กระบี่เทพสังหาร - เซียวติ่ง

เรื่อง กระบี่เทพสังหาร (Zhu Xian)
แต่งโดย เซียวติ่ง (Xiao Ding) แปลโดย มดแดง



ที่แดนสวรรค์เสินโจว เหล่าผู้ฝึกวิชามีพลังเหนือมนุษย์และช่วงชีวิตที่ยืนยาวหลายร้อยปี ผู้นำฝ่ายธรรมะคือสำนักเมฆาเขียว วัดเสียงสวรรค์ และหุบเขากรุ่นกำยาน ส่วนฝ่ายมารที่เรียกตัวเองว่านิกายศักดิ์สิทธิ์เคยมีพรรคหลอมโลหิตของ ผู้เฒ่าใจอำมหิต เป็นผู้นำ ปัจจุบันมีพรรคเริงรมย์ สำนักหมื่นพิษ พรรคอายุวัฒนะ และนิกายจอมปีศาจที่มีอำนาจพอๆ กัน

สำนักเมฆาเขียวที่เป็นอันดับหนึ่งฝ่ายธรรมะมีประวัติกว่าพันปีและรุ่งเรืองขึ้นถึงที่สุดเพราะเจ้าสำนักรุ่นที่สิบเอ็ดคือนักพรต ชิงเยี่ย วิชาที่ฝึกคือพลังมหัศจรรย์ไท่จี๋ที่แบ่งเป็นขั้นต้นหยกวิสุทธิ์ เหนือวิสุทธิ์ (ตอนนี้มี 11 คน) และบรมวิสุทธิ์ (มีเพียงชิงเยี่ยที่สำเร็จ) ปัจจุบันแบ่งสำนักออกเป็นเจ็ดดอย นำโดยเจ้าสำนัก นักพรตเต้าเสวียน ที่ดอยทะลุเมฆา ดอยอื่นๆ คือ ดอยเศียรมังกร ดอยรับตะวัน ดอยคลุมอรุณ ดอยลมหวน ดอยไผ่ใหญ่ และดอยไผ่น้อยที่รับแต่ศิษย์สตรี

ที่เชิงเขามีหมู่บ้านวัดหญ้าคา คืนหนึ่งถูกฆ่าล้างหมู่บ้าน เหลือเพียงชายวิกลจริตหนึ่งคนและเด็กอีกสองคือ หลินจิงอวี่ และ จางเสี่ยวฝาน ที่คืนนั้นออกไปนอกหมู่บ้าน ต้นเหตุคือหนึ่งในสี่มหาเถระวัดเสียงสวรรค์ หลวงจีนผู่จื้อ ได้ต่อสู้มารและพบความลับบางอย่าง ทำให้มารฆ่าล้างหมู่บ้านเพื่อปิดปาก แต่ก่อนตายหลวงจีนผู่จื้อได้ถ่ายทอดเคล็ดลับพลังโพธิธรรมให้จางเสี่ยวฝาน (ที่ธรรมดาไม่เป็นที่สนใจเหมือนหลินจิงอวี่) บวกกับมอบมุกดูดโลหิตที่เป็นเวทอาวุธมารชั้นสูงที่ผู่จื้อสวดปิดผนึกไว้ให้เอาไปทิ้งแต่จางเสี่ยวฝานเก็บเป็นของที่ระลึกแทนเพราะไม่รู้เรื่องอะไร

ผู้รอดชีวิตทั้งสามถูกช่วยขึ้นสำนักเมฆาเขียว หลินจิงอวี่ที่มีแววดีมากได้เป็นศิษย์ของ ชางซง แห่งดอยเศียรมังกร ส่วนจางเสี่ยวฝานที่ไม่มีใครอยากได้ไปเป็นศิษย์อันดับเจ็ดของ เถียนปู้อี้ เจ้าสังกัดดอยไผ่ใหญ่ มีอาจารย์หญิงคือ หรูซู จากดอยไผ่น้อย สภาพของดอยเล็กและไม่มีผลงานมากนัก ศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดคือ เถียนหลิงเอ๋อร์ ลูกสาวที่เป็นศิษย์อันดับหก

ผ่านไปสามปี จางเสี่ยวฝานฝึกวิชาไม่ไปไหนเพราะวิชาพุทธและพรตตีกันจนถือว่าความก้าวหน้ายอดแย่แบบไม่มีเปรียบ วันหนึ่งไล่ตามลิงจนลงไปในหุบเขา ผนึกมุกดูดโลหิตคลายเมื่อเจอกระบองดูดวิญญาณอันป็นอาวุธอาถรรพ์ อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว จางเสี่ยวฝานใช้เลือดตัวเองต่ออาวุธทั้งสองสร้างเป็นเวทอาวุธที่หลอมจากโลหิตที่สะกดข่มกันเอง (โชคดีมากเพราะทำให้ตบตาพื้นฐานมาร) ถึงจะทรงพลังอย่างไรแต่ก็โดนจางเสี่ยวฝานใช้เป็นไม้เขี่ยไฟ หลังจากนั้นฝีมือค่อยดีขึ้นบ้างโดยคนอื่นไม่รู้ ทำงานในครัว คอยดูแลเจ้าเหลือง (หมา) และเจ้าเทา (ลิงที่เป็นพันธุ์วานรเทพสามตา) ชีวิตก็เป็นสุขดียกเว้นเรื่องแอบหลงรักเถียนหลิงเอ๋อร์

เมื่อจางเสี่ยวฝานอายุสิบหก ก็มีงานประลองฝีมือเจ็ดสังกัดที่จัดทุกหกสิบปี คราวนี้ให้ส่งดอยละเก้าคนทำให้จางเสี่ยวฝานได้ลงด้วยและกลายเป็นม้ามืดโชคดีทะลุเข้ารอบสี่คนสุดท้ายอย่างสะบักสะบอมเพราะกระบองไม้เขี่ยไฟนั่นแหละ กลายเป็นศิษย์โดดเด่นของสำนักร่วมกับ ฉีเฮ่า แห่งดอยเศียรมังกร (ที่สองครั้งที่แล้ว ชนะเลิศครั้งนี้ และเป็นคนรักที่พ่อแม่คัดค้านของเถียนหลิงเอ๋อร์) ลู่เสวี่ยฉี สาวงามน้ำแข็งแห่งดอยไผ่น้อย และ เจิงซูซู ลูกชายโทนของเจ้าสังกัดดอยลมหวน

ทั้งสี่รับคำสั่งไปทำภารกิจสืบข่าวที่เขาต้นหม่อนซึ่งศิษย์เอกของเมฆาเขียว เซียวอี้ไฉ (ศิษย์เจ้าสำนักผู้ชนะเลิศเจ็ดสังกัดครั้งที่แล้ว) ได้ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว งานนี้ศิษย์เอกหุบเขากรุ่นกำยาน (หลี่สุน ศิษย์ประมุขหุบเขา อวิ๋นอี้หลัน) และวัดเสียงสวรรค์ (หลวงจีนฝ่าเซียง ศิษย์ทายาทเจ้าอาวาส หลวงจีนผู่หง ก็มาด้วยทำให้ต้องระวังไม่ให้ขายหน้า เรื่องคือถ้ำหมื่นค้างคาวที่เคยถูกฝ่ายธรรมะล้มล้างในฐานะที่มั่นของพรรคหลอมโลหิต เมื่อทั้งแปดบุกเข้าไปในถ้ำก็เกิดการต่อสู้ดุเดือดกับยอดฝีมือพรรคหลอมโลหิต สุดท้ายจางเสี่ยวฝานพลัดตกเหว ติดอยู่ในถ้ำหยดโลหิตกับ ปี้เหยา ธิดาของกุ่ยหวัง วั่นเหรินหวั่ง ประมุขนิกายจอมปีศาจที่มาหาของวิเศษ สรุปทั้งคู่ได้พบจารึกคัมภีร์สวรรค์อันสูงสุดของนิกายศักดิ์สิทธิ์และปี้เหยาได้กระดิ่งเริงรมย์ของผู้ก่อตั้งพรรคเริงรมย์

ปี้เหยาประทับใจจางเสี่ยวฝาน ทำให้บิดาตามมาดูและพบมุกดูดวิญญาณ แถมถูกใจจนต้องการเอาเข้าพรรค แต่จางเสี่ยวฝานยึดมั่นและรักศิษย์พี่หญิงเท่านั้น แถมยังไปได้กระจกอัคคีของหุบเขากรุ่นกำยานอีก ข้อสงสัยเรื่องไม้เขี่ยไฟมากขึ้นเมื่อนิกายจอมปีศาจชักนำพรรคมารเคลื่อนไหวที่ทะเลตงไห่ ฝ่ายธรรมะที่นำโดยดอยเศียรมังกรและดอยไผ่ใหญ่ตามมาปะทะกันที่เกาะกลางทะเลจนความลับเรื่องวิชาและอาวุธของจางเสี่ยวฝานถูกเปิดเผย

ฝ่ายมารอาศัยเวลาที่ฝ่ายธรรมะรวมตัวที่สำนักเมฆาเขียวเพื่อตัดสินโทษจางเสี่ยวฝาน อาศัยหนอนบ่อนไส้บุกขึ้นเขา ทั้งสองฝ่ายล้มตายกันเป็นเบือ สุดท้ายเต้าเสวียนฝืนใช้พยุหะกระบี่เทพสังหารขับไล่ฝ่ายมารสำเร็จ แต่ปี้เหยารับการจู่โจมแทนจางเสี่ยวฝานจนเหลือเพียงวิญญาณเดียว (แบบจีนมีสามวิญญาณเจ็ดจิต) ร่างถูกแช่ในน้ำแข็งเพื่อรักษาไว้ บวกกับความลับการฆ่าล้างหมู่บ้านหญ้าคาถูกเปิดเผย จางเสี่ยวฝานเสียใจโกรธแค้นจนตามกุ่ยหวังเข้านิกายจอมปีศาจ ส่วนหลินจิงอวี่ได้ฝึกวิชากับ วั่นเจี้ยนอี อัจฉริยะรุ่นก่อนของสำนักเมฆาเขียว [กลางเล่ม 4]
[06/10/13, 11/10/13]


ผ่านไปสิบปี จางเสี่ยวฝานในชื่อใหม่ กุ่ยลี่ เป็นศิษย์ทายาทของกุ่ยหวัง ฝีมือที่ผสมผสานหลายแขนงทั้งพุทธ พรต และมารก้าวหน้าอย่างปาฏิหาริย์ บวกกับผลของกระบองดูดวิญญาณ ทำให้นิสัยโหดเหี้ยมอำมหิต ถูกยกเป็นคุณชายโลหิตในสามคุณชายพรรคมาร ร่วมกับคุณชายพิษ ฉินอู๋เหยียน แห่งสำนักหมื่นพิษ และ คุณชายมหัศจรรย์ (แต่เป็นหญิง) จินผิงเอ๋อร์ แห่งพรรคเริงรมย์ สภาพอำนาจคือพรรคอายุวัฒนะถูกล้มล้าง พรรคใหญ่กลืนพรรคเล็กเข้าสู่อำนาจสามเส้า แต่ฝ่ายธรรมะก็ไม่ได้ไร้น้ำยา ศิษย์รุ่นเยาว์เก่งกล้าขึ้นโดยเฉพาะลู่เสวี่ยฉี ในการปะทะที่บึงมรณะ กุ่ยลี่และลู่เสวี่ยฉีได้เข้าสู่คลังสมบัติเทพสวรรค์พบคัมภีร์สวรรค์เล่มสาม ส่วนเจ้าเทากลืนศิลากาฬแห่งเทพสวรรค์และวิวัฒนาการเป็นวานรเทพสามตา

ทั้งวั่นเหรินหวั่งและกุ่ยลี่พยายามหาทางเรียกวิญญาณปี้เหยามาตลอด จากเรื่องมนุษย์มัจฉาที่ทำร้ายศิษย์นิกาย กุ่ยลี่แอบเข้าไปในหุบเขากรุ่นกำยานและได้ปลดปล่อยจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางที่โดนคุมขังมาสามร้อยปี อิทธิฤทธิ์สูงขนาดแปลงร่างเป็นสาวงามในชื่อ เสี่ยวไป๋ ซึ่งได้บอกร่องรอยของผู้สามารถเรียกวิญญาณคืน ทั้งสองจึงเดินทางลงแดนใต้ที่เดิมถูกปกครองโดยเผ่าเวท ในอดีตหลังจากแม่หมอกักขังเทพอสูรก็แตกเป็นห้าเผ่า ซึ่งผู้ที่สามารถเรียกวิญญาณได้คือหมอผีใหญ่ของเผ่าทอง แต่ทั้งห้าเผ่ากำลังสู้กันโดยมีเรื่องของเทพอสูรอยู่เบื้องหลัง

สุดท้ายหมอผีใหญ่ก็ไม่สามารถช่วยปี้เหยาได้ เทพอสูรที่ฟื้นคืนชีพสร้างสัตว์ประหลาดออกเข่นฆ่าทำลายเข้าจงหยวน ฝ่ายธรรมะต้องหาทางรับมืออย่างระวังพันธมิตร ในขณะที่ฝ่ายอธรรมเปลี่ยนแปลงหนักจากการตายของเทพเจ้าพิษและฉินอู๋เหยียนที่บาดเจ็บจากการต่อสู้กับกุ่ยลี่ไม่สามารถกุมอำนาจให้มั่นคง ชางซงมาสวามิภักดิ์นิกายจอมปีศาจ กุ่ยหวังจึงจะใช้โอกาสเข้าคุมสำนักศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดโดยให้พรรคมารสู้กับสัตว์ประหลาดจนเสียหายแทบสิ้นและมีไพ่ตายเป็นพยุหะโลหิตจตุเทวะที่ดึงพลังจากสัตว์เทพที่แอบซ่อนไว้

เทพอสูรพาทัพสัตว์ประหลาดบุกจนถึงเขาเมฆาเขียวที่กลายเป็นแนวรับสุดท้ายของฝ่ายธรรมะ เกิดการสู้อย่างรุนแรง ส่วนกุ่ยลี่แอบเข้าถ้ำจันทร์มายาที่เป็นเขตต้องห้ามของสำนักเมฆาเขียวจนสู้กับวั่นเจี้ยนอีที่ตายจากการโดนลอบทำร้ายและเมื่อออกมาก็เจอหลินจิงอวี่ สุดท้ายเต้าเสวียนใช้พยุหะกระบี่เทพสังหารจนเทพอสูรบาดเจ็บหนีไป ส่วนกระบี่เกิดรอยร้าวปลิวไปเจอกุ่ยลี่ กลายเป็นว่ากระบี่เทพสังหารก็ดูดโลหิตจนปะทะกับดูดวิญญาณ ถึงกระบี่จะหักแต่กุ่ยลี่ก็สะบักสะบอม รอดออกมาจากเขาเมฆาเขียวเพราะวัดเสียงสวรรค์แอบช่วยออกไปเพราะคำสั่งเสียของผู่จื้อ
[24/01/14, 17/03/14, 07/06/14]

หลังความวุ่นวาย กุ่ยลี่ได้คัมภีร์สวรรค์เล่มที่สี่ และเดินทางลงใต้เพื่อไล่ตามสัตว์เทพของเทพอสูรกับจินผิงเอ๋อร์ที่สวามิภักดิ์กุ่ยหวัง และได้พบกับลู่เสวี่ยฉีจนร่วมสู้กำจัดเทพอสูร (จุดสำคัญในเล่ม 9 อันเป็นที่กังขาของผู้อ่านที่สุดคือ ก็เขียนแบบกำกวมเหลือเกิน ส่วน จขบ. คิดว่าใช่นะ) เต้าเสวียนเกิดแปรปรวนจากการฝืนทำลายผนึกกระบี่เทพสังหารจนเถียนปู้อี้ออกไล่ล่าหายตัวไป เถียนปู้อี้แพ้เต้าเสวียนเจนถูกจับขังและบาดเจ็บจนเสียชีวิต ผู้ที่ได้รับผลกระทบรวมถึงนักพรตพเนจร โจวอีเซียน ที่ฝึกวิชาเมฆาเขียวรุ่นเก่า และหลานสาว เสี่ยวหวน ที่มีพรสวรรค์ด้านศาสตร์ภูตผี

เมื่อพรรคมารเผยตัวใหม่กุ่ยหวังและกุ่ยลี่ก็เริ่มขัดแย้งกัน กุ่ยลี่ที่เสียปี้เหยาแยกตัวออกไปแบบแทบบ้าที่หมู่บ้านวัดหญ้าคา ส่วนกุ่ยหวังปลุกกระถางสยบมังกรและได้พลังของพญามาร ออกสำแดงเดชบุกมาถึงเขาเมฆาเขียว แถมยังบ่อนทำลายพลังของกระบี่เทพสังหารด้วย ทำให้ฝ่ายธรรมะเข้าตาจน ...


เรื่องนี้ลังเลหน่อยค่ะว่าจะเอาอยู่กำลังภายในหรือแฟนตาซีดี เพราะถ้าไม่มีวิชาเซียนหรือสัตว์วิเศษปาฏิหาริย์ก็กำลังภายในปกตินี่เอง ที่คิดหนักหน่อยด้วยเหตุผลว่าเรื่องเกิดในดินแดนสมมุติ ไม่ใช่ประเทศจีน แต่สุดท้ายให้เป็นกำลังภายในละกันเพราะอ่านแล้วออกจะมองไปด้านนิยายกำลังภายในมากกว่าแถมไม่ได้ฉีกแนวขนบธรรมเนียมกำลังภายใน (มีตกเหวพบวิชาด้วย! ส่วนพระเอกที่ตอนแรกออกจะบื้อๆ ก็มีสาวชอบเยอะนะ) เรื่องความชอบถือเป็นนิยายกำลังภายในรุ่นใหม่ที่อ่านได้สนุก แปลก็ดีนะคะ แต่รู้สึกว่ามีแปลกนิดๆ นานๆ ครั้ง

สำหรับเรื่องนี้เมื่ออ่านจบแล้วในฐานะคนที่อ่านเล่มอย่างเดียวคิดย้อนดูอีกที ในสิบเอ็ดเล่มจบ ถึงบางส่วนดูจะสะเปะสะปะหรือไม่กระชับบ้างแต่ก็ไม่ได้ออกทะเลแต่อย่างไร ส่วนในการจบก็ถือว่าเรียบร้อยดี ไม่ค้างคาเท่าไหร่ถึงจะมีจุดที่ไม่ขมวดปมหรือสงสัยอยู่ ในภาพรวมก็สนุกดีนะคะ ถึงจะไม่ได้รู้สึก elation หรือซาบซึ้งสะเทือนใจมากนัก ทั้งนี้ จขบ. รู้สึกว่าคนที่บุคลิกโดดเด่นกลบตัวเอกคือเถียนปู้อี้ ^_^


[23/06/14, 14/08/14, 22/10/14, 24/10/14, 04/09/22]

ที่มา
[1] Xiao Ding (มดแดง แปล). กระบี่เทพสังหาร, 11 เล่มจบ, สำนักพิมพ์เอ็นเธอร์บุ๊คส์, 280 + 272 + 290 + 397 + 389 + 269 + 255 + 264 + 208 + 224 + 296 หน้า, 2556-2557 (ต้นฉบับ 2009).


รายการนิยายจีนแปลไทย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spy×Family - Endo Tatsuya

ลำนำรักเทพสวรรค์ - ถงหัว

สืบลับฉบับคาโมโนะฮาชิ รอน - Amano Akira