Alastair-Audley Tetralogy - Georgette Heyer

เรื่อง These Old Shades, Devil's Cub, Regency Buck & An Infamous Army
แต่งโดย Georgette Heyer


These Old Shades

จัสติน อลาสแตร์ ดยุคแห่งเอวอน (Justin Alastair, Duke of Avon) ที่อายุกว่า 40 ปี ตอนหนุ่มเคยผลาญทรัพย์สมบัติจนหมด แต่ก็เล่นไพ่ชนะจนร่ำรวยมาก แถมยังเคยมีเรื่องฉุดหรือพาสาวหนีอีก ชื่อเสียงเลวร้ายขนาดมีฉายาซาตาน

คืนหนึ่งขณะที่เอวอนเดินอยู่ในปารีสก็โดนเด็กหนุ่มคนหนึ่งชนเข้าให้โดยเด็กก็โดนซัดหมอบไปทันที ก่อนจะพบว่าเด็กคนนั้นชื่อ เลออง (Léon) อายุสิบเก้าปี กำลังหนีพี่ชาย ฌอง บอนาร์ (Jean Bonnard) ที่เป็นเจ้าของโรงเตี๊ยมในเขตเสื่อมโทรม เอวอนจึงซื้อตัวเลอองมาเป็นเด็กรับใช้ผู้ติดตาม ซึ่งเมื่อเลอองแต่งตัวแล้วก็ดูดีมาก โดยเฉพาะลักษณะและท่าทางที่ดูมีสกุล แถมมีผมสีแดงแปลกคือน้ำตาลอมส้มคล้ายสีโลหะทองแดง และตาสีม่วงไวโอเล็ต

เอวอนได้ซักประวัติเลอองว่าเป็นลูกชาวนาจากแคว้นอังจู สมัยเป็นเด็กพ่อแม่ดูแลอย่างดีและส่งให้เรียนหนังสือกับบาทหลวง จนกระทั่งพ่อแม่ป่วยตาย พี่ชายจึงขายนาแล้วมาปารีส เอวอนสั่งห้ามไม่ให้เลอองเล่าประวัติให้ใครฟังก่อนที่จะให้คอยตามไปที่ไหนๆ

เลอองบูชาเอวอนมากและคอยรับใช้พวกเสริฟน้ำหรือถือของอย่างยินดี แต่ถ้ามีเหตุก็เถียงเอาเหมือนกัน ในช่วงแรกเลอองเป็นหัวข้อสนใจของชาวไฮโซปารีสแล้วก็เงียบไป แต่ก็มี อองรี เดอ แซงต์เวียร์, กองต์ เดอ แซงต์เวียร์ (Henri de Saint-Vire, Comte de Saint-Vire) ที่ดูเหมือนจะสนใจเป็นพิเศษถึงขนาดให้คนสนิทมาขอซื้อต่อ

แซงต์เวียร์เป็นศัตรูคู่แค้นของเอวอนตั้งแต่รุ่นพ่อที่แย่งสาวกัน (พ่อเอวอนชนะ) บวกกับเมื่อ 20 ปีที่แล้วตอนเอวอนเป็นหนุ่มอายุยี่สิบกว่าๆ ไปรักน้องสาวของแซงต์เวียร์ จนถึงขนาดไปพบพ่อแซงต์เวียร์เพื่อขออนุญาตแต่งงาน แต่นอกจากพ่อจะไม่ยอมให้แต่งแล้ว อองรีที่ขณะนั้นมีบรรดาศักดิ์เป็นวีกองต์ เดอ แวลม์ (Vicomte de Valme) ก็มาเหยียดหยามและทำให้เอวอนอับอายขนาดหนัก เอวอนไม่ปล่อยให้ทำข้างเดียวโดยท้าดวลดาบทำให้แซงต์เวียร์เจ็บหนักขนาดต้องโดนหามไปเลียแผล จึงพูดได้ว่าทั้งคู่เป็นศัตรูมีแค้นรอชำระ

แซงต์เวียร์มีน้องชาย อาร์มองด์ เดอ แซงต์เวียร์ (Armand de Saint-Vire) ที่เกลียดกันสุดๆ จนทำให้อาร์มองด์สนิทสนมกันดีกับเอวอน อาร์มองด์เป็นลูกคนรองทำให้อยู่อย่างลำบากพอดูจากการสืบทอดบรรดาศักดิ์ที่ให้ผู้รับตำแหน่งไปหมด พี่ชายเกลียดจึงไม่ได้รับความช่วยเหลือเลย แถมไม่มีหวังที่จะได้รับบรรดาศักดิ์ เพราะแซงต์เวียร์มีลูกชายผู้เป็นเจ้าของบรรดาศักดิ์ วีกองต์ เดอ แวลม์ คนปัจจุบัน

แน่นอนว่าเอวอนไม่ยอมขายเลออง ไปหาฌองเพื่อซักประวัติเลอองเพิ่มเติม แต่ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรนักเพราะเอวอนรู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าเลอองเป็นผู้หญิง และเลอองก็บอกได้แค่ว่าบังคับให้น้องสาวแต่งตัวและใช้ชื่อผู้ชายเพื่อความปลอดภัย จากการค้นของพ่อแม่ก็ได้จดหมายเก่าฉบับหนึ่งที่จ่าหน้าถึงบอนาร์ ชาวนาในที่ดินของแซงต์เวียร์ในแคว้นแชมเปญ

เอวอนจึงไปหาบาทหลวงที่หมู่บ้านในอังจู หลวงพ่อ โบเพฺร (Beaupre) เป็นขุนนางเก่าที่สละบรรดาศักดิ์เข้าทางธรรม และได้สั่งสอนเลโอนีอย่างดีโดยเคยคิดสงสัย จากลักษณะ สีตาและผม ว่าเลโอนีอาจจะเป็นลูกนอกสมรสของแซงต์เวียร์

เอวอนได้เล่าเรื่องที่สงสัยให้ฟังหลวงพ่อโบเพฺรว่าแซงต์เวียร์เกลียดน้องชายมาก หากตั้งใจว่าจะไม่ยอมให้น้องชายได้สืบบรรดาศักดิ์หลังจากที่ตนเองตาย แถมภรรยายังสุขภาพไม่ดี ไม่น่ามีลูกได้อีก เมื่อมีลูกสาวจึงเปลี่ยนตัวกับลูกชายของชาวนาในที่ดิน ให้เงินแล้วบอกให้ชาวนาหายตัวไปเสีย

ที่เอวอนมีความคิดนี้เพราะ วีกองต์ เดอ แวลม์ ไม่เหมือนพ่อแม่ แต่เหมือนฌอง ภรรยาของอองรี มารี เดอ แซงต์เวียร์, กองเตส เดอ แซงต์เวียร์ (Marie de Saint-Vire, Comtesse de Saint-Vire) ภรรยาของอองรี ยังกลัวสามีมากจนอาจถูกขู่ให้ยอมทิ้งลูกสาว และเธอยังแสดงท่าทางแปลกๆ เมื่อเห็นเลอองด้วย สรุปคือเอวอนใช้เลอองเป็นเหยื่อล่อดูปฏิกิริยาของแซงต์เวียร์ จนพบว่าสมมุติฐานน่าจะมีมูล แต่ปัญหาคือไม่มีหลักฐานว่าเลโอนีเป็นธิดาที่ถูกต้องตามกฎหมายของแซงต์เวียร์

เอวอนพาเลอองกลับอังกฤษ เปลี่ยนสถานะให้เป็นเด็กสาวในปกครองโดยให้ชื่อ เลโอนี เดอ บอนาร์ (Léonie de Bonnard) และตั้งแต่นั้นมาก็รักษาธรรมเนียมสังคมชั้นสูงอย่างเคร่งครัดโดยนำเลโอนีไปฝากไว้กับน้องสาว เลดี้แฟนนี (Lady Fanny) ที่แต่งงานกับ เอ็ดเวิร์ด มาร์ลิง (Edward Marling) ในระหว่างที่ตามตัวญาติสูงวัย แฮเรียต ฟิลด์ (Harriet Field) มาเป็นคนดูแล (chaperon) ให้เลโอนี แล้วพากลับมาที่คฤหาสน์เอวอนคอร์ทในชนบท เพื่อสอนให้เลโอนีเข้าสังคม (นึกถึง 'My Fair Lady' ประมาณว่าหลงรักผลงานของตน)

เมื่อเอวอนไปทำธุระในลอนดอนเลโอนีที่ขี่ม้าออกไปไกลขึ้นก็ได้พบกับสามีภรรยา แอนโธนี & เจนนิเฟอร์ เมริเวล, บารอน & บารอเนสเมริเวล (Anthony & Jennifer Merivale, Baron & Baroness Merivale) ที่มีที่ดินติดกัน สมัยก่อนเอวอนและเมริเวลเคยเป็นเพื่อนสนิท แต่ปัจจุบันทะเลาะขนาดไม่ไปมาหาสู่เพราะดูเหมือนเอวอนจะไปล่อลวงหรือฉุดเจนนิเฟอร์ที่ตอนนั้นยังไม่แต่งงาน ทำให้เมริเวลฉะกับเอวอนจนไม่พูดกันแต่นั้นมา นอกจากนี้ ลอร์ดรูเพิร์ต อลาสแตร์ (Lord Rupert Alastair) น้องชายของเอวอนยังมาพักกับเมริเวล ทว่า เลโอนีก็เป็นเพื่อนของเมริเวลและเป็นเพื่อนเล่นกับรูเพิร์ตอย่างสนิทสนม

เหตุการณ์กลับร้อนกระทันหันเมื่อแซงต์เวียร์แอบมาลักพาตัวเลโอนีไปฝรั่งเศส รูเพิร์ตเมื่อทรายก็รีบตามไปทันทีโดยไม่ได้บอกใคร โชคดีที่รถม้าของแซงต์เวียร์เสียหาย เลโอนีสามารถหนีไปเจอรูเพิร์ตที่ขี่ม้าตามมาทันพอดี รูเพิร์ตโดนแซงต์เวียร์ยิงเข้าที่ไหล่แต่ทั้งคู่ก็สามารถหนีไปหลบในโรงเตี๊ยมที่อยู่ไม่ไกลนัก ขณะที่กำลังกลัวว่าจะถูกแซงต์เวียร์หาเจอ เอวอนที่ปะติดปะต่อเรื่องราวเองก็ตามมาทัน และจัดการรับหน้าแซงต์เวียร์ได้เรียบร้อย

คราวนี้ไหนๆ ก็อยู่ฝรั่งเศสแล้ว เอวอนเลยจะพาเลโอนีเข้าสังคมในปารีส แต่มาดามฟิลด์มาไม่ไหวเพราะเลโอนีและรูเพิร์ตหายตัวไปเฉยๆ เลยเกิดวิตกจริตว่าเลโอนีหนีตามรูเพิร์ต เลดี้แฟนนีที่เพิ่งงอนสามีจึงอาสาเป็นคนดูแลแทน เลโอนียังสามารถเกลี้ยกล่อมเอ็ดเวิร์ดที่ตามมาง้อแฟนนีให้ไปปารีสด้วยกันได้

ด้วยฝีมือการเป็นเจ้าภาพอันยอดเยี่ยมของเลดี้แฟนนีและเสน่ห์ของตัวเอง เลโอนีก็ได้เปิดตัวอย่างโด่งดังในปารีส กลายเป็นสาวน้อยที่เป็นที่ชื่นชมอย่างสูง มีหนุ่มๆ มาจีบไม่ขาดสาย โดยเฉพาะ เจ้าชายกงเด (Conde) และยังเป็นที่เอ็นดูของผู้อาวุโส ช่วงนี้เลโอนีมีความสุขมาก ทั้งหลงรักและบูชาเอวอน ซึ่งเอวอนก็เริ่มมีอาการว่ารัก ถึงขนาดที่เลดี้แฟนนีมั่นใจว่าได้แต่งในปีนี้แน่นอน

เลโอนีคล้ายแซงต์เวียร์มาก จึงเริ่มมีคำเล่าลือว่าเธอเป็นลูกนอกสมรสของแซงต์เวียร์ เมื่อเลโอนีรู้เรื่องจากกิ๊กเก่าของเอวอนที่หวังดีประสงค์ร้ายชัดเจน จึงไปถามแซงต์เวียร์และโดนหลอกเข้าเต็มเปา ซึ่งในกรณีนี้เอวอนอาจถูกหาว่าพาเมียเก็บเข้าสังคมจนกลายเป็นเรื่องเสื่อมเสียขนาดหนักระดับฆ่าตัวตายทางสังคมเลยทีเดียว เลโอนีที่ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องจึงหนีไป

ถ้าคิดว่าทางฝ่ายพระเอกแย่แน่ คนก็หาย หลักฐานก็ไม่มี ก็ไม่ต้องห่วง เพราะเอวอนโกรธจัดแบบเงียบกริบ รุกฆาตทันทีในงานสังสรรค์สำคัญด้วยการไปเล่าเรื่องของเลโอนีผ่านนิทานการทะเลาะของพี่น้องเคนและอาเบล โดยเอวอนสามารถสร้างความน่าเชื่อของเรื่องที่เล่าได้ระทึกใจ ความจริงปนหลอกลวงอย่างเนียน ทำให้ผู้ฟังคล้อยตามเต็มที่ จนเอวอนเล่าว่าเลโอนีกระโดดน้ำตาย มารีที่เจอสงครามประสาทยืดเยื้อตั้งแต่ตอนเลออนแถมยังไม่รู้เรื่องที่เลโอนีหนี ก็สติแตกสารภาพออกมาจนได้ แซงต์เวียร์ชักปืนขึ้นมาจะยิงเอวอนแต่เจ้าชายกงเดขวางไว้ แซงต์เวียร์จึงยิงตัวตาย

เอวอนรีบไป Anjou เพราะคิดว่าเลโอนีคงหนีไปหาหลวงพ่อโบเพฺร ซึ่งก็เป็นจริง และได้แต่งงานกันก่อนเลโอนีกลับมาปารีสในฐานะ ดัชเชสแห่งเอวอน (Duchess of Avon) แทนที่จะเป็น มาดมัวแซลล์ เดอ แซงต์เวียร์ (กินหญ้าอ่อนจริงๆ พลาดจากอามาได้หลาน)

นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1926 ถือเป็นผลงานยุคแรกที่มีส่วนทำให้ผู้แต่งดังด้วย ถึงจะไม่บอกปีดำเนินเรื่อง แต่เมื่อดูจากบริบทคืออายุของบุคคลที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ Louis Joseph, Prince of Condé (1736-1818) ได้ว่าเรื่องเกิดในปี 1755 ในรัชสมัยของพระเจ้าจอร์จที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร หรือพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส

เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกข้างนอกนิ่งปนนิ่มแต่ร้ายลึกและเหี้ยมที่สุดของผู้แต่งเลยทีเดียว เชือดว่าที่พ่อตาตัวเองแบบเนียนๆ แถมนางเอกยังไม่เสียใจสักนิด ปกติน่าจะบอกได้คำเดียวว่า น่ากลัว! (ทั้งนี้ จขบ. ชอบสไตล์นี้มาก นิยมอ่านบุคลิกแบบ Godfather) สำนวนการเขียนออกแนวภาษาโบราณหน่อย อ่านยากว่าปกติแต่ก็ดูสมยุคดี

อีกเรื่องคือเวลาอ่านเจอแฟชั่นเยอะ เช่น ตอนนางเอกเปิดตัวงานเต้นรำครั้งแรกมีผัดหน้าทาปากแต้มชาด โรยแป้งใส่ผม ติดไฝปลอม 2 อัน หรือในฉากเปิดเรื่องพระเอกใส่ชุดสีม่วง เสื้อคลุมมีดอกไม้ขลิบริม สวมวิกที่โรยแป้ง คาดว่าหน้าก็ทาแป้ง แต้มชาด ติดไฝ ใส่รองเท้าส้นสูงที่มีส้นสีแดง เดินเขย่งไปมา อ่านแล้วอาจจะสยองถ้ามองด้วยมาตรฐานปัจจจุบัน ถึงในเรื่องจะบรรยายว่าหรูเลิศมากตามสมัยก็เถอะ แต่ก็เป็นจุดที่เขียนได้ดึงดูดแบบแปลกๆ นะคะ

ตอนอ่านจบครั้งแรกสงสัยว่ามีเรื่องอื่นที่เขียนถึงลอร์ดและเลดี้เมริเวลหรือไม่ ก็ตอนกลางเรื่องออกจะเด่นแถมท่าทางจะมีเรื่องเบื้องหลังสนุกๆ อีก ประมาณว่าย้ายผู้ร้ายจากเรื่องหนึ่งไปเป็นพระเอกอีกเรื่อง แต่อ่านนิยายของผู้แต่งไปจนครบแล้วก็ไม่เจอสักที เลยต้องทำใจ แต่พบว่านิยายเล่มแรกของผู้แต่ง 'The Black Moth' มีความคล้ายกันพอสมควรด้านโครงสร้างตัวละครแบบที่ว่าใช้แทนเรื่องระหว่างเอวอนและเมริเวลที่ไม่บอกได้เลย

เรื่องนี้ถูกแปลงเป็นไทยโดย วลัย นวาระ ในชื่อ 'เทพบุตรมาร' ที่ถูกสร้างเป็นละคร 'เงากามเทพ' หรือ 'The Young and the Ruthless' ที่ช่อง 7 เมื่อปี 2553 มีนำแสดงโดย ศุกลวัฒน์ คณารศ, ดาวิกา โฮร์เน่, ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์ และ ธาราเขต เพ็ชร์สุกใส

ป.ล. เห็นชื่อบรรดาศักดิ์ Avon & Vidal แล้วนึกถึงครีมกับแชมพูจัง เข้าคู่กันดีแท้ (^o^)
[08/12/10, 07/10/22]

Devil's Cub

ปก Devil's Cubเรื่องเริ่มหลังจาก 'These Old Shades' ราว 24 ปี เอวอนและเลโอนีมีลูกชายคนเดียวคือ โดมินิค อลาสแตร์, มาร์ควิสแห่งวิดัล (Dominic Alistair, Marquis of Vidal) รูเพิร์ตรักษาความโสดอย่างเหนียวแน่น แฟนนีเป็นหม้าย ลูกสองคนคือ จอห์น มาร์ลิง (John Marling) ที่เคร่งครัดเหมือนพ่อ และลูกสาว จูเลียน่า มาร์ลิง (Juliana Marling) ที่เหมือนแม่ อาร์มองด์ที่รับบรรดาศักดิ์ กองต์ เดอ แซงต์เวียร์ ก็แต่งงานมีลูกชาย แบทรองด์ เดอ แซงต์เวียร์ (Bertrand de Saint-Vire) ที่เป็น วีกองต์ เดอ แวลม์ คนปัจจุบัน

วิดัลมีชื่อเรื่องความเหลวแหลกชอบก่อเรื่องเสียชื่อ ดวลปืน (ฝีมือยิงปืนที่แม่นแบบจับวางถึงจะเมาแอ๋) แข่งรถม้า ยุ่งกับนักร้องโอเปร่า ยิงโจรทางหลวงตาย ฯลฯ จนมีฉายาลูกปีศาจ ทั้งนี้ เอวอนที่ถอดลายหลังแต่งงานก็รู้ทันทุกเรื่อง สามารถควบคุมลูกชายแบบปล่อยๆ ไม่เกิดเรื่องอะไรเกินเลย โดยสรุป วิดัลเกรงพ่ออย่างมาก รักแม่อย่างยิ่ง สนิทกับอารูเพิร์ตแบบเพื่อน และไม่สนใจอาแฟนนี




เรื่องนี้ถูกแปลงเป็นไทยโดย วลัย นวาระ ในชื่อ 'คุณชายธมกานต์' โดยเป็นเล่มที่สองในชุดเทพกานต์ เรื่องอื่นในชุดคือ 'หม่อมเจ้าสุริยกานต์' (แปลงจากเรื่อง ' Sylvester'), 'เพชรเทพกานต์' (แปลงจากเรื่อง 'The Corinthian') และ 'พธูเทพกานต์' (แปลงจากเรื่อง 'Bath Tangle')
[02/11/22]

Regency Buck

[xx/xx/xx]

An Infamous Army

[xx/xx/xx]

ที่มา
[1] Georgette Heyer. These Old Shades. Mandarin Paperback, 313 pages, 1993 (First Published in 1926).
[2] Georgette Heyer. Devil's Cub. Mandarin Paperback, 272 pages, 1991 (First Published in 1932).


รายการนิยายอังกฤษ, ไทม์ไลน์หนังสืออิงประวัติศาสตร์/ย้อนยุค อังกฤษ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spy×Family - Endo Tatsuya

ลำนำรักเทพสวรรค์ - ถงหัว

สืบลับฉบับคาโมโนะฮาชิ รอน - Amano Akira