บันทึกแวมไพร์วานิทัส - Mochizuki Jun
เรื่อง บันทึกแวมไพร์วานิทัส
โดย Jun Mochizuki
วานิทัส - โนเอ - วานิทัส & โนเอ - ฌาน - วานิทัส & โนเอ
เริ่มเรื่องอยู่ประมาณปลายศตวรรษที่ 18 หรือต้นศตวรรษที่ 19 (ดูจากเครื่องแต่งกาย) นักเล่นแร่แปรธาตุ พาราเซลซัส พยายามหาวิธีเขียนแก้สมการพื้นฐานของโลก เมื่อแก้สมการของถ่านหินก็เกิดแร่แอสเทอร์ไมท์ที่ให้พลังงานสะอาดแบบสารพัดนึก แต่เมื่อพยายามแก้สมการเพื่อกำจัดโรคร้าย ก็เกิดอุบัติเหตุการทดลองบาเบลที่เปลี่ยนแปลงกฏของโลก เกิดแวมไพร์และเขตแดนตามที่เชื่อมโลกกับอัสทัสซึ่งเป็นที่อาศัยของแวมไพร์ มีเพียงแวมไพร์ที่เกิดจากบาเบลเช่นกันถึงข้ามผ่านได้
นามที่แท้จริงเปรียบเหมือนชีวิตของแวมไพร์ ถ้าแวมไพร์โดนโรคา (สมการปลอมแปลง) บิดเบือนนามที่แท้จริงจนเปลี่ยนเป็นนามแห่งอาเพศ แวมไพร์ก็จะบ้าคลั่งเสียสติต้องการดูดเลือด นิทานแวมไพร์จันทราน้ำเงินเล่าว่า แวมไพร์จะถือกำเนิดในคืนจันทร์เพ็ญโลหิต แต่มีแวมไพร์ วานิทัส ที่เกิดในคืนจันทร์เพ็ญน้ำเงินซึ่งเป็นลางร้าย เป็นที่รังเกียจถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้าน วานิทัสจึงโกรธแค้น สร้างตำราอัญเชิญปีศาจจักรกลปกหนังสีน้ำเงิน หน้ากระดาษสีดำสนิทคล้องด้วยสายโซ่สีเงิน ตำรามีพลังในการแทรกแซงนามนที่แท้จริงของแวมไพร์ ผู้ครอบครองตำราจะมีดวงตาสีน้ำเงินเหมือนกับวานิทัสและจะกลายเป็นยมทูตทำลายล้างแวมไพร์จันทราโลหิต
หลังสงครามระหว่างมนุษย์และแวมไพร์ ก็มีการมีข้อตกลง แวมไพร์ถูกสั่งห้ามทำร้ายมนุษย์และห้ามดูดเลือด แวมไพร์จึงหายไปอีกฟากของเขตแดน แวมไพร์ที่แฝงตัวอาศัยในโลกมนุษย์เป็นตัวตนที่ถูกลืม มีแวมไพร์ผู้ควบคุม ผู้ต้องสาปที่คลุ้มคลั่งต้องการกินเลือดจะถูกกำจัดโดยบูโร (เพชรฆาต) หรือ ชาสเซอร์ (นักล่า) ของศาสจักรภายใต้การปกครองของสิบสองอัศวินศักดิ์สิทธิ์พาราดีน
แวมไพร์ โนเอ อัลชีวิสต์ (บุตรแห่งนาวา เขี้ยวเผยโลหิต) ตอนเด็กอยู่กับตายาย เมื่อตายายตายก็ถูกจับไปประมูลขายในตลาดมืด ได้ ผู้ไร้ตัวตน ซื้อมาและเลี้ยงเป็นศิษย์ที่ป่าอาเวรวญ อาจารย์เป็นผู้รับใช้ราชินีแต่แรก ส่งตำแหน่งต่อให้ลูกบุญธรรมที่รับตำแหน่ง มาร์ควิสซาด เป็นผู้ครองต่างมิติคนต่อมา นอกจากจะดูแลโนเอแล้ว ก็เลี้ยงหลาน หลุยส์ เดอ ซาด ที่ป่วยเป็นผู้ถูกสาปจนตระกูลถือว่าตายไปแล้ว มีน้องสาว โดมินิค เดอ ซาด ที่อยู่ที่คฤหาสน์ของตระกูลมาเยี่ยมทุกเดือนจนสนิทกับโนเอ ก่อนหลุยส์จะถูกปู่บั่นคอในฐานะผู้ต้องสาป
อาจารย์ให้โนเอไปปารีสค้นหาตำราวานิทัสให้เจอและเฝ้ามองถึงตัวตนที่แท้จริง ระหว่างโนเอเดินทางด้วยเรือเหาะวาฬลอยฟ้าลาบาเลน ก็พบแวมไพร์สาว อเมเลีย รูธ ที่ถูกบิดเบือนนามเป็นนามแห่งอาเพศ เอคแลนทีน (กรงหนามกุหลาบป่า) และอาละวาด และได้มนุษย์ธรรมดา วานิทัส ที่อ้างตนเป็นหมอแวมไพร์ เคยถูกจันทราน้ำเงินดูดเลือดและฝังพลังส่วนหนึ่งไว้ในร่างเป็นมาร์กกิ้งของบริวาร วานิทัสใช้ตำราวานิทัสแทรกแซงคำนวณย้อนกลับเปลี่ยนเป็นชื่อจริง เฟลอริเฟล (ผู้ชี้นำฤดูใบไม้ผลิ)
ที่ปารีส ผู้ครองต่างมิติ เคาน์ท ปาร์คส ออร์ลอค ต้องการยึดตำราวานิทัสและจับตัวอเมเลียไปกำจัด แต่ไม่สามารถเปิดตำราได้ วานิทัสยืนยันว่าอเมเลียหายดี โนเอจึงเสนอพิสูจน์โดยการจับแวมไพร์ฆาตกรเก้าศพที่ก่อคดีต่อเนื่องในปารีสมาทดสอบ ลูกผสมแวมไพร์หรือแดมพีลที่เป็นสายข่าวของวานิทัสขายข่าวคนร้าย ทำให้โนเอจับตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่ก่อนจะพาไปหาออร์ลอคก็พบเด็ก ลูกะ หลานลุงของสมาชิกสภาผู้อาวุโส ออร์กัส หรือ ลอร์ดรูธเวน ผู้หยุดยั้งสงครามระหว่างมนุษย์และแวมไพร์ ลูกะต้องการแย่งชิงตำรามาทำลายและสงสัยว่าวานิทัสอาจถูกตำราแพร่คำสาป และพาแม่มดเพลิงอเวจี ฌาน อดีตบูโรของรูธเวนมาเป็นกำลังรบ วานิทัสแสดงการเปลี่ยนนามอาเพศของฆาตกร จับตัวลูกะเพื่อข่มขู่ และหลอกจูบฌานจนโกรธเกรี้ยวกลับไป
ฆาตกรถูกฆ่าตายก่อนถูกส่งตัวให้ออร์ลอค แต่ลูกน้องออร์ลอคได้รายงานเหตุการณ์ให้ทราบ วานิทัสสอบถามอเมเลียเรื่องการถูกสาปเพราะมีผู้ถูกสาปก่อนหน้าบอกว่าเห็นภาพพาเหรดชาร์ลาตันในหมอกหนา แต่อเมเลียสับสน โนเอเลยใช้พลังเขี้ยวเผยโลหิตดูดเลือดเพื่ออ่านความจำและเห็นการแปดเปื้อน
โดมินิคมาหาโนเอเพื่อตามตัวไปงานเต้นรำสวมหน้ากากอีกฟากของเขตแดน วานิทัสที่ตามไปด้วยก็ถูกโดมินิคจับไปสอบสวนก่อนก่อกวนงาน เมื่อเกิดผู้ต้องสาปพร้อมกันหลายคนจากนามแห่งอาเพศพิเศษ ดินโซแนนศ์ (วงดุริยางค์สัตว์ร้าย) ที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ติดโรคามารวมตัวกัน แวมไพร์บางตนถูกกัดกินมากจนช่วยไม่ไหว พวกชาร์ลาตันก็ออกมาอาละวาด พี่สาว เวโรนิก้า เดอ ซาด ผู้รับนามบีสเทีย (เขี้ยวราชินี) จะฆ่าวานิทัส สุดท้ายเรื่องสงบเพราะรูธเวนออกหน้าว่าจะดูแลโนเอและวานิทัส
ฌานเป็นผู้ต้องสาปและกินเลือดวานิทัสจนเกิดมาร์กิ้ง วานิทัสตกลงให้เลือดฌานโดยไม่ให้ดื่มเลือดคนอื่น ส่วนโนเอกับโดมินิคก็ดูดเลือดของกัน จนความสัมพันธ์ยุ่งเหยิง รูธเวนสงสัยว่าลูกะถูกปองร้ายเพราะฐานะ ลูเซียส แกรนด์ดยุคออริแฟลม ผู้มีตำแหน่งและอำนาจรองจากราชินี ลูกะไปโลกมนุษย์เพื่อหาทางช่วยพี่ชายที่ต้องสาป แต่รูธเวนคัดค้านว่าการหลุดจากคำสาปไม่ใช่ความสุข วานิทัสขอเข้าพบราชินีแต่ถูกรูธเวนปฏิเสธและส่งกลับโกลมนุษย์แบบสะบักสะบอม
แวมไพร์ไปหมายตนถูกลักพาตัว วานิทัสคิดว่าเป็นผลงานของอดีตชาสเซอร์ มอโรว์ เพราะหลังพ่อแม่วานิทัสถูกแวมไพร์ฆ่าตายก็ได้ศาสนจักรเลี้ยงดูให้เป็นชาสเซอร์จนกลายเป็นวัตถุดิบวิจัยของมอโรว์ แต่ก็ได้แวมไพร์จันทราน้ำเงินมาชิงตัวไป วานิทัสพาโนเอปลอมตัวเป็นพระเข้าไปในหอเก็บกระดูกใต้วิหารน็อทร์ดาม ไล่ล่าโดยพาราดีนคนที่หก โลล็องต์ ฟอร์ติส แต่หลังจากเจรจา โลล็องต์ก็เข้าร่วมการตามหามอโรว์ มอโรว์ได้รับความช่วยเหลือในการซ่อนตังและทำการทดลอง ใช้ผู้ต้องสาปที่มีนามแห่งอาเพศ เพรดาตัวร์ (นักเล่นเงา) เป็นตัวถ่วงเวลาให้หนีไปได้
ทั้งชาร์ลาตันและรูธเวนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังมอโรว์ รูธเวนมาพบโนเอเพื่อสอบถามและกินเลือดเพื่อควบคุมให้โนเอสาบานว่าจะทำตามที่รูธเวนต้องการครั้งหนึ่ง ส่วนฌานไปปรึกษาโดมินิคเรื่องความชอบที่มีต่อวานิทัส เมื่อลูกะไปอยู่กับพี่ชาย โลกิแห่งบิสเทีย และไม่ต้องมีคนคุ้มกัน ฌานสารภาพรักและขอออกเดท โลล็องต์อยากให้มนุษย์และแวมไพร์เท่าเทียมกัน ถึงขนาดบอกพาราดีน โอลิเวีย ออบซิเดียน ว่าจะทำตามที่ตนเองต้องการ
ในศตวรรษที่ 18 มีคดีพีท (สัตว์ร้าย) แห่งเฌโวด็อง ที่ชาวบ้านกว่าร้อยคนถูกฆ่า ศาสนจักรคิดว่าฆาตกรเป็นแวมไพร์ที่กลายเป็นผู้ต้องสาปร่วมมือกับแวมไพร์เพื่อไขคดี แต่ฆาตกรก็หายตัวกระทันหัน เมื่อสัตว์ร้ายปรากฏตัวอีกครั้ง พวกวานิทัสก็รีบไปเฌโวด็องเพื่อหาทางช่วย ศาสนจักรส่ง แอสทอลโฟ กรานาทุม พาราดีนหัวรุนแรงที่อายุน้อยที่สุด ฌานก็มาเพราะพีทเคยเป็นเพื่อนสนิท แม่มดสีเงิน โคลเอ้ เดอ อัปเฌร์ แวมไพร์ลึกลับแห่งตระกูลมาร์ควิสอัปเฌร์ ที่มีอายุมากแต่ใช้ร่างเด็กสาว หลังโคลเอ้ได้กลายเป็นพีทก็ออกอาละวาดแต่ฌานสังหารไม่ลง
แอสทอลโฟ - - - -
หลังโคลเอ้ตื่นในฐานะแวมไพร์ พ่อและพี่ชายก็พยายามปกป้อง ทำการทดลองและสร้างเครื่องปลอมแปลงสมการโลกเพื่อให้โคลเอ้กลับเป็นมนุษย์ เมื่อเวลาผ่านไป โคลเอ้กลายเป็นตัวตนพิเศษในตระกูล รู้จักกับรูธเวนที่พาฌานมาด้วย และ ลอร์ดฟรานซิส วานี่ย์ มาร์ควิสมาคินาผู้บ้าเครื่องจักรกล แต่ในสงครามกับมนุษย์ พวกขุนนางแวมไพร์ที่ต้องการสันติถูกพ่อแม่ฌานฆ่าไปมาก ฌานถูกลงโทษให้เป็นเพชรฆาต ส่วนรูธเวนที่เสียตาไปข้างหนึ่งมาหาโคลเอ้เพื่อพยายามชิงเครื่องปลอมแปลงสมการโลก ทำให้โคลเอ้เริ่มแปดเปื้อน เนเนีย ผ่านไปอีกหลายปีรูธเวนเข้าเป็นบุตรบุญธรรมตระกูลออริแฟลมและขึ้นเป็นผู้อาวุโส
เนื้อเรื่องเป็นการผสมผสานแฟนตาซี มีมุกฮาอยู่เรื่อย ลายเส้นสวยใหม่ สรุปว่าน่าสนใจแต่ไม่ได้ประทับใจเป็นพิเศษค่ะ
ที่มา
[1] Mochizuki Jun. Les Memoires de Vanitas บันทึกแวมไพร๋วานิทัส. Siam Inter Comics, เล่ม 1-9, 2567 (ต้นฉบับ 2016).
รายการการ์ตูนญี่ปุ่น
โดย Jun Mochizuki
วานิทัส - โนเอ - วานิทัส & โนเอ - ฌาน - วานิทัส & โนเอ
เริ่มเรื่องอยู่ประมาณปลายศตวรรษที่ 18 หรือต้นศตวรรษที่ 19 (ดูจากเครื่องแต่งกาย) นักเล่นแร่แปรธาตุ พาราเซลซัส พยายามหาวิธีเขียนแก้สมการพื้นฐานของโลก เมื่อแก้สมการของถ่านหินก็เกิดแร่แอสเทอร์ไมท์ที่ให้พลังงานสะอาดแบบสารพัดนึก แต่เมื่อพยายามแก้สมการเพื่อกำจัดโรคร้าย ก็เกิดอุบัติเหตุการทดลองบาเบลที่เปลี่ยนแปลงกฏของโลก เกิดแวมไพร์และเขตแดนตามที่เชื่อมโลกกับอัสทัสซึ่งเป็นที่อาศัยของแวมไพร์ มีเพียงแวมไพร์ที่เกิดจากบาเบลเช่นกันถึงข้ามผ่านได้
นามที่แท้จริงเปรียบเหมือนชีวิตของแวมไพร์ ถ้าแวมไพร์โดนโรคา (สมการปลอมแปลง) บิดเบือนนามที่แท้จริงจนเปลี่ยนเป็นนามแห่งอาเพศ แวมไพร์ก็จะบ้าคลั่งเสียสติต้องการดูดเลือด นิทานแวมไพร์จันทราน้ำเงินเล่าว่า แวมไพร์จะถือกำเนิดในคืนจันทร์เพ็ญโลหิต แต่มีแวมไพร์ วานิทัส ที่เกิดในคืนจันทร์เพ็ญน้ำเงินซึ่งเป็นลางร้าย เป็นที่รังเกียจถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้าน วานิทัสจึงโกรธแค้น สร้างตำราอัญเชิญปีศาจจักรกลปกหนังสีน้ำเงิน หน้ากระดาษสีดำสนิทคล้องด้วยสายโซ่สีเงิน ตำรามีพลังในการแทรกแซงนามนที่แท้จริงของแวมไพร์ ผู้ครอบครองตำราจะมีดวงตาสีน้ำเงินเหมือนกับวานิทัสและจะกลายเป็นยมทูตทำลายล้างแวมไพร์จันทราโลหิต
หลังสงครามระหว่างมนุษย์และแวมไพร์ ก็มีการมีข้อตกลง แวมไพร์ถูกสั่งห้ามทำร้ายมนุษย์และห้ามดูดเลือด แวมไพร์จึงหายไปอีกฟากของเขตแดน แวมไพร์ที่แฝงตัวอาศัยในโลกมนุษย์เป็นตัวตนที่ถูกลืม มีแวมไพร์ผู้ควบคุม ผู้ต้องสาปที่คลุ้มคลั่งต้องการกินเลือดจะถูกกำจัดโดยบูโร (เพชรฆาต) หรือ ชาสเซอร์ (นักล่า) ของศาสจักรภายใต้การปกครองของสิบสองอัศวินศักดิ์สิทธิ์พาราดีน
แวมไพร์ โนเอ อัลชีวิสต์ (บุตรแห่งนาวา เขี้ยวเผยโลหิต) ตอนเด็กอยู่กับตายาย เมื่อตายายตายก็ถูกจับไปประมูลขายในตลาดมืด ได้ ผู้ไร้ตัวตน ซื้อมาและเลี้ยงเป็นศิษย์ที่ป่าอาเวรวญ อาจารย์เป็นผู้รับใช้ราชินีแต่แรก ส่งตำแหน่งต่อให้ลูกบุญธรรมที่รับตำแหน่ง มาร์ควิสซาด เป็นผู้ครองต่างมิติคนต่อมา นอกจากจะดูแลโนเอแล้ว ก็เลี้ยงหลาน หลุยส์ เดอ ซาด ที่ป่วยเป็นผู้ถูกสาปจนตระกูลถือว่าตายไปแล้ว มีน้องสาว โดมินิค เดอ ซาด ที่อยู่ที่คฤหาสน์ของตระกูลมาเยี่ยมทุกเดือนจนสนิทกับโนเอ ก่อนหลุยส์จะถูกปู่บั่นคอในฐานะผู้ต้องสาป
อาจารย์ให้โนเอไปปารีสค้นหาตำราวานิทัสให้เจอและเฝ้ามองถึงตัวตนที่แท้จริง ระหว่างโนเอเดินทางด้วยเรือเหาะวาฬลอยฟ้าลาบาเลน ก็พบแวมไพร์สาว อเมเลีย รูธ ที่ถูกบิดเบือนนามเป็นนามแห่งอาเพศ เอคแลนทีน (กรงหนามกุหลาบป่า) และอาละวาด และได้มนุษย์ธรรมดา วานิทัส ที่อ้างตนเป็นหมอแวมไพร์ เคยถูกจันทราน้ำเงินดูดเลือดและฝังพลังส่วนหนึ่งไว้ในร่างเป็นมาร์กกิ้งของบริวาร วานิทัสใช้ตำราวานิทัสแทรกแซงคำนวณย้อนกลับเปลี่ยนเป็นชื่อจริง เฟลอริเฟล (ผู้ชี้นำฤดูใบไม้ผลิ)
ที่ปารีส ผู้ครองต่างมิติ เคาน์ท ปาร์คส ออร์ลอค ต้องการยึดตำราวานิทัสและจับตัวอเมเลียไปกำจัด แต่ไม่สามารถเปิดตำราได้ วานิทัสยืนยันว่าอเมเลียหายดี โนเอจึงเสนอพิสูจน์โดยการจับแวมไพร์ฆาตกรเก้าศพที่ก่อคดีต่อเนื่องในปารีสมาทดสอบ ลูกผสมแวมไพร์หรือแดมพีลที่เป็นสายข่าวของวานิทัสขายข่าวคนร้าย ทำให้โนเอจับตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่ก่อนจะพาไปหาออร์ลอคก็พบเด็ก ลูกะ หลานลุงของสมาชิกสภาผู้อาวุโส ออร์กัส หรือ ลอร์ดรูธเวน ผู้หยุดยั้งสงครามระหว่างมนุษย์และแวมไพร์ ลูกะต้องการแย่งชิงตำรามาทำลายและสงสัยว่าวานิทัสอาจถูกตำราแพร่คำสาป และพาแม่มดเพลิงอเวจี ฌาน อดีตบูโรของรูธเวนมาเป็นกำลังรบ วานิทัสแสดงการเปลี่ยนนามอาเพศของฆาตกร จับตัวลูกะเพื่อข่มขู่ และหลอกจูบฌานจนโกรธเกรี้ยวกลับไป
ฆาตกรถูกฆ่าตายก่อนถูกส่งตัวให้ออร์ลอค แต่ลูกน้องออร์ลอคได้รายงานเหตุการณ์ให้ทราบ วานิทัสสอบถามอเมเลียเรื่องการถูกสาปเพราะมีผู้ถูกสาปก่อนหน้าบอกว่าเห็นภาพพาเหรดชาร์ลาตันในหมอกหนา แต่อเมเลียสับสน โนเอเลยใช้พลังเขี้ยวเผยโลหิตดูดเลือดเพื่ออ่านความจำและเห็นการแปดเปื้อน
โดมินิคมาหาโนเอเพื่อตามตัวไปงานเต้นรำสวมหน้ากากอีกฟากของเขตแดน วานิทัสที่ตามไปด้วยก็ถูกโดมินิคจับไปสอบสวนก่อนก่อกวนงาน เมื่อเกิดผู้ต้องสาปพร้อมกันหลายคนจากนามแห่งอาเพศพิเศษ ดินโซแนนศ์ (วงดุริยางค์สัตว์ร้าย) ที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ติดโรคามารวมตัวกัน แวมไพร์บางตนถูกกัดกินมากจนช่วยไม่ไหว พวกชาร์ลาตันก็ออกมาอาละวาด พี่สาว เวโรนิก้า เดอ ซาด ผู้รับนามบีสเทีย (เขี้ยวราชินี) จะฆ่าวานิทัส สุดท้ายเรื่องสงบเพราะรูธเวนออกหน้าว่าจะดูแลโนเอและวานิทัส
ฌานเป็นผู้ต้องสาปและกินเลือดวานิทัสจนเกิดมาร์กิ้ง วานิทัสตกลงให้เลือดฌานโดยไม่ให้ดื่มเลือดคนอื่น ส่วนโนเอกับโดมินิคก็ดูดเลือดของกัน จนความสัมพันธ์ยุ่งเหยิง รูธเวนสงสัยว่าลูกะถูกปองร้ายเพราะฐานะ ลูเซียส แกรนด์ดยุคออริแฟลม ผู้มีตำแหน่งและอำนาจรองจากราชินี ลูกะไปโลกมนุษย์เพื่อหาทางช่วยพี่ชายที่ต้องสาป แต่รูธเวนคัดค้านว่าการหลุดจากคำสาปไม่ใช่ความสุข วานิทัสขอเข้าพบราชินีแต่ถูกรูธเวนปฏิเสธและส่งกลับโกลมนุษย์แบบสะบักสะบอม
แวมไพร์ไปหมายตนถูกลักพาตัว วานิทัสคิดว่าเป็นผลงานของอดีตชาสเซอร์ มอโรว์ เพราะหลังพ่อแม่วานิทัสถูกแวมไพร์ฆ่าตายก็ได้ศาสนจักรเลี้ยงดูให้เป็นชาสเซอร์จนกลายเป็นวัตถุดิบวิจัยของมอโรว์ แต่ก็ได้แวมไพร์จันทราน้ำเงินมาชิงตัวไป วานิทัสพาโนเอปลอมตัวเป็นพระเข้าไปในหอเก็บกระดูกใต้วิหารน็อทร์ดาม ไล่ล่าโดยพาราดีนคนที่หก โลล็องต์ ฟอร์ติส แต่หลังจากเจรจา โลล็องต์ก็เข้าร่วมการตามหามอโรว์ มอโรว์ได้รับความช่วยเหลือในการซ่อนตังและทำการทดลอง ใช้ผู้ต้องสาปที่มีนามแห่งอาเพศ เพรดาตัวร์ (นักเล่นเงา) เป็นตัวถ่วงเวลาให้หนีไปได้
ทั้งชาร์ลาตันและรูธเวนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังมอโรว์ รูธเวนมาพบโนเอเพื่อสอบถามและกินเลือดเพื่อควบคุมให้โนเอสาบานว่าจะทำตามที่รูธเวนต้องการครั้งหนึ่ง ส่วนฌานไปปรึกษาโดมินิคเรื่องความชอบที่มีต่อวานิทัส เมื่อลูกะไปอยู่กับพี่ชาย โลกิแห่งบิสเทีย และไม่ต้องมีคนคุ้มกัน ฌานสารภาพรักและขอออกเดท โลล็องต์อยากให้มนุษย์และแวมไพร์เท่าเทียมกัน ถึงขนาดบอกพาราดีน โอลิเวีย ออบซิเดียน ว่าจะทำตามที่ตนเองต้องการ
ในศตวรรษที่ 18 มีคดีพีท (สัตว์ร้าย) แห่งเฌโวด็อง ที่ชาวบ้านกว่าร้อยคนถูกฆ่า ศาสนจักรคิดว่าฆาตกรเป็นแวมไพร์ที่กลายเป็นผู้ต้องสาปร่วมมือกับแวมไพร์เพื่อไขคดี แต่ฆาตกรก็หายตัวกระทันหัน เมื่อสัตว์ร้ายปรากฏตัวอีกครั้ง พวกวานิทัสก็รีบไปเฌโวด็องเพื่อหาทางช่วย ศาสนจักรส่ง แอสทอลโฟ กรานาทุม พาราดีนหัวรุนแรงที่อายุน้อยที่สุด ฌานก็มาเพราะพีทเคยเป็นเพื่อนสนิท แม่มดสีเงิน โคลเอ้ เดอ อัปเฌร์ แวมไพร์ลึกลับแห่งตระกูลมาร์ควิสอัปเฌร์ ที่มีอายุมากแต่ใช้ร่างเด็กสาว หลังโคลเอ้ได้กลายเป็นพีทก็ออกอาละวาดแต่ฌานสังหารไม่ลง
[08/01/25]
แอสทอลโฟ - - - -
หลังโคลเอ้ตื่นในฐานะแวมไพร์ พ่อและพี่ชายก็พยายามปกป้อง ทำการทดลองและสร้างเครื่องปลอมแปลงสมการโลกเพื่อให้โคลเอ้กลับเป็นมนุษย์ เมื่อเวลาผ่านไป โคลเอ้กลายเป็นตัวตนพิเศษในตระกูล รู้จักกับรูธเวนที่พาฌานมาด้วย และ ลอร์ดฟรานซิส วานี่ย์ มาร์ควิสมาคินาผู้บ้าเครื่องจักรกล แต่ในสงครามกับมนุษย์ พวกขุนนางแวมไพร์ที่ต้องการสันติถูกพ่อแม่ฌานฆ่าไปมาก ฌานถูกลงโทษให้เป็นเพชรฆาต ส่วนรูธเวนที่เสียตาไปข้างหนึ่งมาหาโคลเอ้เพื่อพยายามชิงเครื่องปลอมแปลงสมการโลก ทำให้โคลเอ้เริ่มแปดเปื้อน เนเนีย ผ่านไปอีกหลายปีรูธเวนเข้าเป็นบุตรบุญธรรมตระกูลออริแฟลมและขึ้นเป็นผู้อาวุโส
[14/01/25]
[20/01/25]
เนื้อเรื่องเป็นการผสมผสานแฟนตาซี มีมุกฮาอยู่เรื่อย ลายเส้นสวยใหม่ สรุปว่าน่าสนใจแต่ไม่ได้ประทับใจเป็นพิเศษค่ะ
ที่มา
[1] Mochizuki Jun. Les Memoires de Vanitas บันทึกแวมไพร๋วานิทัส. Siam Inter Comics, เล่ม 1-9, 2567 (ต้นฉบับ 2016).
รายการการ์ตูนญี่ปุ่น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น