คินดะอิจิยอดนักสืบ - โยโคมิโซะ เซซิ

เรื่อง คินดะอิจิยอดนักสืบ
แต่งโดย โยโคมิโซะ เซซิ แปลโดย เสาวณีย์ นวรัตน์จำรูญ, ชมนาด ศีติสาร, บุษบา บรรจงมณี


ชุดนี้เป็นนิยายสืบสวนที่มีชื่อเสียงมากเป็นลำดับต้นของญี่ปุ่น ถึงขนาดแตกออกมาเป็นการ์ตูนรุ่นหลาน (ที่ว่ากันว่าไม่ได้รับอนุญาต -_-") ในไทยมีการนำนืยายมาแปลจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ได้พิมพ์ตามลำดับเรื่องของญี่ปุ่น เข้าใจว่าเป็นเพราะเลือกมาตามความดังหรือเพื่อยอดขาย เลยขอทำรายการตามญี่ปุ่นไว้ด้วย

เรียงตามเวลาในเรื่อง
  • 1949: ฆาตกรรมในตระกูลอินุงามิ

เรียงตามลำดับการเขียน
  • 1949: ฆาตกรรมในตระกูลอินุงามิ

ฆาตกรรมในตระกูลอินุงามิ

ซาเฮ อินุงามิ มหาเศรษฐีผ้าไหมที่สร้างตัวขึ้นมาจากตัวเปล่าเสียชีวิต ทิ้งทรัพย์สมบัติมหาศาลและพินัยกรรมที่แปลกประหลาด จนทนายความลูกน้องของผู้ดูแลพินัยกรรมกลัวจะเกิดเรื่องและตาม โคสุเกะ คินดะอิจิ นักสืบที่มีชื่อเสียงมาช่วยป้องกัน แต่ผู้ถูกสังเวยคือตัวทนายเองที่ถูกฆ่าตายโดยไม่มีผู้ทราบเหตุผล

ซาเฮไม่แต่งงาน แต่มีลูกสาว 3 คน จากภรรยาน้อย 3 คน คือ มาซุโกะ ทาเคโกะ อุเมโกะ ลูกแต่ละคนแต่งงานและมีลูกชายคนละคน คือ สุเกะคิโย สุเกะทาเค สุเกะโทโม ทำให้เกิดการแย่งชิงอำนาจและสมบัติอย่างรุนแรงมาตลอด ยกเว้นเมื่อครั้งที่ซาเฮไปหลงรัก คิขุโนะ อาโอนูมา สาวน้อยรุ่นลูก จนมีลูกชาย คือ ชิซุมา อาโอนูมา ที่ลูกสาวร่วมมือกันทำร้ายถึงขนาดที่คิขุโนะพาลูกชายหนีหายสาบสูญตั้งแต่แบเบาะ

แต่เมื่อเปิดพินัยกรรมก็พบว่าซาเฮยกทรัพย์สินให้ ทามาโยะ โนโนมิยา หลานสาวกำพร้าของผู้มีพระคุณ โดยมีเงื่อนไขให้แต่งงานกับหลานตาของตนคนใดคนหนึ่ง แต่ถ้าผิดไปจากนี้ คนที่ได้ผลประโยชน์มากกว่ากลับเป็นเป็นชิซุมา งานนี้สุเกะคิโยได้เปรียบเพราะทามาโยะแอบชอบแต่เล็ก แต่ช่วงสงครามกลับรับบาดเจ็บจนหน้าเสียโฉมอย่างน่าขยะแขยง ก่อนที่ทามาโยะจะตัดสินใจ คดีฆาตกรรมผู้มีสิทธิรับสมบัติกลับเกิดขึ้นอย่างน่าสยดสยอง ...

เรื่องก็ซับซ้อนน่าสนใจดีค่ะ แต่เคยอ่านการ์ตูนรุ่นหลานมาเยอะ เลยรู้สึกคุ้นๆ จับทางได้พอดู น่าตามตอนต่อไป ถึงเล่มนี้จะเป็นเล่มแรกที่แปลไทย แต่ลองค้นดูเหมือนว่าลำดับของญี่ปุ่นคือเล่มที่หก

inugami 1954 inugami 1976 inugami 2006

ตอนนี้ถูกทำเป็นภาพยนตร์และซีรีส์หลายครั้งมาก มีภาพยนตร์ 'Inugami-ke no nazo: Akuma wa odoru' เมื่อปี 1954 กำกับโดย Watanabe Kunio นำแสดงโดย Kataoka Chiezo เป็นคินดะอิจิ 'The Inugami Family' เมื่อปี 1976 กำกับโดย Ichikawa Kon และ Ishizaka Koji แสดงเป็นคินดะอิจิ ซึ่งเป็นเรื่องแรกของชุดภาพยนตร์ที่คู่นี้ทำงานร่วมกัน ภายหลัง Ichikawa Kon ยังสร้างซ้ำในชื่อ 'The Inugamis' เมื่อปี 2006 โดย Ishizaka Koji ก็ยังแสดงเป็นคินดะอิจิ

inugami 1977 inugami 2004 inugami 2018

มีทำเป็นซีรีส์ออกโทรทัศน์เมื่อปี 1970 ที่ไม่มีคินดะอิจิ, 1977 ที่ Ikko Furuya แสดงเป็นคินดะอิจิ, 1990 ที่ Nakai Kiichi แสดงเป็นคินดะอิจิ, 1994 ที่ Kataoka Tsurutaro แสดงเป็นคินดะอิจิ, 2004 ที่ Inagaki Goro แสดงเป็นคินดะอิจิ, 2018 ที่ Kato Shigeaki แสดงเป็นคินดะอิจิ และ 2020 ที่ Ikematsu Sosuke แสดงเป็นคินดะอิจิ
[28/08/12, 11/06/22]

หมู่บ้านแปดหลุมศพ

หมู่บ้านแปดหลุมศพ จังหวัดโอคายะมะ ในหมู่บ้านนี้มีครอบครัวสำคัญและร่ำรวย คือ ตระกูลทาจิมิทางตะวันออกและโนมูระทางตะวันตก สี่ร้อยปีที่แล้ว นักรบแพ้สงครามนำทองมาแอบซ่อนตัว โดนชาวบ้านที่นำโดยตระกูลทาจิมิฆ่าตายเพื่อเงินรางวัลแต่หาทองไม่เจอ ไม่นานก็เกิดโศกนาฏกรรมหลายเรื่องจนคนกลัว ยกนักรบทั้งแปดเป็นเทพเจ้าและสร้างหลุมศพให้

เมื่อถึงปี 245x ทาจิมิ โยโซ ที่มีลูกสองคนกับภรรยาหลวง คือ ฮิซายะ และ ฮารุโยะ เกิดคลุ้มคลั่งหลังจากภรรยาน้อย ซุรุโกะ พาลูกชายแบเบาะหนีไป จนไล่ฆ่าคนในหมู่บ้านก่อนหายสาบสูญ ฝ่านมาอีกกว่า 25 ปี ตระกูลทาจิมิเกิดปัญหาเรื่องทายาทเพราะฮิซายะและฮารุโยะไม่มีลูกและสุขภาพย่ำแย่ โยโซมีน้องชายอยู่หนึ่งคนที่ไปสืบทอดตระกูลอื่น ส่วนลูกชายหญิง คือ ซาโตมูระ ชินทาโร และ โนริโกะ ก็สุขภาพไม่ดีจากสงครามและการคลอดก่อนกำหนด แถมไม่เป็นที่ชื่นชอบของ โคะอุเมะ และ โคทาเคะ ป้าของโยโซที่เป็นผู้อาวุโส ทำให้มีการสืบหาลุกชายที่หายไป

ตอนนี้ซุรุโกะเสียไปนานแล้ว ลูกชาย เทระดะ ทะซึยะ ที่เป็นลูกจ้างบริษัทที่มีชีวิตอย่างลำบากหลังสงครามโลก ได้รับการติดต่อจากทนายและได้พบกับตาที่เดินทางมารับแต่กลับโดนวางยาพิษตายและทะซึยะได้จดหมายข่มขู่ ทะซึยะกลับหมู่บ้านพร้อม โมริ มิยาโกะ น้องสะใภ้หม้ายของหัวหน้าตระกูลตะวันตก โนมูระ โซคิจิ และได้รับการต้อนรับอย่างดี ไม่นานฮิซายะก็โดนวางยาพิษแบบเดียวกันอีก ว่ากันว่าเมื่อเกิดเรื่อง จะมีคนตายถึงแปดศพ ที่ใกล้ๆ กัน ทำให้ ผู้หมวด อิโซคาวะ และ คินดะอิจิสืบคดีที่หมู่บ้านโอะนิโคเบะ (ตอน 'เพลงเล่นลูกบอลปีศาจ' และ 'เดินกลางคืน') และมาสืบคดีนี้ด้วย ...

สรุปว่าสนุกดีแบบคุ้นๆ นะคะ เล่าเรื่องผ่านวานเขียนของทะซึยะแทนที่จะมองจากสายตาของคิดะอิจิที่แปลกกว่าตอนที่แล้ว อ้อ คิดเลขผิดหน่อยว่าเรื่องเกิดปี 248x เพราะจากตอนนี้นดูยังไงก็เกิด 249x เข้าใจว่าอาจเป็นเพราะแปลจากศักราชโชวะแล้วไม่ได้ปรับ มีที่พิมพ์ปีผิดจาก 2419 เป็น 2519 มีอ้างถึงหนังสือ 'เหมืองแห่งกษัตริย์โซโลมอน' ที่มีแปลไทยแล้วในชื่อ 'สมบัติพระศุลี' ด้วยค่ะ
[05/09/12]

ตอนที่ 3: บทเพลงปีศาจ
เรื่องนี้เป็นคดีชนชั้นอาทิตย์อัสดงหรือขุนนางที่ถูกล้มเลิกหลังสงครามโลกเมื่อปี 2490 ในคดีเท็นกินโดอันสะเทือนขวัญ มีการฆาตรกรรมหมู่ด้วยยาพิษก่อนปล้นร้านเพชร ภาพเสก็ตผู้ต้องสงสัยที่ได้คล้ายกับ ท์ซุบากิ ฮิเดะสุเกะ นักเป่าขลุ่ยอดีตขุนนางระดับชิชะกุ (วิสเคาท์) ผู้ออกแผ่นเสียง 'ปีศาจผู้มาเป่าขลุ่ย' ที่ถึงสามารถหาข้ออ้างยืนยันว่าไม่อยู่ในโตเกียวช่วงเกิดเหตุการณ์ก็ฆ่าตัวตายไม่นานหลังจากนั้น เมื่อลูกสาว ท์ซุบากิ มิเนะโกะ พบจดหมายลาตายที่ซ่อนไว้ในหนังสือที่ชี้เงื่อนงำอื่น จึงได้รับคำแนะนำจากสารวัตร โทโดโรกิ ให้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากคินดะอิจิให้มาที่คฤหาสน์ย่านอาซาบุรปปงงิที่ตอนนี้มีญาติหลายครอบครัวมาอยู่ด้วยเนื่องจากที่อยู่ถูกไฟไหม้ในระหว่างช่วงสงคราม ผู้อยู่อาศัยหลักๆ คือ ภรรยา ท์ซุบากิ อะกิโกะ พี่เลี้ยง สาวใช้เก่าแก่ หมอ เมงะ จูสุเกะ ลูกเพื่อนสนิท มิชิมะ โททาโร และครอบครัวญาติของอะกิโกะ คือ ลุงที่เป็นอดีตขุนนางระดับฮะกุชะกุ (เอิร์ล) ชื่อ ทะมะมุชิ คิมิมะรุ พ่วงภรรยาน้อย กับครอบครัวพี่ชาย ชิงกู โทชิฮิโกะ (อดีตขุนนางระดับชิชะกุ) ที่มีภรรยาและลูกชาย เรื่องเกิดตามฟอร์มคือฆาตกรรมในห้องปิดตาย ที่คินดะอิจิสามารถสาวไปจนถึงเรื่องในอดีตที่ลูกสาวหัวหน้าคนสวนของทะมะมุชิตั้งครรภ์ไม่มีพ่อ ระหว่างนั้นก็เกิดเรื่องอื่นตามมาเป็นพรวนกว่าคินดะอิจิจะประมวลข้อมูลหาตัวคนร้ายได้ ... เรื่องนี้เข้าใจว่าจะตั้งฟอร์มเน้นความเหลวแหลกของชนชั้นขุนนาง ทำให้โดนกรรมตามทัน แต่รู้สึกว่าเน้นความผิดที่ไล่ตามมาทันมากไปนิดจนปัจจุบันไม่ค่อยเข้ารูปเข้ารอยน่ะค่ะ สรุปว่าไม่ได้ไม่ดี แต่ชอบไม่เท่าสองเล่มก่อนหน้า
[20/09/12]
ตอนที่ 4: ร่างทรงมรณะ
คืนหนึ่ง คนทรงสาวใหญ่ อุงะจิน คุซึริโกะ ถูกฆ่าอย่างน่าสยดสยอง มีรอยมีดกรีดเต็มตัว โดยมีพยานการพบศพคือ นักเขียน มัตสึบาระ โคโซ และทหารผ่านศึกพิการ ฮอนโดจิโยคิจิ และลูกชาย ที่เผอิญอยู่หน้าบ้านตอนมีผู้หญิงวิ่งผ่านออกไป ตำรวจที่มาสืบสวนสงสัย ทาคิงาวะ เคียวโกะ ลูกสาวของเศรษฐีที่อุปถัมภ์คนทรงสาวใหญ่นี้ จนทำให้งานแต่งงานของเคียวโกะกับ อุเอมูระ คินโนะสุเกะ ต้องเลิกล้มไปในวันแต่ง คินโนะสุเกะจึงมาจ้างคินดะอิจิให้หาตัวคนร้าย ไม่นานก็พบว่า ทาเทบะ ทะมง อาจารย์ของคุซึริโกะที่ตั้งตัวเป็นเจ้าลัทธิได้หลอกลวง ข่มขืนและข่มขู่ศิษย์หญิงจำนวนมาก โดยเฉพาะ มิซึเอะ ที่ต้องยอมเป็นเมียน้อย และ อุงะจิน นะซึเมะ เด็กสาวที่ถูกเก็บมาสอนเป็นคนทรง ทำให้ผู้เสียหายอยากปกป้องคนร้ายจนทำให้การสืบสวนไม่คืบหน้า ระหว่างนี้ ทะมง ก็โดยเลื่อยขาเก้าอี้อย่างเงียบๆ ... เรื่องนี้สนุกดีค่ะ มีเบื้องหลังที่ไม่เปิดเผยตัวแบบเหนือเมฆ ค่อยๆ โยงความสัมพันธ์เข้าด้วยกันสร้างเรื่องไปสู่การเฉลยได้ตื่นเต้น (จขบ. แป็กนิดตอนเฉลย เพราะรู้สึกว่าออกโรคจิตไป แต่ก็โอเคนะคะ)
[24/09/12]
ตอนที่ 5: คดีฆาตกรรมบนเกาะโกะกุมน

คินดะอิจิที่เพิ่งกลับจากสงครามเดินทางไปเกาะโกะกุมนตามคำฝากฝังของเพื่อนร่วมรบ คิโต ชิมาตะ ทายาทของตระกูลใหญ่ทรงอำนาจบนเกาะที่เพ้อว่ากลัวน้องสาวสามคน จะโดนลูกพี่ลูกน้องฆ่า เรื่องคือปู่ของชิมาตะเพิ่งเสียชีวิตไม่นาน พ่อก็เสียสติต้องถูกขังมาหลายปี คนที่เป็นเสาหลักของตระกูลคือ ซานาเอะ ญาติที่มาอาศัยอยู่ด้วย

ไม่นานก็มีฆาตกรรมน้องสาวอย่างโหดเหี้ยมตามแบบฉบับ ผู้น่าสงสัยคือ ฮิโตชิ พี่ชายของซานาเอะที่จะได้รับมรดกหากขาดทายาทสายตรง แต่ฮิโตชิก็ยังติดอยู่ที่พม่า ผู้น่าสงสัยอื่นคือบ้านคิโตสายรองที่กระทบกระทั่งกันมานานและจะได้ประโยชน์เต็มที่ถ้าผู้นำคิโตสายหลักไม่สามารถกุมอำนาจได้ดี สำหรับบ้านนี้ ถึง คิเฮ จะป่วยเป็นเกาท์ แต่ภรรยาที่อายุอ่อนกว่ามาก ชิโอะ ก็ขึ้นชื่อว่าสวยและเฉียบขาด แถมพยายามหลอกลวงลูกสาวตระกูลหลักให้หลงเสน่ห์หนุ่มหล่อในอาณัติ ...

เรื่องนี้อ่านดูแล้วคิดว่าน่าจะเกิดตอนฤดูใบไม้ร่วง 2489 ถือว่าสนุกโอเคเลย มีประวัติคินดะอิจิเยอะพอดู เคยไปเรียนที่วิทยาลัยในอเมริกา (โดยการสนับสนุนของ คุโบะ กินโซ) ทำงานพิเศษที่โรงพยาบาลตอนกลางคืนจนมีความรู้ด้านการแพทย์บ้าง เมื่อปี 2480 คินดะอิจิ (อายุ 25-26) สืบ 'คดีฆาตกรรมในโรงแรม' และพบสารวัตร อิโซคาวะ ซุเนะจิโร ตอน ก่อนถูกเกณฑ์ทหารที่สุดท้ายถูกส่งไปนิวกินี

ตอนนี้มีกลอนไฮกุมากเลยค่ะ จขบ. รู้สึกโดนมากตอนคินดะอิจิพยายามอ่านกวีไฮกุที่เขียนด้วยลายมือมีสไตล์อย่างหาตัวจับยาก ทว่าลายมือตามแบบฉบับนักไฮกุก็ช่างยึกยือ ไม่รู้ว่าตรงไหนคือหัว ตรงไหนคือหาง ประหนึ่งรอยไส้เดือนคืบคลานบนโคลนชุ่มฝนต้นฤดูร้อน (ถึง จขบ. จะอ่านญี่ปุ่นไม่ออก แต่ก็รู้สึกว่าอักษรแบบศิลปะนี่มันดูไม่เหมือนอักษรเสียเลย สงสัยมานานแล้วว่าคนญี่ปุ่นเขาอ่านกันได้แค่ไหน)
[27/09/12, 03/12/12]
ตอนที่ 6: เจดีย์สามเศียร
ในอดีต ซาตาเขะ เกนโซ ได้ฆ่า ทาเคโนะอุจิ ไดสุเกะ แล้วหนีไปจนทำให้ ทาคาโต โชโซ เป็นแพะรับบาปโดนประหารชีวิต เกนโซได้เร่ร่อนไปถึงอเมริกาสร้างตัวจนร่ำรวยและได้สร้างเจดีย์สามเศียรเพื่อสำนึก รวมถึงรับ ทาเคโนะอุจิ จุงโกะ หลานชายของไดสุเกะไปเลี้ยงเป็นทายาท แต่จุงโกะเลวร้ายมากจึงส่งกลับญี่ปุ่น และตั้งใจให้ ทาคาโต ชุนซากุ หลานของโชโซแต่งงานกับ มิยาโมโตะ โอโทเนะ เหลนของพี่ชายแล้วรับมรดกหมื่นล้าน ในปี 2499 ทนายได้ติดต่อให้โอโทเนะที่อาศัยกับญาติฝ่ายแม่ทราบ แต่ชุนซากุที่เพิ่งถูกพบตัว นักสืบที่ตามหา และสาวนักเต้นในงานกลับโดนฆ่า และเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน ทนายได้เรียกทายาทของพี่ชายทั้งสองของเกนโซมาแจ้งว่ามรดกจะถูกแบ่งออกเท่าๆ กันสำหรับทายาทที่เหลือจากพี่ชายคนโต (เหลนหญิงสี่คนและลูกของเหลนอีกคนที่ยังเด็ก) และพี่ชายคนรอง (โอโทเนะและน้าชาย) ที่น่าตกใจคือสาวนักเต้นในงานก็เป็นเหลนคนหนึ่งด้วย แถมแต่ละคนต่างมีชายที่ไม่เกี่ยวข้องมาหนุนหลังเพื่อชิงสมบัติ ระหว่างนี้ที่คนอื่นไม่ทราบคือคุณหนูที่ได้รับการอบรมอย่างโอโทเนะถูก ทาคาโต โกโร ลูกพี่ลูกน้องของชุนซากุข่มขืนและขู่เข็ญให้ปกปิดเรื่องที่น่ารังเกียจของทายาทคนอื่นและยังเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์คดีฆาตกรรมทายาทอื่นด้วย ถึงโกโรที่ปลอมตัวเป็นคนหลายประเภท (รวมถึงนักสืบ โฮริอิ เคโซ) จะสามารถสร้างหลักฐานได้อย่างเหนือชั้น ก็ยังเกรงคินดะอิจิ ... เรื่องนี้ถูกเขียนในมุมมองของโอโทเนะที่จมลงในปลักพิสวาสกลายเป็นคนร้ายที่ต้องหลบหนี พูดกันตามตรงก็ทั้งน่าสงสารและน่ารำคาญนานๆ ครั้ง แต่เรื่องก็ตื่นเต้นดี เรื่องสวิงซ้ายสวิงขวา (แต่ไม่มึน) แป๊กหน่อยตอนจบ อ้อ รู้สึกว่าเรื่องนี้กามารมณ์จะแรงกว่าเรื่องอื่นแยะ แต่ไม่ใช่แบบติดเรทนะคะ
[30/09/12]
ตอนที่ 7: คดีฆาตกรรมเพลงเล่นลูกบอลปีศาจ
เมื่อปี 2498 คินดะอิจิไปพักร้อน (ตามประสาเบี้ยน้อย) ที่หมู่บ้านโอนิโคะเบะในจังหวัดโอคายามะ โดยคำแนะนำของสารวัตรอิโซคาวะที่เคยไปสืบคดีฆาตกรรมในหมู่บ้านนี้ตั้งแต่ปี 2475 และจับตัวคนร้ายไม่ได้ เรื่องคือตระกูลสำคัญหลายครอบครัวที่มีการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ตระกูลอิโตที่เคยเป็นเจ้าเมืองและปรากฏในเพลงเล่นลูกบอลของหมู่บ้านว่ากดขี่ข่มเหงและมักมาก มีตระกูลทะระตะหัวหน้าหมู่บ้านที่ต่อมาความเสเพลของเจ้าบ้านทำให้ไม่เหลืออะไร เจ้าบ้านคนปัจจุบัน ทะระตะ โฮอัน อาศัยอยู่ในกระท่อมเล็กๆ หลังภรรยาคนที่แปดหนีหายไป ตระกูลยุระ (บ้านเครื่องตวง) ที่ร่ำรวยแต่เดิมเลยกลายเป็นผู้นำ แต่ถูกท้าทายจากตระกูลนิเระ (บ้านเครื่องชั่ง) ที่เจ้าบ้านริเริ่มปลูกองุ่นบนภูเขาจนร่ำรวย ทำให้เจ้าบ้านยุระที่อ่อนหัดพยายามรักษาอำนาจจนโดนนักต้มตุ๋น อนดะ อิกุโซ หลอกลวง แต่ก็มีคนสงสัย คือ อาโออิเกะ เก็นจิโร่ ที่ครอบครัวทำกิจการบ่อน้ำร้อน และถูกพบตายแบบหัวทิ่มลงไปในเตาไฟและอนดะหายสาบสูญ สรุปว่าคินดะอิจิก็ไปแช่บ่อน้ำร้อนที่ตอนนี้ อาโออิเกะ ริกะ ภรรยาหม้ายของเก็นจิโร่ดูแลอย่างดี ได้ขี้เกียจอย่างมีความสุข แถมดาราสาวชื่อดัง โอโซระ ยูคาริ (ชื่อจริงคือเบ็ตโซะ ชิเอโกะ ลูกสาวนอกสมรสของอนดะ) จะกลับมาเยี่ยมครอบครัวบ้านแม่กุญแจ แต่บรรยากาศจะเป็นอย่างไรก็ตาม คินดะอิจิไปไหน เป็นต้องมีการตายที่นั่น! เริ่มด้วยโฮอันที่หายสาบสูญหลังจากภรรยาคนที่ห้ามาขอคืนดี ลูกสาวบ้านเครื่องตวง ยุระ ยะซุโกะ ถูกฆ่ารัดคอและศพถูกจัดให้อยู่ในท่าแปลกประหลาด และถ้าจะเป็นไปตามเพลงเล่นลูกบอล ก็จะต่อด้วยบ้านเครื่องชั่งและบ้านแม่กุญแจ ... เรื่องนี้ตัวละครเยอะ ความเกี่ยวพันออกยุ่ง แถมมีชื่อครอบครัวเรียกแบบสัญลักษณ์อีก ทำเอามึนพอดูเลยค่ะ (รู้สึกว่าผังครอบครัวช่วยบ้าง น่าเสียดายที่ไม่มีชื่อสัญลักษณ์ครอบครัวไว้ด้วย) แหม อยากได้แผนที่เพิ่มจัง จับทิศไม่ถูกเลย -.- แต่ยังไงก็ได้ลุ้นตื่นเต้น โดยเฉพาะเมื่อเรื่องเข้าสู่ช่วงหลัง พันกันให้วุ่นไปหมด ^_^ มีจุดที่น่าคิดเลขคือในเรื่องคินดะอิจิยังเป็นโสดอยู่ (ปี 1955) เมื่อบวกเลขกับการ์ตูนเรื่อง 'คินดะอิจิกับคดีฆาตกรรมปริศนา' (อ่านใน wiki บอกว่าคนเขียนการ์ตูนเอาชื่อมาใช้เฉยเลย) ที่เริ่มพิมพ์ในปี 1992 คือห่างกัน 37 ปีเท่านั้นเอง
[03/12/12]
ตอนที่ 8: อย่าออกมาเดินตอนกลางคืน
ตระกูลฟุรุงามิเคยเป็นขุนนางระดับชิชะกุ ถึงหัวหน้าตระกูลจะไม่เก่งอะไรและมีพันธุกรรมหลังค่อม แต่ก็สามารถรักษาความมั่งคั่งได้จากฝีมือของครอบครัวหัวหน้าคนรับใช้เซ็งโงะกุที่ประคับประคองมาทุกทางจนเหมือนเป็นผู้มีพระคุณ ซึ่งในปัจจุบัน หัวหน้าตระกูล ฟุรุงามิ โมริเอะ ก็เป็นคนหลังค่อมและหลงรัก ฟุรุงามิ ยาชิโยะ น้องสาวคนสวยลูกภรรยาน้อย คุณนายริว แต่สงสัยกันว่าที่จริงยาชิโยะเป็นลูกของผู้ดูแลคนปัจจุบัน เซ็งโงะกุ เทะซุโนะชิน ซึ่งตอนนี้ได้เป็นชู้กับคุณนายริวอย่างออกหน้าออกตา แต่กระนั้นเทะซุโนะก็พยายามยุยงให้ลูกชาย เซ็งโงะกุ นาโอกิ แต่งงานกับยาชิโยะ แต่ยาชิโยะไม่พอใจทั้งคู่และให้ท่าจิตรกรชื่อดัง (และหลังค่อม) ฮาชิยะ โคะอิชิ ถึงขนาดเชิญมาอยู่ที่คฤหาสน์ฟุรุงามิในโตเกียว ยาชิโระ โทระตะ เป็นนักเขียนนิยายสืบสวนไม่มีชื่อที่ต้องอาศัยความช่วยเหลือเจือจุนจากนาโอกิ เมื่อยาชิโยะถูกจดหมายข่มขู่ที่แนบรูปคนไร้หัวเลยถูกตามมาช่วยคิดหาแบะแสคนร้ายที่คฤหาสน์อันคุกรุ่นจากความตึงเครียดระหว่างโมริเอะ ฮาชิยะ และเทะซุโนะชิน ที่ใกล้เข้าสู่จุดแตกหัก ไม่นานก็มีการฆาตกรรมต่อเนื่องคนแล้วคนเล่าโดยมีรูปคดีพยายามอำพรางตัวตนด้วยการหั่นคอศพ จากที่โตเกียวไปยังหมู่บ้านหัวปีศาจ ... เวลาในเรื่องไม่ค่อยชัดเจนค่ะ บอกว่าคินดะอิจิมีอายุราว 34-35 เลยน่าจะเป็นช่วงหลังสงครามโลกไม่กี่ปี ไม่ค่อยชอบตรงที่ตัวละครมีลักษณะที่บิดเบี้ยวเหลือเกินและในบางประเด็นที่ดูเหมือนจะบังเอิญและมีปมด้ายที่ชายรุ่ยๆ เหลืออยู่ (รวมถึงความแม่นปืนที่ยิงจากในกระเป๋าถือ) แต่ตอนจบก็พลิกความคาดหมายมาก คิดดะอิจิมาอย่างเหนือเมฆ ฟันรวดเดียวจบ (ถึงตอนนั้นจะตายกับเป็นเบือแล้ว)
[11/12/12]
ตอนที่ 9: ในห้องที่ปิดตาย
เล่มนี้มีสามเรื่อง เรื่องแรกคือ 'ในห้องที่ปิดตาย' ซึ่งเป็นเรื่องแรกของคินดะอิจิ เดิมเรียกในตอนอื่นๆ ว่า 'ฆาตกรรมในโรงแรม' ซึ่งความจริงเปลี่ยนชื่อก็ดี เพราะไม่ค่อยตรงเท่าไหร่ (ที่งงคือในข้อมูลลิขสิทธิ์บอกว่า 1997 by Ryoichi Yokomizo) ตอนนี้เป็นเรื่องเกิดก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง มีประวัติคินดะอิจิด้วยว่าเข้ามาเรียนในโตเกียว ไปแสวงโชคต่ออเมริกาแต่กลับเหลวแหลกติดยาแต่ก็ยังช่วยแก้ไขคดีฆาตกรรมประหลาดในแวดวงชาวญี่ปุ่นที่ซานฟรานซิสโก จนได้ คุโบะ กินโซ ที่ทำกิจการไร่ส้มกับพี่ชายจนร่ำรวย ให้ทุนเรียนจนจบมหาวิทยาลัยและยังช่วยสนับสนุนเปิดสำนักงานนักสืบจนมีชื่อ เมื่อ คุโบะ คะซุโกะ หลานอาของกินโซที่เพิ่งแต่งงานกับ อิจิยานางิ เค็นโซ หัวหน้าครอบครัวตระกูลเก่าและเศรษฐีใหญ่ในโอคายามะ โดยครอบครัวอิจิยานางิไม่ค่อยพอใจนักเพราะตระกูลของเจ้าสาวเป็นลูกนาเก่า แต่ก็ยอมเพราะเค็นโซยืนกรานอย่างหนักแน่น เจ้าบ่าวเจ้าสาวถูกฆ่าอย่างสยดสยองในคืนส่งตัวยหลังมีเสียงโคโตะ (ที่ตามธรรมเนียมจะให้เจ้าสาวบรรเลงในงาน) แถมเป็นฆาตกรรมในห้องปิดตาย พบดาบที่ใช้สังหารด้านนอก สารวัตรอิโซคาวะจนปัญญา ไม่น่าแปลกใจที่กินโซจะขอให้คินดะอิจิมาช่วยสืบหาคนร้าย ... เรื่องต่อมา 'บ่อพยาบาท' เรื่องนี้แปลกที่คินดะอิจิไม่ได้สืบสวนด้วยตัวเอง แต่มาพบภายหลัง เรื่องออกแนว คือ หัวหน้าตระกูลฮงอิเด็นคนก่อน นอกจากจะมีลูกกับภรรยาแล้ว ยังมีลูกกับภรรยาของหัวหน้าตระกูลที่ตกต่ำจนทั้งคู่ฆ่าตัวตาย ทำให้ลูกนอกสมรสอย่าง อากิซุกิ โกะอิจิ เคียดแค้นน้องต่างแม่ ฮงอิเด็น ไดสุเกะ ที่มีฐานะร่ำรวยแถมยังแต่งงานกับ ริเอะ คู่รักเก่าด้วย ระหว่างสงคราม โกะอิจิและไดสุเกะถูกเกณฑ์ไปรบด้วยกัน ทำให้คืนดีกันได้ก่อนโกะอิจิเสียชีวิตและไดสุเกะตาบอด แต่เมื่อไดสุเกะกลับบ้านก็เปลี่ยนไป กลายเป็นคนฉุนเฉียวรุนแรง น้องสาว ฮงอิเด็น ซุรุโยะ สงสัยจนขอให้คนในบ้านไปเอาป้ายพิมพ์มือขอพรที่ศาลเจ้าก่อนออกรบมาเทียบ แต่คนที่ไปกลับตกเขาตาย ไม่นานริเอะก็ถูกฆ่า ... เรื่องสุดท้าย 'คดีร้านแมวดำ' เกิดต้นปี 2490 ในแนวทางของ 'ศพไม่มีหน้า' เมื่อพบศพหญิงสาวถูกฝังอยู่ในบริเวณร้านเหล้าแมวดำที่เจ้าของ สองสามีภรรยา อิโตะชิมะ ไดโงะ กับ ชิเงะ เพิ่งขายกิจการและออกจากเมืองไป ทำให้เกิดสงสัยว่าจะมีปมชู้สาว เพราะช่วงหลังสงครามที่ทั้งคู่ต้องหนีจากจีนเกิดแยกกัน ทำให้ไดโงะได้สาวเต้นรำ คุวาโนะ อายุโกะ เป็นคู่รัก ส่วนชิเงะก็เคยเป็นเมียเก็บ (ในจำนวนหลายคน) ของ คาซามะ ชุนโระกุ ที่เป็นเพื่อนคินดะอิจิสมัยมัธยมและสร้างตัวเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างจนร่ำรวย (เรื่องนี้ไม่เข้าใจว่าถ้าซ่อนศพได้ดี ทำไมต้องทำให้พบศพด้วย)
[19/12/12]
ตอนที่ 10: คฤหาสน์เขาวงกต
เรื่องเกิดที่เชิงเขาฟุจิ คฤหาสน์เมโรเคยเป็นของตระกูลฟุรุดาเมะ ขุนนางระดับฮะกุชะกุ แต่หลังสงคราม ฟุรุดาเมะ ทาซึนโดะ ก็จำต้องขายคฤหาสน์ให้ ชิโนซากิ ชิงโงะ เศรษฐีใหม่เพื่อนของผู้อุปถัมภ์คินดะอิจิ ที่จะปรับปรุงเป็นโรงแรม แถมยังเสียภรรยา ชิซึโกะ ให้ชิโนซากิที่เป้็นพ่อหม้ายด้วย แต่ทั้งคู่ก็ดูเหมือนจะไปด้วยกันได้ดี เรื่องเกิดในปี 2493 ที่ครบรอบ 20 ปี คดีฆาตกรรมที่ คาซึนโดะ พ่อ และ คานาโกะ แม่เลี้ยงของทาซึนโดะเสียชีวิต โดย โอกาตะ ชิสึมะ ญาติห่างของคานาโกะถูกหาว่าเป็นฆาตกรและได้หนีหายไปในถ้ำ ชิโนซากิจึงจะจัดพิธีรำลึกและเชิญญาติของตระกูลฟุรุดาเมะหลายคน เช่น น้องชายของคานาโกะและน้าของทาซึนโดะ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นขุนนางเก่าที่กำลังประสบปัญหาการเงิน แต่ก่อนถึงวันก็มีคนเห็นชายแขนเดียว คินดะอิจิจึงถูกตามตัวมา แต่เพิ่งเดินทางมาถึงแทบจะไม่ได้ทำอะไร ก็มีเหตุฆาตกรรมซ้ำซ้อนที่บ่งชี้ว่ามาจากความแค้นในรุ่นก่อน รองสารวัตร ทาฮาระ และตำรวจเก่าที่เคยทำคดีได้คินดะอิจิช่วย... เรื่องนี้ความสนุกก็ระดับดีนะคะ (ดูแผนผังครอบครัวมึนพิกล) แต่ยอมรับว่าชักจะเบื่อเรื่องในคฤหาสน์ขุนนางเก่าแล้วละ อ้อ รู้สึกว่าคนตัวเล็กดี อย่างคนขับรถม้าโจจิ 170 ซม ก็ถือว่าสูงแล้ว
[07/02/13]

ที่มา
[1] โยโคมิโซะ เซซิ (เสาวณีย์ นวรัตน์จำรูญ แปล). คินดะอิจิยอดนักสืบ ตอนที่ 1 ฆาตกรรมในตระกูลอินุงามิ. สำนักพิมพ์ JBOOK, พิมพ์ครั้งที่ 3, 274 หน้า, 2547 (ต้นฉบับ 1951).
[2] โยโคมิโซะ เซซิ (เสาวณีย์ นวรัตน์จำรูญ แปล). คินดะอิจิยอดนักสืบ ตอนที่ 2 หมู่บ้านแปดหลุมศพ. สำนักพิมพ์ JBOOK, พิมพ์ครั้งที่ 5, 350 หน้า, 2548 (1971).
[3] โยโคมิโซะ เซซิ (ชมนาด ศีติสาร แปล). คินดะอิจิยอดนักสืบ ตอนที่ 3 บทเพลงปีศาจ. สำนักพิมพ์ JBOOK, พิมพ์ครั้งที่ 4, 351 หน้า, 2548 (1972).
[4] โยโคมิโซะ เซซิ (เสาวณีย์ นวรัตน์จำรูญ แปล). คินดะอิจิยอดนักสืบ ตอนที่ 4 ร่างทรงมรณะ. สำนักพิมพ์ JBOOK, พิมพ์ครั้งที่ 3, 296 หน้า, 2549 (1976).
[5] โยโคมิโซะ เซซิ (ชมนาด ศีติสาร แปล). คินดะอิจิยอดนักสืบ ตอนที่ 5 คดีฆาตกรรมบนเกาะโกะกุมน. สำนักพิมพ์ JBOOK, พิมพ์ครั้งที่ 7, 252 หน้า, 2551 (1971).
[6] โยโคมิโซะ เซซิ (บุษบา บรรจงมณี แปล). คินดะอิจิยอดนักสืบ ตอนที่ 6 เจดีย์สามเศียร. สำนักพิมพ์ JBOOK, พิมพ์ครั้งที่ 1, 272 หน้า, 2549 (1972).
[7] โยโคมิโซะ เซซิ (ชมนาด ศีติสาร แปล). คินดะอิจิยอดนักสืบ ตอนที่ 7 คดีฆาตกรรมเพลงเล่นลูกบอลปีศาจ. สำนักพิมพ์ JBOOK, พิมพ์ครั้งที่ 1, 337 หน้า, 2549 (1960).
[8] โยโคมิโซะ เซซิ (ชมนาด ศีติสาร แปล). คินดะอิจิยอดนักสืบ ตอนที่ 8 อย่าออกมาเดินตอนกลางคืน. สำนักพิมพ์ JBOOK, พิมพ์ครั้งที่ 2, 232 หน้า, 2550 (1973).
[9] โยโคมิโซะ เซซิ (ชมนาด ศีติสาร แปล). คินดะอิจิยอดนักสืบ ตอนที่ 9 ในห้องที่ปิดตาย. สำนักพิมพ์ JBOOK, พิมพ์ครั้งที่ 1, 284 หน้า, 2550 (1997).
[10] โยโคมิโซะ เซซิ (บุษบา บรรจงมณี แปล). คินดะอิจิยอดนักสืบ ตอนที่ 10 คฤหาสน์เขาวงกต. สำนักพิมพ์ JBOOK, พิมพ์ครั้งที่ 1, 367 หน้า, 2550 (1976).

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spy×Family - Endo Tatsuya

ลำนำรักเทพสวรรค์ - ถงหัว

สืบลับฉบับคาโมโนะฮาชิ รอน - Amano Akira