แม่ครัววัยใสแห่งบ้านไมโกะ - Koyama Aiko
เรื่อง แม่ครัววัยใสแห่งบ้านไมโกะ
โดย Aiko Koyama

เด็กสาวอายุสิบหกปี โนสึกิ คิโยะ และ เฮไร ซุมิเระ จากชนบทในอาโอโมริมาเกียวโตเพื่อฝึกฝนเป็นไมโกะที่สำนักเกอิชาอิจิในย่านคะไกในเดือนมกราคม คิโยะไม่มีความสามารถในการเป็นไมโกะจนคุณแม่แนะนำให้กลับบ้าน เมื่อป้าแม่ครัวล้มป่วยลาออก คิโยะก็อาสาทำอาหารเป็นข้าวหน้าไก่ใส่ไข่ที่ทำให้รู้สึกสบายใจ เลยกลายมาเป็นแม่ครัวแทน
ในแต่ละวันคิโยะจะตื่นตอนหกโมงเข้ามาทำอาหารเช้าให้พร้อมตอนแปดโมงเพื่อให้คนในสำนักออกไปฝึกซ้อมตอนเข้า สิบโมงออกไปซื้อของ เที่ยงทำอาหารให้คนที่กลับมาจากการฝึก (มื้อเที่ยงเป็นมื้อหลักของสำนักเพราะเวลาเรียนและทำงานไม่ค่อยตรงกัน ทำให้เป็นมื้อที่มีการรวมตัวกันมากที่สุด) บ่ายสี่โมงทำอาหารเย็นก่อนพวกเกอิชาไปทำงาน ประมาณสองทุ่มทำความสะอาด สามทุ่มออกไปอาบน้ำพักผ่อนส่วนตัวและนอนตอนสี่ทุ่ม
ในด้านอาหารที่ทำก็มีความหลากหลาย ไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารญี่ปุ่น มีอาหารฝรั่งเยอะกว่าที่คิดมาก (ถ้าคิดว่าเป็นเทรนอาหารของคนทั่วไปก็เข้าใจได้) แต่มีการกำหนดเฉพาะ เช่น ข้าวปั้นต้องเล็กพอดีคำไม่ให้ลิปสติกเลือน ห้ามกินแกงกะหรี่ในสำนักเพราะทำให้นึกถึงครอบครัว ห้ามกินของที่มีกลิ่นแรง (เช่นกระเทียม กุยช่าย) ในวันทำงาน นอกจากนั้นก็มีเครื่องดื่ม ขนมรองท้อง และมื้อดึกเวลามีงานหรือเตรียมเทศกาลด้วย
ซุมิเระทั้งรูปร่างและความสามารถดี มีความพยายามอย่างมากจนเหมือนกดดันตัวเองมาก ได้เลื่อนจากเด็กฝึกงานเป็นไมโกะ เมื่อเกล้าผมครั้งแรกก็ได้ชื่อใหม่ว่า โมโมฮานะ ได้เกอิโกะ (เกอิชา) โมโมกะ เป็นพี่สาวร่วมสาบาน ไปฝึกงานที่โรงน้ำชา ก่อนแสดงตัวครั้งแรกในฐานะไมโกะ
ไมโกะต้องเปลี่ยนการใช้ชีวิต เช่น หัดใส่กิโมโนของสำนักที่แชร์กันทุกคน ใส่เกี๊ยะพื้นหนาโอโคโบะที่ติดกระพรวนสำหรับน้องใหม่ การเกล้าผมทรงวาเระชิโนบุสำหรับไมโกะน้องและทรงโอฟุกุสำหรับไมโกะพี่ ต้องนอนหมอนกล่องเพื่อไม่ให้ผมเสีย ใช้ร่มกระดาษญี่ปุ่น ห้ามใช้มือถือหรือคอมพิวเตอร์ ห้ามเข้าร้านสะดวกซื้อ ร้านฟาสฟู้ด หรือต่อแถวร้านอาหารในสภาพไมโกะ ไมโกะมีวันหยุดเดือนละสองครั้งที่ได้เอาผมลงและแต่งตัวตามสบาย ออกไปใช้ชีวิตตามปกติได้ (พร้อมรายการซื้อของจากคนที่ไม่ได้หยุด)
เมื่อไมโกะเลื่อนขั้นเป็นเกอิโกะก็สามารถออกมาอยู่นอกสำนักและออกมารับงานเอง ออกค่าใช้จ่ายและประคับประคองการดำเนินชีวิตด้วยตนเอง สะสมของและเสื้อผ้าที่ใช้ ไม่ได้เกล้าผมจริงแบบไมโกะแต่ใช้วิก ทำให้สามารถมีชีวิตส่วนตัวที่เป็นอิสระ เกอิโกะที่เป็นพี่สาวร่วมสาบานของไมโกะจะเป็นพี่เลี้ยงคอยสอนงานและพาไปหาประสบการณ์ต่างๆ ส่วนไมโกะก็จะมีหน้าที่คอยช่วยงานและเรื่องส่วนตัวของพี่สาว เช่น ไปดูแลแมวเวลาไม่อยู่
เกอิโกะและไมโกะเป็นมืออาชีพในการรับรองลูกค้าที่ถูกจับตามอง ต้องรักษาความสวยสง่าเปี่ยมมารยาทตลอดเวลา รับรองลูกค้าตามโรงน้ำชา เกือบทุกวันเรียนศิลปะและร่วมการเลี้ยงกลางคืน ใช้ภาษาและสำเนียงแบบเกียวโต ไมโกะที่อาศัยในคะไกเป็นเหมือนคาแร็กเตอร์มาสคอตในสวนสนุกที่ต้องรับมือกับนักท่องเที่ยว ต้องรักษาภาพลักษณ์โดยเฉพาะช่วงโกลเด้นวีคที่คนเยอะมาก
มีงานเทศกาลต่างๆ เช่น งานฤดูใบไม้ผลิ วันเซ็ตสึบุน ฯลฯ ที่มีงานแสดงพิเศษซึ่งต้องมีการเตรียมการล่วงหน้า ระหว่างงานร่ายรำจะมีโคมไฟแขวนไว้หน้าคะไก ลูกค้าขาประจำพาไปรับประทานอาหารหลังแสดงรอบสุดท้าย ไปขอบคุณร้านน้ำชาและร้านค้าที่ให้การสนับสนุน
เกอิโกะและไมโกะจะมีของใช้พิเศษที่เป็นภาพลักษณ์ เช่น นามบัตรบุปผาและพัดที่มอบให้ลูกค้า กระดาษชำระทำจากกระดาษญี่ปุ่นที่นุ่มลื่นเนื้อแน่นใช้ได้สารพัดประโยชน์ ซ่อนเก็บในแขนเสื้อกิโมโน เพราะไม่ได้พกประเป๋าสตางค์เวลาขึ้นแท็กซี่จะให้สำนักจ่ายเงินทีหลัง
เนื่องจาก จขบ. มีความสนใจเป็นพิเศษกับมังงะที่เน้นด้านศิลปะวัฒนธรรมญี่ปุ่น ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้น่าสนใจมากค่ะ เนื้อหาอบอุ่นอ่อนโยน แต่ก็มีจุดที่อาจสุ่มเสี่ยงอยู่บ้าง โดยเฉพาะเด็กอายุสิบหกที่เริ่มทำงานเป็นไมโกะซึ่งต้องทำงานในอุตสาหกรรมด้านสันทนาการของผู้ใหญ่จนดึก ที่เบาหน่อยก็อย่างในเล่มหนึ่งก็มีตอนที่ตำรวจสงสัยคิโยะว่ายังเต็กแต่ทำไมไปซื้อของอย่างเยอะ

เรื่องนี้ถูกทำเป็นอนิเมะ 12 ตอน ที่ NHK World Japan เมื่อปี 2021 และทำซีรีส์ 'The Makanai : Cooking for the Maiko House' จำนวน 9 ตอน นำแสดงโดย โมริ นานะ และ เดงูจิ นัตสึกิ ออกฉายที่ Netflix เมื่อเดือนมกราคม ปี 2023 เนื้อเรื่องสไตล์ญี่ปุ่นที่ให้ความรู้สึกดีและน่าอร่อยค่ะ
ที่มา
[1] Koyama Aiko. แม่ครัววัยใสแห่งบ้านไมโกะ (Maiko-san Chi no Makanai-san). Siam Inter Comics, เล่ม 1-10, 2565-2566 (ต้นฉบับ 2017).
รายการการ์ตูนญี่ปุ่น
โดย Aiko Koyama

เด็กสาวอายุสิบหกปี โนสึกิ คิโยะ และ เฮไร ซุมิเระ จากชนบทในอาโอโมริมาเกียวโตเพื่อฝึกฝนเป็นไมโกะที่สำนักเกอิชาอิจิในย่านคะไกในเดือนมกราคม คิโยะไม่มีความสามารถในการเป็นไมโกะจนคุณแม่แนะนำให้กลับบ้าน เมื่อป้าแม่ครัวล้มป่วยลาออก คิโยะก็อาสาทำอาหารเป็นข้าวหน้าไก่ใส่ไข่ที่ทำให้รู้สึกสบายใจ เลยกลายมาเป็นแม่ครัวแทน
ในแต่ละวันคิโยะจะตื่นตอนหกโมงเข้ามาทำอาหารเช้าให้พร้อมตอนแปดโมงเพื่อให้คนในสำนักออกไปฝึกซ้อมตอนเข้า สิบโมงออกไปซื้อของ เที่ยงทำอาหารให้คนที่กลับมาจากการฝึก (มื้อเที่ยงเป็นมื้อหลักของสำนักเพราะเวลาเรียนและทำงานไม่ค่อยตรงกัน ทำให้เป็นมื้อที่มีการรวมตัวกันมากที่สุด) บ่ายสี่โมงทำอาหารเย็นก่อนพวกเกอิชาไปทำงาน ประมาณสองทุ่มทำความสะอาด สามทุ่มออกไปอาบน้ำพักผ่อนส่วนตัวและนอนตอนสี่ทุ่ม
ในด้านอาหารที่ทำก็มีความหลากหลาย ไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารญี่ปุ่น มีอาหารฝรั่งเยอะกว่าที่คิดมาก (ถ้าคิดว่าเป็นเทรนอาหารของคนทั่วไปก็เข้าใจได้) แต่มีการกำหนดเฉพาะ เช่น ข้าวปั้นต้องเล็กพอดีคำไม่ให้ลิปสติกเลือน ห้ามกินแกงกะหรี่ในสำนักเพราะทำให้นึกถึงครอบครัว ห้ามกินของที่มีกลิ่นแรง (เช่นกระเทียม กุยช่าย) ในวันทำงาน นอกจากนั้นก็มีเครื่องดื่ม ขนมรองท้อง และมื้อดึกเวลามีงานหรือเตรียมเทศกาลด้วย
ซุมิเระทั้งรูปร่างและความสามารถดี มีความพยายามอย่างมากจนเหมือนกดดันตัวเองมาก ได้เลื่อนจากเด็กฝึกงานเป็นไมโกะ เมื่อเกล้าผมครั้งแรกก็ได้ชื่อใหม่ว่า โมโมฮานะ ได้เกอิโกะ (เกอิชา) โมโมกะ เป็นพี่สาวร่วมสาบาน ไปฝึกงานที่โรงน้ำชา ก่อนแสดงตัวครั้งแรกในฐานะไมโกะ
ไมโกะต้องเปลี่ยนการใช้ชีวิต เช่น หัดใส่กิโมโนของสำนักที่แชร์กันทุกคน ใส่เกี๊ยะพื้นหนาโอโคโบะที่ติดกระพรวนสำหรับน้องใหม่ การเกล้าผมทรงวาเระชิโนบุสำหรับไมโกะน้องและทรงโอฟุกุสำหรับไมโกะพี่ ต้องนอนหมอนกล่องเพื่อไม่ให้ผมเสีย ใช้ร่มกระดาษญี่ปุ่น ห้ามใช้มือถือหรือคอมพิวเตอร์ ห้ามเข้าร้านสะดวกซื้อ ร้านฟาสฟู้ด หรือต่อแถวร้านอาหารในสภาพไมโกะ ไมโกะมีวันหยุดเดือนละสองครั้งที่ได้เอาผมลงและแต่งตัวตามสบาย ออกไปใช้ชีวิตตามปกติได้ (พร้อมรายการซื้อของจากคนที่ไม่ได้หยุด)
เมื่อไมโกะเลื่อนขั้นเป็นเกอิโกะก็สามารถออกมาอยู่นอกสำนักและออกมารับงานเอง ออกค่าใช้จ่ายและประคับประคองการดำเนินชีวิตด้วยตนเอง สะสมของและเสื้อผ้าที่ใช้ ไม่ได้เกล้าผมจริงแบบไมโกะแต่ใช้วิก ทำให้สามารถมีชีวิตส่วนตัวที่เป็นอิสระ เกอิโกะที่เป็นพี่สาวร่วมสาบานของไมโกะจะเป็นพี่เลี้ยงคอยสอนงานและพาไปหาประสบการณ์ต่างๆ ส่วนไมโกะก็จะมีหน้าที่คอยช่วยงานและเรื่องส่วนตัวของพี่สาว เช่น ไปดูแลแมวเวลาไม่อยู่
เกอิโกะและไมโกะเป็นมืออาชีพในการรับรองลูกค้าที่ถูกจับตามอง ต้องรักษาความสวยสง่าเปี่ยมมารยาทตลอดเวลา รับรองลูกค้าตามโรงน้ำชา เกือบทุกวันเรียนศิลปะและร่วมการเลี้ยงกลางคืน ใช้ภาษาและสำเนียงแบบเกียวโต ไมโกะที่อาศัยในคะไกเป็นเหมือนคาแร็กเตอร์มาสคอตในสวนสนุกที่ต้องรับมือกับนักท่องเที่ยว ต้องรักษาภาพลักษณ์โดยเฉพาะช่วงโกลเด้นวีคที่คนเยอะมาก
มีงานเทศกาลต่างๆ เช่น งานฤดูใบไม้ผลิ วันเซ็ตสึบุน ฯลฯ ที่มีงานแสดงพิเศษซึ่งต้องมีการเตรียมการล่วงหน้า ระหว่างงานร่ายรำจะมีโคมไฟแขวนไว้หน้าคะไก ลูกค้าขาประจำพาไปรับประทานอาหารหลังแสดงรอบสุดท้าย ไปขอบคุณร้านน้ำชาและร้านค้าที่ให้การสนับสนุน
เกอิโกะและไมโกะจะมีของใช้พิเศษที่เป็นภาพลักษณ์ เช่น นามบัตรบุปผาและพัดที่มอบให้ลูกค้า กระดาษชำระทำจากกระดาษญี่ปุ่นที่นุ่มลื่นเนื้อแน่นใช้ได้สารพัดประโยชน์ ซ่อนเก็บในแขนเสื้อกิโมโน เพราะไม่ได้พกประเป๋าสตางค์เวลาขึ้นแท็กซี่จะให้สำนักจ่ายเงินทีหลัง
[18/06/25, 09/07/25]
เนื่องจาก จขบ. มีความสนใจเป็นพิเศษกับมังงะที่เน้นด้านศิลปะวัฒนธรรมญี่ปุ่น ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้น่าสนใจมากค่ะ เนื้อหาอบอุ่นอ่อนโยน แต่ก็มีจุดที่อาจสุ่มเสี่ยงอยู่บ้าง โดยเฉพาะเด็กอายุสิบหกที่เริ่มทำงานเป็นไมโกะซึ่งต้องทำงานในอุตสาหกรรมด้านสันทนาการของผู้ใหญ่จนดึก ที่เบาหน่อยก็อย่างในเล่มหนึ่งก็มีตอนที่ตำรวจสงสัยคิโยะว่ายังเต็กแต่ทำไมไปซื้อของอย่างเยอะ
[18/06/25]


เรื่องนี้ถูกทำเป็นอนิเมะ 12 ตอน ที่ NHK World Japan เมื่อปี 2021 และทำซีรีส์ 'The Makanai : Cooking for the Maiko House' จำนวน 9 ตอน นำแสดงโดย โมริ นานะ และ เดงูจิ นัตสึกิ ออกฉายที่ Netflix เมื่อเดือนมกราคม ปี 2023 เนื้อเรื่องสไตล์ญี่ปุ่นที่ให้ความรู้สึกดีและน่าอร่อยค่ะ
[18/06/25]
ที่มา
[1] Koyama Aiko. แม่ครัววัยใสแห่งบ้านไมโกะ (Maiko-san Chi no Makanai-san). Siam Inter Comics, เล่ม 1-10, 2565-2566 (ต้นฉบับ 2017).
รายการการ์ตูนญี่ปุ่น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น