึ่งพาได้ของพ่อมานะ รูปวาดกับก้อนแป้งก็น่ารักมากทีเดียว ^_^

การแปลเรื่องนี้ก็ได้อารมณ์ดีเหมือนเคยล่ะค่ะ แต่มีการเปลี่ยนแปลงชื่อหรือตำแหน่งของตัวละครบ้าง รูปเล่มจัดเต็ม (แต่ จขบ. สงสัยอยู่บ้างเรื่องที่มาของรูปที่มาประกอบคำอธิบาย) ของได้ครบเพราะจองรุ่นแรกๆ ทั้งโปสเตอร์และที่คั่นกระดาษ การส่งของยิ่งกว่าเต็ม คือแพ็คมาได้ดีจนน่ากลัวมาก ลอกออกมาได้ไม่แพ้ชุด Junihitoe สิบสองชั้นของญี่ปุ่น!

ก่อนหน้าที่เล่มจะออกนิดหน่อยก็มีเรื่องที่น่ากังขา 'ข้อกล่าวหาเรื่อง Plagiarism ต่อถังชีกงจื่อ' ซึ่ง จขบ. ก็หมดปัญญาที่จะหาข้อมูลเอง เลยไม่มีความเห็นอะไรนัก แต่ถ้าจะเทียบกับ 'ป่าท้อสิบหลี่' แล้ว คิดว่าชอบเรื่องนั้นมากกว่านิดนะคะ เพราะมีหลายตอนที่คาดหวังไว้แต่ไม่มีเพิ่มเติม ส่วนตอนห้วงฝันอาหลานเหร่อ ดูจะยืดๆ ไปหน่อย ตอนสุดท้ายก็ข้ามไปเลย ความจริงให้จินตนาการเองก็ไม่เสียหายอะไรนะ แต่เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้าแล้วรู้สึกรวบรัดไปนิด แต่การเทียบนี่ยากมากค่ะ เพราะเรื่องออกมาคนละแบบ ใน 'ป่าท้อสิบหลี่' เห็นป๋ายเฟิ่งจิ่วท่าจะฮามาก แต่ทำไปทำมาตงหัวเอาตำแหน่งไปครองเฉยเลย อย่างว่านะคะ กระดูกคนละเบอร์ 555 แต่ยังไงก็เป็นนิยายที่สนุกมาก หยิบขึ้นมาอ่านได้บ่อยๆ ล่ะค่ะ ^_^


เพิ่มเติมว่าจากความสำเร็จอันท่วมท้าของซีรีส์ 'ป่าท้อสิบหลี่' การทำซีรีส์ลิขิตเหนือเขนยก็กลายเป็นหัวข้อฮอตมาก ในที่สุดก็ออกมาเป็นเรื่อง 'Eternal Love of Dream' ที่มี 56 ตอนจบในปี 2020 นำโดย ตี๋ลี่เร่อปา เกาเหว่ยกวง เฉินฉู่เหอ กัวผิ่นเชา หลิวยู่ซิน และ หลิวรุ่ยหลิน ถึงจะออกมาในช่วงที่ไม่ดีเท่าไหร่คือโควิดเพิ่งเปิดตัว เคยเจอว่าหลังจบได้ยอดผู้ชมราวแปดพันล้าน และได้รางวัลมาบ้าง ก็ถือว่าไม่เลว

การดำเนินเรื่องมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มบ้างก็จริง ในภาพรวมเป็นไปตามหนังสือมาก แต่เมื่อเทียบกับซีรีส์ 'ป่าท้อสิบหลี่' แล้ว จขบ. ก็ว่าสู้ไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องชุดที่ส่วนมากออกมาพลิ้ว แต่ดูราคาถูกคือไม่มีน้ำหนักและความหรูหราเท่าไหร่ เพลงที่ติดหูน้อยกว่า และที่สำคัญคือบทของจีเหิงที่เพิ่มมามั่วซั่ว แถมชุดนางยังดูดีอีก! รู้สึกเสียดายที่มีการเปลี่ยนนักแสดง โดยเฉพาะเจ๋อเหยียน (โดยส่วนตัวคือชอบคนเดิมมากว่า แต่คนนี้ก็ดีนะ) การตัดบทของเยี่ยหัวออกไปหมด (เพราะนักแสดงติดงานอื่น น่าเสียดายมาก) และอย่าลืมไปดูตอนพิเศษที่โดนตัดออกด้วย
[10/12/15]

สามชาติสามภพ ลิขิตเหนือเขนย ฝันคืนสู่ยุคบรรพกาล


เล่มพิเศษนี้ เริ่มด้วยคำทักทายถึงผู้แต่งสำหรับนักอ่านชาวไทย โดยเล่าเรื่องที่มาเที่ยวภูเก็ต ตามด้วยเรื่อง 'ฝันคืนสู่ยุคบรรพกาล' ตอนพิเศษ 'ฟู่จวินในอุดมคติ' มุกขำขันจากเวยป๋อของถังซี 12 เรื่อง ที่ จขบ. ชอบตอนคุณูปการของเฟิ่งจิ่ว การประกวดหนุ่มรูปงาม และการเรียนและสอบวิชาประวัติศาสตร์บรรพกาลของป๋ายกุ๋นกุ่น เป็นพิเศษ 555

ใน 'ฝันคืนสู่ยุคบรรพกาล' มีการสาธยายเรื่องที่เกิดในยุคบรรพกาลเมื่อสองแสนหกหมื่นปีก่อนเพิ่มเติม ขณะนั้นม่อเยวียนนำทัพเทพสวรรค์กำราบเผ่าอสูรและปีศาจสำเร็จ อวยยศปวงเทพแล้วหายตัวจากไป โดยก่อนหน้านั้นส้าวหว่านทำลายทวารรั่วมู่ ส่งเผ่ามนุษย์ไปยังสามัญภพ จนดับขันธ์ และรัศมีเทพจูถีใช้ร่างสังเวยต่อฮุ่นตุ้น ทำให้มนุษย์สามารถดำรงอยู่ในสามัญภพได้ หลุดพ้นจากการคุกคามของเผ่าอื่น

การหายตัวของม่อเยวียนทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชามือซ้ายขวาของม่อเยวียนคือ โฮ่วเฉิน และ ฝูอิง แย่งชิงอำนาจ ขณะนั้นตงหัวเก็บตัวของที่ทะลมรกตแห่งชางหลิงเพื่อให้ผู้ที่อยากก่อนความวุ่นวายแสดงตนเพื่อให้สามารถจัดการได้รวดเดียว

กลับมาภายหลังเรื่อง 'ลิขิตเหนือเขนย' ตงหัวต้องปิดด่านกักตัวเพื่อฟื้นฟูพลังเซียนทุกปี ทำให้ป๋ายกุ๋นกุ่นที่ออกไปวิ่งเล่นเจอข่ายมนตร์ส่งย้อนอดีตกลับไปเมื่อสองแสนหกหมื่นปีก่อน ไม่นานป๋ายเฟิ่งจิ่วก็ตามมา ทำให้ตงหัวที่เป็นโสดอย่างยิ่งได้พบประสบการณ์แปลกใหม่กับภรรยาสาวโฉมงามที่ทำให้หักห้ามใจไม่อยู่ ในขณะที่ต้องนำทัพเพื่อรวบรวมอำนาจ ...

เจ้ารู้ใหมว่าสองแสนหกหมื่นปีให้หลัง ขอเพียงตี้จวินถูกเคารพอยู่ในวังมหาอรุณ เช่นนั้นทั้งสี่เผ่าทั่วฟ้าดินใครก็ไม่กล้าเคลื่อนไหวโดยพลการ ผู้ที่ข้านับถือเทิดทูน มิใช่เทพที่จะสามารถเรียกร้องเอาแต่เรื่องรักใคร่ระหว่างชายหญิงจากเขามาต่ไหนแต่ไร บนบ่าของเขาแบกสรรพชีวิตทั่วหล้าไว้ ข้าทราบดีมาแต่แรกแล้ว ... ตี้จวินได้ทำในสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ท่านจะสามารถทำได้ให้แก่ข้าแล้ว ก่อนหน้านี้ข้าพูดว่าตี้จวินในอีกสองแสนหกหมื่นปีให้หลังจึงจะเป็นตี้จวินที่ดีที่สุด นั่นไม่ถูกต้อง ตี้จวินในช่วงเวลาใด ล้วนแต่เป็นตี้จวินที่ดีที่สุดทั้งนั้น

ในเรื่องนี้ ตงหัวยังไงก็เป็นตงหัวอยู่ดี ความซอกแซกและการตบมุกของตัวละครมากันเป็นชุด คือฮามาก 555 ไฮไลต์ของเรื่องคือพิธีอภิเษกสมรสของเทวราชาท่ามกลางการศึก ที่ชดใช้คราวงานแต่งล่มได้อย่างสุดอลังการ ตามรูปที่ปกหลัง จะเห็นคู่บ่าวสาวตัวจิ๋วตรงโคนต้นปาริชาติ
[28/11/21]

ที่มา
[1] ถังซีกงจื่อ (หลินโหม่ว แปล). สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่. สำนักพิมพ์สุรีย์พร, 2 เล่มจบ, 363 + 335 หน้า, 2554.
[2] ถังซีกงจื่อ (หลินโหม่ว แปล). สามชาติสามภพ ลิขิตเหนือเขนย. สำนักพิมพ์สุรีย์พร, 4 เล่มจบ, 421 + 436 + 436 + 469 หน้า, 2558.
[3] ถังซีกงจื่อ (หลินโหม่ว แปล). สามชาติสามภพ ลิขิตเหนือเขนย ภาคพิเศษ ฝันคืนสู่ยุคบรรพกาล. สำนักพิมพ์สุรีย์พร, 190 หน้า, 2564.


รายการนิยายจีนแปลไทย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spy×Family - Endo Tatsuya

ลำนำรักเทพสวรรค์ - ถงหัว

สืบลับฉบับคาโมโนะฮาชิ รอน - Amano Akira