เทวัญบันดาล - แก้วเก้า

เรื่อง เทวัญบันดาล
โดย แก้วเก้า

สรัล ชั้นชีพดี หรือ ต้นสน มาจากครอบครัวชั้นกลางธรรมดา มีพ่อแม่พี่สาวและน้องชาย ตอนเด็กพ่อแม่ต้องย้ายบ้านเพราะงาน ต้นสนและพี่สาวเลยไปอยู่กับปู่และย่าตำบลว่านสิบสีในจังหวัดนิลบุรี

ทวดของต้นสนเป็นหมอแผนโบราณ ทวดและชาวบ้านอาศัยรายได้จากขายว่านสิบสีเป็นยามาบูรณะวัดกระพี้ที่เป็นวัดประจำตำบาล โรงเรียนว่านสิบสีวิทยา และตั้งศาลเจ้าพ่อว่านทองเพื่อแสดงความเคารพว่านที่ทำประโยชน์ ส่วนปู่ ประทวน เคยเป็นตำรวจในอำเภอ ไต้เต้าขึ้นจากพลตำรวจจนเป็นผู้กอง เป็นที่รู้จักและนับถือของชาวบ้าน เนื่องจากประทวนไม่รับวิชาต่อ ทวดจึงรับลูกศิษย์คือหมอ ผาด ที่รักษาชาวบ้านและดูแลศาลต่อหลังทวดเสียชีวิต

เมื่อต้นสนขึ้นประถมสี่ก็ไปอยู่กับพ่อแม่ที่กรุงเทพ แต่ทุกปิดเทอมจะมาอยู่กับปู่ย่า เมื่อสอบไม่ติดมัธยมต้นที่กรุงเทพฯ ต้นสนก็ไปเรียนที่โรงเรียนประจำจังหวัดนิลวิทยาลัย ช่วงมัธยมต้นต้นสนเป็นนักเรียนที่ดี แต่ถูกเพื่อนเรียกว่าไอ้แว่นหรือไอ้เนิร์ด ถูกเพื่อนร่วมชั้นคือแก๊งของ ธนาจิโรจ หรือ โจ กลั่นแกล้ง จนต้นสนช่วยโจที่มีปัญหาในการเรียนก็ทำให้ใช้ชีวิตในโรงเรียนได้สบายขึ้น

โจเป็นลูกชายของเศรษฐี สู่ลาภ หรือเจ้าสัวสู่ เจ้าของโรงสีและข้าวหลายยี่ห้อ เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ทำให้โจมีนิสัยเอาแต่ใจ ที่โรงเรียนชอบแกล้งนักเรียนคนอื่น ยกเว้นญาติ แอ ลูกสาว ชัยโชค หรือเถ้าแก่เหม็ง ที่ญาติแซ่เดียวกันย้ายไปเปิดร้านค้าที่จังหวัด เนื่องจากแอสามารถบอกพ่อให้ไปฟ้องได้ ทำให้โจไม่กล้าทำรุนแรงเกินไปนัก เมื่อโจจบมัธยมต้นก็ไปเรียนที่กรุงเทพฯ ต้นสนจึงสามารถเรียนอย่างสงบจนเข้ามหาวิทยาลัย

ต้นสนอยากเป็นนักกฏหมายช่วยคนให้ได้รับความยุติธรรม เมื่อจบมัธยมปลายก็เข้าเรียนในคณะนิติศาสตร์และมาอยู่ที่บ้านพ่อแม่ในกรุงเทพ ต้นสนแอบหลงรักนักศึกษาสาวสวยคณะอื่นคือดาวเดียว (ดาว) ที่บ้านอยู่ใกล้กัน ดาวเดียวเป็นลูกสาวเมียน้อยของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ มีความเป็นอยู่ดี มีรถขับไปเรียน ดาวเดียวและเพื่อนไม่เคยสนใจต้นสนจนโจมาหาที่มหาวิทยาลัยและแสดงฐานะที่ร่ำรวย

ดาวเดียวอยากได้แฟนรวยจึงเริ่มสนิทสนมกับเพื่อนของโจ ต้นสนที่ไม่รู้ว่าตนเองเป็นเพียงทางผ่านก็รู้สึกดีใจและมาพบปะบ่อยๆ แต่เมื่อดาวเดียวพบว่าไม่สามารถหาประโยชน์จากต้นสนได้จึงคิดจะตัดทิ้ง หลอกให้ต้นสนเลี้ยงอาหารโดยบอกให้เพื่อนมากินถล่มและจงใจทำให้อับอาบ ทำให้ต้นสนเป็นหน้าที่แท้จริงของดาวเดียว "ถอดรูปนางฟ้าออกกลายเป็นนางยักษ์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ" และเข้มแข็งพอที่จะตัดใจและไม่ยอมถูกหลอก

เมื่อต้นสนเรียนจบก็เข้าเป็นนิติกรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดนิลบุรี พอดีเจ้าสัวสู่ต้องการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รวมถึงสร้างหมู่บ้านและตลาด โดยจะตัดถนนผ่านศาลซึ่งมีทั้งคนสนับสนุน เช่น เถ้าแก่เหม็งที่เป็นมรรคทายกวัด หลวงพี่ บุญทัน (เปรียญสาม) ที่มาจากจังหวัดไกลเกือบชายแดนได้สองปี รักษาการแทนเจ้าอาวาสที่ตกบันไดจนกะโหลกร้าวอยู่โรงพยาบาลมาหลายเดือน หรือแม้แต่ย่าที่จะเช่าแผงออกเช่าช่วง อีกข้างปู่ต้นสนระดมผู้อาวุโสมาห้ามการรื้อหรือย้ายศาล เช่น หมอผาด อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนว่านสิบสีที่เคยเป็นไวยาวัจกร และ อาม่าเถ้าแก่เหม็ง

โจชวนต้นสนไปบ้านและพยายามติดสินบนต้นสนให้ช่วยด้วยเงินสองแสนบาท ทำให้ต้นสนทราบว่าดาวเสียพ่อที่สนับสนุนครอบครัวและตอนนี้มาเป็นแฟนโจเพื่อให้ได้ใช้ชีวิตที่หรูหราแต่ความสัมพันธ์เริ่มระหองระแหง ดาวพยายามใช้ความรู้สึกเก่ามาดึงต้นสนและพาไปบ้านจัดสรร เมื่อโกรธทำร้ายดาว ต้นสนช่วยดาวจนถูกทำร้ายที่ศีรษะเป็นโคม่า โจยังให้ดาวแจ้งความต้นสนจะข่มขืน แต่ได้แอที่อยู่บ้างข้างๆ ส่งต้นสนไปโรงพยาบาลและแก้ข้อกล่าวหา

วิญญาณต้นสนได้เป็นเจ้าพ่อว่านทองแทนทวดที่จะขึ้นสวรรค์ เห็นเจ้ามาตั้งแต่เกิด ข้าชอบที่เจ้ารักถิ่นที่เกิดของปู่ย่าตาทวด ชอบพี่เจ้ากตัญญูรู้คุณ ชอบที่เป็นคนซื่อตรง ตรงไปตรงมา อดทนมีไหวพริบ เฉลียวฉลาด ตั้งแต่เกิดมาจนเป็นหนุ่ม ยังไม่เห็นเจ้าทำบาปอย่างใดเลย ความดีอย่างนี้แม้แต่เทวดาเองก็นับถือ

เจ้าจะตั้งใจหรือทำโดยไม่ตั้งใจ ผลออกมาว่าเจ้าถือศีลห้า มีทาน ศีล ภาวนาสม่ำเสมอ เพราะฉะนั้นกุศลที่เจ้าไม่ทำบาป จึงส่งให้จิตใจเจ้าอยู่แต่ในศีลในธรรมมาตลอด เมตตากรุณาผู้อื่น ไม่ทุจริตฉ้อฉลคดโกง ไม่โกรธแค้นอาฆาตมาดร้ายใคร ไม่อิจฉาปัดแข้งปัดขา มีแต่จิตเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาต่อผู้อื่น เจ้าจึงจะได้รับตำแหน่งเจ้าพ่อว่านทองสืบต่อจากทวด

รัมภา เป็นเทพพี่เลี้ยงช่วยแนะนำหน้าที่และข้อจำกัด แต่การทำงานจริงมีผลต่อเนื่องที่คาดไม่ถึง เช่นการให้ลาภรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ถึงจะทำให้ชาวบ้านเลื่อมใสเจ้าพ่อว่านทองแต่ทำให้เกิดการแย่งชิงและไม่สามารถรักษาโชคไว้ได้จนกลายเป็นทุกขลาภ ต้นสนต้องหาทางย้อนอดีตโดยไม่มีผลกระทบที่ทำให้มีปัญหามากขึ้น

ต้นสนยังพบว่าหลวงพี่บุญทันเป็นตัวปลอม ตัวจริงอยู่ที่วัดในจังหวัดกาฬสินธุ์ ตัวปลอมคือญาติ ล่อง ที่ขโมยเอกสารมาปลอมตัวหาผลประโยชน์ ทำร้ายเจ้าอาวาสเดิมจนต้องไปอยู่โรงพยาบาลหลายเดือนยังไม่หาย ค้นสนได้พบนางไม้ บัวสา ธิดาเจ้าฟ้าระงึม เจ้าเมืองสงยาง ช่วงปลายยุคทวาราวดี (หรือนางเอกของเรื่อง) และ ปาละ พระภูมิเจ้าที่ของโรงพยาบาลที่เคยเป็นนักรบสมัยทวาราวดี

ต้นสนช่วยรักษาหลวงพ่อที่ถูกนายล่องทำร้าย รับมือความพยายามของโจที่คิดจะเผาศาล เมื่อไม่สำเร็จนายล่องก็พาไปหาอาจารย์ไสยศาสตร์ ซึ่งก็แน่นอนว่าสู้เหล่าเทพไม่ได้ แต่ไม่นานต้นสนก็ลงจากตำแหน่งเจ้าพ่อว่านทองเมื่อฟื้นจากโคม่า (ภายหลังหมอผาดและปู่เป็นต่อ)

เรื่องที่โจทำร้ายต้นสนแดงขึ้นจึงหนีไปต่างประเทศ ดาวเดียวคลอดลูกชายโจให้พ่อแม่โจเลี้ยง เมื่อเจ้าสัวสู่เสียชีวิต ภรรยาควบคุมกิจการไม่ได้ ทรัพย์สินก็ร่อยหรอ จนแอบกลับไทยคิดจะทำร้ายต้นสนเพื่อแก้แค้นโดยไม่รู้ว่าความผิดหมดอายุความไปแล้ว ความผิดพลาดทำให้คิดสั้น

ในทางกลับกัน ต้นสนสอบเนติได้ ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ต้นสนใช้ชีวิตอย่างดี เป็นข้าราชการตุลาการชั้นผู้ใหญ่จนเกษียณเมื่ออายุแปดสิบปี ชีวิตส่วนตัวไม่ได้แต่งงานถึงจะสนิทสนมกับแอและช่วยดูแลลูกชายของโจ เป็นที่เคารพรักของคนรอบข้างและเสียชีวิตอย่างสงบ ...

เรื่องนี้ก็ตามตามสไตล์นิยายเหนือธรรมชาติของแก้วเก้าที่มีความละเมียดละไมและเคารพในศีลธรรม มีตัวละครเดิมคือรัมภาที่จาก 'พิมมาลา' ในภาพรวม จขบ. คิดว่าน่าอ่าน แต่เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นของผู้แต่งเดียวกันที่มาตรฐานผลงานสูงลิบ รู้สึกว่ายังไม่มีจุดหรือประเด็นที่ประทับใจเป็นพิเศษ

สุดท้ายคือสงสัยภาพปกว่าเด็กในรูปคือใคร หรือจะเป็นฉากที่ไปท่องเที่ยวในสวรรค์ แต่รู้สึกว่าไม่ใช่จุดสำคัญในเรื่องเท่าไหร่ค่ะ

[07/04/23, 12/05/23]

ที่มา
[1] แก้วเก้า. เทวัญบันดาล. สำนักพิมพ์อรุณ, 344 หน้า, พิมพ์ครั้งที่ 1, 2566.

---

รายการนิยายไทย